รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 13 เปิดหัวใจ
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
..............................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเช้า บัวซอนพร้อมลูกๆทำหน้าเป็นไกด์ท้องถิ่นพาแขกพิเศษเดินเที่ยวชมทิวทัศน์รอบเมืองและชายหาดละแวกนั้น ส่วนธานีมีนัดต้องไปพบลูกค้า
ตลอดทางเดชศักดาพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับบัวซอน แต่บัวซอนไม่ยอมเปิดโอกาสให้แต่อย่างใด เธอเดินคุยกับสายนทีอย่างถูกคอ
"คุณซอนย่ากลับเมืองไทยบ่อยไหมค่ะ?" สายนทีถามขึ้นมาลอยๆ
" 4-5ปีครั้ง ส่วนใหญ่อยู่ที่ชุมพรนานกว่าที่อื่น ไปเที่ยวแค่แถวภาคใต้เท่านั้น"
"บ้านคุณซอนย่าอยู่ชุมพรหรือค่ะ?"
"พ่อไบร์นี่มาจากชุมพรค่ะ ดิฉันเป็นมาจากพะเยา"
"พะเยา? อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น รีสอร์ตของเราอยู่ที่เชียงคำ พะเยา รอบหน้าคุณซอนย่าจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดแล้วนะคะ งานแต่งของทะเลกับหนูไบร์นี่จะจัดที่นั่น รีสอร์ตของเราสวยและอากาศดีมาก คุณต้องชอบแน่นอนค่ะ"
ยังไม่ทันที่สายนทีจะพูดจบ เรย์ก็เดินมาคว้าแขนพาไปยังจุดชมทัศนียภาพ
"จะไปกับพวกเด็กๆ หรือว่าจะดื่มกาแฟกันก่อนแล้วค่อยตามไป? กาแฟร้านนี้ท่าทางจะอร่อย กลิ่นหอมลอยมาติดจมูก" เมื่อเดินผ่านร้านกาแฟ เดชศักดามีความคิดแล่นแว่บเข้ามาในหัวสมองทันที เขารู้ดีว่าสายนทีไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟเท่าไหร่
"ถ้าพี่เดชอยากดื่มกาแฟก็ตามใจ เอาอย่างนี้ไหม? น้ำไปกับพวกเด็กๆก่อน ส่วนพี่เดชก็ดื่มกาแฟกับคุณซอนย่าอยู่ที่นี่ จากนั้นค่อยตามมาก็ได้ รบกวนฝากคุณซอนย่าช่วยดูแลเด็กไม่รู้จักโตคนนี้ด้วยนะคะ ขืนปล่อยให้อยู่คนเดียวรับรองหลงทางแน่"
บัวซอนจำใจรับปากฝ่ายตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"บัวซอนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เห็นไอ้หมอบอกว่า บัวซอนลงมาตามหาผมที่กรุงเทพ จากนั้นก็หายไปเลย มันเกิดอะไรขึ้น? รู้ไหมตลอดเวลา 30ปี ผมตามหาบัวซอนจนแทบจะพลิกแผ่นดิน ผมยังรักบัวซอนเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนรักอย่างไร วันนี้ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น ลูกของเราอยู่ไหน?" เดชศักดามองหน้าบัวซอนด้วยแววตาที่ยังมีเยื่อใยเหลืออยู่
"คุณเดชน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ไม่ต้องมาแกล้งถามฉันหรอกค่ะ ฉันลงมาหาคุณที่กรุงเทพจริง แต่โดนกีดกันไม่ให้เข้าบ้าน คุณต้องไปถามคนในบ้านคุณเอง ฉันไม่ขอเอ่ยชื่อรายคน ลองย้อนคิดดูอีกที ถือว่าเป็นโชคดีของฉันนะ ที่หลุดพ้นจากครอบครัวคุณได้ หากวันนั้นคนในบ้านคุณไม่กีดกันฉัน ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอผู้ชายที่แสนดีอย่างพี่ธานี และมีลูกๆที่น่ารัก ครอบครัวอบอุ่นแบบทุกวันนี้" บัวซอนพูดตามความจริงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ปราศจากความเห็นอกเห็นใจฝ่ายตรงข้าม
"ผมไม่รู้เรื่องที่บัวซอนถูกกีดกันไม่ให้เข้าบ้านเลยนะ เพิ่งมารู้จากบัวซอนนี่แหละ ถึงว่าที่ผ่านมา ทำไมไม่มีจดหมายมาหาผมซักฉบับ โทรศัพท์ก็ไม่มีเลย ผมเองก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน ที่มัวแต่เฉื่อยชา ไม่พยายามให้มากกว่านี้ ผมขอโทษนะ แล้วลูกของเราตอนนี้อยู่ไหน?"
บัวซอนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้เดชศักดาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เดชศักดาร้องให้ออกมาด้วยความเสียใจอย่างที่สุด มันเป็นน้ำตาลูกผู้ชายที่หลั่งออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ ตัวเขาเองมีส่วนผิดมหันต์ที่ทำให้พยานรักของเขากับบัวซอนไม่มีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลกใบนี้
"ฉันก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าคุณ กว่าจะทำใจได้ก็ใช้เวลานานเอาเรื่อง คิดซะว่าพวกเราทั้งหมดทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ทุกอย่างได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว สุดแต่ว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน คุณมาลงเอยกับคุณน้ำได้อย่างไรค่ะ? ตอนแรกฉันนึกว่าคุณคงแต่งงานกับคุณฟ้าแน่นอน" บัวซอนสงสัยใคร่รู้
เดชศักดาเล่าเรื่องราวให้บัวซอนฟัง...
พอรู้ข่าวจากหมอทรงทรัพย์ว่าบัวซอนท้องและได้เดินทางลงมาที่กรุงเทพ ทำให้เขากังวลใจอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าบัวซอนหายไปไหนและจะตามหาได้อย่างไร
ช่วงนั้นสุราคือที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดของเขา คืนหนึ่งเขาออกไปดื่มข้างนอก กลับมาถึงบ้านก็เลยหลังเที่ยงคืนแล้ว ทุกคนในบ้านเข้านอนกันเกือบหมดยกเว้นสายนที กำลังนั่งปักผ้าและฟังวิทยุอยู่ในห้องนั่งเล่นจนลืมเวลา
ด้วยฤทธิ์ของสุรา บวกกับความเป็นฝาแฝดหน้าเหมือนกัน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าสายนทีเป็นสายนภา เขาได้กอดจูบเล้าโลมสายนทีและทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้น จนกระทั่งสายนทีท้องขึ้นมา เขาเลยต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
พอสายนภารู้เรื่องนี้ เธอถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว คนหนึ่งก็ผู้ชายที่เธอรัก ส่วนอีกคนก็น้องสาวฝาแฝดซึ่งมีกันอยู่แค่นี้
ด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความรู้สึกผิด สายนทีได้เจรจาตกลงกับพี่สาว เธอจำใจยอมให้พี่สาวใช้สามีคนเดียวกัน โดยสายนทีเป็นภรรยาจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะให้กำเนิดหลานชายคนแรกของบ้าน ตามกฏเหล็กของคุณหญิงทิพย์อาภา
ส่วนสายนภาเป็นภรรยาในเชิงปฏิบัติอย่างไม่เป็นทางการ มีอำนาจในบ้านไม่ต่างจากสายนที
"เรื่องเป็นแบบนี้เอง คุณฟ้าคือแม่ของสายเมฆใช่ไหมค่ะ?" บัวซอนซักต่อ
เดชศักดาพยักหน้ารับ
.............................................................
"พวกผู้ใหญ่เขาไปไหนกันหมด?" ไบร์นี่เห็นเรย์เดินมาคนเดียว
"อยู่ที่ร้านกาแฟโน่น เดี๋ยวคงตามมา"
........................................................................
บัวซอนใช้มือข้างหนึ่งจับมืออดีตคนรักเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างลูบหลับเพื่อเป็นการปลอบใจ ในฐานะคนเคยมีความรู้สึกดีให้กัน
"คุณน้ำ... สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ ได้โปรดฟังฉันอธิบายก่อนค่ะ" บัวซอนเห็นสายนทียืนมองดูเหตุการณ์อยู่ตรงหน้า
ด้วยสัญชาติญาณลูกผู้หญิง สายนทีสังเกตอาการผิดปรกติของทั้งสองคนมาตั้งแต่เมื่อวาน เลยลองเปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เพื่อจะได้รู้ถึงพฤติกรรมอันมีลับลมคมใน
บัวซอนเชิญสายนทีมานั่งร่วมโต๊ะ พร้อมกับเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเธอกับสามีของสายนทีให้ฟัง เธอค่อนข้างมั่นใจว่าสายนทีเป็นคนที่น่าจะเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าสายนภา
"เรื่องเป็นแบบนี้เอง ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณซอนย่าและพี่เดชนะคะ ถึงว่าเมื่อก่อนเห็นเหลียวมาคอยป้วนเปี้ยนสอดส่องเวลาใครไปใครมา พอเสียงโทรศัพท์ดังแทบจะวิ่งมารับสายก่อนใคร ไหนจะตู้รับจดหมายอีก ดิฉันต้องขอโทษแทนพี่สาวด้วยนะคะ ที่เป็นต้นเหตุเรื่องวุ่นวายทั้งหมด" สายนทีแสดงความเห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน
.....................................................................................
ก่อนที่จะรับประทานอาหารมื้อเย็น ธานีได้นัดแนะทุกคนให้มารวมตัวกันที่ห้องรับประทานอาหาร เพื่อบอกความจริงทั้งหมดให้ทราบอย่างเป็นทางการ เขาเชื่อว่าความลับไม่มีในโลกนี้ ซักวันต้องถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจนได้
ทุกคนนั่งฟังเรื่องราวทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ต่างมีโอกาสได้พูดเปิดอกทำความเข้าใจต่อกันด้วยเหตุและผล ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นไปด้วยดี
ยกเว้นเพียงแค่เดชศักดาเพียงคนเดียว ที่ภายนอกแกล้งแสดงท่าทีเข้าอกเข้าใจและยอมรับสถานะภาพปัจจุบันที่เป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต แต่ภายในของเขานั้น ยังไม่สามารถตัดความเสน่หาที่มีต่อบัวซอนได้
.................................................................................
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 13 เปิดหัวใจ
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
..............................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเช้า บัวซอนพร้อมลูกๆทำหน้าเป็นไกด์ท้องถิ่นพาแขกพิเศษเดินเที่ยวชมทิวทัศน์รอบเมืองและชายหาดละแวกนั้น ส่วนธานีมีนัดต้องไปพบลูกค้า
ตลอดทางเดชศักดาพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับบัวซอน แต่บัวซอนไม่ยอมเปิดโอกาสให้แต่อย่างใด เธอเดินคุยกับสายนทีอย่างถูกคอ
"คุณซอนย่ากลับเมืองไทยบ่อยไหมค่ะ?" สายนทีถามขึ้นมาลอยๆ
" 4-5ปีครั้ง ส่วนใหญ่อยู่ที่ชุมพรนานกว่าที่อื่น ไปเที่ยวแค่แถวภาคใต้เท่านั้น"
"บ้านคุณซอนย่าอยู่ชุมพรหรือค่ะ?"
"พ่อไบร์นี่มาจากชุมพรค่ะ ดิฉันเป็นมาจากพะเยา"
"พะเยา? อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น รีสอร์ตของเราอยู่ที่เชียงคำ พะเยา รอบหน้าคุณซอนย่าจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดแล้วนะคะ งานแต่งของทะเลกับหนูไบร์นี่จะจัดที่นั่น รีสอร์ตของเราสวยและอากาศดีมาก คุณต้องชอบแน่นอนค่ะ"
ยังไม่ทันที่สายนทีจะพูดจบ เรย์ก็เดินมาคว้าแขนพาไปยังจุดชมทัศนียภาพ
"จะไปกับพวกเด็กๆ หรือว่าจะดื่มกาแฟกันก่อนแล้วค่อยตามไป? กาแฟร้านนี้ท่าทางจะอร่อย กลิ่นหอมลอยมาติดจมูก" เมื่อเดินผ่านร้านกาแฟ เดชศักดามีความคิดแล่นแว่บเข้ามาในหัวสมองทันที เขารู้ดีว่าสายนทีไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟเท่าไหร่
"ถ้าพี่เดชอยากดื่มกาแฟก็ตามใจ เอาอย่างนี้ไหม? น้ำไปกับพวกเด็กๆก่อน ส่วนพี่เดชก็ดื่มกาแฟกับคุณซอนย่าอยู่ที่นี่ จากนั้นค่อยตามมาก็ได้ รบกวนฝากคุณซอนย่าช่วยดูแลเด็กไม่รู้จักโตคนนี้ด้วยนะคะ ขืนปล่อยให้อยู่คนเดียวรับรองหลงทางแน่"
บัวซอนจำใจรับปากฝ่ายตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"บัวซอนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เห็นไอ้หมอบอกว่า บัวซอนลงมาตามหาผมที่กรุงเทพ จากนั้นก็หายไปเลย มันเกิดอะไรขึ้น? รู้ไหมตลอดเวลา 30ปี ผมตามหาบัวซอนจนแทบจะพลิกแผ่นดิน ผมยังรักบัวซอนเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนรักอย่างไร วันนี้ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น ลูกของเราอยู่ไหน?" เดชศักดามองหน้าบัวซอนด้วยแววตาที่ยังมีเยื่อใยเหลืออยู่
"คุณเดชน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ไม่ต้องมาแกล้งถามฉันหรอกค่ะ ฉันลงมาหาคุณที่กรุงเทพจริง แต่โดนกีดกันไม่ให้เข้าบ้าน คุณต้องไปถามคนในบ้านคุณเอง ฉันไม่ขอเอ่ยชื่อรายคน ลองย้อนคิดดูอีกที ถือว่าเป็นโชคดีของฉันนะ ที่หลุดพ้นจากครอบครัวคุณได้ หากวันนั้นคนในบ้านคุณไม่กีดกันฉัน ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอผู้ชายที่แสนดีอย่างพี่ธานี และมีลูกๆที่น่ารัก ครอบครัวอบอุ่นแบบทุกวันนี้" บัวซอนพูดตามความจริงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ปราศจากความเห็นอกเห็นใจฝ่ายตรงข้าม
"ผมไม่รู้เรื่องที่บัวซอนถูกกีดกันไม่ให้เข้าบ้านเลยนะ เพิ่งมารู้จากบัวซอนนี่แหละ ถึงว่าที่ผ่านมา ทำไมไม่มีจดหมายมาหาผมซักฉบับ โทรศัพท์ก็ไม่มีเลย ผมเองก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน ที่มัวแต่เฉื่อยชา ไม่พยายามให้มากกว่านี้ ผมขอโทษนะ แล้วลูกของเราตอนนี้อยู่ไหน?"
บัวซอนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้เดชศักดาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เดชศักดาร้องให้ออกมาด้วยความเสียใจอย่างที่สุด มันเป็นน้ำตาลูกผู้ชายที่หลั่งออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ ตัวเขาเองมีส่วนผิดมหันต์ที่ทำให้พยานรักของเขากับบัวซอนไม่มีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลกใบนี้
"ฉันก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าคุณ กว่าจะทำใจได้ก็ใช้เวลานานเอาเรื่อง คิดซะว่าพวกเราทั้งหมดทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ทุกอย่างได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว สุดแต่ว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน คุณมาลงเอยกับคุณน้ำได้อย่างไรค่ะ? ตอนแรกฉันนึกว่าคุณคงแต่งงานกับคุณฟ้าแน่นอน" บัวซอนสงสัยใคร่รู้
เดชศักดาเล่าเรื่องราวให้บัวซอนฟัง...
พอรู้ข่าวจากหมอทรงทรัพย์ว่าบัวซอนท้องและได้เดินทางลงมาที่กรุงเทพ ทำให้เขากังวลใจอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าบัวซอนหายไปไหนและจะตามหาได้อย่างไร
ช่วงนั้นสุราคือที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดของเขา คืนหนึ่งเขาออกไปดื่มข้างนอก กลับมาถึงบ้านก็เลยหลังเที่ยงคืนแล้ว ทุกคนในบ้านเข้านอนกันเกือบหมดยกเว้นสายนที กำลังนั่งปักผ้าและฟังวิทยุอยู่ในห้องนั่งเล่นจนลืมเวลา
ด้วยฤทธิ์ของสุรา บวกกับความเป็นฝาแฝดหน้าเหมือนกัน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าสายนทีเป็นสายนภา เขาได้กอดจูบเล้าโลมสายนทีและทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้น จนกระทั่งสายนทีท้องขึ้นมา เขาเลยต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
พอสายนภารู้เรื่องนี้ เธอถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว คนหนึ่งก็ผู้ชายที่เธอรัก ส่วนอีกคนก็น้องสาวฝาแฝดซึ่งมีกันอยู่แค่นี้
ด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความรู้สึกผิด สายนทีได้เจรจาตกลงกับพี่สาว เธอจำใจยอมให้พี่สาวใช้สามีคนเดียวกัน โดยสายนทีเป็นภรรยาจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะให้กำเนิดหลานชายคนแรกของบ้าน ตามกฏเหล็กของคุณหญิงทิพย์อาภา
ส่วนสายนภาเป็นภรรยาในเชิงปฏิบัติอย่างไม่เป็นทางการ มีอำนาจในบ้านไม่ต่างจากสายนที
"เรื่องเป็นแบบนี้เอง คุณฟ้าคือแม่ของสายเมฆใช่ไหมค่ะ?" บัวซอนซักต่อ
เดชศักดาพยักหน้ารับ
.............................................................
"พวกผู้ใหญ่เขาไปไหนกันหมด?" ไบร์นี่เห็นเรย์เดินมาคนเดียว
"อยู่ที่ร้านกาแฟโน่น เดี๋ยวคงตามมา"
........................................................................
บัวซอนใช้มือข้างหนึ่งจับมืออดีตคนรักเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างลูบหลับเพื่อเป็นการปลอบใจ ในฐานะคนเคยมีความรู้สึกดีให้กัน
"คุณน้ำ... สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ ได้โปรดฟังฉันอธิบายก่อนค่ะ" บัวซอนเห็นสายนทียืนมองดูเหตุการณ์อยู่ตรงหน้า
ด้วยสัญชาติญาณลูกผู้หญิง สายนทีสังเกตอาการผิดปรกติของทั้งสองคนมาตั้งแต่เมื่อวาน เลยลองเปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เพื่อจะได้รู้ถึงพฤติกรรมอันมีลับลมคมใน
บัวซอนเชิญสายนทีมานั่งร่วมโต๊ะ พร้อมกับเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเธอกับสามีของสายนทีให้ฟัง เธอค่อนข้างมั่นใจว่าสายนทีเป็นคนที่น่าจะเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าสายนภา
"เรื่องเป็นแบบนี้เอง ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณซอนย่าและพี่เดชนะคะ ถึงว่าเมื่อก่อนเห็นเหลียวมาคอยป้วนเปี้ยนสอดส่องเวลาใครไปใครมา พอเสียงโทรศัพท์ดังแทบจะวิ่งมารับสายก่อนใคร ไหนจะตู้รับจดหมายอีก ดิฉันต้องขอโทษแทนพี่สาวด้วยนะคะ ที่เป็นต้นเหตุเรื่องวุ่นวายทั้งหมด" สายนทีแสดงความเห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน
.....................................................................................
ก่อนที่จะรับประทานอาหารมื้อเย็น ธานีได้นัดแนะทุกคนให้มารวมตัวกันที่ห้องรับประทานอาหาร เพื่อบอกความจริงทั้งหมดให้ทราบอย่างเป็นทางการ เขาเชื่อว่าความลับไม่มีในโลกนี้ ซักวันต้องถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจนได้
ทุกคนนั่งฟังเรื่องราวทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ต่างมีโอกาสได้พูดเปิดอกทำความเข้าใจต่อกันด้วยเหตุและผล ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นไปด้วยดี
ยกเว้นเพียงแค่เดชศักดาเพียงคนเดียว ที่ภายนอกแกล้งแสดงท่าทีเข้าอกเข้าใจและยอมรับสถานะภาพปัจจุบันที่เป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต แต่ภายในของเขานั้น ยังไม่สามารถตัดความเสน่หาที่มีต่อบัวซอนได้
.................................................................................