เนื่องจากตอนนี้ดูจะไม่ค่อยมีอะไรมากเลยรวบรวมมาได้เร็วหน่อยครับ
สำหรับตอนที่ 1-2 เข้าไปอ่านกันได้ที่
https://pantip.com/topic/39325965
และเช่นเดิมหากท่านใดสังเกตอะไรได้อีกมาเพิ่มเติมกันได้เลยครับ
1.ยอร์กทาวน์ได้รับบาดเจ็บ
จากบทสนทนา เอ็นเทอร์ไพรซ์ค่อนข้างจะเกลียดทะเล เพราะเกิดมาก็ต้องพบกับการสู้รบบนท้องทะเลมาตลอด และทะเลนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ยอร์กทาวน์ต้องเป็นเช่นนี้
ไม่แน่ใจนักว่าเป็นการล้อจากความเสียหายจากการรบช่วงไหนหรือเปล่า อาจจะทะเลคอรัล หรือว่ามิดเวย์
เพราะตามประวัติศาสตร์แล้ว ยอร์กทาวน์เสียหายหนักจากการรบที่ทะเลคอรัลมาก่อน
จากการถูกเครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่ทำให้ ลิฟต์และดาดฟ้าเสียหาย รวมถึงตะเข็บข้างเรือยังแตกเพราะแรงระเบิดที่ตกข้าง ๆ อีกด้วย
ในวันที่ 27 พ.ค. 1942 ขณะที่เข้าอู่ที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ความเสียหายของเธอถูกประเมินว่าต้องใช้เวลาซ่อนราว ๆ 3 เดือน
แต่นิมิตซ์ต้องการให้เธอพร้อมสำหรับการรบที่มิดเวย์ จึงสั่งให้รีบซ่อมด่วนให้เสร็จภายใน 3 วัน
We must have this ship back in three days.
by Fleet Admiral Chester W. Nimitz
จากคำสั่งของนิมิตซ์ทำให้ช่างฝีมือดีกว่า 1,400 คน ทำงานกันตลอดทั้งวันทั้งคืน
48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ในวันที่ 30 พ.ค. 1942 เธอก็สามารถลงน้ำได้อีกครั้ง
แต่แน่นนอนล่ะว่าสภาพไม่ได้พร้อมรบเลย มีหลายส่วนที่ยังต้องซ่อม แต่ก็เอาเท่าที่เพียงพอต่อการออกรบ
https://www.defensemedianetwork.com/stories/youve-got-three-days-repairing-the-yorktown-after-coral-sea/
2.ฮัมมานน์เป็นห่วงยอร์กทาวน์
ในซีนที่เวสทัลซึ่งเป็นเรือซ่อมบำรุงเดินทางมาถึง คนที่ถามอาการของยอร์กทาวน์กลับไม่ใช่เรือพี่น้องอย่างฮอร์เน็ต
แต่กลับเป็นฮัมมานน์แทน ตรงนี้น่าจะอ้างอิงถึงการรบที่มิดเวย์
อย่างที่รู้กันว่ายอร์กทาวน์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมรบ แต่ตลอดช่วงเวลานั้นก็มีฮัมมาน์คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด
ทั้งช่วยต่อสู้อากาศยาน ช่วยชีวิตลูกเรือยอร์กทาวน์ที่สละเรือเพราะเรือเสียหายหนัก
ในตอนที่ทหารพรรคกลินของยอร์กทาวน์พยายามกลับขึ้นไปเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของเรือ
ฮัมมานน์ก็ยังคอยอยู่เคียงข้างตลอดเพื่อให้การสนับสนุนนายทหารป้องกันความเสียหาย ทั้งการจ่ายน้ำเพื่อดับไฟ
การจ่ายพลังงาน และความช่วยเหลือต่าง ๆ
แต่แล้วความพยายามนี้ก็ต้องจบลง
ในช่วงบ่าย เรือดำน้ำ I-168 ก็ได้ยิงตอร์ปิโดจำนวน 4 ลูก เข้าใส่
ลูกที่ 1 พลาดเป้า
ลูกที่ 2-3 ลอดใต้ท้องฮัมมาน์และชนเข้ากับยอร์กทาวน์
และลูกที่ 4 เข้ากลางตัวเรือของฮัมมานน์ ส่งผลให้เรือขาดครึ่งและจมลงพร้อมกับระเบิดที่ใต้น้ำ
จากนั้นยอร์กทาวน์ก็ค่อย ๆ เอียงกราบซ้ายขึ้นและจมลงตามไป
ท้ายเรือของฮัมมานน์ที่กำลังจม
ยอร์กทาวน์ที่กำลังจมโดยเอียงกราบซ้ายขึ้น
3.อาหารสนาม และช็อกโกแลตในตำนาน
เอ็นเทอร์ไพรซ์ไม่ยอมกินข้าวเช้าที่เบลฟาสต์จัดไว้ให้ แต่กลับเลือกกินอาหารสนามที่พกติดตัวมาด้วย
จากกล่องข้าง ๆ เขียนไว้ว่า มีคุกกี้ ช็อกโกแลตบราวนี่ พีนัทครันชี่ (มีแต่ขนมแฮะ)
แล้วคุณเธอดันเลือกเอาไปแค่ D-Ration หรือช็อกโกแลตรสห่วยที่ทหารอเมริกันต่างยี้แค่สองแท่งเท่านั้นเอง
ไอ้ช็อกโกแลตนี้มันมีที่มาครับ ในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาได้ไปคุยกับ Hershey ว่าต้องการช็อกโกแลตที่ละลายได้ยาก แม้อยู่ในสภาพภูมิอากาศของภาคพื้นแปซิฟิก ทหารสามารถพกพาไปกินตอนออกรบได้
ซึ่งทาง Hershey ก็สามารถทำเจ้าช็อกโกแลตตัวนี้ออกมาได้ครับ แต่ด้วยความที่มันต้องละลายยาก ก็เลยมีการเพิ่มไขมันอย่างอื่นนอกจากที่ใช้ในการทำช็อกโกแลตปกติเข้าไป ทำให้มันมีแคลลอรี่ที่สูงมาก ๆ เหมาะที่จะให้พลังงานในเวลาออกรบ
แต่สิ่งที่ตามมาคือรสชาติที่ไม่เอาไหน บ้างก็ว่า ดีกว่ากินเทียนไขหน่อยนึง
(แต่มันผลิตโดย Hershey เลยนะคุณ ถ้าใจคิดว่ามันพรีเมียมมันก็อร่อยได้)
แต่ในภายหลัง ปี 1945 ก็สามารถเพิ่มรสหวานให้กับมันได้สำเร็จ และมีการพัฒนารสชาติต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ แต่ก็มีบางรสชาติยกเลิกการผลิตไปเพราะไม่ได้รับความนิยม เช่นรสข้าวโอ๊ต และเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
4.หนิงไห่ และผิงไห่ที่ถูกไซเรนโจมตี
ในความเป็นจริงแล้วทั้งคู่ต้องถูกจมโดยเครื่องบินญี่ปุ่นที่แม่น้ำแยงซีใกล้ ๆ กับนานกิงครับ ช่วง 23 ก.ย. 1937
(ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง 13 ธ.ค. 1937) เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังขยายดินแดน
และในภายหลังญี่ปุ่นได้กู้ทั้งสองลำขึ้นมา ตอนแรกมีแผนจะโอนให้กับรัฐบาลหวังจิงเว่ย ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของญี่ปุ่น
แต่ญี่ปุ่นเปลี่ยนใจนำมาทำเป็นเรือคุ้มกันในชื่อ อิโอชิมะ (หนิงไห่) และยาโซชิมะ (ผิงไห่) ในปี 1944 แทน
ถ้าอนิเมไม่ปรับบทแล้วให้ถูกฝ่ายจักรวรรดิซากุระโจมตีนี่ เกรงว่าอาจโดนระงับการออกอากาศเลยก็ได้
แค่นี้ก็มีดราม่าบอกว่าทำให้ญี่ปุ่นดูเป็นผู้ร้ายมากแล้ว ทางญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยนำเรื่องนี้มาพูดออกสื่อกันด้วย
ซึ่งมันต่างจาก Kancolle ที่เรื่องนั้นมันเป็นญี่ปุ่นฝ่ายเดียว แต่อันนี้คือมันมีหลายฝ่ายมาก คงต้องมีฝ่ายที่ไม่แฮปปี้กับเหตุการณ์นี้แน่
ข้อสังเกต จากอนิเม Azur Lane ตอนที่ 3
สำหรับตอนที่ 1-2 เข้าไปอ่านกันได้ที่ https://pantip.com/topic/39325965
และเช่นเดิมหากท่านใดสังเกตอะไรได้อีกมาเพิ่มเติมกันได้เลยครับ
1.ยอร์กทาวน์ได้รับบาดเจ็บ
จากบทสนทนา เอ็นเทอร์ไพรซ์ค่อนข้างจะเกลียดทะเล เพราะเกิดมาก็ต้องพบกับการสู้รบบนท้องทะเลมาตลอด และทะเลนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ยอร์กทาวน์ต้องเป็นเช่นนี้
ไม่แน่ใจนักว่าเป็นการล้อจากความเสียหายจากการรบช่วงไหนหรือเปล่า อาจจะทะเลคอรัล หรือว่ามิดเวย์
เพราะตามประวัติศาสตร์แล้ว ยอร์กทาวน์เสียหายหนักจากการรบที่ทะเลคอรัลมาก่อน
จากการถูกเครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่ทำให้ ลิฟต์และดาดฟ้าเสียหาย รวมถึงตะเข็บข้างเรือยังแตกเพราะแรงระเบิดที่ตกข้าง ๆ อีกด้วย
ในวันที่ 27 พ.ค. 1942 ขณะที่เข้าอู่ที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ความเสียหายของเธอถูกประเมินว่าต้องใช้เวลาซ่อนราว ๆ 3 เดือน
แต่นิมิตซ์ต้องการให้เธอพร้อมสำหรับการรบที่มิดเวย์ จึงสั่งให้รีบซ่อมด่วนให้เสร็จภายใน 3 วัน
We must have this ship back in three days.
by Fleet Admiral Chester W. Nimitz
จากคำสั่งของนิมิตซ์ทำให้ช่างฝีมือดีกว่า 1,400 คน ทำงานกันตลอดทั้งวันทั้งคืน
48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ในวันที่ 30 พ.ค. 1942 เธอก็สามารถลงน้ำได้อีกครั้ง
แต่แน่นนอนล่ะว่าสภาพไม่ได้พร้อมรบเลย มีหลายส่วนที่ยังต้องซ่อม แต่ก็เอาเท่าที่เพียงพอต่อการออกรบ
https://www.defensemedianetwork.com/stories/youve-got-three-days-repairing-the-yorktown-after-coral-sea/
2.ฮัมมานน์เป็นห่วงยอร์กทาวน์
ในซีนที่เวสทัลซึ่งเป็นเรือซ่อมบำรุงเดินทางมาถึง คนที่ถามอาการของยอร์กทาวน์กลับไม่ใช่เรือพี่น้องอย่างฮอร์เน็ต
แต่กลับเป็นฮัมมานน์แทน ตรงนี้น่าจะอ้างอิงถึงการรบที่มิดเวย์
อย่างที่รู้กันว่ายอร์กทาวน์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมรบ แต่ตลอดช่วงเวลานั้นก็มีฮัมมาน์คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด
ทั้งช่วยต่อสู้อากาศยาน ช่วยชีวิตลูกเรือยอร์กทาวน์ที่สละเรือเพราะเรือเสียหายหนัก
ในตอนที่ทหารพรรคกลินของยอร์กทาวน์พยายามกลับขึ้นไปเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของเรือ
ฮัมมานน์ก็ยังคอยอยู่เคียงข้างตลอดเพื่อให้การสนับสนุนนายทหารป้องกันความเสียหาย ทั้งการจ่ายน้ำเพื่อดับไฟ
การจ่ายพลังงาน และความช่วยเหลือต่าง ๆ
แต่แล้วความพยายามนี้ก็ต้องจบลง
ในช่วงบ่าย เรือดำน้ำ I-168 ก็ได้ยิงตอร์ปิโดจำนวน 4 ลูก เข้าใส่
ลูกที่ 1 พลาดเป้า
ลูกที่ 2-3 ลอดใต้ท้องฮัมมาน์และชนเข้ากับยอร์กทาวน์
และลูกที่ 4 เข้ากลางตัวเรือของฮัมมานน์ ส่งผลให้เรือขาดครึ่งและจมลงพร้อมกับระเบิดที่ใต้น้ำ
จากนั้นยอร์กทาวน์ก็ค่อย ๆ เอียงกราบซ้ายขึ้นและจมลงตามไป
ท้ายเรือของฮัมมานน์ที่กำลังจม
ยอร์กทาวน์ที่กำลังจมโดยเอียงกราบซ้ายขึ้น
3.อาหารสนาม และช็อกโกแลตในตำนาน
เอ็นเทอร์ไพรซ์ไม่ยอมกินข้าวเช้าที่เบลฟาสต์จัดไว้ให้ แต่กลับเลือกกินอาหารสนามที่พกติดตัวมาด้วย
จากกล่องข้าง ๆ เขียนไว้ว่า มีคุกกี้ ช็อกโกแลตบราวนี่ พีนัทครันชี่ (มีแต่ขนมแฮะ)
แล้วคุณเธอดันเลือกเอาไปแค่ D-Ration หรือช็อกโกแลตรสห่วยที่ทหารอเมริกันต่างยี้แค่สองแท่งเท่านั้นเอง
ไอ้ช็อกโกแลตนี้มันมีที่มาครับ ในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาได้ไปคุยกับ Hershey ว่าต้องการช็อกโกแลตที่ละลายได้ยาก แม้อยู่ในสภาพภูมิอากาศของภาคพื้นแปซิฟิก ทหารสามารถพกพาไปกินตอนออกรบได้
ซึ่งทาง Hershey ก็สามารถทำเจ้าช็อกโกแลตตัวนี้ออกมาได้ครับ แต่ด้วยความที่มันต้องละลายยาก ก็เลยมีการเพิ่มไขมันอย่างอื่นนอกจากที่ใช้ในการทำช็อกโกแลตปกติเข้าไป ทำให้มันมีแคลลอรี่ที่สูงมาก ๆ เหมาะที่จะให้พลังงานในเวลาออกรบ
แต่สิ่งที่ตามมาคือรสชาติที่ไม่เอาไหน บ้างก็ว่า ดีกว่ากินเทียนไขหน่อยนึง
(แต่มันผลิตโดย Hershey เลยนะคุณ ถ้าใจคิดว่ามันพรีเมียมมันก็อร่อยได้)
แต่ในภายหลัง ปี 1945 ก็สามารถเพิ่มรสหวานให้กับมันได้สำเร็จ และมีการพัฒนารสชาติต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ แต่ก็มีบางรสชาติยกเลิกการผลิตไปเพราะไม่ได้รับความนิยม เช่นรสข้าวโอ๊ต และเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
4.หนิงไห่ และผิงไห่ที่ถูกไซเรนโจมตี
ในความเป็นจริงแล้วทั้งคู่ต้องถูกจมโดยเครื่องบินญี่ปุ่นที่แม่น้ำแยงซีใกล้ ๆ กับนานกิงครับ ช่วง 23 ก.ย. 1937
(ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง 13 ธ.ค. 1937) เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังขยายดินแดน
และในภายหลังญี่ปุ่นได้กู้ทั้งสองลำขึ้นมา ตอนแรกมีแผนจะโอนให้กับรัฐบาลหวังจิงเว่ย ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของญี่ปุ่น
แต่ญี่ปุ่นเปลี่ยนใจนำมาทำเป็นเรือคุ้มกันในชื่อ อิโอชิมะ (หนิงไห่) และยาโซชิมะ (ผิงไห่) ในปี 1944 แทน
ถ้าอนิเมไม่ปรับบทแล้วให้ถูกฝ่ายจักรวรรดิซากุระโจมตีนี่ เกรงว่าอาจโดนระงับการออกอากาศเลยก็ได้
แค่นี้ก็มีดราม่าบอกว่าทำให้ญี่ปุ่นดูเป็นผู้ร้ายมากแล้ว ทางญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยนำเรื่องนี้มาพูดออกสื่อกันด้วย
ซึ่งมันต่างจาก Kancolle ที่เรื่องนั้นมันเป็นญี่ปุ่นฝ่ายเดียว แต่อันนี้คือมันมีหลายฝ่ายมาก คงต้องมีฝ่ายที่ไม่แฮปปี้กับเหตุการณ์นี้แน่