
เบื่อไหมคะ? กับปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก ทรมานกับพุงกลมๆ และอาการปวดท้องจุกๆ ไป 3-5 วัน แถมยังมีปัญหากรดไหลย้อน แสบกลางอกจนนอนไม่หลับอีก กระทู้นี้
เฟิร์น Chic Mom and Fab Family ขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงกับการรักษาอาการท้องผูกและกรดไหลย้อนของคุณแม่วัย 60+
ด้วยวิธีที่ลองแล้วเวิร์กจริงเลยเอามาบอกต่อค่ะ
มาค่ะ! เริ่มกันเลยดีกว่า ด้านล่างนี้จะเป็นอาการของคุณแม่เฟิร์นนะคะ
ด้วยความที่คุณแม่อายุ 60 กว่าๆ แกก็จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพกวนใจหลายอย่าง 😫 ล่าสุดคือ
กรดไหลย้อน ที่แม่ชอบบ่นว่ามีอาการแสบร้อนกลางอก จุกบริเวณคอ อึดอัด ทำให้แกนอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่สบายตัว เฟิร์นเองก็เคยเป็นทำให้เข้าใจความรู้สึกเลยว่ามันทรมานมากกกก แค่กลืนน้ำลายยังทรมาน ยิ่งวันไหนที่กินอาหารเผ็ดๆ แล้วเป็นกรดไหลย้อนยิ่งทรมานสุดๆ แบบรู้สึกผิดว่าไม่น่ากินของเผ็ดไปเลยค่ะ นอกจากนี้ คุณแม่ก็มีอีกปัญหาคือ
ท้องผูก ด้วยความที่คุณแม่อายุเยอะแล้ว ระบบขับถ่ายก็อาจจะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แถมแกชอบนั่งเล่มคอมอยู่นานๆ เลยทำให้เข้าห้องน้ำไม่เป็นเวลา
พอคุณแม่เริ่มเป็นกรดไหลย้อนและท้องผูกบ่อยๆ เข้า ลูกสาวอย่างเราก็นิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะไม่อยากให้แกมีปัญหาสุขภาพมากไปกว่านี้ (นี่ยังมีโรคคนแก่อื่นๆ อีกนะคะ -O-”) เฟิร์นเลยเริ่มให้คุณแม่ปรับการกินและดูแลสุขภาพแบบจริงจัง ซึ่งอาศัยตัวช่วยใกล้ตัวเรานี่หล่ะ เพื่อนๆ จะลองเอาวิธีของเฟิร์นและคุณแม่ไปปรับใช้ดูก็ได้นะคะ
ขอเริ่มในส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนนะคะ เพราะน่าจะเห็นภาพได้ง่ายกว่าค่ะ ส่วนวิธีการดูแลสุขภาพตัวเองจะอยู่ในส่วนของด้านล่างสุดน๊า…

มากันที่ตัวแรกค่ะ เฟิร์นแนะนำเป็น 🍊
น้ำส้มคั้นสด 🍊 ค่ะ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะมาก เอาแบบไม่หวานมากนะคะ รสส้มเปรี้ยวๆ นี่หล่ะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายดีสุดๆ เลยค่ะ ถ้าหาไม่ได้ลอง 🍊
Tipco ส้มสีทอง 🍊 ดูก็ได้นะคะ เป็นน้ำส้มสำเร็จรูปที่อร่อยสุดที่กินมาค่ะ เนื้อส้มเป็นเกล็ดๆ เลย (ราคา 69 บาท)

ชิ้นที่สองคือ
Kombucha หรือชาหมัก 🍵 ที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติกสูง ช่วยปรับเรื่องการขับถ่ายและระบบการย่อยอาหาร จริงๆ เป็นเทรนด์ฮิตมาซักพักแต่จะลองทำเองก็ยากอยู่ค่ะ เลยซื้อแบบสำเร็จรูปมาให้คุณแม่ลอง คุณแม่ลองกินรสกุหลาบ 🌹 บอกว่ารสชาติเฝื่อนๆ เหมือนยาน้ำนิดหน่อยค่ะ มีกลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ พอกินแล้วคุณแม่ก็เข้าห้องน้ำได้เลย สบายๆ (ราคา 69 บาท)
สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่รู้จักว่า Kombucha หรือชาหมัก คืออะไร เฟิร์นขอแชร์ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.pobpad.com มาให้ศึกษากันนะคะ
Kombucha เกิดจากการนำน้ำชาอย่างชาดำหรือชาเขียว น้ำตาล จุลินทรีย์ และยีสต์ ไปหมักรวมกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนออกมาเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด โดยมีส่วนผสมหลักเป็นกรดน้ำส้ม (Acetic Acid) รวมถึงวิตามินบีและสารต่าง ๆ มากมาย เมื่อดื่มชาชนิดนี้จะให้ความรู้สึกซ่าและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อยค่ะ ซึ่งช่วยดีต่อระบบย่อยอาหารของร่างกาย และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
น้ำชาซึ่งใช้ในการหมัก Kombucha มีคาเฟอีน* ใครที่ทานชาหมัก ลองดูปริมาณคาเฟอีนข้างขวดด้วยนะคะ ปริมาณคาเฟอีนที่แนะนำต่อวันคือ ไม่ควรดื่มเกิน 200 มิลลิกรัม และควรทานก่อนหรือหลังอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง วันละ 2-3 เวลา ช่วงเช้าและบ่าย หรือทานเมื่อรู้สึกมีอาการอ่อนเพลีย สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม คนที่มีโรคประจำตัวปรึกษาแพทย์ก่อนทานก็ดีนะคะ
cr .
https://bit.ly/30kulND
นอกจากนี้เฟิร์นยังให้คุณแม่ลองทาน
Vita-Flora Probiotic ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบคทีเรียชนิดผงของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กินแล้วเป็นยังไง ลองมาดูกันค่ะ
Vita-Flora Probiotic เป็น Probiotic (แบคทีเรียดี) ชนิด Active Bacillus coagulans หรือ BC30 เป็นเชื้อโปรไบติกเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เค้าเคลมว่าเชื้อตัวนี้ทนต่อกรดในกระเพาะมากกว่าเชื้ออื่นถึง 100 เท่า มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูลำไส้ รักษากรดไหลย้อน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดผิวอักเสบด้วยค่ะ (คุณแม่น่าจะชอบ เพราะจะได้ดูสาวขึ้นด้วย 5555) ที่สำคัญมันเป็นแบบผง กลิ่นพีช ทานง่ายแค่กรอกปากหรือผสมน้ำ ก็อร่อยเหมือนกินน้ำผลไม้
ใน 1 กล่องมี 15 ซอง พกพาสะดวก ราคาปกติ 1,490 บาท โปรโมชั่นตอนนี้ใน Lazada เหลือ 1,190 บาท (เฉลี่ยซองละ 80 บาท)
ส่วนผสมตัวเอกเลยของยี่ห้อนี้คือ
Active Bacillus coagulans (GanedenBC30 Probiotic) ราชาของเหล่าโปรไบโอติกนั่นเอง ซึ่งสายพันธุ์นี้ เค้าว่าต่างจากเชื้ออื่นตรงมีเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้ไม่ตายก่อนเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย สรุปคือ BC30 เป็นเชื้อโปรไบโอติกชนิดถึกอึดทนแบบแรมโบ้ค่ะ เชื้อโปรไบโอติกส่วนใหญ่ในท้องตลาด 80% จะตายที่กระเพาะอาหารเพราะในกระเพาะมีความเป็นกรดสูงมากๆค่ะ แต่ BC30 พ่อแรมโบ้จะไม่ตายในกระเพาะและรอดไปทำงานได้จริงๆในลำไส้ค่ะ
แล้วอีกจุดที่เฟิร์นชอบตัวนี้เพราะโปรไบโอติกส่วนใหญ่ที่ขายๆกัน มันเป็นโปรไบโอติกอย่างเดียว คือเน้นเรื่องขับถ่าย ย่อยอาหาร แต่ตัวนี้มันต่างมากๆ เพราะมันมีอาหารผิวด้วย อันนี้จากการสอบถามแอดมินนะคะ แอดมินแจ้งว่าตอนแรก Vita-Flora ผลิตมาเพื่อขายในคลินิกสำหรับเคสสิวอักเสบ ผิวแพ้ ปรากฎว่าผลตอบรับดีมากๆ เลยเอาออกมาขายด้านนอกด้วย ใส่มาหลายตัวค่ะเช่นส้มแดง เม็ดกีวี ซิงค์และวิตามินซี และใส่ในปริมาณที่เกิดประโยชน์ต่อผิวจริงๆ

*มีอย. และและตัวเชื้อ BC30 probiotic ได้รับการรับรอง FDA GRAS(Generally recognized as safe)
**เด็ก สตรีมีครรภ์ และให้นมลูกกินไม่ได้นะคะ**
วิธีทาน
ฉีกซองพร้อมทาน เทใส่ปากได้เลยค่ะ แล้วดื่มน้ำตาม 1 แก้ว หรือจะผสมกับน้ำดื่มก็ได้ค่ะ อันนี้ส่วนตัวคุณแม่สะดวกดื่มแบบผสมน้ำมากกว่าค่ะ แต่ใครจะเอาง่ายๆ ก็ฉีกซองเทเข้าปากได้เลย จากที่ให้คุณแม่ลองกิน คุณแม่ชอบรสชาติค่ะ บอกว่าอร่อยดี ไม่หวานมาก รับประทานง่าย แนะนำว่าควรกินพร้อมหรือหลังอาหารเพราะว่า BC30 Probiotic จะทำงานได้ดีสุดค่ะ


หลังจากให้คุณแม่ลองกินมา 15 วัน (ควบคู่กับการกินอาหารและการปรับพฤติกรรมตามที่แนะนำด้านล่าง) คุณแม่บอกว่าระบบการขับถ่ายดีขึ้น ไม่ท้องผูกเลย ถ่ายคล่องมากๆ แถมในช่วง 15 วันนี้ก็ไม่มีอาการกรดไหลย้อนกลับมาเป็นอีกให้ทรมาน คิดว่าโอเคเลยค่ะ ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกดีๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้เร่งด่วนจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโปรไบโอติกแบบเพียวๆ ค่ะ
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามร่างกาย-สุขภาพแต่ละบุคคลนะคะ
ถ้าใครสนใจเข้าไปดูข้อมูลของ Vita-Flora Probiotic ได้ทาง
http://bit.ly/310Yjpu
มาต่อกันที่การดูแลรักษาตัวเองในชีวิตประจำวันกันค่ะ ว่าถ้าเราไม่พึ่งตัวเสริมต่างๆ เราจะทำอะไรให้ร่างกายเราได้บ้าง
ท้องผูก + กรดไหลย้อน
กินอาหารย่อยง่าย มีกากใยสูง
- อาหารแต่ละมื้อควรมีผักด้วย 1 อย่าง เช่น สลัด ผัดผัก ส้มตำให้กินแต่มื้อกลางวันไม่เผ็ดมาก ข้าวให้กินเป็นข้าวกล้องหรือไรซ์เบอร์รี่ ขนมปังโฮลวีท
ผลไม้ เช่น ส้ม-ดีมากกก กินแล้วเวิร์กจริง ขับถ่ายดีมาก ลูกพรุน-อันนี้คุณแม่ไม่ชอบเท่าไหร่แต่ให้ท่านทานเพราะศึกษามาว่าดี (ปล. ลองทานกล้วยน้ำว้าแล้วไม่เห็นผล) ช่วงที่ท้องผูกเฟิร์นจะให้คุณแม่ทานผลไม้ทุกวันเลยค่ะ
- ไม่กินอาหารมื้อเย็นเยอะเกินไป
- ลดอาหารรสจัด พวกส้มตำ ต้มยำ หรือยำต่างๆ งดเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะเป็นแล้วทรมานมาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ให้กินได้นานๆ ทีดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย
- เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา เช่น ทุกเช้าปรับนาฬิกาของตัวเองให้เข้าห้องน้ำก่อน หรือกลางวันก็เข้าห้องน้ำก่อนออกไปกินข้าว ทำแบบนี้ให้เป็นนิสัย
- ไม่กลั้นปัสสาวะและอุจจาระ คือ จะปวดนิดๆ หน่อยๆ ให้เข้าไปก่อนค่ะ ไม่งั้นสะสมมากๆ ก็ทำให้ท้องผูกอีก
เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ
- จากที่ศึกษาคำแนะนำของรพ. ต่างๆ เค้าให้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง ด้วยความที่คุณแม่เป็นคนไม่ออกกำลังกาย 555 และชอบนั่งเล่นคอมนานๆ เลยต้องบังคับให้เคลื่อนไหวกันบ้าง เช่น ลุกเปลี่ยนท่า เดินไปเดินมา แกว่งแขนบ้างทุก 10-15 นาที
- ถ้าน้ำหนักตัวเยอะ ต้องลดน้ำหนักลง
ปรับการนอน
- หลีกเลี่ยงการนอนหลังอาหาร 3 ชม. สำคัญมากๆนะคะข้อนี้!!!! สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน
- หาหมอนมาหนุนให้หัวสูงขึ้น
ลดความเครียด
- จริงๆ คุณแม่ก็ไม่ได้มีความเครียดอะไรมากนะคะ ยกเว้นการวางแผนเที่ยวต่างประเทศ (ติดตามเพจ ป้าตะลอนทัวร์ทั่วโลก
https://www.facebook.com/PaTourTheWorld/ ดูได้นะคะ จริงๆ ลูกจะเครียดเป็นห่วงสุขภาพแกมากกว่า 555) แต่แม่บอกว่าการไปเที่ยวคือความสุขของท่าน เลยบอกคุณแม่ว่าไปเที่ยวแบบชิลๆ ไม่ต้องวางแผนมากก็ได้ ตอนนี้แกก็เลยชิลขึ้นค่ะ
ใครลองทำตามวิธีนี้แล้วเวิร์ก หรือมีเทคนิคอื่นๆ ในการรักษากรดไหลย้อน และท้องผูก ยังไงแนะนำกันมาได้เลยนะคะ
สำหรับคนที่อยากตามติดไลฟ์สไตล์ชุดชิคและเรื่องราวสนุกสนานในครอบครัว แวะมาเป็นเพื่อนกันได้ที่นี่นะคะhttps://www.facebook.com/chicmomandfabfamily/
https://www.instagram.com/chicmomandfabfamily/
[SR] แชร์ประสบการณ์รักษาอาการกรดไหลย้อน+ท้องผูก ของคุณแม่วัย 60+ แบบเห็นผล ลูกๆหลานๆ มาอ่านกันจ้า
เบื่อไหมคะ? กับปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก ทรมานกับพุงกลมๆ และอาการปวดท้องจุกๆ ไป 3-5 วัน แถมยังมีปัญหากรดไหลย้อน แสบกลางอกจนนอนไม่หลับอีก กระทู้นี้ เฟิร์น Chic Mom and Fab Family ขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงกับการรักษาอาการท้องผูกและกรดไหลย้อนของคุณแม่วัย 60+
ด้วยวิธีที่ลองแล้วเวิร์กจริงเลยเอามาบอกต่อค่ะ
มาค่ะ! เริ่มกันเลยดีกว่า ด้านล่างนี้จะเป็นอาการของคุณแม่เฟิร์นนะคะ
ด้วยความที่คุณแม่อายุ 60 กว่าๆ แกก็จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพกวนใจหลายอย่าง 😫 ล่าสุดคือ กรดไหลย้อน ที่แม่ชอบบ่นว่ามีอาการแสบร้อนกลางอก จุกบริเวณคอ อึดอัด ทำให้แกนอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่สบายตัว เฟิร์นเองก็เคยเป็นทำให้เข้าใจความรู้สึกเลยว่ามันทรมานมากกกก แค่กลืนน้ำลายยังทรมาน ยิ่งวันไหนที่กินอาหารเผ็ดๆ แล้วเป็นกรดไหลย้อนยิ่งทรมานสุดๆ แบบรู้สึกผิดว่าไม่น่ากินของเผ็ดไปเลยค่ะ นอกจากนี้ คุณแม่ก็มีอีกปัญหาคือ ท้องผูก ด้วยความที่คุณแม่อายุเยอะแล้ว ระบบขับถ่ายก็อาจจะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แถมแกชอบนั่งเล่มคอมอยู่นานๆ เลยทำให้เข้าห้องน้ำไม่เป็นเวลา
พอคุณแม่เริ่มเป็นกรดไหลย้อนและท้องผูกบ่อยๆ เข้า ลูกสาวอย่างเราก็นิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะไม่อยากให้แกมีปัญหาสุขภาพมากไปกว่านี้ (นี่ยังมีโรคคนแก่อื่นๆ อีกนะคะ -O-”) เฟิร์นเลยเริ่มให้คุณแม่ปรับการกินและดูแลสุขภาพแบบจริงจัง ซึ่งอาศัยตัวช่วยใกล้ตัวเรานี่หล่ะ เพื่อนๆ จะลองเอาวิธีของเฟิร์นและคุณแม่ไปปรับใช้ดูก็ได้นะคะ
ขอเริ่มในส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนนะคะ เพราะน่าจะเห็นภาพได้ง่ายกว่าค่ะ ส่วนวิธีการดูแลสุขภาพตัวเองจะอยู่ในส่วนของด้านล่างสุดน๊า…
มากันที่ตัวแรกค่ะ เฟิร์นแนะนำเป็น 🍊 น้ำส้มคั้นสด 🍊 ค่ะ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะมาก เอาแบบไม่หวานมากนะคะ รสส้มเปรี้ยวๆ นี่หล่ะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายดีสุดๆ เลยค่ะ ถ้าหาไม่ได้ลอง 🍊 Tipco ส้มสีทอง 🍊 ดูก็ได้นะคะ เป็นน้ำส้มสำเร็จรูปที่อร่อยสุดที่กินมาค่ะ เนื้อส้มเป็นเกล็ดๆ เลย (ราคา 69 บาท)
ชิ้นที่สองคือ Kombucha หรือชาหมัก 🍵 ที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติกสูง ช่วยปรับเรื่องการขับถ่ายและระบบการย่อยอาหาร จริงๆ เป็นเทรนด์ฮิตมาซักพักแต่จะลองทำเองก็ยากอยู่ค่ะ เลยซื้อแบบสำเร็จรูปมาให้คุณแม่ลอง คุณแม่ลองกินรสกุหลาบ 🌹 บอกว่ารสชาติเฝื่อนๆ เหมือนยาน้ำนิดหน่อยค่ะ มีกลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ พอกินแล้วคุณแม่ก็เข้าห้องน้ำได้เลย สบายๆ (ราคา 69 บาท)
สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่รู้จักว่า Kombucha หรือชาหมัก คืออะไร เฟิร์นขอแชร์ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.pobpad.com มาให้ศึกษากันนะคะ
Kombucha เกิดจากการนำน้ำชาอย่างชาดำหรือชาเขียว น้ำตาล จุลินทรีย์ และยีสต์ ไปหมักรวมกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนออกมาเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด โดยมีส่วนผสมหลักเป็นกรดน้ำส้ม (Acetic Acid) รวมถึงวิตามินบีและสารต่าง ๆ มากมาย เมื่อดื่มชาชนิดนี้จะให้ความรู้สึกซ่าและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อยค่ะ ซึ่งช่วยดีต่อระบบย่อยอาหารของร่างกาย และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
น้ำชาซึ่งใช้ในการหมัก Kombucha มีคาเฟอีน* ใครที่ทานชาหมัก ลองดูปริมาณคาเฟอีนข้างขวดด้วยนะคะ ปริมาณคาเฟอีนที่แนะนำต่อวันคือ ไม่ควรดื่มเกิน 200 มิลลิกรัม และควรทานก่อนหรือหลังอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง วันละ 2-3 เวลา ช่วงเช้าและบ่าย หรือทานเมื่อรู้สึกมีอาการอ่อนเพลีย สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม คนที่มีโรคประจำตัวปรึกษาแพทย์ก่อนทานก็ดีนะคะ
cr . https://bit.ly/30kulND
นอกจากนี้เฟิร์นยังให้คุณแม่ลองทาน Vita-Flora Probiotic ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบคทีเรียชนิดผงของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กินแล้วเป็นยังไง ลองมาดูกันค่ะ
Vita-Flora Probiotic เป็น Probiotic (แบคทีเรียดี) ชนิด Active Bacillus coagulans หรือ BC30 เป็นเชื้อโปรไบติกเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เค้าเคลมว่าเชื้อตัวนี้ทนต่อกรดในกระเพาะมากกว่าเชื้ออื่นถึง 100 เท่า มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูลำไส้ รักษากรดไหลย้อน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดผิวอักเสบด้วยค่ะ (คุณแม่น่าจะชอบ เพราะจะได้ดูสาวขึ้นด้วย 5555) ที่สำคัญมันเป็นแบบผง กลิ่นพีช ทานง่ายแค่กรอกปากหรือผสมน้ำ ก็อร่อยเหมือนกินน้ำผลไม้
ใน 1 กล่องมี 15 ซอง พกพาสะดวก ราคาปกติ 1,490 บาท โปรโมชั่นตอนนี้ใน Lazada เหลือ 1,190 บาท (เฉลี่ยซองละ 80 บาท)
ส่วนผสมตัวเอกเลยของยี่ห้อนี้คือ Active Bacillus coagulans (GanedenBC30 Probiotic) ราชาของเหล่าโปรไบโอติกนั่นเอง ซึ่งสายพันธุ์นี้ เค้าว่าต่างจากเชื้ออื่นตรงมีเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้ไม่ตายก่อนเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย สรุปคือ BC30 เป็นเชื้อโปรไบโอติกชนิดถึกอึดทนแบบแรมโบ้ค่ะ เชื้อโปรไบโอติกส่วนใหญ่ในท้องตลาด 80% จะตายที่กระเพาะอาหารเพราะในกระเพาะมีความเป็นกรดสูงมากๆค่ะ แต่ BC30 พ่อแรมโบ้จะไม่ตายในกระเพาะและรอดไปทำงานได้จริงๆในลำไส้ค่ะ
แล้วอีกจุดที่เฟิร์นชอบตัวนี้เพราะโปรไบโอติกส่วนใหญ่ที่ขายๆกัน มันเป็นโปรไบโอติกอย่างเดียว คือเน้นเรื่องขับถ่าย ย่อยอาหาร แต่ตัวนี้มันต่างมากๆ เพราะมันมีอาหารผิวด้วย อันนี้จากการสอบถามแอดมินนะคะ แอดมินแจ้งว่าตอนแรก Vita-Flora ผลิตมาเพื่อขายในคลินิกสำหรับเคสสิวอักเสบ ผิวแพ้ ปรากฎว่าผลตอบรับดีมากๆ เลยเอาออกมาขายด้านนอกด้วย ใส่มาหลายตัวค่ะเช่นส้มแดง เม็ดกีวี ซิงค์และวิตามินซี และใส่ในปริมาณที่เกิดประโยชน์ต่อผิวจริงๆ
*มีอย. และและตัวเชื้อ BC30 probiotic ได้รับการรับรอง FDA GRAS(Generally recognized as safe)
**เด็ก สตรีมีครรภ์ และให้นมลูกกินไม่ได้นะคะ**
วิธีทาน
ฉีกซองพร้อมทาน เทใส่ปากได้เลยค่ะ แล้วดื่มน้ำตาม 1 แก้ว หรือจะผสมกับน้ำดื่มก็ได้ค่ะ อันนี้ส่วนตัวคุณแม่สะดวกดื่มแบบผสมน้ำมากกว่าค่ะ แต่ใครจะเอาง่ายๆ ก็ฉีกซองเทเข้าปากได้เลย จากที่ให้คุณแม่ลองกิน คุณแม่ชอบรสชาติค่ะ บอกว่าอร่อยดี ไม่หวานมาก รับประทานง่าย แนะนำว่าควรกินพร้อมหรือหลังอาหารเพราะว่า BC30 Probiotic จะทำงานได้ดีสุดค่ะ
หลังจากให้คุณแม่ลองกินมา 15 วัน (ควบคู่กับการกินอาหารและการปรับพฤติกรรมตามที่แนะนำด้านล่าง) คุณแม่บอกว่าระบบการขับถ่ายดีขึ้น ไม่ท้องผูกเลย ถ่ายคล่องมากๆ แถมในช่วง 15 วันนี้ก็ไม่มีอาการกรดไหลย้อนกลับมาเป็นอีกให้ทรมาน คิดว่าโอเคเลยค่ะ ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกดีๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้เร่งด่วนจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโปรไบโอติกแบบเพียวๆ ค่ะ
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามร่างกาย-สุขภาพแต่ละบุคคลนะคะ
ถ้าใครสนใจเข้าไปดูข้อมูลของ Vita-Flora Probiotic ได้ทาง
http://bit.ly/310Yjpu
มาต่อกันที่การดูแลรักษาตัวเองในชีวิตประจำวันกันค่ะ ว่าถ้าเราไม่พึ่งตัวเสริมต่างๆ เราจะทำอะไรให้ร่างกายเราได้บ้าง
ท้องผูก + กรดไหลย้อน
กินอาหารย่อยง่าย มีกากใยสูง
- อาหารแต่ละมื้อควรมีผักด้วย 1 อย่าง เช่น สลัด ผัดผัก ส้มตำให้กินแต่มื้อกลางวันไม่เผ็ดมาก ข้าวให้กินเป็นข้าวกล้องหรือไรซ์เบอร์รี่ ขนมปังโฮลวีท
ผลไม้ เช่น ส้ม-ดีมากกก กินแล้วเวิร์กจริง ขับถ่ายดีมาก ลูกพรุน-อันนี้คุณแม่ไม่ชอบเท่าไหร่แต่ให้ท่านทานเพราะศึกษามาว่าดี (ปล. ลองทานกล้วยน้ำว้าแล้วไม่เห็นผล) ช่วงที่ท้องผูกเฟิร์นจะให้คุณแม่ทานผลไม้ทุกวันเลยค่ะ
- ไม่กินอาหารมื้อเย็นเยอะเกินไป
- ลดอาหารรสจัด พวกส้มตำ ต้มยำ หรือยำต่างๆ งดเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะเป็นแล้วทรมานมาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ให้กินได้นานๆ ทีดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย
- เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา เช่น ทุกเช้าปรับนาฬิกาของตัวเองให้เข้าห้องน้ำก่อน หรือกลางวันก็เข้าห้องน้ำก่อนออกไปกินข้าว ทำแบบนี้ให้เป็นนิสัย
- ไม่กลั้นปัสสาวะและอุจจาระ คือ จะปวดนิดๆ หน่อยๆ ให้เข้าไปก่อนค่ะ ไม่งั้นสะสมมากๆ ก็ทำให้ท้องผูกอีก
เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ
- จากที่ศึกษาคำแนะนำของรพ. ต่างๆ เค้าให้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง ด้วยความที่คุณแม่เป็นคนไม่ออกกำลังกาย 555 และชอบนั่งเล่นคอมนานๆ เลยต้องบังคับให้เคลื่อนไหวกันบ้าง เช่น ลุกเปลี่ยนท่า เดินไปเดินมา แกว่งแขนบ้างทุก 10-15 นาที
- ถ้าน้ำหนักตัวเยอะ ต้องลดน้ำหนักลง
ปรับการนอน
- หลีกเลี่ยงการนอนหลังอาหาร 3 ชม. สำคัญมากๆนะคะข้อนี้!!!! สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน
- หาหมอนมาหนุนให้หัวสูงขึ้น
ลดความเครียด
- จริงๆ คุณแม่ก็ไม่ได้มีความเครียดอะไรมากนะคะ ยกเว้นการวางแผนเที่ยวต่างประเทศ (ติดตามเพจ ป้าตะลอนทัวร์ทั่วโลก https://www.facebook.com/PaTourTheWorld/ ดูได้นะคะ จริงๆ ลูกจะเครียดเป็นห่วงสุขภาพแกมากกว่า 555) แต่แม่บอกว่าการไปเที่ยวคือความสุขของท่าน เลยบอกคุณแม่ว่าไปเที่ยวแบบชิลๆ ไม่ต้องวางแผนมากก็ได้ ตอนนี้แกก็เลยชิลขึ้นค่ะ
ใครลองทำตามวิธีนี้แล้วเวิร์ก หรือมีเทคนิคอื่นๆ ในการรักษากรดไหลย้อน และท้องผูก ยังไงแนะนำกันมาได้เลยนะคะ
สำหรับคนที่อยากตามติดไลฟ์สไตล์ชุดชิคและเรื่องราวสนุกสนานในครอบครัว แวะมาเป็นเพื่อนกันได้ที่นี่นะคะhttps://www.facebook.com/chicmomandfabfamily/
https://www.instagram.com/chicmomandfabfamily/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม