Day 3 (16/09/2019): BoKaap Museum - Green Market - Table Mountain - Chapman's Peak Drive - Simon’s Town –
Seaforth Beach Parking Lot (จุดชมเพนกวิ้นฟรี) - Protea Point B&B
วิวจาก Table Mountain
วันนี้แหละ เราจะขึ้น Table Mountain ให้ได้แม้ว่าจะไม่เห็นอะไรก็ตาม เปิดพยากรณ์อากาศดูเค้าบอกว่าฟ้าจะโปร่งตอนเที่ยง ๆ ครับ
ตอนเช้าเราเลยเข้าไปเดินชมเมืองซะหน่อย จุดแรกที่เราไปก็คือ Green Market Square โซนนี้จะเป็นคล้าย ๆ สยามบ้านเรา
มีร้านเสื้อผ้าร้านรวงขายเยอะแยะเต็มไปหมด มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งซุ้มขายของด้วย ใกล้ ๆ กันมี Bo-kaap Museum ซึ่งจะเป็นโซนบ้าน
ที่ทาสีสด ๆ สวย ๆ ไว้ให้สำหรับถ่ายรูป
Bo-kaap Museum
Green Market Square
นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้กินกาแฟเลยเดินผ่านร้านนึง ชื่อว่า Kamili ร้านนี้มีเมนูกาแฟชื่อแปลก ๆ อยู่คือ Amarula Coffee
ถามพนักงานดูเค้าก็บอกว่า มันคือกาแฟใส่ Amarula อึ้งไปนิดนึง ถามต่อไปว่า แล้ว Amarula นี่มันคืออิหยังละวะเฮ้ย เค้าก็บอกมาว่า
มันเป็นครีมแบบหนึ่ง โอเคก็ลองสั่งมาดูก็ได้ พอลองชิมดูถึงได้รู้ว่า Amarula คือเหล้าครีมของ Africa ขวดจะมีรูปช้างอยู่มีขายที่ไทยด้วยเคยเห็น
รสชาติอร่อยดีครับ
เกือบเที่ยงแล้วได้เวลา ฟ้าเริ่มเปิดตามพยากรณ์อากาศ ตรงไป Table Mountain โชคดีคนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่มีกลุ่มเด็ก ๆ มาทัศนศึกษากัน
ด้านบนภูเขาจะหนาวและลมแรงหน่อย ควรจะมีเสื้อหนาวไปซักตัวนะครับ แต่ข้างบนกว้างมาก กระเช้าของที่นี่จะหมุนได้ 360 องศา
ทุกคนจะได้วิว + เสียวเท่า ๆ กันเนื่องจากผมเป็นคนกลัวความสูงขาก็จะสั่น ๆ หน่อย ตอนกำลังจะขึ้นกระเช้าเมฆหมอกก็ค่อย ๆ ลอยมา
ไม่นะม่ายยยยยยย...... พอขึ้นไปถึงด้านบนแล้วมองไม่เห็นอะไรเลยครับเพราะว่าเมฆเยอะมาก จ๋อยเล็ก ๆ แต่ไม่เป็นไร

ขึ้นมาถึงด้านบน จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากด้วย บนนี้อากาศดีมากๆ ไม่ได้หนาวสั่น สดชื่นมากๆ สูดเข้าไปๆๆให้เต็มปอด กลับไทยไปเจอ
PM 2.5 อีก !! ทางเดินยาวมาก ๆ แทบจะไปจนถึงส่วนกลางของ Capetown เลย
มุมจากด้านบนครับ เมฆกำลังเข้ามาบังวิว

พอเดินไปได้ซักพักลมก็เริ่มพัดเมฆหมอกให้ปลิวไปเผยให้เห็นวิวอลังการของชายฝั่งทะเล เมือง ภูเขา และขอบฟ้า โชคดีมากเลยถ้าฟ้าเปิดตั้งแต่ต้นคงไม่ดีใจเท่านี้ ให้รูปเป็นตัวบรรยายจะดีกว่า เราเดินกันเกือบ 2 ชั่วโมงข้างบนนี้ ตอนขาลงได้เจอกับกลุ่นนักเรียนที่มาเที่ยวที่นี่ เลยเดินไปขอถ่ายรูปด้วย
ทุกคนกรูกันเข้ามาขออยู่ในเฟรม แถมแอบถ่ายตัวเองด้วยทุกคนน่ารักมากเลย ทักเราว่า "หนีห่าว ๆ " ตลอด พอบอกไปว่านี่คนไทย ก็ทำหน้าแปลกใจกันหมด เหมือนเป็นสัตว์หายาก แต่อย่างว่าหน้าเจ๊กก็โดนเหมาว่าเป็นเจ๊กหมดอยู่ดี เหมือนเราเห็นคนดำก็เหมาว่าเป็น African หมดเหมือนกัน ฮ่า

หลังจากเดินเที่ยวจนสมใจอยากแล้ว เราสองคนก็เกิดอาหารอยาก Burger ขึ้นมา เพราะเนื่องจากเนื้อวัวที่นี่มันดีมาก ก็เลยต้องไปหามาโดนซะหน่อย
ร้านที่เจอเป็นร้านที่อยู่ใกล้กับ Cafe Paradiso ที่ไปทานมาเมื่อวาน ชื่อว่า Hudson The Burger Joint
ตัวร้านจะเป็นบาร์เบียร์ กับครัวเปิดให้เห็นวิธีทำชัดเจน เราสั่งกันไปคนละที่โดยมีเมนูชื่อเก๋ ๆ ว่า The Cheese กับ The Rockafella
The Cheese เป็นเบอเกอร์เนื้อวัว กับเชดด้าชีส มะเขือเทศ และหัวหอมกวน (ชอบหัวหอมกวนมาก มันกวนดี) ส่วน The Rockafella
เป็นเบอเกอร์เนื้อวัว สวิสชีส Pulled Pork (เนื้อหมูตุ๋นฉีก) สัปปะรด แล้วก็ไข่ดาว การจะกินเบอเกอร์แบบคนอเมริกัน ต้องใช้มือครับห้ามใช้ส้อมมีด
ต้องจับมันขึ้นมาแล้วบีบด้วยสองมือให้น้ำมันเยิ้ม ๆ หยด ๆ แล้วก็กัดมันลงไปถึงจะได้อารมณ์ ชีสยืดๆ โอ๊ย!! ปากจะฉีก สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้มีดส้อมเหมือนเดิมแหละครับ (ยิ้มแห้ง ๆ ) อีกอย่างคือมันเลอะเทอะอ่ะนะ
ให้ดูว่าชีสมันยืดๆจริงๆนะครับ
ตรงข้ามร้านนี้มีห้างเล็ก ๆ อยู่ พอลองเดินเข้าไปก็มีร้านขายเครื่องเทศร้านใหญ่ ๆ อยู่ ในร้านกลิ่นเหมือนร้านขายยาจีนบ้านเราเลย
แบบที่ยังมีอยู่ที่เยาวราชอ่ะ ตัวร้านจัดได้สวยมากเลยเหมือนร้านขายวัตถุดิบแม่มดยังไงอย่างงั้น มีเครื่องเทศจากบ้านเราขายด้วย บนชั้นมีโหล ๆ ผง ๆ อะไรเต็มไปหมดเลย ชอบ ๆ
เจอนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ไปๆมาๆ มาถ่ายรูปด้วยกันซะงั้น
แวะจอดถ่ายรูปมันแทบทุกโค้ง

ทาน Burger เสร็จ เดินทางต่อ วันนี่เราจะเปลี่ยนที่พักกัน เราจะไปพักที่ เมือง Simon's Town จากร้านอาหารก็ขับต่อประมาณ 1ชม
ซึ่งเส้นทางที่เราใช้ในครั้งนี้จะเป็นถนนอ้อมภูเขาไปทาง Hout Bay ซึ่งเป็นถนนที่มีวิวสวยที่สุดใน South Africa ครับ
ถนนนี้มีชื่อว่า Chapman's Peak Drive จะขับเข้าถนนเส้นนี้จะมีค่าเข้าด้วยนะครับ 50Rand ถนนจะเป็นถนนเลียบหน้าผา เห็นวิวโค้งทะเล
ภูเขาสุดลูกหูลูกตา สวยเหมือนแดนสวรรค์เลย ต้องแวะถ่ายรูปแทบจะทุกโค้งเลย ขับเพลินมากกกกกก มันสวยจริง ๆ ครับ น้ำทะเลสีครามบ้าง
เขียวบ้าง ทรายสีขาว เวิ้งชายหาดทรงพระจันทร์เสี้ยว ตัดกับภูเขาล้อมรอบเต็มไปหมดถนนเฉลิมบูรพาชลทิศที่ระยองกับจันทบุรี
เทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย ดีใจที่ได้มาจริง ๆ เลย (ซึ้ง)
ระหว่างทางมา Simon's Town เมืองเล็กๆ สงบๆ คนไม่พลุกพล่าน
พอออกจาก ถนน Chapman นี่มาเราก็มุ่งตรงไปยังที่พักของเรา จุดหมายก็คือ Simon Town เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ติดชายทะเล เป็นเมืองสงบ ๆ
คนไม่พลุกพล่าน เข้าที่พักกันก่อนวันนี้เราจะพักที่ Protea Point B&B โรงแรมหายากนิดหน่อยเพราะ Google Maps ก็พาไปไม่ค่อยจะถูก เป็นโรงแรมเล็ก ๆ อยู่บนภูเขาครับ มีห้องอยู่ 3 ห้อง เจ้าของออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลย เค้ามีชื่อว่าคุณ Liam คุณเลียม ดีใจมากเลยเพราะเราเป็นคนไทยคู่แรกที่มาพักที่โรงแรมของเค้า เค้าเลยแถมเบียร์ให้ฟรี 2 ขวด
บรรยากาศโรงแรมที่จอง ใหม่สะอาด
ห้องนอนกว้างขวางและสะอาดมากห้องน้ำก็เช่นกันและที่สำคัญมีฝักบัวธรรมดาแล้วในที่สุด ในห้องมีไวน์เชอรี่รสชาติดีมากเป็น Complimentary Drink ด้วยน่ารักที่สุด
ไวน์เชอรี่ อร่อยมาก หอมๆ หวานๆ ดื่มง่าย
คุณเลียมเตือนเราว่าเวลานอนให้ปิดหน้าต่างด้วยเพราะโรงแรมนี้อยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า และแถวนี้ก็มีลิงบาบูนอยู่เยอะมาก
(ลิงบาบูนนึกถึงลิงที่อุ้มซิมบ้าใน The Lion King)
เค้าเล่าว่าเคยมีแขกนอนอยู่แล้วตื่นมามีลิงมานั่งอยู่ปลายเตียงแต่ลิงพวกนี้ก็ไม่ ทำอันตรายคนหรอกถ้าไม่ไปยุ่งกับมัน คุยกับแฟนว่า
เปิดหน้าต่างไว้เหอะอยากเจอ ก็เลยโดนปฏิเสธอย่างโหดร้าย......
ถ้าขับรถไปมาใน Capetown นะครับจะต้องได้เจอป้าย !BABOON อยู่แน่นอนแล้วลิงเหล่านี้ก็มีเยอะแยะประปรายเหมือนลพบุรีบ้านเราเลยครับ ห้ามให้อาหารนะครับเดี๋ยวงานงอก

วิวจากโรงแรมนี้ก็สวยงามเหมือนกัน มุมนึงเห็นทะเล อีกมุมเห็นภูเขา ทะเลที่ Simon Town นี่สะอาดอุดมสมบูรณ์มาก
มีปลาวาฬพ่นน้ำกระโดดให้เห็นอยู่ตลอดถ้ามีกล้องส่องทางไกลนะครับมองจากโรงแรมได้เห็นแน่นอน

แต่เหนือสิ่งอื่นใดเหตุผลหลักที่เรามาที่ Simon Town นี้คืออาณาจักรเพนกวินครับ ใช่ครับเมืองนี้เป็นเมืองที่เป็นที่อยู่ของเพนกวินกว่า 2,000 ตัว
พวกเค้ามาอยู่กันเองด้วย ชินกับคนแล้วไม่กลัวคนด้วยจุดที่เราสามารถไปดูเพนกวินได้นั้นคือ Boulder Beach ซึ่งตัวอาณาจักรเพนกวินนั้นต้องเสียค่าเข้า วันนี้เย็นแล้วประตูปิดไปแล้วต้องมาใหม่พรุ่งนี้ แต่ชายหาใกล้ ๆ ตรงบริเวณ Seaforth Beach Parking Lot ก็จะมีเพนกวินอยู่ประปรายให้เราได้ดูกัน
พอไปถึงเห็นกลุ่มเพนกวินอยู่ 4 ตัวบนโขดหินชายหาด คุณแฟนก็ไม่รอช้าเดินลุยน้ำไปหาเพนกวินเลยจ้า อุณหภูมิตอนนั้นคือ 20 องศาเซลเซียส น้ำเย็นเจี๊ยบแต่เธอไม่กลัว เพื่อเพนกวินหนูทำได้ น้องกวิ้นไม่หนีด้วยน่ารักที่สุด
วันนี้ทานแต่ของหนัก ๆ และขับรถเยอะเลยแวะซื้อสลัดกล่องกลับไปทานโรงแรมแล้วก็พักผ่อน จบวันนะคร้าบ
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 0 เตรียมตัวก่อนไป
https://pantip.com/topic/39285952
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 1 Cape Town Day1-2
https://pantip.com/topic/39287807
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 2 Cape Town Day 2
https://pantip.com/topic/39288194
ฝากติดตามเพจ FB: letmetellyousmt (คืออยากจะบอกว่า) ... เพจนี้เป็นเพจใหม่ จะเน้นรีวิวอาหาร ที่พัก แบบเจาะลึกนะครับ
ขอบคุณครับ

[CR] รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า // Season 1 : Road Trip ที่ South Africa 9 วัน // EP 3 Cape Town Day 3
Seaforth Beach Parking Lot (จุดชมเพนกวิ้นฟรี) - Protea Point B&B
วิวจาก Table Mountain
วันนี้แหละ เราจะขึ้น Table Mountain ให้ได้แม้ว่าจะไม่เห็นอะไรก็ตาม เปิดพยากรณ์อากาศดูเค้าบอกว่าฟ้าจะโปร่งตอนเที่ยง ๆ ครับ
ตอนเช้าเราเลยเข้าไปเดินชมเมืองซะหน่อย จุดแรกที่เราไปก็คือ Green Market Square โซนนี้จะเป็นคล้าย ๆ สยามบ้านเรา
มีร้านเสื้อผ้าร้านรวงขายเยอะแยะเต็มไปหมด มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งซุ้มขายของด้วย ใกล้ ๆ กันมี Bo-kaap Museum ซึ่งจะเป็นโซนบ้าน
ที่ทาสีสด ๆ สวย ๆ ไว้ให้สำหรับถ่ายรูป
Bo-kaap Museum
Green Market Square
นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้กินกาแฟเลยเดินผ่านร้านนึง ชื่อว่า Kamili ร้านนี้มีเมนูกาแฟชื่อแปลก ๆ อยู่คือ Amarula Coffee
ถามพนักงานดูเค้าก็บอกว่า มันคือกาแฟใส่ Amarula อึ้งไปนิดนึง ถามต่อไปว่า แล้ว Amarula นี่มันคืออิหยังละวะเฮ้ย เค้าก็บอกมาว่า
มันเป็นครีมแบบหนึ่ง โอเคก็ลองสั่งมาดูก็ได้ พอลองชิมดูถึงได้รู้ว่า Amarula คือเหล้าครีมของ Africa ขวดจะมีรูปช้างอยู่มีขายที่ไทยด้วยเคยเห็น
รสชาติอร่อยดีครับ
เกือบเที่ยงแล้วได้เวลา ฟ้าเริ่มเปิดตามพยากรณ์อากาศ ตรงไป Table Mountain โชคดีคนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่มีกลุ่มเด็ก ๆ มาทัศนศึกษากัน
ด้านบนภูเขาจะหนาวและลมแรงหน่อย ควรจะมีเสื้อหนาวไปซักตัวนะครับ แต่ข้างบนกว้างมาก กระเช้าของที่นี่จะหมุนได้ 360 องศา
ทุกคนจะได้วิว + เสียวเท่า ๆ กันเนื่องจากผมเป็นคนกลัวความสูงขาก็จะสั่น ๆ หน่อย ตอนกำลังจะขึ้นกระเช้าเมฆหมอกก็ค่อย ๆ ลอยมา
ไม่นะม่ายยยยยยย...... พอขึ้นไปถึงด้านบนแล้วมองไม่เห็นอะไรเลยครับเพราะว่าเมฆเยอะมาก จ๋อยเล็ก ๆ แต่ไม่เป็นไร
ขึ้นมาถึงด้านบน จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากด้วย บนนี้อากาศดีมากๆ ไม่ได้หนาวสั่น สดชื่นมากๆ สูดเข้าไปๆๆให้เต็มปอด กลับไทยไปเจอ
PM 2.5 อีก !! ทางเดินยาวมาก ๆ แทบจะไปจนถึงส่วนกลางของ Capetown เลย
มุมจากด้านบนครับ เมฆกำลังเข้ามาบังวิว
พอเดินไปได้ซักพักลมก็เริ่มพัดเมฆหมอกให้ปลิวไปเผยให้เห็นวิวอลังการของชายฝั่งทะเล เมือง ภูเขา และขอบฟ้า โชคดีมากเลยถ้าฟ้าเปิดตั้งแต่ต้นคงไม่ดีใจเท่านี้ ให้รูปเป็นตัวบรรยายจะดีกว่า เราเดินกันเกือบ 2 ชั่วโมงข้างบนนี้ ตอนขาลงได้เจอกับกลุ่นนักเรียนที่มาเที่ยวที่นี่ เลยเดินไปขอถ่ายรูปด้วย
ทุกคนกรูกันเข้ามาขออยู่ในเฟรม แถมแอบถ่ายตัวเองด้วยทุกคนน่ารักมากเลย ทักเราว่า "หนีห่าว ๆ " ตลอด พอบอกไปว่านี่คนไทย ก็ทำหน้าแปลกใจกันหมด เหมือนเป็นสัตว์หายาก แต่อย่างว่าหน้าเจ๊กก็โดนเหมาว่าเป็นเจ๊กหมดอยู่ดี เหมือนเราเห็นคนดำก็เหมาว่าเป็น African หมดเหมือนกัน ฮ่า
หลังจากเดินเที่ยวจนสมใจอยากแล้ว เราสองคนก็เกิดอาหารอยาก Burger ขึ้นมา เพราะเนื่องจากเนื้อวัวที่นี่มันดีมาก ก็เลยต้องไปหามาโดนซะหน่อย
ร้านที่เจอเป็นร้านที่อยู่ใกล้กับ Cafe Paradiso ที่ไปทานมาเมื่อวาน ชื่อว่า Hudson The Burger Joint
ตัวร้านจะเป็นบาร์เบียร์ กับครัวเปิดให้เห็นวิธีทำชัดเจน เราสั่งกันไปคนละที่โดยมีเมนูชื่อเก๋ ๆ ว่า The Cheese กับ The Rockafella
The Cheese เป็นเบอเกอร์เนื้อวัว กับเชดด้าชีส มะเขือเทศ และหัวหอมกวน (ชอบหัวหอมกวนมาก มันกวนดี) ส่วน The Rockafella
เป็นเบอเกอร์เนื้อวัว สวิสชีส Pulled Pork (เนื้อหมูตุ๋นฉีก) สัปปะรด แล้วก็ไข่ดาว การจะกินเบอเกอร์แบบคนอเมริกัน ต้องใช้มือครับห้ามใช้ส้อมมีด
ต้องจับมันขึ้นมาแล้วบีบด้วยสองมือให้น้ำมันเยิ้ม ๆ หยด ๆ แล้วก็กัดมันลงไปถึงจะได้อารมณ์ ชีสยืดๆ โอ๊ย!! ปากจะฉีก สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้มีดส้อมเหมือนเดิมแหละครับ (ยิ้มแห้ง ๆ ) อีกอย่างคือมันเลอะเทอะอ่ะนะ
ให้ดูว่าชีสมันยืดๆจริงๆนะครับ
ตรงข้ามร้านนี้มีห้างเล็ก ๆ อยู่ พอลองเดินเข้าไปก็มีร้านขายเครื่องเทศร้านใหญ่ ๆ อยู่ ในร้านกลิ่นเหมือนร้านขายยาจีนบ้านเราเลย
แบบที่ยังมีอยู่ที่เยาวราชอ่ะ ตัวร้านจัดได้สวยมากเลยเหมือนร้านขายวัตถุดิบแม่มดยังไงอย่างงั้น มีเครื่องเทศจากบ้านเราขายด้วย บนชั้นมีโหล ๆ ผง ๆ อะไรเต็มไปหมดเลย ชอบ ๆ
เจอนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ไปๆมาๆ มาถ่ายรูปด้วยกันซะงั้น
แวะจอดถ่ายรูปมันแทบทุกโค้ง
ทาน Burger เสร็จ เดินทางต่อ วันนี่เราจะเปลี่ยนที่พักกัน เราจะไปพักที่ เมือง Simon's Town จากร้านอาหารก็ขับต่อประมาณ 1ชม
ซึ่งเส้นทางที่เราใช้ในครั้งนี้จะเป็นถนนอ้อมภูเขาไปทาง Hout Bay ซึ่งเป็นถนนที่มีวิวสวยที่สุดใน South Africa ครับ
ถนนนี้มีชื่อว่า Chapman's Peak Drive จะขับเข้าถนนเส้นนี้จะมีค่าเข้าด้วยนะครับ 50Rand ถนนจะเป็นถนนเลียบหน้าผา เห็นวิวโค้งทะเล
ภูเขาสุดลูกหูลูกตา สวยเหมือนแดนสวรรค์เลย ต้องแวะถ่ายรูปแทบจะทุกโค้งเลย ขับเพลินมากกกกกก มันสวยจริง ๆ ครับ น้ำทะเลสีครามบ้าง
เขียวบ้าง ทรายสีขาว เวิ้งชายหาดทรงพระจันทร์เสี้ยว ตัดกับภูเขาล้อมรอบเต็มไปหมดถนนเฉลิมบูรพาชลทิศที่ระยองกับจันทบุรี
เทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย ดีใจที่ได้มาจริง ๆ เลย (ซึ้ง)
ระหว่างทางมา Simon's Town เมืองเล็กๆ สงบๆ คนไม่พลุกพล่าน
พอออกจาก ถนน Chapman นี่มาเราก็มุ่งตรงไปยังที่พักของเรา จุดหมายก็คือ Simon Town เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ติดชายทะเล เป็นเมืองสงบ ๆ
คนไม่พลุกพล่าน เข้าที่พักกันก่อนวันนี้เราจะพักที่ Protea Point B&B โรงแรมหายากนิดหน่อยเพราะ Google Maps ก็พาไปไม่ค่อยจะถูก เป็นโรงแรมเล็ก ๆ อยู่บนภูเขาครับ มีห้องอยู่ 3 ห้อง เจ้าของออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลย เค้ามีชื่อว่าคุณ Liam คุณเลียม ดีใจมากเลยเพราะเราเป็นคนไทยคู่แรกที่มาพักที่โรงแรมของเค้า เค้าเลยแถมเบียร์ให้ฟรี 2 ขวด
บรรยากาศโรงแรมที่จอง ใหม่สะอาด
ห้องนอนกว้างขวางและสะอาดมากห้องน้ำก็เช่นกันและที่สำคัญมีฝักบัวธรรมดาแล้วในที่สุด ในห้องมีไวน์เชอรี่รสชาติดีมากเป็น Complimentary Drink ด้วยน่ารักที่สุด
ไวน์เชอรี่ อร่อยมาก หอมๆ หวานๆ ดื่มง่าย
คุณเลียมเตือนเราว่าเวลานอนให้ปิดหน้าต่างด้วยเพราะโรงแรมนี้อยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า และแถวนี้ก็มีลิงบาบูนอยู่เยอะมาก
(ลิงบาบูนนึกถึงลิงที่อุ้มซิมบ้าใน The Lion King)
เค้าเล่าว่าเคยมีแขกนอนอยู่แล้วตื่นมามีลิงมานั่งอยู่ปลายเตียงแต่ลิงพวกนี้ก็ไม่ ทำอันตรายคนหรอกถ้าไม่ไปยุ่งกับมัน คุยกับแฟนว่า
เปิดหน้าต่างไว้เหอะอยากเจอ ก็เลยโดนปฏิเสธอย่างโหดร้าย......
ถ้าขับรถไปมาใน Capetown นะครับจะต้องได้เจอป้าย !BABOON อยู่แน่นอนแล้วลิงเหล่านี้ก็มีเยอะแยะประปรายเหมือนลพบุรีบ้านเราเลยครับ ห้ามให้อาหารนะครับเดี๋ยวงานงอก
วิวจากโรงแรมนี้ก็สวยงามเหมือนกัน มุมนึงเห็นทะเล อีกมุมเห็นภูเขา ทะเลที่ Simon Town นี่สะอาดอุดมสมบูรณ์มาก
มีปลาวาฬพ่นน้ำกระโดดให้เห็นอยู่ตลอดถ้ามีกล้องส่องทางไกลนะครับมองจากโรงแรมได้เห็นแน่นอน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดเหตุผลหลักที่เรามาที่ Simon Town นี้คืออาณาจักรเพนกวินครับ ใช่ครับเมืองนี้เป็นเมืองที่เป็นที่อยู่ของเพนกวินกว่า 2,000 ตัว
พวกเค้ามาอยู่กันเองด้วย ชินกับคนแล้วไม่กลัวคนด้วยจุดที่เราสามารถไปดูเพนกวินได้นั้นคือ Boulder Beach ซึ่งตัวอาณาจักรเพนกวินนั้นต้องเสียค่าเข้า วันนี้เย็นแล้วประตูปิดไปแล้วต้องมาใหม่พรุ่งนี้ แต่ชายหาใกล้ ๆ ตรงบริเวณ Seaforth Beach Parking Lot ก็จะมีเพนกวินอยู่ประปรายให้เราได้ดูกัน
พอไปถึงเห็นกลุ่มเพนกวินอยู่ 4 ตัวบนโขดหินชายหาด คุณแฟนก็ไม่รอช้าเดินลุยน้ำไปหาเพนกวินเลยจ้า อุณหภูมิตอนนั้นคือ 20 องศาเซลเซียส น้ำเย็นเจี๊ยบแต่เธอไม่กลัว เพื่อเพนกวินหนูทำได้ น้องกวิ้นไม่หนีด้วยน่ารักที่สุด
วันนี้ทานแต่ของหนัก ๆ และขับรถเยอะเลยแวะซื้อสลัดกล่องกลับไปทานโรงแรมแล้วก็พักผ่อน จบวันนะคร้าบ
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 0 เตรียมตัวก่อนไป https://pantip.com/topic/39285952
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 1 Cape Town Day1-2 https://pantip.com/topic/39287807
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 2 Cape Town Day 2 https://pantip.com/topic/39288194
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้