[CR] รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า // Season 1 : Road Trip ที่ South Africa 9 วัน // EP 4 Cape Town Day 4


ทานอาหารเช้า จิบกาแฟชิวๆ วิวสวยๆกับอากาศเย็นสบายๆ

รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 0 เตรียมตัวก่อนไป  https://pantip.com/topic/39285952
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า EP 1 Cape Town Day1-2   https://pantip.com/topic/39287807
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 2 Cape Town Day 2  https://pantip.com/topic/39288194
รีวิว กิน เที่ยว เปรี้ยว ซ่า  EP 3 Cape Town Day 3  https://pantip.com/topic/39288681
ฝากติดตามเพจ FB: letmetellyousmt (คืออยากจะบอกว่า) ... เพจนี้เป็นเพจใหม่ จะเน้นรีวิวอาหาร ที่พัก แบบเจาะลึกนะครับ smile

อรุณสวัสดิ์เช้านี้ที่สดใส เสียดายไม่มีบาบูนมาทักทาย คุณเลียมได้เตรียมอาหารเช้าให้ที่ชั้นบน (คุณเลียมเป็นเจ้าของโรงแรมกับเมียสองคน 
ทำเองแทบจะทุกอย่าง) โต๊ะอาหารเช้าจะหันออกไปทางระเบียบเห็นวิวเวิ้งทะเลกับภูเขา ได้ทานอาหารเช้ากับวิวแบบนี้ไม่ใช่จะหากันได้ง่าย ๆ

 
อาหารเช้าจะเป็นแบบง่าย ๆ จัดโต๊ะมาแบบเรียบร้อยน่ารักไข่ต้ม ขนมปัง เบคอน ผลไม้ และแถมมีขนมเค้กเชอรี่มาด้วย อร่อยมากเลยหวานกำลังดี
และไม่แห้งติดคอ กาแฟอร่อยอีกแล้ว นั่งทานไปคุณเลียมชี้ให้ดูที่ทะเลมีปลาวาฬกระโดดด้วย มองจากที่ไกล ๆ เห็นเป็นจุดเล็ก ๆ
เสียดายอยากเห็นแบบซูม ๆ พอทานอาหารเสร็จก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวลุยต่อ


ถ่ายกับคุณเลียม เจ้าของโรงแรม

 *  อยากบอกนิดนึง คือ เนื่องจากผมเป็นคนที่เคยทำงานโรงแรมมาพอสมควร และไปพักมาหลากหลายโรงแรมทั่วโลกแล้ว บางครั้ง
จะได้เจอโรงแรม 5 ดาว ที่การบริการฟาวล์ไม่ถึงดาวก็มี และบางครั้งก็จะได้ไปเจอกับโรงแรมไม่มีดาวแต่ การบริการ 5 ดาว++ เลย
เลยอยากจะเชียร์ว่า โรงแรม Protea Point B&B เป็นหนึ่งในนั้นเลย เพราะมีคุณเลียมอยู่นี่แหละ ขอแนะนำเลยครับใครที่ได้มีโอกาสไป
Simon Town ไปพักกับเค้านะครับ (ประทับใจสุด ๆ เลยอยากบอกต่อ ไม่มีค่าโฆษณาใด ๆ)
 


ค่าเข้าตามรูปเลยครับ


อันนี้คือจุดชมวิวจุดแรกหลังผ่านประตูเข้ามา

ก่อนที่จะขับรถไปหาฝูงน้องกวิ้นทั้งหลาย วันนี้วางแผนไว้ว่าก่อนอื่นจะไปแหลม Good Hope ก่อน หรือ Cape of Good Hope สถานที่แห่งนี้เป็น
จุดใต้สุดของเมือง Capetown (ย้ำว่าใต้สุดของ Capetown ไม่ใช่ South Africa) ขับเข้ามาในที่แห่งนี้เพื่อมาดูวิวทะเลและหน้าผา 
(Capetown ก็จะมีแต่ทะเลและภูเขานี่แหละครับ อย่าพึ่งเบื่อนะ) เราได้ขับรถไปถึงจุดใต้สุดของแหลมนี้ตอนที่ไปถึงมีกรุ๊ปทัวร์จีนกับอินเดีย
สมัครสมานสามัคคีมาพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมายเพื่อมาถ่ายรูปกับป้ายใต้สุดแดน Capetown ทำให้กว่าจะได้รูปมาก็นานพอสมควร


ขอซักรูป หลังจากที่ต่อคิวมานานนน

วิว Cape of Good Hope

รูปถ่ายมุมสูงจากประภาคาร

พอถ่ายได้แล้วก็รีบแจ้นขึ้นรถเพื่อที่จะไป ประภาคารเก่าแก่ซึ่งเป็นจุดชมวิวมุมสูงของแหลมนี้ ก่อนที่ชาวจีน+อินเดียจะไปถึง พอไปถึงเห็นทางเดินขึ้น
ก็เหงื่อตกขึ้นมาทันใด ทางเดินขึ้นเป็นทางเดินขึ้นเขากับบันใดชัน ๆ มีรถรางนะครับถ้าใครไม่ชอบความเหนื่อย แต่เนื่องจากเรางก เดินสิครับรออะไร
ระหว่างเดินขึ้นก็มีเด็กมาทัศนศึกษากันอีกแล้ว เห็นเด็กวิ่งขึ้นเขากันทุกคนเลยอิจฉาความเด็ก 

รูปรถราง สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินขึ้น มีตั๋วแบบ One-way และ Return

* ใครที่เคยดูหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean ภาค 2-3 นะครับ มีตำนานว่าแหลม Good Hope นี่แหละเป็นสถานที่ ๆ อยู่ของเรือผี
The Flying Dutchman ของกัปตัน Davy Jones หัวปลาหมึกในหนังนั่นแหละ (https://en.wikipedia.org/wiki/Cape_of_Good_Hope, 2019)
 
หลังจากเดินลงมาแล้วก็ได้เวลาไปบุกหาน้องกวิ้นแล้ว มุ่งหน้าไป Boulder Beach ทางเข้าอาณาจักรเพนกวินนั้นจะมีอยู่สองทาง 
จากทางต้นหาดและปลายหาด (ไปดูใน google maps เอานะ) ต้องเสียค่าเข้า ทางเดินข้างในจะเป็นทางเดินไม้ทำไว้อย่างดีเลย
ระหว่างทางเดินไปหาน้องกวิ้น กลิ่นจะค่อยๆลอยมาเป็นพักๆ อดทน ๆ ฝ่าด่านกลิ่นไปได้ก็จะเจอน้องกวิ้นตามทางเลยครับเยอะมาก
มากจนมองไกล ๆ เหมือนหนอน ๆ ดิ้นดุ้กดิ้กอยู่ 


ราคาบัตรผ่าน เข้าไปดูน้องกวิ้นนนน

หาดระหว่างเดินไปหาน้องกวิ้น ลงเล่นได้นะครับ

ฝูงน้องกวิ้น มาเป็นพรวน

เกร็ดเล็กน้อยของน้องกวิ้น แบบมีสาระบ้างไม่มีบ้าง
     1.          เพนกวินเด็กจะมีขน ขนจะค่อย ๆ หลุดไปเมื่อโตขึ้นเรื่อย ๆ ขนจะกลายเป็นผิวเลื่อม ๆ แบบชุดดำน้ำ 
     2.          เพนกวินเด็กจะหน้าตาขี้เหร่มากเลยแหละ
     3.          ที่หาดแห่งนี้จะมีการฝั่งกล่องพลาสติกกลวง ๆ ไว้ให้เพนกวินเข้าไปทำรัง แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะขุดหลุมทำรังกันเองอยู่ดีแหละ
     4.          เพนกวินจะจับคู่และอยู่กับคู่ไปจนวันตาย ถืงแม้ว่าผัวตายเมียหายสาบสูญก็จะไม่มีใหม่ จะยอมตายตัวเดียว (ซึ้ง)
     5.          ห้ามจับน้องกวิ้นนะครับถึงเค้าจะไม่หนีก็เถอะ อีกอย่างเค้ากัดด้วย
     6.          เพนกวินไม่เต้นแทปเหมือนการ์ตูน Happy Feet นะครับ


น้องนอนอาบแดดสบายใจเฉิบแบบไม่แคร์สื่อ

คู่แล้วไม่แคล้วกัน

ดมกลิ่นเพนกวินกันจนชุ่มปอดแล้ว จุดหมายต่อไปคือชายหาด Muizenberg แต่ระหว่างทางเริ่มหิว เลยแวะโซน Kalk Bay ทานที่ร้านอาหารชื่อ Salt 
เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ มีบาร์และครัวเปิด พนักงานรับออเดอร์พูดเยอะมากแถมคอยเล่นมุขไม่ขำด้วย แต่ก็ยอมให้ในความพยายาม 
เมนูร้านนี้ดูสร้างสรรค์ดีเป็นอาหารฝรั่งที่มีส่วนผสมของอาหารเอเชีย ส่วนเมนูที่สั่งก็จะมีปลาหมึกย่างทาซอสวาซาบิ ปลาหมึกสดมากอร่อยมากเลย
แต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงวาซาบิเท่าไหร่ ชีสบูราต้าบนขนมปังกับผักย่างชีสดีมากเลยหนึบ ๆ ด้านนอกและเยิ้ม ๆ ด้านในเข้ากับผักย่างและขนมปังสุด ๆ และปลา Linefish ซึ่งลองเปิด google ดูมันก็คือปลาฮามาจิหรือทูน่าหางเหลืองนั่นเองซึ่งจานนี้เสิร์ฟมาพร้อมไวน์ขาวด้วย  ปลาสดมากและก็ชิ้นใหญ่มาก
แถมมีผักเยอะจนล้นจานคิดถูกแล้วที่สั่งมาจานเดียว ซอสก็ไม่เลี่ยนเกินไปทานได้อิ่มกำลังดีไม่หนัก จิบไวน์ไปด้วยเอนจอยสุด ๆ เลย
(ผมไม่ได้ดื่มนะต้องขับรถครับ) เสร็จแล้วก็แวะไปทานกาแฟร้านข้าง ๆ ชื่อ Bootlegger เหมือนเดิมกาแฟอร่อยอีกแล้ว

อาหารร้าน Salt

 
อิ่มแล้วก็ขับต่อไปที่หาด Muizenberg หาดแห่งนี้จะมีจุดถ่ายรูปอย่างนึงคือกระท่อมหลังเล็ก ๆ สีสด ๆ เรียงกันอยู่ที่ต้นหาด หาดแห่งนี้จะเป็นจุดที่คนในเมืองและนักท่องเที่ยวขับมาเล่นน้ำกันเพราะไม่ไกลมากจากตัวเมือง ทรายหาดละเอียดขาวสะอาดนุ่มเท้าพร้อมกับน้ำทะเลสีเขียวใส ทำให้อยากวิ่งไปโดดน้ำจริง ๆ แต่น้ำเย็นมากกกกกก ถึงอากาศจะไม่หนาวแต่น้ำเย็นเจี้ยบ แต่ก็มิวายมีคนเล่นน้ำอยู่ดีน่าจะมีสายเลือดน้องกวิ้นอยู่ 

บรรยากาศ Muizenberg


ประชันความส้ม


หาด Muizenberg

ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าเข้าเมืองกลับไปพักที่เดิมคือ The Onyx Apartment Hotel ครั้งนี้เนื่องจากตอนที่จองเห็นว่าราคาห้องใหญ่
แพงกว่านิดหน่อยเลยจองเป็นห้องใหญ่ไปแทน ปรากฏว่าดันได้ห้องสองห้องนอนสองห้องน้ำมาแทน พนักงานก็งง ๆ ว่ามากันสองคน
แล้วจะเอาสองห้องนอนไปทำติ่งอะไร ห้องน้ำที่ห้องนี่แปลกมากเลย ตรงที่ห้องน้ำมี 2 ห้อง ห้องที่มีอ่างแช่คือมีแต่อ่างแล้วไม่มีฝักบัวให้
ก็คืออาบน้ำไม่ได้ แช่ได้อย่างเดียว พอแช่ๆเสร็จยังมีฟองสบู่เหนียวๆติดตัว ต้องเดินไปอีกห้องนึงเพื่อล่างออก งงแปร๊บบบบ
แต่เตียงดูดวิญญาณเหมือนเดิม 

รูปซ้ายบนคือรูป Mr.X ครับ

หลังจากนั่ง ๆ นอน ๆ พักไปได้แป๊บนึง ก็ออกไปชมเมืองต่อ จุดถัดไปที่ได้ไปจะเป็นตลาด + ศูนย์อาหารชื่อว่า Mojo Market ที่นี่จะมีซุ้มอาหารนานาชาติมากมาย มีอาหารไทยด้วย เนื่องจากยังไม่หิวมากก็เลยยังไม่ทานอะไร ซื้อแค่ Gelato ทานไปเท่านั้น Gelato รสชอคโกแลตเชอรี่อร่อยมากเลยอ่ะ 
อยากให้ที่ไทยทำบ้าง เดินดูร้านอาหารตามทางไปเรื่อย ๆ ยังไม่เจอร้านที่โดนใจ เลยตัดสินใจกลับไปที่ V&A Waterfront อีกรอบ



ก่อนอื่นเลยก็แวะไปทานหอยนางรมสดก่อนเพราะเป็นของโปรดมานานแล้ว ที่ร้าน Knysna Oyster Company ร้านนี้หอยนางรมสดตัวกลาง ๆ
ไม่แพงด้วยตกตัวละ 40 บาทเท่าบ้านเรา ร้านจะเป็น Oyster Bar นะครับตั้งอยู่ใน Food Market ติดกับ V&A

หอยนามรมสดอร่อยล้ำมากเลย

เรียกน้ำย่อยเสร็จแล้วก็ไปหามื้อหนักกินต่อ ไปเจอร้านที่แอบ ๆ ซ่อนเป็นซุ้มอยู่ติดน้ำไม่ได้อยู่ในตัวห้างแต่คนเยอะที่สุดเลยชื่อว่า Mozambik


สั่งแบบจัดเต็มมาก

หิวจัดซัดเรียบ ไม่เหลือซาก

อาหารร้านนี้ค่อนข้างแปลกจากร้านอื่น ๆ เพราะร้านนี้จะมีซอสยืนพื้นอยู่อย่างหนึ่ง เรียกว่าซอส Piri Piri ขอบอกเลยว่าเผ็ดพอสมควรเลย
เผ็ดและเปรี้ยวเหมือนต้มยำบ้านเราแต่ข้น ๆ กว่าและใช้ราดมันแทบทุกอย่างในร้าน เมนูที่สั่งมาก็จะเป็นตับไก่ในซอส Piri Piri
หอยแมลงภู่ใน ซอส Piri Piri และซีฟู้ดรวมมิตรก็ราดซอส Piri Piri บอกได้เลยว่าอร่อยมาก ซอสตัวนี้เป็นตัวทำให้อยากอาหารมากเลยครับ
เผ็ดจนเหงื่อแตก กินแล้วหยุดไม่ได้ มื้อนี้แสบท้องสุดเพราะมันเผ็ดพอกลับโรงแรมนอนไม่ค่อยหลับเลยครับแสบท้อง
แต่ต้องพยายามนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อที่จะบินไป Johannesburg ราตรีสวัสดิ์ครับ
ชื่อสินค้า:   South Africa / Cape Town / Johannesburg
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่