แชร์ประสบการณ์ ผู้ชายใช้ยาเหน็บ เพื่อรักษาอาการเลือดออกรูทวาร

สวัสดีครับ ผมอยากจะมาแบ่งปันตามหัวกระทู้นะครับ เรื่องราวของความทรมาณที่ชายแท้ทุกคนไม่อยากเจอ ก็คือการเอาบางสิ่งเข้าก้นตัวเอง

เริ่มมาจากผมเล่นกล้ามครับ ก็ดูวิดิโอในยูทูป ก็ไปเจอช่อง ๆ หนึ่ง ซึ่งผมคงเอ่ยชื่อไม่ได้ เขาแนะนำวิธีกินมาครับ ผมก็เอามาปรับใช้
ผมเริ่มกินดังต่อไปนี้นะ
1. อกไก่ลอกหนังวันละ 1 กิโลกรัม
2. ข้าววันละ 800 กรัม
3. ใช้น้ำมันมะกอกผัดไก่ประมาณ 10 กรัม
4. กิน Animal pak วันละ 11 เม็ด 3 วันต่อสัปดาห์
5. กิน Proflex Whey Protein Concentrate Strawberry 700 g. วันละ 2 scoops 4 วันต่อสัปดาห์
ผมไม่กินผักและผลไม้เลย

ผ่านไป 3 สัปดาห์ เริ่มขี้เป็นเลือดครับ

วันแรกไม่เป็นไร

วันต่อไปเริ่มนั่งไม่ค่อยได้ ขมิบตูดลำบาก แต่ด้วยความไม่ชอบโรงพยาบาลเลยทนต่อไป

วันที่ 3 ทนไม่ไหวแล้วครับ แทบร้องไห้ ขี้ก็ขี้ไม่ออก แต่พอออกก้อนนึงก็เจ็บปวดมาก ๆ พอรู้ว่าในร่างกายนยังมีอีกเป็บสิบก้อนที่พร้อมออกมาดูโลก แค่คิดก็สยองแล้ว ทนไม่ไหวไปหาเภสัช (ยังจะดื้ออีก) รับยามาโดยที่เภสัชไม่ดูก้นเลย จ่ายยาโดยฟังอาการอย่างเดียว แต่ไม่ทันใช้พอทางบ้านรู้ว่าไปหาเภสัชไม่ใช่หมอ และเภสัชไม่ตรวจรูก้น ก็ด่ายับ ๆ ว่าโง่โดนเภสัชหลอกแล้ว ทำให้ไม่ได้ใช้ยาที่ซื้อมา เอาไปทิ้งเสียเงินฟรีครับ

วันที่ 4 เลยต้องไปโรงพยาบาลครับ ไป 8 โมง แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะคิวเต็ม รอตอนบ่าย เมื่อถึงเวลาก็ต้องรออีก 2 ชั่วโมง กว่าจะได้ตรวจเป็นบ่ายสาม เมื่อตรวจ หมอไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนเภสัชครับ ขอดูรูทวารเลย ผมต้องไปนอนบนเตียงถอดกางเกงออก หมอแหกก้นผมดูสองสามรอบรู้สึกไม่แน่ใจ ก็เลยไปตามหมออาวุโสกว่ามาช่วยดู ในที่สุดก็วินิจฉัยโรคได้
หมอถามคำถามนึงที่อายมาก ๆ หมอถามว่าเคยมีเพศสัมพันธ์หรือเอาของยัดไหม ผมตอบไปเลยว่าชายแท้ แค่เอามือผ่านตูดยังกลัวเลย ตอนล้างก้นนี่ระวังสุด ๆ ไม่ให้รุกล้ำรูก้นไป ดังนั้นเรื่องเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าตูดด้วยความสมัครใจไม่มีแน่นอน
หมอก็เลยถามใหม่ ว่ากินผักไหม ผมนี่ตรัสรู้ในทันที ว่าสาเหตุของเลือดออกที่รูก้นคืออะไร นั่นก็คือ ผมไม่กินผักนี่เอง ถึงแม้ว่าจะกินวิตามิน แต่มันก็ทดแทนผักไม่ได้ ผมเข้าใจผิดมาตลอดเลย หมอเพิ่มเติมอีกว่า โชคดีที่ผมมาหาเร็ว มันก็ไม่เลยไม่กลายเป็นริดสีดวงซะก่อน หมอจ่ายยามา 5 ซองด้วยกันครับเยอะมาก ๆ หลังจากหาหมอในตอนนั้น ผมโมโหมาก ที่ไปรับความรู้ผิด ๆ เรื่องไม่กินผัก ผมเลยไปซื้อผักมา 2 กิโลกรัมครับ

วันที่ 5 ผมเริ่มทำอาหารโดยกินเนื้อลดลงครึ่งนึง วันละ 500 กรัม แต่เพิ่มผักไป 1 กิโลกรัมต่อวัน หวังว่าอะไรจะดีขึ้น แต่แค่วันเดียวก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก และในที่สุดเมื่อถึงเวลานอน ก็ได้เวลาที่ผมไม่อยากเจอเลยครับ ก็คือการเหน็บตูดตัวเอง ทำใจลำบากโคตร ผมเริ่มโดยการนอนตะแคงไปบนเตียง แล้วยกเข่าให้ติดหน้าอก จากนั้นค่อย ๆ สอดยาเหน็บไปจนสุด ทำเสร็จรู้สึกเหมือนเปิดโลกใหม่มาก ทำให้ผมเข้าใจในทันทีถึงพลังของตูด มิน่าละ คนที่ดิลโด้ติดก้นถึงเอาออกด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะตูดมันดูดได้นี่เอง ดูเหมือนผมจะเริ่มรู้เรื่องชาวสีม่วงไปเล็กน้อยแล้ว

วันที่ 6-8 อาการเจ็บยังเหมือนเดิม อาการถ่ายดีขึ้น ขี้ออกง่ายและเหลวจากการกินผักจำนวนมาก และใช้ยาถ่าย senokot ที่หมอให้มา ยังใช้ยาเหน็บทุกวัน

วันที่ 9 อาการเจ็บทางด้านซ้ายของรูก้นเริ่มหายไป ขี้ออกง่ายมากขึ้น ไม่รู้สึกเจ็บมาก

วันที่ 10-11 อาการเจ็บเริ่มค่อย ๆ หายตามลำดับ ไปค้นกูเกิล พบว่า senokot ห้ามเกิน 7 วัน เกือบไปแล้ว ทำไมหมอไม่บอกเลย ฉลากยาก็ไม่มีบอก ถ้าผมไม่อยากรู้อยากเห็น คงกินเกินไปแล้ว เพราะผมกินยา senokot 6 วันติดต่อกันมาแล้ว และเหลือ 20 เม็ด กินต่อได้ยาว ๆ

วันที่ 12-30 อาการปวดหายไปเรื่อย ๆ จนเหลือ 0 เป็นผลมาจาก 1 เดือนนี้ ผมกินผักเยอะมาก ๆ เฉลี่ยวันละ 500 กรัม และกินยาหมอ 5 ซองนั้น ตรงตามเวลาทุกวันแทบไม่เคยขาดเลย ยกเว้น senokot ที่เลิกกินไปแล้ว ส่วนเรื่องเหน็บ ถึงมันจะหายเจ็บไปตั้งแต่วันที่ 20 แล้ว แต่ผมทำตามหมอที่บอกว่าถึงอาการปวดจะหายแล้ว ก็ต้องเหน็บต่อไป และเมื่อยาเหน็บก็หมดลงไป ผมไม่ได้รู้สึกอยากใช้ยาเหน็บเพิ่มและไม่อยากใช้ดิลโด้ ดังนั้นสำหรับคนที่กังวลว่าจะเป็นเกย์หรือไม่ หลังจากสอดไป สำหรับผมแล้ว ไม่เป็นนะครับ เพราะยาสอด เม็ดเล็กนิดเดียว มันไม่ทำให้เสพติดได้หรอกนะ
 
สุดท้ายนี้นะครับ อยากขอขอบคุณหมอ รพ.รัฐมาก ๆ นะครับ ที่จ่ายยาถูกต้อง ทำให้อาการทรมาณผมหายไปจนหมด ถึงจะจ่ายผิดเรือง senokot ไปก็เถอะ และขอให้ทุกที่อ่านกระทู้ผมกินผักผลไม้เยอะ ๆ นะครับ ใครที่บอกว่าไม่กินผัก กินอย่างอื่นแทนได้ อย่าไปเชื่อมัน อาหารธรรมชาตินี่แหละดีที่สุดแล้วครับ อย่าไปกินอาหารเสริมมากกว่าอาหารหลัก 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่