☀มงกุฎอัคคี ตอนที่ ๖ ราชครู .................. {อสิตา}

กระทู้สนทนา
☀มงกุฎอัคคี  
ตอนที่ ๑ ปฐมบท ต้นเพลิง 
https://pantip.com/topic/39253472
ตอนที่ ๒ องค์ชาย 
https://pantip.com/topic/39256876
ตอนที่ ๓ นางทาส
https://pantip.com/topic/39259835
ตอนที่ ๔ อามิน 
https://pantip.com/topic/39262780
ตอนที่ ๕ ระบำอัคคี 
https://pantip.com/topic/39265661


เพียงนางยังยันอกเขาไว้ “ข้าขอสัญญาหนึ่งข้อ...ท่านจะต้องดับไฟ”

“ไม่ใช่ว่าดับไฟแล้วข้าจะมิเห็นสิ่งใด ข้ายังมองเจ้าได้แม้ในความมืด” จ้าวชีวิตแห่งนางทาสยั่วเย้า

“ทุกครั้ง ท่านจะต้องดับไฟ...” คนหน้าแดงระเรื่อยังยืนกราน

“ตกลง”

เมื่อนั้นไฟในห้องพลันวูบหายลับดับสนิทด้วยอำนาจกระแสสั่งจากเตมัน มีเพียงเสียงหอบหายใจแรงของทั้งคู่ เมื่อนางเป็นฝ่ายผลักร่างกำยำลงถึงแท่นนอนแล้วโถมเข้าหา องค์ชายผู้ผยองคำรามแล้วพลิกร่างน้อยลงไว้ข้างใต้ ก่อนก้มลงจุมพิตเว้าวอน ขบกัดอย่างเร่าร้อนแต่ทะนุถนอม

“ข้ารอมานานแล้ว ที่จะได้สัมผัสเจ้า ตรงนี้...และตรงนี้...” เตมันหอบพร่า ฟังเสียงคนในอ้อมแขนสะอื้นครางในคอราวกับจะขาดใจ “กับเจ้า สัมผัสเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ไม่พอ ข้ายังอยากสำรวจไปเรื่อยๆ”
อ้อมแขนเรียวเอื้อมขึ้นกอดเกาะ เล็บจิกฝังลงบนแผ่นหลังจอมคนในลักษณาการคล้ายตะครุบเหยื่อลงกรงเล็บ แต่เตมันกลับพึงใจจนต้องคำรามออกมา
“อามิน อามิน”

เขาตักตวงจากนางอย่างบุรุษร้อนรัก
คืนแล้วคืนเล่า... 

ทุกคราที่อยู่ด้วยกัน ในความมืดนั้นช่างเป็นสุขเหมือนฝัน เหมือนกำลังลอยไปสู่โลกที่ไม่เป็นจริง จนคืนหนึ่ง เตมันตระกองกอดชายาไว้ มือทาบลงที่กลางตัวนาง พลังชีวิตน้อยๆ นั้นซึ่งสัมผัสได้ สตรีในอ้อมแขนกำลังตั้งครรภ์ 

“ข้ากำลังจะเป็นพ่อคน” องค์ชายพึมพำ “รอก่อนนะ เมื่อวันนั้นมาถึง ข้าจะสวมมงกุฎอัคคีให้เจ้า พร้อมๆ กับเถลิงขึ้นเป็นราชา”

คนถูกกอดรัดเสียแน่นพยักยิ้ม เอี้ยวไปจุมพิตเตมันอย่างลึกซึ้งไม่ต่างกัน

ความสุขนี้ เขาหวังไว้ว่าจะยืนยาว...

กระทั่งคืนหนึ่ง เตมันผุดลุกลืมตาตื่นด้วยเสียงกรีดร้องที่มาพร้อมกลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง ใจตระหนักรู้ทันทีว่าเกิดเรื่องกับต้นเพลิง ทั้งห้องเต็มไปด้วยหมอกควัน ยิ่งตะลึงพรึงเพริดเมื่อพบว่าข้างกายไม่มีใคร เขาคว้าดาบ...พอดีกับที่อามินก้าวเข้ามาอย่างรีบเร่ง ชายผู้เป็นใหญ่แห่งคามาจึงถลาพรวดเข้าถึงตัวนาง

“เกิดเรื่องอันใด !” สายตาตระหนกของว่าที่กษัตริย์มองสำรวจคนตรงหน้า กายนางเลอะเลือด “ข้าได้ยินเสียงร้อง...เจ้าบาดเจ็บหรือ” น้ำเสียงที่เปล่งออกไปห่วงใยยิ่ง

อามินยังมีแก่ใจยิ้มเยื้อน ก่อนเอ่ยคล้ายอารมณ์ดี “ไม่ใช่เลือดข้า...ช่างเถอะ ข้าอยากให้ท่านดูของขวัญล้ำค่านี่ก่อน”
นางจับมือเตมันไปสอดเข้าใต้ผ้าพันอก ให้ได้สัมผัสผิวเนื้อที่ระหว่างกลางนั้น เจ้าของร่างกำยำชะงัก...รอยนูน รอยแผลเป็นอย่างชนเผ่าที่กรีดไว้ตบแต่งเพิ่มความงามตามร่างกาย 

...เป็นอักขระเก่าแก่ คำว่า ‘คาร์’ 
ความรัก ?!
ที่ตะลึงหาใช่เพราะนางบอกรัก ทว่าที่ผ่านมา...สตรีซึ่งมือนี้ได้สัมผัสคืนแล้วคืนเล่าในความมืดไม่มีร่องรอยอันนี้ เตมันนิ่งไป แต่สีหน้ากลับเผือดลงราวกับซากศพ

นางเบียดร่างเข้าหา เขย่งกายออดอ้อนอย่างอยากนำเสนอ “ไม่ใช่คาร์ที่แปลว่ารัก แต่คือคาร์จัน ที่แปลว่า...”

“ฆ่า...” ชายผู้มืดบอดสะอึกออกมาคำหนึ่ง

“เข้าใจหรือยัง ข้าให้ท่านดับไฟ เพราะอำนาจแห่งอัคคีจะช่วยปัดเป่าท่านหลุดพ้นจากมายาที่ข้าร่ายไว้”

ควันจากต้นเพลิงยิ่งระเหยระเรื่อยมา ทำให้ภาพของนางถูกเกลื่อนบังด้วยกระแสมายาลวงตา ยิ่งดู นางยิ่งเสมือนไกลห่างจากความเป็นจริง รอยยิ้มนั้น ยิ่งกว่าคมหอกทิ่มเข้าตัดขั้วหัวใจ
“แล้วลูก...” คำพูด ยากเย็นกว่าจะเค้นพ้นคอ เขารู้สึกได้ถึงรสเลือดที่ไหลซึมออกจากจมูกและลมหายใจ

“เด็ก ?” อามินเลิกคิ้วอ่อนโยน “ก้อนเลือดของท่านน่ะหรือ ข้าต้องการสิ มันย่อมมีอยู่ในครรภ์อื่น...แต่ไม่มีอยู่ในตัวข้าแน่” พูดพลางยิ้มหยันสุดใจ 
“ท่านฆ่าตายายที่ยังเหลือ พร้อมๆ กับกวาดเท้าเหยียบเผ่าเถื่อนของข้าจนพินาศสิ้นคาฝ่าพระบาทไปนานแล้ว ใจข้าก็เช่นกัน” นางจงใจเน้นคำประชดเสียงขื่น “องค์ชายเตมัน จารบุรุษผู้พรากทุกอย่างไป...หากอยากให้ข้าอุ้มท้องเลือดเนื้อโสโครก ค่อยรอไปชาติหน้าก่อนเถิด ! หากอยากให้ข้าหลงผิดรักท่าน รอไว้ชาติหน้าก็แล้วกัน !”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่