ต้องบอกเลยว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างรักษาของและใช้ของอย่างทะนุถนอมมากไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง กลับกันกับน้องชายที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว ที่ใช้ของได้แป๊บเดียวก็เก่าก็พัง อย่างเช่นโน๊ตบุ๊คที่ใช้ได้1ปีกว่าๆ ปุ่มบนคีย์บอร์ดก็หลุดกระจัดกระจาย แถมยังทำน้ำหกใส่ จนช่วงล่างใช้งานไม่ได้ แถมเวลาเล่นเกมส์ยังชอบเอาเมาส์ทุบโต๊ะรัวๆ เอามือทุบคีย์บอร์ดแรงๆ ซึ่งมันทำให้
วันไหนที่ผมเห็นของๆตัวเองอยู่ในมือน้องจะกระวนกระวายและโมโหมาก อีกทั้ง น้องยังเป็นคนชอบหยิบฉวย เอาอะไรไปใช้โดยไม่ขอ เช่น เอาโน๊ตบุ๊ค ที่เป็นของส่วนตัว(มากๆ) ของผมไปเล่นเกม แถมยังแอบเปลี่ยนรหัสเข้าเครื่อง แต่พอผมจับได้ ก็เฉไฉว่าไม่ได้ทำอะไรเลย มันทำให้ผมหมดความไว้เนื้อเชื่อใจ จนผมเหลืออด ลงมือใช้ไม้แข็งไปครั้งนึงน้องจึงเริ่มปรับปรุงตัวบ้าง
แต่ทว่า
ประมาณสัปดาห์ก่อนหูฟังเล่นเกมของผมซึ่งค่อนข้างราคาสูง ไปอยู่ในมือน้อง โดยที่ไม่ได้มีการขออนุญาตยืมสักคำอีกแล้ว ด้วยเหตุผลว่า “ก็ผมไม่อยู่ จะขออนุญาตยังไง” ผมโมโหมากจึงวิ่งไปถอดหูฟังจากน้องและเอาคืนมา
เมื่อเช็คสภาพแล้ว ข้างขวา เสียงมันไม่ออกมาอีกแล้ว
นั่นยิ่งทำให้ผมโกรธสุดขีดมากกว่าเดิม แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรเพราะเบื่อแล้ว ก็ได้แต่บ่นด่าไป
จนน้องร้องไห้ แม่ก็เข้ามาดู คุยกันไปคุยกันมาน้องก็เป่าหูแม่ว่าผมเป็นฝ่ายผิด แม่ก็ตามสิครับ
แล้วประโยคที่ผมเกลียดที่สุดก็ออกมา “เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้องสิ”
ความหมายของมันดีแน่นอนครับ แต่ใช้ไม่ได้กับน้องชายผมคนนี้
เพราะว่าอย่างที่เล่าไปในต้นกระทู้เลย อะไรอยู่ในมือเขา ไม่นานมันก็พังหมด เลยไม่อยากมีความเสียสละอะไรให้แล้ว
ผมจึงอยากรู้ว่า ถ้าน้องเป็นแบบนี้ การที่เราไม่ให้เขายืมของอะไรเลย มันผิดไหมครับ พอให้ยืมก็ต้องมานั่งทุกข์ นั่งกังวลว่าจะเป็นรอย จะพัง จะอะไรไหม
เพราะว่าถ้าเกิดพัง ท้ายที่สุดก็เป็นผมเองที่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของสิ่งนั้นใหม่เพราะไม่อยากรบกวนเงินของพ่อแม่ด้วย
จริงๆแล้วไม่ใช่แค่น้องด้วยครับ ยังรวมไปถึงเพื่อน หรือคนรอบตัวหลายคนเลยครับ ที่ผมไม่อยากจะให้พวกเขายืมของ
ไม่ให้น้องยืมของเพราะน้องเป็นคนไม่รักษาของ ผิดไหมครับ
วันไหนที่ผมเห็นของๆตัวเองอยู่ในมือน้องจะกระวนกระวายและโมโหมาก อีกทั้ง น้องยังเป็นคนชอบหยิบฉวย เอาอะไรไปใช้โดยไม่ขอ เช่น เอาโน๊ตบุ๊ค ที่เป็นของส่วนตัว(มากๆ) ของผมไปเล่นเกม แถมยังแอบเปลี่ยนรหัสเข้าเครื่อง แต่พอผมจับได้ ก็เฉไฉว่าไม่ได้ทำอะไรเลย มันทำให้ผมหมดความไว้เนื้อเชื่อใจ จนผมเหลืออด ลงมือใช้ไม้แข็งไปครั้งนึงน้องจึงเริ่มปรับปรุงตัวบ้าง
แต่ทว่า
ประมาณสัปดาห์ก่อนหูฟังเล่นเกมของผมซึ่งค่อนข้างราคาสูง ไปอยู่ในมือน้อง โดยที่ไม่ได้มีการขออนุญาตยืมสักคำอีกแล้ว ด้วยเหตุผลว่า “ก็ผมไม่อยู่ จะขออนุญาตยังไง” ผมโมโหมากจึงวิ่งไปถอดหูฟังจากน้องและเอาคืนมา
เมื่อเช็คสภาพแล้ว ข้างขวา เสียงมันไม่ออกมาอีกแล้ว
นั่นยิ่งทำให้ผมโกรธสุดขีดมากกว่าเดิม แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรเพราะเบื่อแล้ว ก็ได้แต่บ่นด่าไป
จนน้องร้องไห้ แม่ก็เข้ามาดู คุยกันไปคุยกันมาน้องก็เป่าหูแม่ว่าผมเป็นฝ่ายผิด แม่ก็ตามสิครับ
แล้วประโยคที่ผมเกลียดที่สุดก็ออกมา “เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้องสิ”
ความหมายของมันดีแน่นอนครับ แต่ใช้ไม่ได้กับน้องชายผมคนนี้
เพราะว่าอย่างที่เล่าไปในต้นกระทู้เลย อะไรอยู่ในมือเขา ไม่นานมันก็พังหมด เลยไม่อยากมีความเสียสละอะไรให้แล้ว
ผมจึงอยากรู้ว่า ถ้าน้องเป็นแบบนี้ การที่เราไม่ให้เขายืมของอะไรเลย มันผิดไหมครับ พอให้ยืมก็ต้องมานั่งทุกข์ นั่งกังวลว่าจะเป็นรอย จะพัง จะอะไรไหม
เพราะว่าถ้าเกิดพัง ท้ายที่สุดก็เป็นผมเองที่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของสิ่งนั้นใหม่เพราะไม่อยากรบกวนเงินของพ่อแม่ด้วย
จริงๆแล้วไม่ใช่แค่น้องด้วยครับ ยังรวมไปถึงเพื่อน หรือคนรอบตัวหลายคนเลยครับ ที่ผมไม่อยากจะให้พวกเขายืมของ