เข้าสู่มิติของเรื่องสั้นกันครับ ^^
นี่คือ เรื่องราวในอดีตกาล ยุคสมัยที่ยังมี "อัศวิน" มีเจ้าหรือกษัตริย์ผู้ครองแว่นแคว้น มีการรัฐประหาร เจ้าองค์ใหม่ ความโกลาหล ฯลฯ
สุดท้ายจะจบอย่างไร ติดตามกันได้ ณ บัดนี้ครับ 
กาลครั้งหนึ่ง พระราชาเจ้าแคว้นทรงปกครองโดยทศพิธราชธรรมมาช้านาน
พระองค์ทรงมีพระราชธิดาสองพระองค์
พระองค์โตทรงมีพระปัญญาเฉียบแหลม แต่ไม่ใคร่แข็งแรงนัก
พระองค์เล็กทรงพระปรีชาสามารถด้านการทหาร เป็นที่ยอมรับในหมู่ขุนศึก
และแล้ววันหนึ่ง เจ้าน้องต่างพระมารดาของพระราชา ทรงร่วมมือกับเหล่าขุนนางกลุ่มหนึ่งทำการรัฐประหาร ลอบปลงพระชนม์พระราชา แล้วเข้ายึดอำนาจการปกครอง
ขณะนั้น เจ้าหญิงองค์เล็กทรงฝึกทหารอยู่ที่ค่าย พระองค์ทราบข่าวจากทหารคนสนิท จึงหลบหนีไปได้
เจ้าอาได้แต่นำตัวเจ้าหญิงองค์โตมาคาดคั้น
"เจ้าจงมอบพระราชลัญจกร และเครื่องราชกกุธภัณฑ์มาเสียแต่โดยดี หาไม่ เจ้าจะต้องได้รับความอับอายขายหน้า ข้าจะขึ้นครองราชย์ และประกาศแต่งตั้งเจ้าเป็นราชินี"
และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้น
การปกครองของพระราชาองค์ใหม่ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก แรกเริ่มก็มีกองทหารบางกรมกองกระทำการต่อต้าน
ต่อมา กองกำลังนำโดยเจ้าหญิงองค์เล็กประกาศต่อสู้ล้มล้างพระราชา แต่ด้วยกำลังพลและอาวุธมีน้อยกว่า จึงไม่สามารถต้านทานไหว ที่สุดก็ปรับเปลี่ยนเป็นขบวนย่อย ๆ กระทำการใต้ดิน
ฝ่ายเจ้าหญิงองค์โต นับแต่ทรงได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นพระราชินี พระองค์ไม่เคยปรากฏพระองค์ในที่ใดเลย
ขบวนการใต้ดินได้เกิดขึ้นไปทั่ว ในหัวเมืองรอบนอก
ยิ่งเมื่อมีข่าวลือสะพัดว่า หัวหน้าขบวนการก็คือ เจ้าหญิงองค์เล็ก ประชาชนจึงให้การสนับสนุน มอบข้าวปลาอาหารให้มากมาย นับวันกำลังพลก็เพิ่มมากขึ้น ๆ สามารถทำการสู้รบยืดเยื้อได้ยาวนานขึ้น อาวุธยุทโธปกรณ์ก็เริ่มทัดเทียมกับฝ่ายพระราชา ที่สุด ก็สามารถบุกยึดเมืองสำคัญได้หลายเมือง
หัวหน้าขบวนการใต้ดินได้ออกประกาศให้พระราชินีสละพระอำนาจเสีย หาไม่ หากแพ้ศึกจะถูกโทษประหารสถานเดียว
แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆ จากฝ่ายพระราชินีเลย
เวลาผ่านไปเป็นเดือน แล้วก็เป็นปี ฝ่ายใต้ดินยิ่งทียิ่งทวีความเข้มแข็ง
และแล้ววันหนึ่ง ปรากฏข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า "หัวหน้าใต้ดินเสียชีวิตแล้ว ๆ"
ข่าวนี้ยิ่งทำให้ประชาชนโกรธแค้นเพิ่มมากขึ้น หันไปให้ความช่วยเหลือพวกใต้ดินกันอย่างล้นหลาม
ในไม่ช้า กองกำลังใต้ดินก็ปรากฏเป็นกองทัพใหญ่เข้าปิดล้อมพระนคร
หลังจากโหมโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งกลางวันกลางคืน ที่สุด เมืองพระนครก็ถูกตีแตก แต่พระราชาหนีไปได้
ข้าราชการฝ่ายพระราชาก็ถูกจับกุมคุมขัง รอการสอบสวนต่อไป
ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนรวมกันด้วยทีท่าอันสำรวมยิ่ง
คนหนึ่งได้ก้าวออกมา ถวายความเคารพพร้อมกับกล่าวรายงานว่า
"พวกเราได้กระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ สำเร็จทุกประการ ได้ดำเนินการจนบ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุข ประชาชนทั่วทุกแห่งได้รับความช่วยเหลือ
พวกเราได้จัดการเลือกตั้งผู้สำเร็จราชการและฝ่ายต่าง ๆ เข้าบริหารแผ่นดินอย่างเหมาะสมครบถ้วน ล่าสุดก็สามารถจับกุมพระราชาได้ รอการพิจารณาคดีอย่างเที่ยงธรรมต่อไป สำหรับหัวหน้าขบวนการก็ได้จัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ"
"เราขอขอบคุณพวกท่านทุกคนที่อดทนความอัปยศอดสูนานานับประการ กระทำการอย่างเข้มแข็งยาวนาน จนทุกอย่างได้สำเร็จลง โดยมิได้หวังลาภยศสรรเสริญใด ๆ ขอบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงอำนวยพรแก่ทุกท่านเทอญ"
/// จบ ///
ถุงมือ โบราณ
🌾🏹🏰 THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง# 16 เรื่องสั้น-1 "สมัยอัศวิน" - ถุงมือ "โบราณ" 🏰🏹🌾
นี่คือ เรื่องราวในอดีตกาล ยุคสมัยที่ยังมี "อัศวิน" มีเจ้าหรือกษัตริย์ผู้ครองแว่นแคว้น มีการรัฐประหาร เจ้าองค์ใหม่ ความโกลาหล ฯลฯ
สุดท้ายจะจบอย่างไร ติดตามกันได้ ณ บัดนี้ครับ
กาลครั้งหนึ่ง พระราชาเจ้าแคว้นทรงปกครองโดยทศพิธราชธรรมมาช้านาน
พระองค์ทรงมีพระราชธิดาสองพระองค์
พระองค์โตทรงมีพระปัญญาเฉียบแหลม แต่ไม่ใคร่แข็งแรงนัก
พระองค์เล็กทรงพระปรีชาสามารถด้านการทหาร เป็นที่ยอมรับในหมู่ขุนศึก
และแล้ววันหนึ่ง เจ้าน้องต่างพระมารดาของพระราชา ทรงร่วมมือกับเหล่าขุนนางกลุ่มหนึ่งทำการรัฐประหาร ลอบปลงพระชนม์พระราชา แล้วเข้ายึดอำนาจการปกครอง
ขณะนั้น เจ้าหญิงองค์เล็กทรงฝึกทหารอยู่ที่ค่าย พระองค์ทราบข่าวจากทหารคนสนิท จึงหลบหนีไปได้
เจ้าอาได้แต่นำตัวเจ้าหญิงองค์โตมาคาดคั้น
"เจ้าจงมอบพระราชลัญจกร และเครื่องราชกกุธภัณฑ์มาเสียแต่โดยดี หาไม่ เจ้าจะต้องได้รับความอับอายขายหน้า ข้าจะขึ้นครองราชย์ และประกาศแต่งตั้งเจ้าเป็นราชินี"
และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้น
การปกครองของพระราชาองค์ใหม่ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก แรกเริ่มก็มีกองทหารบางกรมกองกระทำการต่อต้าน
ต่อมา กองกำลังนำโดยเจ้าหญิงองค์เล็กประกาศต่อสู้ล้มล้างพระราชา แต่ด้วยกำลังพลและอาวุธมีน้อยกว่า จึงไม่สามารถต้านทานไหว ที่สุดก็ปรับเปลี่ยนเป็นขบวนย่อย ๆ กระทำการใต้ดิน
ฝ่ายเจ้าหญิงองค์โต นับแต่ทรงได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นพระราชินี พระองค์ไม่เคยปรากฏพระองค์ในที่ใดเลย
ขบวนการใต้ดินได้เกิดขึ้นไปทั่ว ในหัวเมืองรอบนอก
ยิ่งเมื่อมีข่าวลือสะพัดว่า หัวหน้าขบวนการก็คือ เจ้าหญิงองค์เล็ก ประชาชนจึงให้การสนับสนุน มอบข้าวปลาอาหารให้มากมาย นับวันกำลังพลก็เพิ่มมากขึ้น ๆ สามารถทำการสู้รบยืดเยื้อได้ยาวนานขึ้น อาวุธยุทโธปกรณ์ก็เริ่มทัดเทียมกับฝ่ายพระราชา ที่สุด ก็สามารถบุกยึดเมืองสำคัญได้หลายเมือง
หัวหน้าขบวนการใต้ดินได้ออกประกาศให้พระราชินีสละพระอำนาจเสีย หาไม่ หากแพ้ศึกจะถูกโทษประหารสถานเดียว
แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆ จากฝ่ายพระราชินีเลย
เวลาผ่านไปเป็นเดือน แล้วก็เป็นปี ฝ่ายใต้ดินยิ่งทียิ่งทวีความเข้มแข็ง
และแล้ววันหนึ่ง ปรากฏข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า "หัวหน้าใต้ดินเสียชีวิตแล้ว ๆ"
ข่าวนี้ยิ่งทำให้ประชาชนโกรธแค้นเพิ่มมากขึ้น หันไปให้ความช่วยเหลือพวกใต้ดินกันอย่างล้นหลาม
ในไม่ช้า กองกำลังใต้ดินก็ปรากฏเป็นกองทัพใหญ่เข้าปิดล้อมพระนคร
หลังจากโหมโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งกลางวันกลางคืน ที่สุด เมืองพระนครก็ถูกตีแตก แต่พระราชาหนีไปได้
ข้าราชการฝ่ายพระราชาก็ถูกจับกุมคุมขัง รอการสอบสวนต่อไป
ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนรวมกันด้วยทีท่าอันสำรวมยิ่ง
คนหนึ่งได้ก้าวออกมา ถวายความเคารพพร้อมกับกล่าวรายงานว่า
"พวกเราได้กระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ สำเร็จทุกประการ ได้ดำเนินการจนบ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุข ประชาชนทั่วทุกแห่งได้รับความช่วยเหลือ
พวกเราได้จัดการเลือกตั้งผู้สำเร็จราชการและฝ่ายต่าง ๆ เข้าบริหารแผ่นดินอย่างเหมาะสมครบถ้วน ล่าสุดก็สามารถจับกุมพระราชาได้ รอการพิจารณาคดีอย่างเที่ยงธรรมต่อไป สำหรับหัวหน้าขบวนการก็ได้จัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ"
"เราขอขอบคุณพวกท่านทุกคนที่อดทนความอัปยศอดสูนานานับประการ กระทำการอย่างเข้มแข็งยาวนาน จนทุกอย่างได้สำเร็จลง โดยมิได้หวังลาภยศสรรเสริญใด ๆ ขอบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงอำนวยพรแก่ทุกท่านเทอญ"