เมื่อความมืดครอบงำ... ความสัมพันธ์นี้ คืออะไร...

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลย
หากผมเรียบเรียงไม่ดี ต้องขออภัยครับ

ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวละครหลักครับ 
1. ตัวผมเอง อายุ 31 ปี เป็น ผจก.ฝ่าย... ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สถานะ สมรสแล้ว
2. น้องที่ทำงาน อายุ 25 ปี ทำงานที่เดียวกัน แต่คนละฝ่าย สถานะ มีแฟน

ตอนนี้เรามาเริ่มเรื่องกันเลยครับ

ผมทำงานที่บริษัทนี้มาเกือบๆ 2 ปีได้ หน้าที่การงานและชีวิตคู่นั้นเป็นไปด้วยดี ผมไม่รู้สึกว่าขาดอะไรในชีวิต (เรื่องบนเตียงของเราก็ไม่มีสะดุด) แฟนผมเป็นคนขี้หึงมากๆ แต่ทุกอย่างนั้นก็เป็นไปได้ดี แบบดีไปเรื่อยๆ
ตลอดชีวิตรักและการทำงานของผม ผมไม่เคยมีประวัติเสียเรื่องผู้หญิงเลย ผมพยามไม่ยุ่งเกี่ยว และผู้หญิงก็มักไม่มายุ่งกับผมเช่นกัน (หน้าตาผมก็ธรรมดาๆครับ และในวัยนี้ส่วนใหญ่คงมีคู่กันหมดแล้ว)

ผ่านไปได้ประมาณ ปีครึ่ง น้องคนนี้ก็เข้ามาเป็นน้องใหม่ในอ๊อฟฟิสผม ในห้องอ๊อฟฟิสของเรานั้นจะมีคนนั่งกันแค่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นหากว่าคุยกันถูกคอ ก็จะสนิทกันได้ไวมากๆ 
ในตอนแรกผมก็เห็นว่าน้องเขาเป็นคนคุยสนุก เหมือนจะเป็นคนแรงนิดๆ แต่ก็แรงอย่างเปิดเผย ทำให้พวกเราสนิทกันได้ง่าย ต่อมาผมก็ได้ทราบว่าน้องมีแฟนแล้ว ซึ่งทำให้ผมและแฟนผมสบายใจ(ผมก็ไม่ต้องกลัวใจตัวเอง หรือใจน้องเขาเอง และแฟนผมก็เบาใจขึ้น) 

เวลาผ่านไปได้อีกประมาณ 2 เดือน ผมและน้องคนนี้สนิทกันมากขึ้น เราเป็นเหมือนพี่น้องเอ็นดู และช่วยเหลือกันและกัน เราได้คุยกันในเรื่องทะลึ่งที่ปนขำขันกันได้อย่างสบายใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรที่ดูลามกกันเกินไปนัก... ประเด็นคือ... หนึ่งในเรื่องที่เราพูดคุยกันคือ FWB เป็นหัวข้อที่ผมเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่เคยคิด ไม่เคยใกล้ตัวเลย แต่น้องเขานั้น...อยาก share แนวคิดของเธอในเรื่องนี้

เธอได้เล่าให้ผมฟังถึงประสบการณ์แนว FWB และจุดเริ่มต้น เหตุเกิดจากการที่เธอผิดหวังในความรักมาหลายครั้ง จนคิดว่าผู้ชายยังไปเที่ยวอ่างได้ มีกิ๊กได้ มีชู้ได้ ทำไมผู้หญิงจะทำบ้างไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่แต่งงานกันจริงๆ เจอใครที่ชอบแล้วคลิ๊กกัน ก็จัดกันไปตามวาระที่มี...

ผมได้ทราบก็ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกที่ได้ยิน ผมก็ ตะลึง!ทึ่ง!ช็อค! แต่ต่อมา ผมดันเริ่มรู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้นๆ ผมแอบไปส่องเฟสเธอ ก็ยิ่งทำให้ผมหลงไหลในตัวตนจริงๆของเธอมากขึ้นไปอีก (Look ของเธอในที่ทำงาน ค่อนข้างคนละโลกกับตัวเธอจริงๆเลยครับ)

ผมบอกเธอในวันถัดไปว่า...ผมแอบไปส่องเฟสเธอมานะ น้องเค้าก็แอบตกใจและคงเริ่มกลัวใจผม ว่าผมคิดอะไรในใจกับเธอจนเลยเถิดไปหรือเปล่า ผมเลยยอมรับไปตรงๆว่า ผมเริ่มสนใจเธอ แต่ก็อธิบายไม่ได้ว่าสนใจอะไร ในชีวิตรักที่ผ่านมา ผมเคยมีแฟนที่น่ารักจนแทบเป็น NetIdol ได้ เคยมีแฟนสวยชนิดที่ใครก็ต้องหันมอง เคยมีแฟนที่รูปร่างเหมือนออกมาจากหนัง AV และสุดท้ายผมแต่งกับคนที่ "นี่แหละคือเมียที่ดี และจะเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยม" หน้าตาและรูปร่างนับว่าธรรมดามาก ไม่สามารถเทียบกับคนที่ผ่านมาได้เลย แต่ความคิดอ่าน สติปัญญา และความรักที่เธอให้ผมนั้น ไม่มีใครเทียบได้...

ผมมานั่งคิด ว่าอะไรนะที่ทำให้เราสนใจน้องคนนี้ อะไรที่เราคนนี้ยังไม่เคยมีประสบการณ์...
ผมคิดอยู่เป็นเวลานาน และนานวันเข้าผมก็เริ่มกลัวในสิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้น... เกินกว่า 10 ปีแล้ว ที่ด้านมืดในใจนั้นหายไป ...ตอนนี้ผมถึงรู้ว่ามันไม่ได้หายไปไหนเลย แต่มันซ่อนตัวจากความสว่าง เหมือนเงาที่คอยหลบจากแสง เหมือนความชั่วที่แอบซ่อนอยู่ภายใน...

ผมตัดสินใจบอกความคิดและความรู้สึกให้เธอคนนั้นฟัง ผมหวังให้เธอบอกให้ผมหยุดคิด และหักห้ามใจไว้ แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งด้านมืดออกมา เราก็ยิ่งคุยกันสนุกขึ้นเรื่อยๆ และเราก็หยอกล้อกันหนักขึ้นๆ โดยผมมักจะเป็นคนเริ่มก่อน และเธอค่อยยั่วสนองอาการของผม...

...แล้วในวันนึง วันที่ความรู้สึกของเรานั้นก็เกิดจะหยุดไว้ได้ วันที่เลขสวยในเดือนนี้...หลายคนบอกว่านี่คือ 9-9-19 แต่สำหรับผม ในมุมกลับกัน ในด้านมืดของจิตใจ ผมเห็น 6-6-6 หรือเลขของ ซาตาน เจ้าแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง... แม้เสียงในใจได้บอกเตือน แม้ความสว่างยังทอแสง... แต่ความดำมืดนี้ ได้กลืนกินผมไปแล้ว...

ในวันนั้น เธอบอกว่า We will just have FUN  ผมก็ยินดี เพราะเราทั้งคู่ยังอยากมีความเป็นพี่น้องและเพื่อนร่วมงานที่ดี เราทั้งคู่มีความรู้สึกดีและมิตรภาพแก่กันและกัน... ดังนั้นสิ่งที่จะเลยเถิดวันนี้ จะเป็นเพียงความสุขที่ราดด้วยไฟราคะเพียงข้ามคืนเท่านั้น และจะไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกันและกัน... ในค่ำคืนนั้น เราทั้งคู่ดำเนินเกมกามไปอย่างเร่าร้อน นั่นทำให้ผมทราบถึงความรู้สึกอย่างชัดเจนอย่างหนึ่ง ผมได้ปลดปล่อยความเป็นตัวผมในด้านของไฟราคะ อารมณ์กามและความใคร่ของผมนี้ เธอตอบสนองได้อย่างไม่มีที่ติ ผมรู้สึกว่าเธอเข้ามาเติมเต็มชีวิตในส่วนนี้ของผม ไม่สิ เธอเข้ามาเปลี่ยนแปลงมันไปตลอดกาล หากไม่ได้ขึ้นเตียงกับเธอ ผมก็คงไม่สามารถเป็นตัวเองได้อีกแล้ว... และแล้วบทรักที่เร่าร้อนก็ผ่านไปใน 2 ชั่วยาม  เรานอนกอดกัน ต่างคนต่างไม่พูดอะไร แต่ความรู้สึกที่ส่งผ่านทางกายนั้นตอบทุกๆอย่าง ผมได้จมดิ่งในห้วงอารมณ์ที่เรามีร่วมกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น... 

เช้าวันถัดมา เราทำตัวเหมือนปรกติ พูดคุยเฮฮากันเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าเธอรู้สึกนึกคิดอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าเธอโอเคดี เธอไม่น่าจะตกอยู่ภายใต้ความลุ่มหลงนี้สักเท่าไร สำหรับเธอแล้ว มันคงเป็นแค่ Just have FUN จริงๆ...

แต่สำหรับผมนั้น เเค่ได้ชำเลืองมองหน้าเธอก็ทำให้จินตนาการนั้นล่องลอยย้อนกลับไปในคืนแห่งความทรงจำ ภาพจำทุกอย่างช่างชัดเจนเหลือเกิน ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ทุกอย่างประสานกันอย่างกลมกลืนไม่มีสิ้นสุด ผมมักตกในภวังค์ นั่งยิ้มและหัวเราะคนเดียวถึงความสุขในช่วงเวลานั้นของผมกับเธอ...

ผมหวังว่า เมื่อความมืดค่อยๆจางลง แสงสว่างก็จะค่อยๆรอดผ่านชั้นหมอกดำที่ปกคลุมจิตใจ... ผมหวังให้เธอ จะเบื่อผมและจะทำตัวไม่เหมือนเดิม จนเราค่อยๆห่างกันไป... แต่เปล่าเลย อีกครั้งที่เราทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้นๆ โดยเฉพาะตัวผมเอง ที่ไม่เคยเอาชนะความต้องการของด้านมืดได้เลย ผมพยายามหาโอกาสเข้าใกล้เธอมากขึ้นๆ บ่อยขึ้นๆ และเธอเองก็ดูเหมือนจะยินดีสนองตอบเช่นกัน...

ไฟราคะในใจผมมันยิ่งลุกโชน ด้านมืดนั้นได้เข้าครอบงำจิตใจไปโดยสมบูรณ์... อย่างไรก็ตามผมแอบหวังให้เธอปฏิเสธการนัดหมายของผม เผื่อว่ามันอาจเป็นทางเดียวที่ผมจะทำใจยอมรับได้ และสำนึกในสิ่งที่ทำ... แต่เธอกลับตอบรับมัน!

ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นแล้ว
ครั้งที่ 2 กำลังจะตามมา

ครั้งที่ เท่าไหร่ ถึงจะจบลง...

...
...
...

ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปอย่างไร 

เมื่อความมืดนั้น ได้ตัวผมไปแล้ว

ขอแสงสว่างจะสาดส่องเข้ามาอีกครา

ชำระใจเราทั้งคู่.....ไฟราคะ จงดับมอดไป.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่