เขียนถึงคุณในอนาคต
ผมคิดถึงคุณ ผมตามหา ผมรอคุณมากว่า 3 ปีแล้ว ผมเตรียมตัว ผมวางแผน ผมพยายามปรับปรุงตัวเพื่อสักวันหนึ่งที่ผมจะพบคุณ และพร้อมจะดูแลคุณ
3 ปีแล้วหลังจากที่ผมบวชเป็นพระป่า ในวันที่ผมตัดสินใจบวช ผมตัดสินใจหันหลังให้ทางโลก ผมเบื่อหน่ายชีวิต ผมเบื่อการดิ้นรน ผมไม่รู้ว่าชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศคู่ควรที่ผมเพียรพยายามดิ้นรนหรือไม่? แต่ผมเหนื่อย เหนื่อยจนผมไม่ต้องการแสวงหานามธรรมเหล่านี้ต่อไป
ในขณะที่ผมบวชผมอธิษฐานว่า ถ้านิพพานมีจริง ถ้าพุทธศาสนาคือทางรอดของการเวียนว่ายตายเกิด ขอให้ผมได้บวชตลอดชีวิต ช่วงเวลาที่ผมบวชเป็นพระป่า ผมมุ่งมั่นในการศึกษาพระวินัย พระธรรม และหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ผมอ่าน ผมปฏิบัติ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิผมพยายามดูกาย ดูวาจา ดูใจ ผมพยายามมีสติเข้าถึงความจริง เข้าถึงความหลุดพ้น
ผมมีความสุขทุกครั้งในการนำสิ่งที่ผมรู้ ผมปฏิบัติมาสอนคนอื่น สอนพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง ผมรู้สึกปิติเวลาที่มีคนมาฟังผมเทศน์ พวกเขาตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมพูด ผมสอน ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรความผ่อนคลายระหว่างผมกับพวกเขาเหล่านั้น
แต่สุดท้ายทุกครั้งที่ผมนั่งวิปัสสนา นั่งสมาธิ นั่งทบทวนชีวิตที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่ผมละ ผมลืมไม่ได้ ในระหว่างที่คิด ที่พิจารณา มันเกิดคำถามที่ผมหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมผมต้องลืมคุณ หนักเขาผมก็เอาไปฝัน ก่อนที่ผมจะสึกจากความเป็นพระ ผมฝันเกือบทุกอาทิตย์ ผมฝันถึงคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ผมมีคุณอยู่ในสำนึกที่วางไม่ได้ ผมมีคุณอยู่ในความฝันหนักเขาผมก็ร้องไห้ ร้องไห้เพราะผมหยุดคิดถึงคุณไม่ได้ ผมร้องไห้เสียใจที่ลืมคุณไม่ได้ ทั้งๆที่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ที่เขาว่ากันว่าผ้าเหลืองร้อนเป็นเช่นใด ผมเขาใจถ่องแท้ในครานี้
สุดท้ายผมยอมแพ้ความคิดถึงคุณ ผมหันหลังให้กับพระนิพพานเพื่อตามหาคุณ ผมทิ้งผ้าเหลืองกราบลาสิกขา มุ่งหน้าสร้างตัว สร้างฐานะ ปรับปรุงตัวแสวงหาความก้าวหน้ามั่นคงเพื่อรอคุณ ผมรู้ว่าการเดินแยกจากทางนิพพานผมจะเผชิญกับควาททุกข์ทรมานทั้งกายและใจ สุขก็ไม่นานทุกข์ก็ต้องทน ต้องดิ้นรนในวัฏสงสาร 3 ปีนี้ชีวิตผมก็เป็นเช่นนั้น ซึ่งผมก็ยอมรับ ผมเข้าใจในสิ่งมี่เผชิญเพราะผมเลือกทางนี้เอง แต่ 3 ปีแล้ว ไม่มีวี่แววเลยที่ผมจะเจอคุณ เมื่อไหร่เราจะเจอกัน ผมรอคุณ รอคุณเหลือเกิน
เขียนถึงคุณในอนาคต
ผมคิดถึงคุณ ผมตามหา ผมรอคุณมากว่า 3 ปีแล้ว ผมเตรียมตัว ผมวางแผน ผมพยายามปรับปรุงตัวเพื่อสักวันหนึ่งที่ผมจะพบคุณ และพร้อมจะดูแลคุณ
3 ปีแล้วหลังจากที่ผมบวชเป็นพระป่า ในวันที่ผมตัดสินใจบวช ผมตัดสินใจหันหลังให้ทางโลก ผมเบื่อหน่ายชีวิต ผมเบื่อการดิ้นรน ผมไม่รู้ว่าชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศคู่ควรที่ผมเพียรพยายามดิ้นรนหรือไม่? แต่ผมเหนื่อย เหนื่อยจนผมไม่ต้องการแสวงหานามธรรมเหล่านี้ต่อไป
ในขณะที่ผมบวชผมอธิษฐานว่า ถ้านิพพานมีจริง ถ้าพุทธศาสนาคือทางรอดของการเวียนว่ายตายเกิด ขอให้ผมได้บวชตลอดชีวิต ช่วงเวลาที่ผมบวชเป็นพระป่า ผมมุ่งมั่นในการศึกษาพระวินัย พระธรรม และหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ผมอ่าน ผมปฏิบัติ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิผมพยายามดูกาย ดูวาจา ดูใจ ผมพยายามมีสติเข้าถึงความจริง เข้าถึงความหลุดพ้น
ผมมีความสุขทุกครั้งในการนำสิ่งที่ผมรู้ ผมปฏิบัติมาสอนคนอื่น สอนพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง ผมรู้สึกปิติเวลาที่มีคนมาฟังผมเทศน์ พวกเขาตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมพูด ผมสอน ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรความผ่อนคลายระหว่างผมกับพวกเขาเหล่านั้น
แต่สุดท้ายทุกครั้งที่ผมนั่งวิปัสสนา นั่งสมาธิ นั่งทบทวนชีวิตที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่ผมละ ผมลืมไม่ได้ ในระหว่างที่คิด ที่พิจารณา มันเกิดคำถามที่ผมหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมผมต้องลืมคุณ หนักเขาผมก็เอาไปฝัน ก่อนที่ผมจะสึกจากความเป็นพระ ผมฝันเกือบทุกอาทิตย์ ผมฝันถึงคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ผมมีคุณอยู่ในสำนึกที่วางไม่ได้ ผมมีคุณอยู่ในความฝันหนักเขาผมก็ร้องไห้ ร้องไห้เพราะผมหยุดคิดถึงคุณไม่ได้ ผมร้องไห้เสียใจที่ลืมคุณไม่ได้ ทั้งๆที่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ที่เขาว่ากันว่าผ้าเหลืองร้อนเป็นเช่นใด ผมเขาใจถ่องแท้ในครานี้
สุดท้ายผมยอมแพ้ความคิดถึงคุณ ผมหันหลังให้กับพระนิพพานเพื่อตามหาคุณ ผมทิ้งผ้าเหลืองกราบลาสิกขา มุ่งหน้าสร้างตัว สร้างฐานะ ปรับปรุงตัวแสวงหาความก้าวหน้ามั่นคงเพื่อรอคุณ ผมรู้ว่าการเดินแยกจากทางนิพพานผมจะเผชิญกับควาททุกข์ทรมานทั้งกายและใจ สุขก็ไม่นานทุกข์ก็ต้องทน ต้องดิ้นรนในวัฏสงสาร 3 ปีนี้ชีวิตผมก็เป็นเช่นนั้น ซึ่งผมก็ยอมรับ ผมเข้าใจในสิ่งมี่เผชิญเพราะผมเลือกทางนี้เอง แต่ 3 ปีแล้ว ไม่มีวี่แววเลยที่ผมจะเจอคุณ เมื่อไหร่เราจะเจอกัน ผมรอคุณ รอคุณเหลือเกิน