สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน "มาเบล" ค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย ก่อนหน้านี้ได้แต่แอบตามอ่านในพันทิปมานาน

เนื่องจากช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เบลได้มีโอกาสไปทานที่ร้าน Sushi Oku ที่เป็นกระแสมาได้พักนึงแล้ว เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ในพันทิปบ้างค่ะ ทั้งนี้เบลต้องบอกว่าการรีวิวของเบลอาจจะไม่ได้ตรงกับความเห็นของทึกคน เพราะเบลขอรีวิวจากความชอบส่วนตัวนะคะ

ปล. รูปอาจจะไม่สวยมาก แต่มารีวิวด้วยใจจริงๆ น้า >.< ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาาาา 

เริ่มจากว่า ก่อนไปเบลได้จองที่นั่งผ่าน Website ที่ทางร้านแจ้งไว้ผ่านหน้า Facebook และ Line @ ของร้านค่ะ (เบลจองก่อนไป 1 วันค่ะ) รอบที่จองคือรอบ 17.00 น. 2 ที่นั่ง ซึ่งรอบที่เบลจองเป็นรอบแรกของร้านในช่วงเย็นค่ะ (ช่วงอื่นเบลไม่แน่ใจเรื่องเวลานะคะ) ใครที่สนใจจะไปเบลแนะนำให้จองไว้ล่วงหน้านะคะ เนื่องจากว่าวันที่เบลไป รอบ 18.30 น. และรอบ 19.00 น. ติดป้านว่าเต็มแล้วค่ะ

หลังจากที่เราเข้าไปในร้าน จะเห็นว่าแต่ละโต๊ะทางร้านได้วางขิงดอง, วาซาบิ, และซุปสาหร่าย เตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้เรียกพี่พนักงานเติมได้เรื่อยๆ เลยนะคะ

เมนูที่ทางร้านให้เลือก จะมี 2 ราคาค่ะ พี่พนักงานจะเดินมาสอบถามว่าเราต้องการเมนูไหน และการสั่งอาหารของที่นี่จะเป็นการติ๊กลงในกระดาษด้วยตัวเองเสร็จแล้วก็ส่งให้กับพี่ๆ พนักงานค่ะ ด้านล่างคือเมนูต่างๆ ตามราคาค่ะ

วันนั้นเบลเลือกเป็นเมนู 1199++ เพราะที่เค้าฮือฮากันคือ "โอโทโร่" ไหนๆ ไปแล้วก็เลยต้องจัดสักหน่อย

ต่อไปจะเป็นเมนูที่เบลสั่งทั้งหมดนะคะ ทานไปเยอะมากจริงๆ เดี๋ยวเบลจะบอกในแต่ละภาพว่าคือเมนูอะไรและ ชอบหรือไม่ชอบยังไงนะคะ

เริ่มกันที่ Kani Miso Yaki ค่ะ เป็นเมนูที่สั่งแล้วได้มาไวที่สุดค่ะ สำหรับเบล เบลคิดว่าเมนูนี้อร่อยนะคะ หอมๆ มันๆ มาตอนร้อนๆ เลยค่ะ ใครไปก็ลองสั่งมาทานกันดูนะคะ

เมนูนี้คือ Aka Ebi ค่ะ กุ้งสดหวาน ฟินไปเลยเช่นกันค่ะ

จานที่ 3 ของเบลจะเป็น Foie - Gras ค่ะ รสชาติใช้ได้ แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นและความมันของ Foie - Gras อาจจะต้องผ่านเมนูนี้ไปค่ะ เพราะยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจนอยู่เหมือนกันค่ะ แต่สำหรับเบลยังถือว่าโอเคค่ะ

แล้วก็มาถึงเมนูพระเอกของเราค่ะ O-TORO นั่นเองงงงงงงงง ตอนมานี่ตั้งเป้ามากว่าต้องกินอันนี้ให้ได้ แต่พอได้ทานบอกยังไงดี ในเมนูนี้เบลอาจมีความเห็นแตกต่างกับคนอื่นนิดนึง คือร้านนี้เค้าให้มาชิ้นใหญ่ หนา และยาวจริงๆค่ะ แต่ในความเห็นส่วนตัวเบลรู้สึกว่าเนื้อลายไม่ได้สวยอย่างที่ตอนแรกเบลเห็นจากอีกรีวิวหนึ่ง บางชิ้นเป็นส่วนมันขาวเกือบครึ่งชิ้นเลยก็มีค่ะ แต่จะเป็นด้านปลายๆ พอทานแล้วก็รุ้สึกว่าออกจะเลี่ยนกว่าปกตินิดหน่อย หรือวันนั้นอาจจะเป็นโชคของเบลก็ไม่รู้ค่ะ T^T 
Binchou Toro เมนูนี้เบลไม่รู้จะบรรยายยังไงแฮะ แต่ว่ารสชาติโดยรวมถือว่าโอเคค่ะ (ไม่ว่าเค้าน้า เค้าบรรยายไม่ถูกจริงๆ >.<)

อันนี้คือ Aburi Binchou Toro ค่ะ เมนูนี้เนื้อจะออกด้านๆ กว่าเมนูอื่นนิดนึง ด้านความคาว ถ้าสามารถทานซูชิปลาดิบได้ สามารถทานเมนูนี้ได้ตามปกติค่ะ

เมนูถัดไปคือ  Unagi ค่าาา เป็นเมนูที่ไปร้านไหนเบลก็มักจะสั่งจริงๆค่ะ ร้านนี้จัดว่าให้ปลามาชิ้นใหญ่มาก รสชาติซอสอร่อยเลยค่ะ ในเซ็ทที่เบลสั่งมีเพียง 1-2 ชิ้นที่รู้สึกว่ามันเกินพอดี ที่เหลือจัดว่าใช้ได้เลยค่ะ
Akami Honื Maguro้ Sashimi เป็นโปรโมชั่นในวันนั้นค่ะ คือถ้าใครมา 2 คนขึ้นไปจะได้ฟรีค่ะ เมนูนี้สดใช้ได้ค่ะ หั่นมาชิ้นหน้าได้รสชาติปลาจุใจไปเลยค่ะ

ส่วนเมนูข้างล่างทั้ง 3 เมนูนี้เป็นเมนูที่เบลไม่ค่อยจะปลื้มสักเท่าไหร่ค่ะ เริ่มกันที่
1. Salmon Sashimi ค่ะ เห็นลายปลาก็เริ่มเอะใจว่าเอ้.. จะอร่อยมั้ยนะ แต่พอทานไป ทั้งเบลและแฟนบอกได้คำเดียวเลยว่า ทำไมไม่สด
ไม่ผ่านเลย ผิดหวังเบาๆ เพราะไม่คิดว่าแซลมอนจะเป็นแบบนี้ค่ะ
2. Salmon Roll อย่างที่บอกว่าร้านนี้สำหรับเบล เบลว่าแซลมอนไม่ผ่าน เมนูนี้ก็เลยไม่ผ่านไปด้วยประการฉะนี้ค่ะ

3. Hotate ผิดหวังมากที่สุด กินกันไม่ไหว คาวมากๆ เนื้อแหยะมากๆ สำหรับเบลเมนูนี้ก็ขอไม่ให้ผ่านค่ะ

จบมื้ออาหาร จริงๆ แล้วเบลมีสั่ง Temaki ด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาจริงๆ ขอโทษค่ะ แต่รสชาติเบลว่าอร่อยและผ่านนะคะ ลองกันดูค่า

พอเวลาประมาณ 18.15 น. พนักงานจะเริ่มมาคิดเงินเพื่อรอพร้อมสำหรับรอบถัดไปค่ะ และนี่คือบิลของเบลค่ะ 

เห็นราคาแล้วก็ตกใจเบา แต่ทางเราก็ได้จ่ายไปในราคาบุฟเฟต์ตามแพคเกจที่เลือกค่ะ

เบลขอจบการรีวิวเท่านี้นะคะ ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัวของเบลน้า ใครไปทานมาแล้ว หรืออยากสอบถามอะไรก็มาแชร์กันได้เลยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านรีวิวเบลมาจนจบค่ะ ขอบคุณค่าาาา (^/l\^)