- พุชการ์เป็นเมืองหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดีย เป็นเมืองที่ในตำนานของศาสนาฮินดูมีความเชื่อว่า
ที่นี่คือบ้านเกิดของพระพรหมองค์มหาเทพที่ยิ่งใหญ่ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา มีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ใจกลาง
ห้อมล้อมไปด้วยตึกราบ้านช่องที่อยู่อาศัยของชาวเมือง และยังมีวัดที่หลายคนเชื่อกันว่ามีวัดพระพรหม (วัดที่พระเจ้าสร้าง) แห่งเดียวในอินเดีย
หรืออาจจะเป็นแห่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ ความเก่าแก่ของวัดที่นี่ชาวเมืองเชื่อว่ามีอายุนานยาวถึง 2,000 ปีเลยนะจ๊ะ
-ทะเลสาบพุชการ์ หรือทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่มีเรื่องเล่ากันมายาวนานว่า เกิดจากหยาดน้ำตาของพระศิวะที่ร้องไห้เพราะการจากไปของพระนางสตี
นางอันเป็นที่รัก หรืออีกหนึ่งเรื่องเล่าก็ว่ากันว่า ทะเลสาบนี้เกิดจากกลีบดอกบัวที่พระพรหมทิ้งลงมา สาเหตุนี้เองทำให้เกิดความเชื่อที่ว่า
น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ชำระบาป และสามารถรักษาโรคได้ (น่าจะเก็บใส่ขวดมาลองโพสต์ขายดู 55+ ) เป็นสิริมงคลกับชีวิตทำให้มีนักแสวงบุญทั้งหลายที่เดินทางกันมาที่นี่ไม่ขาดสาย และเปรียบเสมือนแม่น้ำคงคาขนาดย่อม นี่คือเหตุที่ทำให้มีวันฮินดูกว่า 4-500 วัดกระจายตัวอยู่รอบๆ
และไม่แปลกที่ในทุกๆ เช้า จะมีผู้คนจำนวนมาก ทุกเพศ ทุกวัย เลยก็ว่าได้ มาอาบน้ำชำระร่างกายด้วยเชื่อว่าจะดำเนินชีวิตในวันนั้นด้วยความโชคดี
และเป็นสิริมงคล(ใครที่จะลงไปเดินที่ริมทะเลสาบต้องถอดรองเท้านะคะ เพราะเค้าเชื่อว่าเราจะนำสิ่งสกปรกจากด้านนอก
ลงไปที่ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของพวกเค้า )
- นอกจากวัดฮินดูหรือวัดพราหมณ์นั่นแหล่ะที่ตั้งล้อมทะเลสาบไว้นั้น ก็ยังมีวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาด้วยเช่นกัน
เรารู้จักวัดนี้จากคำบอกเล่าของเด็กหนุ่มผู้ดูแลที่เราพักอยู่นั่นเอง Savitri Temple เป็นวัดที่ตอนกลางคืนก็จะเห็นไฟประดับถ้าเรามองจากทะเลสาบพุชการ์ การเดินทางเราต้องเดินจากที่พักที่อยู่ในเมืองฝ่าฝูงชนและร้านค้าออกไปที่ถนนหลักเพื่อโบกตุ๊กๆให้พาไปที่วัดและจอดรอรับเรากลับมาส่งที่เดิมด้วย
ในราคา 300 รูปี จริงๆมันไม่ไกลเลย แต่เป็นช่วงเทศกาลและมันพรุกพร่านจึงโดนโก่งราคาและใช้เวลาในการเดินทางเกือบ 20 นาทีกว่าจะถึงที่หมาย เวลาเปิดปิดคือ 5:00-12:00 และ 16:00-21:00
ส่วนกระเช้าเคเบิ้ลจะเปิดบริการในช่วงเวลา7:30 – 20:00
เมื่อไปถึงเราก็รีบพุ่งตรงไปที่ป้อมขายตั๋วค่าบริการคนละ 90 รูปี แอบคิดในใจไม่เคยไปวัดที่ไหนแล้วเสียตังค่าเข้าเลยเนี่ยย
พนักงานขายตั๋วในชุดสีกากีหนวดงามชี้บอกทางให้เราเดินบันไดขึ้นไปตามทาง อ๋ออ
ตังที่เสียมันคือค่าขึ้นกระเช้าไม่ใช่ค่าเข้าวัด 555+ เราเดินขึ้นไปรอกระเช้าที่จะพาพวกเราขึ้นไปวัดบนภูเขาพร้อมคนอินเดียกลุ่มนึงที่มากันเป็นครอบครัว
จะว่าไปที่นี่คนไม่เยอะเลย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้คนที่เราเจอในตัวเมืองพุชการ์และเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้
ไม่นานเราก็ได้ขึ้นไปนั่งบนกระเช้าและเคลื่อนตัวขึ้นไปยังวัด โอ้ยยยยย อันนี้ไม่มีอยู่ในแผนและไม่รู้จักมาก่อนว่ามีอะไรแบบนี้ แต่มันดีงามมากกกก วิวขณะกระเช้ากำลังเคลื่อนขึ้นไปคือ จะมองเห็นตัวเมืองพุชการ์ทั้งหมด รวมถึงทะเลสาบจากมุมสูง สวยประทับใจมากกกกก
ใช้เวลาไม่นานเราก็ถึงบนภูเขา เมื่อกระเช้าจอดเราเดินออกมาก็จะเจอวัดเล็กๆ ที่ภายในมีคนอินเดียจำนวนไม่มากสักการะเทพเจ้าที่พวกเค้าเคารพนับถือกันอยู่ ส่วนพวกเราเลือกเดินไปอีกทางจะว่ามันคือหลังวัดก็ได้ สภาพเป็นภูเขาหิน มีต้นไม้ขึ้นประปราย ต้นไม้ธรรมชาติ และน้องลิงเจ้าถิ่นจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ ที่นี่เราเจอผู้คนไม่มากนักเช่นกันมีเพียงครอบครัวเล็กๆชาวอินเดีย 2-3 ครอบครัว และ ชาวต่างชาติไม่ถึง 10 คน แต่เราก็คิดไม่ผิดเลยจริงๆ
ที่ตัดสินใจขึ้นมาที่นี่ ด้านหลังมองลงไปเราจะเห็นวิวภูเขาและธรรมชาติ จากวิวที่เรามองเห็นจากจุดนี้พูดได้เลยว่ามันคือจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุดอีกจุดหนึ่งของพุชการ์ แนะนำเลยว่าถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยว ไม่ควรพลาดที่จะมาที่นี่
นอกจากนั้นยังมีวัดอีกวัดหนึ่งที่อยู่บนภูเขาอีกฝั่งหนึ่งของเมืองนั่นคือ Gayatri Temple ตามประวัติวัดมีชื่อเรียกตามสตรีที่พระพรหมประกาศ
จะแต่งงานด้วยเพราะพระนาง Savitri เสด็จมาร่วมพิธีช้า ตำนานอันนี้ลองหาอ่านกันต่อนะคะ
- ต่อไปเราจะมาพูดถึงพุชการ์แฟร์กันว่ามันคืออะไร ใช่แล้วค่ะ ตามชื่องานเลย มันคือเทศกาลของเมืองพุชการ์
เป็น 1 ใน 10 ของเทศกาลที่โด่งดังที่สุดของโลก ซึ่งมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ยาวนานต่อเนื่องกันมากกว่า 100 ปี ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
( 8 วันของการจัดงานจะอยู่ในช่วงนี้แต่ไม่ตรงกันทุกปี ) และปี 2020 เทศกาลถูกกำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 4-12 พฤศจิกายน ใกล้จะถึงแล้ว ใครอยากไปเริ่มเตรียมตัวกันได้เลย วางแผนจองตั๋ว จองที่พัก เก็บกระเป๋า ทำวีซ่าทันเวลาพอดี
- พุชการ์แฟร์หรือหลายคนอาจจะรู้จักมันในอีกชื่อคือ เทศกาลอูฐ มันเป็นเทศกาลยอดฮิตที่จัดขึ้นยิ่งใหญ่ทุกปี
ไม่มีใครในประเทศอินเดียที่ไม่รู้จักมัน ผู้คนหลั่งใหลมาจากทั่วสารทิศ ทั้งชาวอินเดียเองจากเมืองต่างๆ
รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างพวกเราด้วยเช่นกัน ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายบนพื้นที่การจัดงานที่กว้างใหญ่มากกก
และแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ที่ลานทะเลทรายกว้างใหญ่ส่วนไกลสุดของงาน
คือศูนย์รวมของพ่อค้าที่อูฐที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวและฝูงอูฐจากทั่วทุกทิศของประเทศ
บางคนออกเดินทางก่อนงานจะเริ่มเป็นเดือนด้วยระยะทางไกลกว่า 600หรือ800 กิโลเมตร เพื่อมาตั้งแคมป์ ที่นี่ให้ทันระหว่างวันงาน
ค่อยๆ เอาฝูงอูฐเดินเท้ามาค่ำไหนนอนนั่น เพื่อมารอคนที่จะมาเลือกซื้อ หรือถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้พวกเค้าได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเล็กๆน้อยๆ
ที่สะสมเก็บไว้ใช้ เรียกได้ว่ายกครอบครัวมาลงหลักปักฐาน สร้างแคมป์ กางเต็นท์ ปรุงอาหารอยู่กินกันยาวๆ
- ถัดจากลานทะเลทรายกว้างที่เป็นที่ชุมชนและที่อยู่อาศัยของอูฐแล้วก็จะเต็มไปด้วยเต็นท์ใหญ่สองข้างทางเดิน
ซึ่งเป็นเหมือนออฟฟิสของฟาร์มต่างๆ ที่นำม้าและวัว เข้าร่วมประกวดหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมทิ้งจัดแสดงโชว์ให้กับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาเลือกชมหรือเลือกซื้อ ม้าบางตัวตัวสูงใหญ่ สีขาว หางยาวสลวย มีคนประกบดูแล สวยงามมากกราวกับหลุดออกมาจากในนิยาย
วัวบางตัวก็มีลวดลายและรูปร่างที่โดดเด่นเกินกว่าวัวทั่วไปที่เราพบเห็น ติดกันกับพื้นที่เต็นท์ของฟาร์มต่างๆ ก็จะเป็นซุ้มขายของทั้งเต็มสองข้างทางเดินเช่นกัน ซุ้มขายของเหล่านี้จะจำหน่ายสินค้าที่เป็นสินค้าเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ถูกนำมาร่วมงาน ม้า อูฐ และ วัวนั่นเอง
สินค้าภายในร้านก็จะประกอบด้วยทั้งของที่อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของสัตว์ ทั้งเพื่อทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง
หรือช่วยทำให้การโดยสารขึ้นขี่หรือบังคับให้ง่ายขึ้น หรือของที่จะถูกนำไปใช้ตกแต่งให้กับสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงาม เรียกได้ว่าเราจะพบอุปกรณ์ทั้งด้านความสวยงามและอุปกรณ์จำเป็นที่มากด้วยประโยชน์ใช้สอยกันเลยทีเดียว
- ส่วนต่อไปของงานหลังจากเราเดินผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงแล้วก็จะเป็น สนามดินทรายกว้างที่โอบล้อมไปด้วย อัฒจันทร์ที่สร้างจากปูนสีขาวทั้งสนาม และมีเวทีใหญ่ที่สร้างขึ้นชั่วคราวเพื่อการจัดงาน สนามส่วนนี้จะเป็นที่จัดกิจกรรมแสดงโชว์ต่างๆ รวมทั้งการประกวดแข่งขันทุกประเภท ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสลับกัน ทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงต่างๆ เช่น การร้องเล่นเต้นระบำท้องถิ่นจากเด็กๆ สาวสวยๆ และสาวสอง
จุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผู้คนสนใจมุงดู หรือการบรรเลงเพลงจากเครื่องดนตรีและขับร้องเพลงท้องถิ่น
การแสดงความสามารถพิเศษของสัตว์เลี้ยงเช่น อูฐ หรือช้างที่ถูกประดับตกแต่งด้วยอุปกรณ์สวยงามก็ถูกนำมาโชว์ที่นี่เช่นกัน
การประกวดแข่งขันตกแต่งสัตว์เลี้ยง ประกวดหนุ่มเครางาม รวมถึงสนามนี้เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการโดยสารอูฐ
เพื่อไปยังลานทะเลทรายและชมบรรยากาศงานรอบ ๆ นี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ต้องการมัน
[CR] Pushkar Mela ใครจะพุชการ์ยกมือขึ้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้