ความเชื่อ ธรรมมะ หรือ วิทยาศาสตร์

กระทู้คำถาม
คำถาม
การพูดในใจมีใครได้ยินนอกจากตัวเราเองใช่หรือไม่?
นางฟ้าเทวดาได้ยินหรือไม่
แล้วเวลาสวดมนต์ทำไมนางฟ้าเทวดารับรู้แม้กระทั่งเราสวดในใจหรือหลักวิทยาศาสตร์คือการสั่งตัวเองให้ทำในสิ่งที่เราพยายามที่จะทำในเรื่องที่ทำไม่ได้ให้มีโอกาศทำได้กันแน่

1.) ความคิดเป็นของเราคนเดียวใช่หรือไม่ ?
แล้วเราเป็นเจ้าของความคิดเราเองใช่หรือเปล่า ?
เพราะบางทีเราคิดอยู่เรื่องนั้นอยู่ๆอีกคนก็พูดเรื่องนั้นหรือเรื่องใกล้เคียงออกมาทำให้เราไม่แน่ใจว่าความคิดเป็นคลื่นพลังงานที่ส่งต่อๆกันหรือไม่ตัวอย่างเช่นถ้าคนดีจะดึงดูดคนดีเข้ามาคนแย่จะดึงดูดคนแย่เข้ามาหรือเราคิดเรื่องร้ายๆจะดูดเรื่องร้ายๆเข้ามาคิดเรื่องดีๆก็จะเจอกับเรื่องดีๆหรือทางหลักวิทยาศาสตร์การที่เราคิดดีทำให้เรามองเห็นแต่สิ่งดีๆเท่านั้นหรือการที่เราคิดแย่จะทำให้มองเห็นสิ่งแย่ๆทั้งนั้นกลับไปอ่านคำถามใหม่ความคิดจริงๆแล้วเป็นของเราหรือไม่? แล้วถ้าเราสามารถบังคับความคิดได้ทำไมคนถึงทุกข์กันทั้งนั้นในเมื่อเราเปลี่ยนไปคิดดีได้แต่คนเป็นทุกข์ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดณ.ช่วงนั้นได้จึงจมกับความทุกข์ในทางศาสนาบอกว่าเป็นเรื่องของกรรมหรือเวรกรรมในทางวิทยาศาสตร์คือเรื่องของการจดจำ
เพราะมีงานวิจัยที่ศึกษาพบว่าการมองโลกในแง่ลบหรือเมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องร้ายและเป็นคนเจ้าอารมณ์เกรี้ยวกราดเสมอหรือซึมเศร้าบ่อยๆสมองส่วนซีรีบรัมและซีรีเบลลัมรวมถึงสมองซีกซ้าย(ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการคิดวิเคราะห์) จะยุบตัวลงตรงกันข้ามเมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องดีความสุขความภาคภูมิใจและเป็นคนอารมณ์ดีใจเย็นรอบคอบสมองทั้งสามส่วนนั้นก็จะพองตัวขึ้นกลับไปที่คำถามความคิดเป็นของเราจริงหรือเปล่า?
หรือเป็นแค่บางส่วนส่วนหนึงมาจากตัวเราเองส่วนหนึ่งมาจากสัญญานของคนอื่นที่คิดเพราะตัวอย่างที่เห็นคือหมูบ้านที่ดีจะช่วยกันทำงานทั้งหมูบ้านหมูบ้านที่ติดยาก็จะติดยากันทั้งหมูบ้านหรือที่เค้าเรียกกันว่าสลัมในทางศาสนาคือ มีศีล สมาธิ ถึงจะมีปัญญา ปัญญา คือ หลักการคิดวิเคราะห์การที่ไม่มีศีล และ สมาธิ ทำให้ด้อยปัญญา หลักการคิดวิเคราะห์ก็จะผิดเพี้ยนไป หรือไม่ตรงกับสิ่งที่คนฉลาดคิดทำกัน คนที่มีปัญญาจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย หรือเห็นตามความจริง รู้หลักและวิธีการแก้ไขสิ่งต่างๆ แต่คนด้อยปัญญาจะมองไม่ออกถึงวิธีแก้ไขสิ่งต่างๆ

2.) ศีล ข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
การที่ผมถือศีลข้อ 1 เป็นอย่างดีทำให้ผมอายุยืนยาวได้จริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันผมสูบบุหรี่จัดและเลิกไม่ได้ แต่เพราะศีลข้อนี้ผมจึงไม่กลัวโรคภัยไข้เจ็บใดๆเลย ซึ่งผมก็ไม่เคยเป็นโรคหรือเกิดภัยที่ทำให้ผมบาดเจ็บเลยตั้งแต่ผมยึดถือศีลในข้อ 1 แต่มันขัดกันกับวิทยาศาสตร์ ตรงที่ว่าสูบบุหรี่แล้วตายเร็ว ผมควรเชื่อเรื่องใหนดีครับ เพราะทุกครั้งที่ผมสูบบุหรี่มันจะเพลินความคิดมันปลอดโปร่งโล่งสบายจนไม่ได้มีความคิดอยากเลิกเท่าไหร่
สรุปคำถามคือ เราควรเชื่อแบบใหน หรือทั้ง 2 แบบ เพื่อเพิ่มความไม่ประมาทต่อชีวิต

3.) ศีล ข้อ 4 ห้ามโกหก
การที่ตลกเล่นมุขโกหกกันหน้าตาเฉย ไม่บาปใช่มั้ยครับ ถามว่าดีมั้ยดีตรงที่สร้างเสียงหัวเราะ แต่ปนไปด้วยคำพูดที่โกหกพกลมทั้งนั้น จากที่เมื่อก่อนผมไม่คิดจริงจัง พูดไปเรื่องเอาฮาเอาสนุกและมันก็ได้เสียงตอบรับที่ดีคือทุกคนมีความสุขเหมือนโกหกแลกยิ้ม แต่ปัจจุบันผมเคร่งเรื่องนี้จนไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปถ้าไม่จำเป็นเพราะกลัวการพูดคำพูดคำจาเราไปกระทบผู้อื่นจนทำให้ผู้อื่นคิดมากหรือไปเปลี่ยนแปลงความคิดของเค้าหรือเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนๆนึงไป โดยเราเป็นต้นเหตุ กลัวจะผิดศีลข้อนี้ผมจึงกลายเป็นคนเงียบเก็บตัวไม่ขี้เล่นเหมือนเดิม การใช้ชีวิตก็เลยเริ่มไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนตอนยังไม่รู้เรื่องธรรมมะ หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ข้อดีที่ได้รับคือ ความรู้สึกเวลาเราพูดอะไรออกไปคนอื่นก็จะเชื่อโดยไม่กังขา
สรุปคำถามคือเราพูดเล่นๆไม่คิดจริงจังเพราะเป็นคำพูดเล่นๆสนุกสนาน จะเกิดผลเสียตามมามั้ยเนื่องจากผิดศีลโดยไม่ได้ตั้งใจผิด

ขอคำตอบและความเห็นหน่อยครับเพราะตัวผมมีอาการหูแว่วในขณะที่กำลังคิดบางสิ่งจะมีเสียงของคนระแวกตัวดังเข้าหูและตรงกับสิ่งที่คิดตลอดเวลาเหมือนมีคนดูเราอยู่บางครั้งอึดอัดกดดันหรือเพราะเราคิดไปเองจนเป็นความเคยชินซึ่งตัวผมเองไม่รู้วิธีแก้แต่เชื่อและศรัทธาในพระพุทธศาสนามากทำให้เชื่อว่าเรื่องพวกนี้คือเวรกรรมของผมที่ผมต้องเจอยิ่งคิดยิ่งเครียดปล่อยวางก็ไม่ได้เพราะมันเหมือนติดตัวเราไปทุกที่จนทำให้ผมไม่สามารถเข้ากับสังคมได้เหมือนเมื่อก่อนการแสดงออกของผมในการทำอะไรซักอย่างจะออกแนวเกรงใจกลัวว่าที่ทำไปจะเกิดผลไม่ดีสาเหตุเกิดจากภาวะสมองทำงานผิดปกติหรือไม่ในหลักวิทยาศาสตร์หรือผมควรเปลี่ยนMind set ใหม่แต่เปลี่ยนไม่ได้เพราะดันไปเชื่อเรื่องกรรมและกลัวจะลบหลู่ศาสนาพุทธด้วยรู้สึกไม่สบายใจถ้าเราไม่เชื่อทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เชื่อก็ไม่เกิดอะไร

ขอคำตอบให้คนที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นหน่อยครับเพราะวางตัวไม่ถูกเมื่อก่อนผมชอบแกล้งเพื่อนเวลาอยู่ในห้องชอบใช้คำหยาบเพราะเป็นเพื่อนๆกันผมก็ไม่คิดอะไรมากเวลาเรียนชอบตบหัวเล่นกันเล่าเรื่องตลกเฮฮา
แต่พอมาวันนี้ตัวผมอายุ27 กำลังจะ30 ผมพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนโดยการเพิ่มความรับผิดชอบดูแลตัวเองไม่ทำให้ใครเดือดร้อนผมเลยมามองตัวเองดูสิ่งที่ควรจะต้องแก้ไขว่ามีเรื่องใหนบ้างผมได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเวลาไปเจอเพื่อนก็ให้ความเคารพไม่ตบหัวเพื่อนเพราะเราโตๆกันแล้วให้เกียรติ์กันมากขึ้นผมเลิกพูดคำหยาบกับเพื่อนแต่พอได้ยินเพื่อนพูดคำหยาบใส่ผมผมกลับเจ็บแทนทั้งๆที่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองผมเป็นคนขี้เล่นแต่พอโตขึ้นก็โดนคนอื่นว่ากล่าวตักเตือนว่าโตๆกันแล้วเลิกเล่นซักทีทำอะไรมันต้องจริงจังหรือสาเหตุนี้ครับที่ทำให้ผมลุกขึ้นมาจริงจังกับชีวิตแล้วทำให้ความสนุกและความเฮฮาของผมลดน้อยถอยลงไม่กล้าพูดเรื่องเล่นๆและไม่เป็นสาระแม้แต่กับเพื่อนของตัวเองเพราะกลัวเพื่อนว่ายังเป็นเด็กและยังไม่โตนี่เป็นสาเหตุของคนที่โตแล้วชอบบ่นว่าตัวเองเป็นทุกข์เพราะได้รับแรงกดดันจากคำพูดแย่ๆหรือการปรับตัวเราใหม่แต่ยังมีความจำในอดีตที่เคยทำคนอื่นใว้เก็บใว้ในหัวแล้วพวกเราก็เรียกมันว่าเวรกรรมใช่หรือไม่ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่