กระทู้นี้เอาใจคนรักสัตว์
และรักที่จะเที่ยวญี่ปุ่นไปพร้อมๆกัน เพราะเราจะมาแนะนำสถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์เหล่านี้
ที่อยู่กันเยอะอย่างกับว่าพวกมันจะมายึครองเมืองอย่างนั้นแหละ อิอิ
จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1. สวนสาธารณะกวาง
เกร็ดความรู้ : เมืองนารา อยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต และ โอซาก้า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคคันไซ
พูดถึงกวาง ก็ต้องนารา แค่ได้ยินชื่อ ภาพในหัวก็คงลอยมาเลยใช่ไหมคะ เจ้ากวางสุดเชื่องในสวนสาธารณะขนาดใหญ่
กำลังกินขนมเซมเบ้จากมือนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งถ่ายภาพเซลฟี่สุดน่ารัก ใช่ไหมล่ะคะ
Nara park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีกวางอาศัยอยู่เต็มไปหมด
เหล่าฝูงกวางน้อยใหญ่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่เหมือนทูตประจำเมือง คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
กวางเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนารา แต่คุณต้องระวังการเข้าใกล้ และถูกทำร้ายจากกวาง รวมถึงควรปฏิบัติตามกฏระเบียบด้วยนะคะ
ขอแนะนำอีกนิดว่าถ้าจะมา
ควรมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะต้นไม้ในสวนจะเปลี่ยนเป็นสี เหลือง ส้ม และ แดง
สวยงาม และบรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ
กิจกรรม : ให้เซมเบ้ หรือ อาหารกวาง ซึ่งมีขายอยู่ตามทางเดิน จะเลือกซื้อร้านไหนก็ตามสะดวกเลยค่ะ
พอคุณมีขนมอยู่ที่มือแล้ว ทีนี้เหล่าน้องกวางก็จะพุ่งตรงมาที่คุณอย่างมิได้นัดหมาย
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : เดิน10 นาทีจาก JR Nara Station
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : วัดโทไดจิ ,ศาลเจ้าคากุสะ , วัดโคฟุคุจิ ,พระราชวังเฮโจ
2. เกาะกระต่าย
ชื่อของสถานที่แห่งนี้คือ โอคุโนะชิมะ (Okunoshima) พบกับเหล่ากระต่าย ที่ไม่เขินอายและค่อยข้างที่จะคุ้นชินกันนักท่องเที่pวที่พากันออกมาต้อนรับ
แนะนำว่าให้พกขนม หรือ อาหารกระต่ายติดมาด้วย คุณจะป๊อปปูล่าในหมู่เจ้าหูยาว 4ขานี้เป็นอย่างมากเลยล่ะ
เกร็ดความรู้ : เกาะโอคุโนะ เป็นเกาะที่อยู่ในเมืองทาเคฮาระ จังหวัดฮิโรชิม่า
ซึ่งประวัติของเกาะแห่งนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองอาวุธ(แลปทดลองสารเคมี) และเมื่อฮิโรชิม่าถูกระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่นี่ก็ถูกปิดตัวลง และถูกทิ้งร้างตั้งแต่นั้นมา
ส่วนกระต่ายที่อยู่ในเกาะแหjงนี้ เป็นกระต่ายที่ถูกนำมาทดลองกับสารเคมี แต่พอรัฐบาลสั่งให้อพยบคนออกจากเกาะ
ก็เหลือแต่เจ้ากระต่ายพวกนี่ที่ถูกทิ้งไว้ในเกาะ และมีการออกลูกออกหลาน ขยายพันธ์ตามธรรมชาติ และเนื่องด้วยเกาะนี้ไม่มีสัตว์ที่เป็นนักล่า หรือกินกระต่ายเป็นอาหาร จึงทำให้ที่นี่มีแต่กระต่ายจนเต็มเกาะไปหมด แต่เรื่องน่าเศร้าคือมีกระต่ายที่พิการจากการได้รับสารเคมี และสารกัมมันตรังสี หรือ จากความผิดปกติทางพันธุกรรมด้วย
ปล.สำหรับคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวสารตกค้างนะคะ เพราะปัจจุบันมีการตรวจแล้วว่าไม่มีสารพิษตกค้าง สบายใจได้ค่ะ
กิจกรรม : เช่าจักรยาน ปั่นชมรอบๆเกาะ และกระต่ายที่นี่จะเคยชินกับเสียงจักรยานมาก ถ้าได้ยินเสียงมาจอดปุ๊ป จะรีบวิ่งกรูกันเข้ามา (ขอขนม)
ค่าเข้าชม :ฟรี
การเดินทาง : รถไฟลงที่ Tadanoumi Station และต่อเรือเฟอรี่ (ไปกลับ ราคาประมาณ 620 เยน )ไปยังโอคุโนะชิมะ พอถึงเกาะแล้ว เดินชมได้เลย
3. เกาะแมว
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก ขี้อ้อน และคนญี่ปุ่นยังมีความเชื่ออีกว่าแมวเป็นสัวต์นำโชค
ยิ่งในปัจจุบันนี้คาเฟ่แมวขยายตัวเยอะมากๆ ให้เหล่าทาสได้ฟินนนกับแมว
และอยากจะมาแนะนำสถานที่ธรรมชาติ ขอบอกเลยว่า เกาะแห่งนี้ทาสแมวต้องห้ามพลาดดดดด!!!
เพราะที่นี่ ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ มีคนไม่ถึง 100 คน แต่มีแมวกว่า 200ตัว
สำหรับคนที่จะเข้ามาอย่าลืมทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด และห้ามนำสุนัขเข้ามายังเกาะนะคะ
เกร็ดความรู้ :เกาะแห่งนี้อยู่ห่างออกไป 8 ไมล์ นอกชายฝั่งทะเลของโอจู ซิตี้ จังหวัดเอะฮิเมะ ซึ่งเดิมทีที่นี่เคยเป็นที่สำหรับผู้อพยพ และบางคนก็ได้เอาสัตว์เลี้ยงของตนเองติดมาด้วย จนกระทั้งในเวลาต่อมา ผู้คนเริ่มเข้าไปหางานทำที่แผ่นดินใหญ่ และแมวเหล่านี้ก็ได้ขยายพันธ์ตามธรรมชาติ และอาศัยอยู่ตามที่ร้างต่างๆ หรือตามถนน
กิจกรรม : เดินชมแมวรอบเกาะ
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ลงรถไฟสถานี Iyo-Nagahama และนั่งเรือเฟอรี่ไปยังเกาะอาโอชิมะ
4. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Fox Village (Zao Kitsune Mura) หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเหล่าสุนัขจิ้งจอก
ที่จะมาทำให้หัวใจคุณพองโตด้วยความน่ารัก และตายิ้มๆของพวกเขา
แต่ห้ามจับสุนัขจิ้งจอกด้วยมือเปล่านะคะเพราะน้องไม่คุ้นและอาจจะถูกกัดได้ ให้ระวังพวกสายชาร์ต หรือที่ห้องกระเป๋าด้วย
และให้อาหารเฉพาะโซนที่จัดเตรียมไว้เท่านั้น
ข้อนะนำสำหรับการถ่ายรูปสุนัขจิ้งจอก คือทำเสียงแปลกๆ เรียกร้องความสนใจ และ ก่อนถ่ายควรดูอารมณ์ของน้องด้วยนะคะ
เพราะแต่ละตัวมีนิสัยที่แตกต่างกันค่ะ
หากมาในช่วงหน้าหนาว น้องๆจะขนฟูดูนุ่มนิ่ม และบรรยากาศหิมะขาวโพลน ได้ฟินกับทั้งสุนัขจิ้งจอก และฟินกับบรรยากาศหิมะอีกด้วย
เกร็ดความรู้ : หมู่บ้านจิ้งจอกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ สุนัขจิ้งจอกที่นี่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และได้ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว
กิจกรรม : ให้อาหารจิ้งจอก (อาหารถุงละ 100 เยน)
เวลาทำการ : 16 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน เปิด 9:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)
1 ธันวาคม – 15 มีนาคม เปิด 9:00 – 16:00 น. (เข้าก่อน 15:30 น.)
(ช่วงหน้าหนาวจะปิด 16:00 น. เพราะมืดเร็ว)
*ปกติหยุดทุกวันพุธ ยกเว้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ สิงหาคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี
การเดินทาง : รถไฟ JR Shioshi-Zao Station และต่อรถแท็กซี่ไปยัง Zao Fox Village (ประมาณ 4,000 เยน ) หรือ รถบัสจากสถานี Shiroishi
Zao Fox Village ค่ารถคนละ 200 เยน ซึ่งรถบัสให้บริการเฉพาะวันอังคารและศุกร์ ในเวลา 7.58 น. และ 13.35 น. เท่านั้น
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : ศาลเจ้าอานาริ
5.ลิงแช่ออนเซ็น
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อจังหวัดนากาโน่ดี เพราะที่นี่เค้าโด่งดังเรื่องสกีหน้าหนาว แต่รู้หรือไม่ว่าความน่ารัก แปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสำหรับที่นี่ ก็คือลิงน้องแช่ออนเซ็น
ซึ่งลิงเหล่านี้ เป็นลิงภูเขา ที่หากินได้เองตามธรรมชาติ แต่ในช่วงฤดูหนาว ที่อากาศหนาวเกินจะทน
เจ้าลิงแก้มแดงพวกนี้ก็จะลงมาแช่ออนเซ็นอย่างสบายใจอย่างตามภาพที่แนบไปเลยค่ะ
แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าอาหาศต้องหนาวมากๆ เห็นบางทีหิมะตก แต่อากาศยังไม่หนาวพอ
เจ้าลิงพวกนี้ก็ไม่ลงไปแช่ออนเซ็นนะ อิอิ ยังไงก่อนไปก็ลองเช็คสภาพอากาศไปก่อนนะคะ
เพื่อความชัวร์ว่าจะได้เห็นเจ้าลิงลงไปแช่ออนเซ็นแน่ๆ
ที่นี่เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด แต่อย่าไปสัมผัสตัวลิงนะคะ เพราะถึงแม้ว่าเค้าจะคุ้นชินกับคนเยอะๆ
แต่หากไปสัมผัสเค้าอาจจะตกใจและทำร้ายเราได้
เกร็ดความรู้ : Jigokudani yaen koen หรือ Snow monkey park ตั้งอยู่ในเมือง Yudanaka จังหวัด Nagano
ลิงภูเขา เป็นลิงพื้นเมืองของญี่ปุ่น มีลักษณะเด่นคือมีขนสีน้ำตาล/ขาวฟู และแก้มแดงเหมือนกำลังขินอายอยู่
และนิสัยที่โดดเด่นคือไม่ดุร้าย ไม่แย่งของหรือขโมยของ เรียบร้อยจนน่าทึ่ง
กิจกรรม :ปีนเขา / ชมลิงแช่ออนเซ็น
เวลาทำการ : - Summer season (เดือนเมษายน – เดือน ตุลาคม) 8:30-17:00
-Winter season (เดือนพฤศจิกายน – เดือน มีนาคม) 9:00-16:00
*ไม่มีวันหยุด เปิดทั้งอาทิตย์ แต่ถ้าอากาศไม่ดี หิมะตกหนัก ก็จะปิด
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟลง Yudanaka station ต่อรถบัสไปลง Kanbayashi Onsen /Shibu Onsen แล้วเดินตามป้ายบอกทาง
ข้อมูลเพิ่มเติม :
http://jigokudani-yaenkoen.co.jp/
เป็นไงกันบ้างคะทำหรับสถานที่ที่ได้แนะนำไป
ถึงแม้ว่าเจ้าสัตว์เหล่านี้จะไม่ได้ครองเมือง
แต่พวกมันก็ครองใจหลายๆคนได้ใช่ไหมล่ะ ^ ^
Animals lover in Japan รวมสถานที่ที่คนรักสัตว์ต้องห้ามพลาด!!
และรักที่จะเที่ยวญี่ปุ่นไปพร้อมๆกัน เพราะเราจะมาแนะนำสถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์เหล่านี้
ที่อยู่กันเยอะอย่างกับว่าพวกมันจะมายึครองเมืองอย่างนั้นแหละ อิอิ
จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1. สวนสาธารณะกวาง
เกร็ดความรู้ : เมืองนารา อยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต และ โอซาก้า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคคันไซ
พูดถึงกวาง ก็ต้องนารา แค่ได้ยินชื่อ ภาพในหัวก็คงลอยมาเลยใช่ไหมคะ เจ้ากวางสุดเชื่องในสวนสาธารณะขนาดใหญ่
กำลังกินขนมเซมเบ้จากมือนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งถ่ายภาพเซลฟี่สุดน่ารัก ใช่ไหมล่ะคะ
Nara park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีกวางอาศัยอยู่เต็มไปหมด
เหล่าฝูงกวางน้อยใหญ่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่เหมือนทูตประจำเมือง คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
กวางเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนารา แต่คุณต้องระวังการเข้าใกล้ และถูกทำร้ายจากกวาง รวมถึงควรปฏิบัติตามกฏระเบียบด้วยนะคะ
ขอแนะนำอีกนิดว่าถ้าจะมา
ควรมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะต้นไม้ในสวนจะเปลี่ยนเป็นสี เหลือง ส้ม และ แดง
สวยงาม และบรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ
กิจกรรม : ให้เซมเบ้ หรือ อาหารกวาง ซึ่งมีขายอยู่ตามทางเดิน จะเลือกซื้อร้านไหนก็ตามสะดวกเลยค่ะ
พอคุณมีขนมอยู่ที่มือแล้ว ทีนี้เหล่าน้องกวางก็จะพุ่งตรงมาที่คุณอย่างมิได้นัดหมาย
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : เดิน10 นาทีจาก JR Nara Station
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : วัดโทไดจิ ,ศาลเจ้าคากุสะ , วัดโคฟุคุจิ ,พระราชวังเฮโจ
2. เกาะกระต่าย
ชื่อของสถานที่แห่งนี้คือ โอคุโนะชิมะ (Okunoshima) พบกับเหล่ากระต่าย ที่ไม่เขินอายและค่อยข้างที่จะคุ้นชินกันนักท่องเที่pวที่พากันออกมาต้อนรับ
แนะนำว่าให้พกขนม หรือ อาหารกระต่ายติดมาด้วย คุณจะป๊อปปูล่าในหมู่เจ้าหูยาว 4ขานี้เป็นอย่างมากเลยล่ะ
เกร็ดความรู้ : เกาะโอคุโนะ เป็นเกาะที่อยู่ในเมืองทาเคฮาระ จังหวัดฮิโรชิม่า
ซึ่งประวัติของเกาะแห่งนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองอาวุธ(แลปทดลองสารเคมี) และเมื่อฮิโรชิม่าถูกระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่นี่ก็ถูกปิดตัวลง และถูกทิ้งร้างตั้งแต่นั้นมา
ส่วนกระต่ายที่อยู่ในเกาะแหjงนี้ เป็นกระต่ายที่ถูกนำมาทดลองกับสารเคมี แต่พอรัฐบาลสั่งให้อพยบคนออกจากเกาะ
ก็เหลือแต่เจ้ากระต่ายพวกนี่ที่ถูกทิ้งไว้ในเกาะ และมีการออกลูกออกหลาน ขยายพันธ์ตามธรรมชาติ และเนื่องด้วยเกาะนี้ไม่มีสัตว์ที่เป็นนักล่า หรือกินกระต่ายเป็นอาหาร จึงทำให้ที่นี่มีแต่กระต่ายจนเต็มเกาะไปหมด แต่เรื่องน่าเศร้าคือมีกระต่ายที่พิการจากการได้รับสารเคมี และสารกัมมันตรังสี หรือ จากความผิดปกติทางพันธุกรรมด้วย
ปล.สำหรับคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวสารตกค้างนะคะ เพราะปัจจุบันมีการตรวจแล้วว่าไม่มีสารพิษตกค้าง สบายใจได้ค่ะ
กิจกรรม : เช่าจักรยาน ปั่นชมรอบๆเกาะ และกระต่ายที่นี่จะเคยชินกับเสียงจักรยานมาก ถ้าได้ยินเสียงมาจอดปุ๊ป จะรีบวิ่งกรูกันเข้ามา (ขอขนม)
ค่าเข้าชม :ฟรี
การเดินทาง : รถไฟลงที่ Tadanoumi Station และต่อเรือเฟอรี่ (ไปกลับ ราคาประมาณ 620 เยน )ไปยังโอคุโนะชิมะ พอถึงเกาะแล้ว เดินชมได้เลย
3. เกาะแมว
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก ขี้อ้อน และคนญี่ปุ่นยังมีความเชื่ออีกว่าแมวเป็นสัวต์นำโชค
ยิ่งในปัจจุบันนี้คาเฟ่แมวขยายตัวเยอะมากๆ ให้เหล่าทาสได้ฟินนนกับแมว
และอยากจะมาแนะนำสถานที่ธรรมชาติ ขอบอกเลยว่า เกาะแห่งนี้ทาสแมวต้องห้ามพลาดดดดด!!!
เพราะที่นี่ ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ มีคนไม่ถึง 100 คน แต่มีแมวกว่า 200ตัว
สำหรับคนที่จะเข้ามาอย่าลืมทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด และห้ามนำสุนัขเข้ามายังเกาะนะคะ
เกร็ดความรู้ :เกาะแห่งนี้อยู่ห่างออกไป 8 ไมล์ นอกชายฝั่งทะเลของโอจู ซิตี้ จังหวัดเอะฮิเมะ ซึ่งเดิมทีที่นี่เคยเป็นที่สำหรับผู้อพยพ และบางคนก็ได้เอาสัตว์เลี้ยงของตนเองติดมาด้วย จนกระทั้งในเวลาต่อมา ผู้คนเริ่มเข้าไปหางานทำที่แผ่นดินใหญ่ และแมวเหล่านี้ก็ได้ขยายพันธ์ตามธรรมชาติ และอาศัยอยู่ตามที่ร้างต่างๆ หรือตามถนน
กิจกรรม : เดินชมแมวรอบเกาะ
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ลงรถไฟสถานี Iyo-Nagahama และนั่งเรือเฟอรี่ไปยังเกาะอาโอชิมะ
4. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Fox Village (Zao Kitsune Mura) หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเหล่าสุนัขจิ้งจอก
ที่จะมาทำให้หัวใจคุณพองโตด้วยความน่ารัก และตายิ้มๆของพวกเขา
แต่ห้ามจับสุนัขจิ้งจอกด้วยมือเปล่านะคะเพราะน้องไม่คุ้นและอาจจะถูกกัดได้ ให้ระวังพวกสายชาร์ต หรือที่ห้องกระเป๋าด้วย
และให้อาหารเฉพาะโซนที่จัดเตรียมไว้เท่านั้น
ข้อนะนำสำหรับการถ่ายรูปสุนัขจิ้งจอก คือทำเสียงแปลกๆ เรียกร้องความสนใจ และ ก่อนถ่ายควรดูอารมณ์ของน้องด้วยนะคะ
เพราะแต่ละตัวมีนิสัยที่แตกต่างกันค่ะ
หากมาในช่วงหน้าหนาว น้องๆจะขนฟูดูนุ่มนิ่ม และบรรยากาศหิมะขาวโพลน ได้ฟินกับทั้งสุนัขจิ้งจอก และฟินกับบรรยากาศหิมะอีกด้วย
เกร็ดความรู้ : หมู่บ้านจิ้งจอกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ สุนัขจิ้งจอกที่นี่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และได้ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว
กิจกรรม : ให้อาหารจิ้งจอก (อาหารถุงละ 100 เยน)
เวลาทำการ : 16 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน เปิด 9:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)
1 ธันวาคม – 15 มีนาคม เปิด 9:00 – 16:00 น. (เข้าก่อน 15:30 น.)
(ช่วงหน้าหนาวจะปิด 16:00 น. เพราะมืดเร็ว)
*ปกติหยุดทุกวันพุธ ยกเว้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ สิงหาคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี
การเดินทาง : รถไฟ JR Shioshi-Zao Station และต่อรถแท็กซี่ไปยัง Zao Fox Village (ประมาณ 4,000 เยน ) หรือ รถบัสจากสถานี Shiroishi
Zao Fox Village ค่ารถคนละ 200 เยน ซึ่งรถบัสให้บริการเฉพาะวันอังคารและศุกร์ ในเวลา 7.58 น. และ 13.35 น. เท่านั้น
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : ศาลเจ้าอานาริ
5.ลิงแช่ออนเซ็น
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อจังหวัดนากาโน่ดี เพราะที่นี่เค้าโด่งดังเรื่องสกีหน้าหนาว แต่รู้หรือไม่ว่าความน่ารัก แปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสำหรับที่นี่ ก็คือลิงน้องแช่ออนเซ็น
ซึ่งลิงเหล่านี้ เป็นลิงภูเขา ที่หากินได้เองตามธรรมชาติ แต่ในช่วงฤดูหนาว ที่อากาศหนาวเกินจะทน
เจ้าลิงแก้มแดงพวกนี้ก็จะลงมาแช่ออนเซ็นอย่างสบายใจอย่างตามภาพที่แนบไปเลยค่ะ
แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าอาหาศต้องหนาวมากๆ เห็นบางทีหิมะตก แต่อากาศยังไม่หนาวพอ
เจ้าลิงพวกนี้ก็ไม่ลงไปแช่ออนเซ็นนะ อิอิ ยังไงก่อนไปก็ลองเช็คสภาพอากาศไปก่อนนะคะ
เพื่อความชัวร์ว่าจะได้เห็นเจ้าลิงลงไปแช่ออนเซ็นแน่ๆ
ที่นี่เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด แต่อย่าไปสัมผัสตัวลิงนะคะ เพราะถึงแม้ว่าเค้าจะคุ้นชินกับคนเยอะๆ
แต่หากไปสัมผัสเค้าอาจจะตกใจและทำร้ายเราได้
เกร็ดความรู้ : Jigokudani yaen koen หรือ Snow monkey park ตั้งอยู่ในเมือง Yudanaka จังหวัด Nagano
ลิงภูเขา เป็นลิงพื้นเมืองของญี่ปุ่น มีลักษณะเด่นคือมีขนสีน้ำตาล/ขาวฟู และแก้มแดงเหมือนกำลังขินอายอยู่
และนิสัยที่โดดเด่นคือไม่ดุร้าย ไม่แย่งของหรือขโมยของ เรียบร้อยจนน่าทึ่ง
กิจกรรม :ปีนเขา / ชมลิงแช่ออนเซ็น
เวลาทำการ : - Summer season (เดือนเมษายน – เดือน ตุลาคม) 8:30-17:00
-Winter season (เดือนพฤศจิกายน – เดือน มีนาคม) 9:00-16:00
*ไม่มีวันหยุด เปิดทั้งอาทิตย์ แต่ถ้าอากาศไม่ดี หิมะตกหนัก ก็จะปิด
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟลง Yudanaka station ต่อรถบัสไปลง Kanbayashi Onsen /Shibu Onsen แล้วเดินตามป้ายบอกทาง
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://jigokudani-yaenkoen.co.jp/
เป็นไงกันบ้างคะทำหรับสถานที่ที่ได้แนะนำไป
ถึงแม้ว่าเจ้าสัตว์เหล่านี้จะไม่ได้ครองเมือง
แต่พวกมันก็ครองใจหลายๆคนได้ใช่ไหมล่ะ ^ ^