🧛♂️"ทัฟท์เดียร์" (Tufted Deer) ฉายา "กวางแวมไพร์"
🦌
#ทัฟท์เดียร์
(Tufted Deer) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Elaphodus cephalophus เป็นกวางขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและดูแปลกตาที่สุดชนิดหนึ่งของโลก จนได้รับฉายาสุดเท่ว่า "กวางแวมไพร์" เนื่องจากลักษณะพิเศษบนใบหน้าของมัน
🧛♂️สาเหตุที่ได้ฉายานี้มาจากลักษณะเด่นที่สุดของมัน คือ ใน กวางตัวผู้ จะมีเขี้ยวคู่บนที่ยาวและแหลมคม (Tusks) ยื่นออกมาจากมุมปากจนเห็นได้ชัดเจน เขี้ยวนี้อาจยาวได้ถึง 2.5 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 นิ้ว!
🧛♂️ไม่ได้มีไว้ดูดเลือดเหมือนในหนัง แต่เขี้ยวเหล่านี้วิวัฒนาการมาเพื่อใช้ในการ "ต่อสู้" แย่งชิงอาณาเขตและแย่งชิงตัวเมียในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เนื่องจากกวางทัฟท์เดียร์มีเขาที่เล็กมาก (หรือแทบมองไม่เห็น) ธรรมชาติจึงทดแทนอาวุธด้วยเขี้ยวอันแหลมคมนี้แทน
🦌"Tufted" แปลว่า "เป็นกระจุก" ซึ่งมาจากลักษณะเด่นอีกประการ คือ บริเวณหน้าผากและหัวของมันจะมี กระจุกขนสีดำหนาๆ ตั้งเด่นอยู่ ซึ่งบางครั้งขนกระจุกนี้ก็ยาวจนบังเขาเล็กๆ ของมันจนมิด ทำให้ดูเหมือนมันทำผมทรงพังค์อยู่ตลอดเวลา
🦌เป็นกวางขนาดเล็ก มีความสูงที่ไหล่ประมาณ 50-70 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเพียงประมาณ 17-30 กิโลกรัม (ขนาดพอๆ กับสุนัขขนาดกลาง)
🦌ขนตามลำตัวมีสีเทาเข้มจนเกือบดำ หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลต สีเข้มนี้ช่วยให้มันพรางตัวในเงามืดของป่าทึบได้ดีเยี่ยม ริมฝีปากและปลายหูมักมีสีขาว
🦌เมื่อตกใจหรือวิ่งหนี มันจะกระดกหางขึ้นเผยให้เห็นขนสีขาวสว่างใต้หาง คล้ายกับกวางหางขาว (White-tailed deer) เพื่อเป็นสัญญาณเตือนภัยแก่ตัวอื่น
🌏ทัฟท์เดียร์เป็นสัตว์ประจำถิ่นในเอเชีย พบได้เฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูงที่มีป่าทึบและชื้นแฉะ ทางภาคกลางและภาคใต้ของ ประเทศจีน และอาจพบได้ทางตอนเหนือของ ประเทศเมียนมา มันชอบอาศัยอยู่ในระดับความสูงตั้งแต่ 500 จนถึง 4,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำเสมอ
เป็นสัตว์ที่ขี้อายมาก รักสันโดษ มักอยู่ตามลำพังหรือเป็นคู่ หากินในเวลาเช้ามืดและพลบค่ำ
เมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคาม มันจะส่งเสียงร้องเตือนภัยที่คล้ายกับ "เสียงเห่า" ของสุนัข ก่อนจะวิ่งหนีเข้าพุ่มไม้
เป็นสัตว์กินพืช โดยกินใบไม้ กิ่งอ่อน หญ้า ผลไม้ และสมุนไพรตามพื้นป่า
ปัจจุบัน สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้ทัฟท์เดียร์อยู่ในสถานะ "เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์" (Near Threatened) แม้ว่าประชากรในบางพื้นที่ของจีนจะยังคงมีอยู่พอสมควร แต่พวกมันก็เผชิญกับภัยคุกคามจากการล่าเพื่อเอาเนื้อและหนัง รวมถึงการสูญเสียถิ่นที่อยู่จากการตัดไม้ทำลายป่า
The Earth
🧛♂️"ทัฟท์เดียร์" (Tufted Deer) ฉายา "กวางแวมไพร์" 🦌
🦌
#ทัฟท์เดียร์
(Tufted Deer) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Elaphodus cephalophus เป็นกวางขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและดูแปลกตาที่สุดชนิดหนึ่งของโลก จนได้รับฉายาสุดเท่ว่า "กวางแวมไพร์" เนื่องจากลักษณะพิเศษบนใบหน้าของมัน
🧛♂️สาเหตุที่ได้ฉายานี้มาจากลักษณะเด่นที่สุดของมัน คือ ใน กวางตัวผู้ จะมีเขี้ยวคู่บนที่ยาวและแหลมคม (Tusks) ยื่นออกมาจากมุมปากจนเห็นได้ชัดเจน เขี้ยวนี้อาจยาวได้ถึง 2.5 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 นิ้ว!
🧛♂️ไม่ได้มีไว้ดูดเลือดเหมือนในหนัง แต่เขี้ยวเหล่านี้วิวัฒนาการมาเพื่อใช้ในการ "ต่อสู้" แย่งชิงอาณาเขตและแย่งชิงตัวเมียในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เนื่องจากกวางทัฟท์เดียร์มีเขาที่เล็กมาก (หรือแทบมองไม่เห็น) ธรรมชาติจึงทดแทนอาวุธด้วยเขี้ยวอันแหลมคมนี้แทน
🦌"Tufted" แปลว่า "เป็นกระจุก" ซึ่งมาจากลักษณะเด่นอีกประการ คือ บริเวณหน้าผากและหัวของมันจะมี กระจุกขนสีดำหนาๆ ตั้งเด่นอยู่ ซึ่งบางครั้งขนกระจุกนี้ก็ยาวจนบังเขาเล็กๆ ของมันจนมิด ทำให้ดูเหมือนมันทำผมทรงพังค์อยู่ตลอดเวลา
🦌เป็นกวางขนาดเล็ก มีความสูงที่ไหล่ประมาณ 50-70 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเพียงประมาณ 17-30 กิโลกรัม (ขนาดพอๆ กับสุนัขขนาดกลาง)
🦌ขนตามลำตัวมีสีเทาเข้มจนเกือบดำ หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลต สีเข้มนี้ช่วยให้มันพรางตัวในเงามืดของป่าทึบได้ดีเยี่ยม ริมฝีปากและปลายหูมักมีสีขาว
🦌เมื่อตกใจหรือวิ่งหนี มันจะกระดกหางขึ้นเผยให้เห็นขนสีขาวสว่างใต้หาง คล้ายกับกวางหางขาว (White-tailed deer) เพื่อเป็นสัญญาณเตือนภัยแก่ตัวอื่น
🌏ทัฟท์เดียร์เป็นสัตว์ประจำถิ่นในเอเชีย พบได้เฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูงที่มีป่าทึบและชื้นแฉะ ทางภาคกลางและภาคใต้ของ ประเทศจีน และอาจพบได้ทางตอนเหนือของ ประเทศเมียนมา มันชอบอาศัยอยู่ในระดับความสูงตั้งแต่ 500 จนถึง 4,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำเสมอ
เป็นสัตว์ที่ขี้อายมาก รักสันโดษ มักอยู่ตามลำพังหรือเป็นคู่ หากินในเวลาเช้ามืดและพลบค่ำ
เมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคาม มันจะส่งเสียงร้องเตือนภัยที่คล้ายกับ "เสียงเห่า" ของสุนัข ก่อนจะวิ่งหนีเข้าพุ่มไม้
เป็นสัตว์กินพืช โดยกินใบไม้ กิ่งอ่อน หญ้า ผลไม้ และสมุนไพรตามพื้นป่า
ปัจจุบัน สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้ทัฟท์เดียร์อยู่ในสถานะ "เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์" (Near Threatened) แม้ว่าประชากรในบางพื้นที่ของจีนจะยังคงมีอยู่พอสมควร แต่พวกมันก็เผชิญกับภัยคุกคามจากการล่าเพื่อเอาเนื้อและหนัง รวมถึงการสูญเสียถิ่นที่อยู่จากการตัดไม้ทำลายป่า
The Earth