[CR] Zao Fox Village ใครว่าหมายิ้มได้มีแค่ชิบะ คนรักหมาต้องเข้ามาดู


สวัสดีครับ หลังจากที่ผมพาเพื่อนๆไปชมความสวยงามมุ้งมิ้งสีชมพูของเทศกาลชมดอกซากุระที่เมือง Kawazu แล้ว (ใครไม่ทัน วาปไปชมได้เลยที่ https://pantip.com/topic/38635911 ) ครั้งนี้เอาใจคนรักหมากันบ้างครับ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ผมได้มีโอกาสไปเที่ยว Zao Fox Village ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัด Miyagi ภูมิภาคโทโฮคุ ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม ทำให้ขนสีน้ำตาลส้มของสุนัขจิ้งจอกตัดกับสีขาวโพลนของหิมะอย่างชัดเจน ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยมาก นอกจากนี้ เขาบอกว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สุนัขจิ้งจอกจะมีขนที่ฟูหนาที่สุด ทำให้พวกมันดูน่ารักน่ากอดมากกว่าฤดูอื่นๆ

การเดินทาง 
- จากสถานี Shiroishi-Zao จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่ต่อไปที่ Zao Fox Village ประมาณเที่ยวละ 4,000 กว่าเยน (ที่สถานี Shiroishi-Zao มีตู้ล็อกเกอร์หลายขนาด สามารถฝากของไว้ได้) แนะนำว่าน่าจะหาเพื่อนร่วมทางไปด้วย เพราะค่า taxi แพงม้ากกกกก ผมไปคนเดียวไม่มีคนหารด้วยนี่น้ำตาแทบไหล แต่เพื่อได้ยลโฉมสุนัขจิ้งจอกตัวเป็นๆสักครั้งในชีวิต เลยต้องยอมเปย์ไป
- จากสถานี Shiroishi Station (ระวัง!!! คนละแห่งกับ Shiroishi-Zao ) นั่ง Castle Kun Bus ซึ่งมีเฉพาะวันอังคารและวันศุกร์ มีวันละ 2 รอบ 7.58 น. และ 13.35 (โอยย รอบน้อยจุง) รถประจำทางนี้จะปิดให้บริการช่วง 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม ค่ารถ ¥200
* จะเห็นว่าการเดินทางโดยรถบัสไม่สะดวกอย่างมาก ดังนั้นหาเพื่อนร่วมทางหารค่า taxi ดีกว่าครับ ก่อนลงจากแท็กซี่ขาไป ผมได้แจ้งเวลาแก่คนขับไว้ครับ และเมื่อถึงเวลาเขาก็มารับ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ หรืออีกทาง เพื่อนๆสามารถให้เจ้าหน้าที่ภายในเรียกแท็กซี่ได้

ค่าเข้า
ผู้ใหญ่ อายุมากกว่า 13 ปี 1,000 เยน
เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี เข้าฟรี

เวลาทำการ
1 ธันวาคม - 15 มีนาคม : 9:00 am - 4:00 pm Last admission 3:30 pm
16 มีนาคม - 30 พฤศจิกายน : 9:00 am - 5:00 pm Last admission 4:30 pm
ระวัง!!!! ปิดทุกวันพุธ

เว็บไซต์ : http://zao-fox-village.com/en

ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมสุนัขจิ้งจอกกันเล้ยยย

Zao Fox Village เป็นสวนสัตว์สุนัขจิ้งจอกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสุนัขจิ้งจอกมากกว่า 100 ตัว ภายในสวนแห่งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นเหมือนในสวนสัตว์ คือจะแยกเป็นกรงๆไว้ มีทั้ง หมาจิ้งจอก กระต่าย แพะ เมื่อเดินเข้ามาก็มีสุนัขจิ้งจอกตัวนี้มาต้อนรับ จริงๆมีชื่อด้วยครับ แต่ผมจำไม่ได้ละ 555

กรงต่อๆมาจะมีสุนัขจิ้งจอกหลากหลายพันธุ์ ส่วนใหญ่มักหลับไม่ค่อยกระดี๊กระด๊ารับแขกสักเท่าไหร่
ส่วนที่ 2 นี่เป็นไฮไลท์ครับ คือจะเป็นส่วนพื้นที่เปิดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความเป็นอยู่ของสุนัขจิ้งจอกได้อย่างอิสระ ซึ่งก่อนจะผ่านประตูเข้าไปเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อควรระวังให้เราทราบหลายข้อมาก เท่าที่ผมจำได้มีดังต่อไปนี้ครับ
1. ระวังตัวตลอดเวลา
2. ห้ามนั่งลงกับพื้น เพราะน้องหมาอาจจะเข้ามางับได้
3. ระวังเครื่องประดับที่ห้อยและมีเสียง เพราะจะเรียกความสนใจของน้องหมา และอาจถูกขโมยได้ 5555 โอ้ยย นี่หมาหรือลิง
4. ห้ามแหย่ ห้ามให้อาหาร
พออ่านตอนแรกๆ ก็หวาดๆกลัวๆครับ เพราะถ้าถูกกัดนี่ไม่สนุกแน่ แต่ไหนๆก็มาแล้วเป็นไงเป็นกัน

และเมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปก็พบเจ้าตัวนี้มาต้อนรับครับ

เห็นแล้วก็ใจละลาย โอ้ย ยิ้มน่ารักมาก เลยเป็นที่มาของชื่อกระทู้เลยครับ ใครว่าหมาที่ยิ้มได้มีแต่ชิบะ
ภายในส่วนนี้น้องหมาจะเดินไปเดินมาอย่างอิสระ ไม่สนใจมะนุด (มนุษย์) อย่างเรา ราวกับว่าเราเป็นเพียงต้นไม้ใบหญ้ารอบตัวมัน 555
ส่วนนี้ค่อนข้างกว้าง มีเนินเขา จุดให้อาหาร ศาลเจ้าอินาริสีแดงสดใส เดินชมได้อย่างสบายๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบสุนัขและอยากถ่ายรูป ขอให้เตรียมเลนส์เทเลไปให้พร้อม แค่เดินชมและถ่ายรูปอย่างเดียวก็กินเวลาไปค่อนวันแล้ว ซึ่งรอยยิ้มของน้องหมาเหล่านี้เองที่ทำให้วันนี้ของผมสดใสและมีความสุขมาก น่ารักแค่ไหนมาชมกันครับ
น้องหมาตัวนี้ยิ้มเจ้าเล่ห์มาก ดูเป็นตัวร้ายเลย 5555
น้องตัวนี้ ยิ้มเอียงคอ ตั้ลล้าาากกกกก

อันนี้ก็ยิ้มนะ แต่ไม่ใช่ยิ้มธรรมดา แต่เป็นยิ้มยิ้ม 5555
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นระดู เอ๊ย ฤดูผสมพันธ์ุของสุนัขจิ้งจอก ดังนั้นจึงเห็นพวกมันยิ้ม หรือการผสมพันธ์ุกันเป็นระยะอย่างเมามัน
น้องตัวซ้ายของรูปนี้ หน้าตาแบบว่า "หืมม ทำไรน่ะ"
หลายครั้งที่ความรักมีอุปสรรค มันก็คงต้องมีต่อสู้กันบ้าง ภาพด้านล่างให้อารมณ์เป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์ คู่กัดกัดกันน้ำลายกระจาย กองเชียร์ก็หลบกันแต่ไม่หนี คอยสอดส่องอย่างใคร่รู้ผลแพ้ชนะ 5555
นอกจากการผสมพันธ์ุแล้ว น้องหมาบางส่วนเลือกที่จะนอน นอน แล้วก็นอน ทำเอาคนไม่ค่อยได้นอนอย่างผมนี่เบะปากมองบนด้วยความอิจฉา
นอนกันน่าหมั่นไส้แค่ไหน ไปดูกันครับ
โอ้ยยย ง่วงแทนว้อย 5555 นี่คือที่มาของประโยคที่ว่า "หาวน้ำตาเล็ด"
สำหรับคนรักหมา แค่เห็นมันนอน นั่ง เดิน ก็มีความสุขแล้ว ที่แห่งนี้มันก็คือสวรรค์ของคนรักหมาดีๆนั่นเอง
โดยสรุป สำหรับ Zao Foz Village
- เหมาะกับคนรักหมามากถึงมากที่สุด
- การเดินทางค่อนข้างไกล ค่าแท็กซี่แพงมาก
- ไม่ได้มี activity อะไรมากมายนอกจากเดิมชมน้องหมา มีร้านขายของที่ระลึกขนาดกลางให้ช็อปก่อนกลับได้
- เท่าที่สำรวจไม่มีร้านอาหารด้านใน  มีขนมปังและน้ำเล็กน้อยจำหน่าย

รอบต่อไปจะพาไปไหน มารอชมนะครับ
ชื่อสินค้า:   zao fox village
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่