💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 17 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม

ขณะเดียวกัน ณ ปากช่องทางแห่งซอกเขาบนเทือกเขาแอตลาส ใกล้ทะเลสาบโพไซดอน ซึ่งเป็นจุดที่ผู้อาวุโสไดโอเซนัสและแม่หมอฟรีด้าเคยร่วงลงไปด้วยน้ำมือของเทพพยากรณ์ออเรเคิลเมื่อครั้งอดีต ปรากฏร่างของสิ่งมีชีวิตสามชีวิต ปีนป่ายขึ้นมาพ้นจากซอกเขา...

เป็นสองสามีภรรยา แซมและจอย พร้อมกับแม่หมอฟรีด้านั่นเอง!

"เอาละ ฉันมาส่งพวกเธอถึงแค่นี้แหละนะ ต่อจากนี้ไป พวกเธอก็หาทางกลับไปหาเหล่าสหายเอาเองเถิด ฉันต้องกลับไปหาท่านอาจารย์กับเจ้าปุยเมฆแล้ว ระวังตัวกันให้ดีด้วยในขณะที่พวกเธอกำลังเดินทางกัน" แม่หมอบอกกับคนทั้งสอง

"เจ้าค่ะ แม่หมอ เราสองคนจะระมัดระวังตัวให้ดีที่สุด และจะพาสหายผู้เป็นแพทย์กลับไปช่วยรักษาอาจารย์ของท่านโดยเร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้เจ้าค่ะ" สาวจอยตกปากรับคำเป็นมั่นเหมาะ

"ดีจ้ะ! เอาละ พวกเธอไปกันเถิด อย่ามัวชักช้าอยู่เลย"

แม่หมอเร่งเร้า สองสามีภรรยาพยักหน้า ต่างฝ่ายต่างทำท่าจะแยกทางกัน ฟรีด้าก้าวเดินไปริมซอกเขาเตรียมจะโดดลงไป ในขณะที่แซมกับจอยกำลังจะเดินไปทางทิศใต้เพื่อลงจากเขา

แต่แล้ว สาวจอยก็ต้องหยุดชะงัก แหงนมองฟ้า และร้องออกมา "เดี๋ยวก่อน!"

ทั้งแซมและแม่หมอฟรีด้าหยุดชะงักตาม

"มีอะไรเหรอจ๊ะที่รัก ?" หนุ่มแซมหันมาถาม

"ทำไมหยุดกันเล่า มีอะไรหรือ ?" แม่หมอถามมาอีกคน

สาวจอยชี้มือไปบนท้องฟ้า อีกสองคนมองตาม

แล้วก็ได้เห็น วัตถุหนึ่งทรงกลมรี เปล่งแสงสีขาวนวล กำลังบินผ่านยอดเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกและห่างจากพวกเขาไกลลิบ มันกำลังบินไปด้วยความเร็วเอื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ราวกับว่ากำลังเที่ยวชมความงดงามแห่งธรรมชาติอยู่ฉะนั้น!

"นั่นมัน ยานบินของฝ่ายไหนกันแน่นะ ?" แม่หมอกล่าวพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"มี 'ซูม คอนแท็ค' ไหม แซม ? ของจอยสงสัยหล่นหายอะ" สาวจอยถามสามี

'ซูม คอนแท็ค" ที่เธอว่า คือ คอนแท็คเลนส์ซึ่งสามารถบังคับซูมภาพได้ด้วยกล้ามเนื้อนัยน์ตาหลังจากใส่มันเข้าไปแล้ว ถ้าจะซูมเข้าเพื่อขยาย ก็เพียงเบิกตาให้กว้างเท่านั้น มันก็จะซูมเข้าไปใกล้ๆ ทันที และสามารถขยายภาพเป้าหมายได้ถึงร้อยเท่า!

"มีจ้ะที่รัก แป๊บนึงนะ" แซมพยักหน้าให้ภรรยาสุดที่รักแล้วควานหามันในกระเป๋าซึ่งอยู่ข้างในอกเสื้อ พอหาเจอก็ค่อยๆ หยิบออกมา แหงนหน้าขึ้นแล้วบรรจงใส่เข้าไปในกระบอกตาของตนทีละข้าง จากนั้นจึงมองไปยังยานลำนั้นซึ่งขณะนี้ลอยตัวนิ่งอยู่

แซมเบิกตากว้าง ภาพของยานลำนั้นถูกซูมขยายจนเห็นชัดเจน พอเห็นอย่างถนัดชัดแจ้ง เขาก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

"เฮ้ยนั่นมัน...THE FUGITIVE !!!"

"หา..FUGITIVE เหรอแซม ?? แน่ใจนะ ??" สาวจอยถามย้ำด้วยใจเต้นระทึก

"แน่ใจล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มียานลำไหนในโลกจะเสมอเหมือนยานของพวกเราหรอก!"

"งั้น กัปตันก็อยู่ในยานน่ะสิตอนนี้ ?"

"น่าจะเป็นยังงั้น เดี๋ยวนะ" แซมก็ตื่นเต้นพอๆ กัน เขาล้วงมือควานหาของอีกอย่างหนึ่งจากกระเป๋าในอกเสื้อ

"หาอะไรอีกจ๊ะ วิทยุสื่อสารเหรอ ?"

"ใช่จ้ะที่รัก...โอเค เจอละ" แซมตอบภรรยาแล้วหยิบอุปกรณ์วิทยุสื่อสารซึ่งเหมือนกระดุมเม็ดเดียวเท่านั้นยัดใส่หูข้างหนึ่ง กดปุ่มเล็กๆ เปิดเครื่องแล้วลองเรียกหาเจ้านาย

"กัปตันครับ ได้ยินผมไหมครับ นี่ผม แซมนะครับ จอย และแม่หมอฟรีด้าก็อยู่ด้วย ได้ยินไหมครับกัปตัน ตอบด้วยครับ"

มีเสียงสัญญาณรบกวนดังซ่า..ซ่า...มาเป็นระยะๆ

"กัปตันครับ นี่ผมแซม ได้ยินแล้วตอบด้วยครับผม กัปตันครับ!"

เสียงสัญญาณรบกวนเบาลง แล้วก็มีเสียงตอบกลับมา ช้าๆ เนิบๆ น้ำเสียงไม่สดใสนัก เหมือนผู้พูดกำลังมึนๆ งงๆ อยู่กับอะไรสักอย่าง หรือมิฉะนั้นก็กำลังอ่อนเพลียง่วงนอน

"อืมม...ห๊ะ! แซมเหรอ ? ฮ่ายยย..."

"กัปตัน!" แซมร้องตะโกนลั่น สาวจอยลองควานหา "กระดุม" วิทยุสื่อสารในตัวของเธอบ้าง แล้วก็ยิ้มออกเมื่อหาเจอ รีบเอาออกมาใส่หู เปิดเครื่องแล้วส่งเสียงไปหาเจ้านายบ้าง "กัปตันคะ ได้ยินไหมคะ นี่จอยเองค่ะ"

"ฮือ...คุณจอย ด้วยเหรอ...ฮ่ายย...ง่วงชะมัด ผมมาทำอะไร แล้วพวกคุณอยู่ตรงไหนกันนี่ตอนนี้ ?"

"พวกเราอยู่กันข้างล่างนี่แหละครับ บนเขาแอตลาสนี่แหละ ไม่ห่างจากกัปตันมากนักหรอกครับ"

"กัปตันคะ รับเราสองคนขึ้นยานก่อนเถอะค่ะตอนนี้"

กัปตันวันชนะ ขณะนี้ตกอยู่ในอาการสับสนมึนงง ความทรงจำปกติบางส่วนกลับคืนมา และจิตใจอีกส่วนหนึ่งก็กำลังถูกครอบงำ บังคับให้ขับยานข้ามแดนไปสู่จักรวรรดิแอตแลนติสใต้

"วันชนะ...จงกลับมา...จงกลับมาหาพวกเรา...กลับมารับใช้เบื้องพระยุคลบาทแห่งองค์จักรพรรดิ...จงกลับมา..จงกลับมา..."

เขาได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งซึ่งฟังดูมีอำนาจกำลังสั่งการบังคับเขาดังอยู่ในหัว แต่เพราะสติสัมปชัญญะส่วนหนึ่งกลับคืนมา เขาจึงต่อต้าน

"ทำไมผมต้องฟังคำสั่งคุณด้วยเล่า !!" กัปตันตะโกนร้องโหวกเหวก

คำพูดของกัปตัน สร้างความงวยงงให้แก่สองสามีภรรยาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองหันมามองหน้ากัน

"กัปตันคะ" สาวจอยเรียกไปอีกครั้ง "จอย ไม่ได้สั่งกัปตันนะคะ จอยขอร้องกัปตันต่างหาก ขอให้กัปตันรับเราสองคนขึ้นยานเถอะค่ะ!"

"ใช่ครับกัปตัน" แซมรีบกล่าวเสริม "เราไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้วนะครับกัปตัน แล้วกัปตันจะไปไหนล่ะครับ ในเมื่อกัปตันอยู่ในสหพันธรัฐแล้ว ?"

กัปตันวันชนะสะบัดหน้าสองสามที แล้วเงื้อฝ่ามือขวาตบหน้าตัวเองอีกฉาด! ก่อนจะตอบลูกน้องทั้งสอง

"คุณจอย เมื่อตะกี้นี้ ผมไม่ได้พูดกับคุณ! อย่าได้เข้าใจผิด"

"อ่าวว..." สาวจอยตกอยู่ในอาการทั้งงงและทึ่ง "แล้วตะกี้ กัปตัน พูดกะใครอะคะ ??"

"ไม่รู้เหมือนกันครับคุณจอย" กัปตันตอบแล้วสะบัดหน้าอีกรอบไล่ความมึนงง

"อ้าว แล้วกัน มันยังไงกันคะเนี่ย ?" สาวจอยว่าแล้วยกมือขึ้นกุมหัวโดยไม่รู้ตัวด้วยความงงจัด

"กัปตันน่าจะกำลังถูกคนทางฝั่งโน้นใช้อำนาจสะกดจิต ถ้าเดาไม่ผิด" แซมหันมาพูดกับภรรยา

"โหยย ยังงั้น" สาวจอยทำตาโต "งั้น กัปตันคะ รีบเปลี่ยนทิศทาง หันกลับมารับเราสองคนขึ้นยาน แล้วรีบบินกลับฐานเถอะค่ะ อย่าช้าค่ะเพราะกัปตันตกอยู่ในอันตรายแล้ว!"

"อืม...ได้ๆ ตกลง ผมจะรับคุณสองคนขึ้นมาบนยานเดี๋ยวนี้ เห็นสัญญาณภาพคุณสองคนบนจอมอนิเตอร์แล้ว รอแป๊บนึงนะครับ"

ดูเหมือนว่าขณะนี้ กัปตันวันชนะปลอดจากการถูกสะกดจิตจากทางไกลเป็นการชั่วคราว สมองเริ่มแจ่มใสปลอดโปร่งมากขึ้น เขาบังคับยาน THE FUGITIVE ให้หมุนด้านหน้ากลับสู่ทิศเหนือ แล้วค่อยๆ บินเคลื่อนคล้อยไปยังจุดที่อยู่เหนือศีรษะของคนที่รออยู่ข้างล่าง

"สรุปแล้ว นั่นคือยานของสหายของพวกเธอ ใช่ไหม ?" แม่หมอฟรีด้าถามสองสามีภรรยา

"ใช่แล้วเจ้าค่ะแม่หมอ" สาวจอยตอบอย่างลิงโลด

"อย่างนั้นก็ดีแล้วจ้ะ แต่ฉันก็ขอรอดูต่อไปก่อน จนกว่าจะได้เห็นพวกเธอขึ้นไปบนยานแล้วเสียก่อน จึงจะกลับไป"

ฟรีด้ากล่าวเช่นนี้ เพราะนางยังไม่วางใจกับสถานการณ์ และคิดว่า หากมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น นางอาจจะช่วยเหลือได้

ยาน THE FUGITIVE บินมาลอยตัวนิ่งอยู่เหนือศีรษะของคนทั้งสาม จากนั้น กัปตันวันชนะจึงส่งวิทยุถามลงมา

"นั่นใครครับ ที่ยืนอยู่กับคุณสองคน ใช่แม่หมอฟรีด้าหรือเปล่า ?"

"ใช่ค่ะกัปตัน" สาวจอบตอบ "นางมาส่งเราสองคนน่ะค่ะ ประเดี๋ยวถ้ากัปตันรับเราสองคนขึ้นยานแล้ว นางก็จะกลับ"

"กลับไปไหนครับ ?" กัปตันถามด้วยความสงสัย "นางอยู่กับพวกเราที่โลโคเทียไม่ใช่เหรอ ? ให้นางขึ้นยานมาด้วยเลยสิครับ จะได้ไปพร้อมกัน"

"อ่า...มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้นางไปกับพวกเราไม่ได้ในตอนนี้ค่ะกัปตัน เอาไว้ขึ้นยานแล้ว จอยจะเล่าให้ฟัง เรื่องมันยาวค่ะ ดีเทลเยอะด้วยสิคะ แบบว่า ดราม่าสุดๆ อะ"

"งั้นหรือครับ ?" กัปตันย้อนถามพร้อมกับรู้สึกฉงน

"ใช่ค่ะ กัปตัน เอาตามนี้เถอะค่ะ รับจอยกับแซมขึ้นยานก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกทีนะคะ"

"อืม...โอเคครับ งั้นก็ได้ เตรียมตัวขึ้นยานครับ"

สองสามีภรรยาจึงประคองกอดกัน ยืนรออยู่ ณ จุดกึ่งกลางใต้ท้องยาน ครู่หนึ่งหลังจากนั้น ใต้ท้องยานก็เปิดช่องวงกลม ปล่อยลำแสงต้านแรงโน้มถ่วงลงมา ดูดคนทั้งสองขึ้นไป

ฟรีด้าพอเห็นเช่นนั้นก็วางใจ คิดว่าทั้งสองปลอดภัยแล้ว และคงจะไปพาสหายผู้เป็นแพทย์มาช่วยรักษาอาจารย์ของนางต่อไป ดังนั้นนางจึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นโบกให้กับยาน THE FUGITIVE แล้วกลับหลังหัน โดดลงไปในซอกหิน เพื่อกลับไปยังเกาะนิรนาม

และนั่นเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฝูงบินจากกองกำลังโลโคเทีย นำโดยอิบิคัส และเซบาสเต็นพากันบินมาถึงพอดี

"ท่านวันชนะ" อิบิคัสส่งสัญญาณวิทยุเข้ามาในยาน THE FUGITIVE "ท่านจะไปไหนแต่เช้า ? เหตุใดจึงขับยานมาทางนี้ โดยมิได้บอกกล่าวอะไรกับผู้ใดเลยสักคน ??"

"เอ้อ...ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านผู้นำชุมชน" กัปตันตอบกลับ "ข้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร ก็ยังรู้สึกมึนงง พิศวงสงสัยอยู่"

"อย่างนั้น แปลความหมายได้อย่างเดียวเท่านั้น" เซบาสเต็นกล่าวจากยานอีกลำหนึ่ง "ท่านถูกมนต์สะกดจากทางไกล สั่งให้ท่านขับยานมา และให้บินข้ามไปยังแดนจักรวรรดิ ดีที่พวกเรายังตามมาทันท่าน ไม่อย่างนั้น ท่านก็คงจะขับยานข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว"

"ในเมื่อได้พบท่านวันชนะแล้ว พวกเราทั้งหมดก็กลับกันเถิด" อิบิคัสชวนกลับ

"ตกลงขอรับ" กัปตันวันชนะตอบ แล้วยานของอิบิคัสกับเซบาสเต็นก็ออกบินนำหน้าไปก่อน

ฉับพลันทันใดนั้น โดยไม่มีใครคาดคิด กัปตันวันชนะ ได้ยินเสียงจากแดนไกลดังเข้ามาในหัวอีกครั้ง!

"วันชนะ...จงฟัง จงอยู่ในอำนาจของข้า และทำตามที่ข้าสั่ง!"

กัปตันวันชนะเปลี่ยนอาการผิดไปจากเดิมทันที เริ่มมีอาการเหงาหงอยเซื่องซึม หยุดชะงักความเคลื่อนไหว นั่งนิ่งอยู่อย่างเดียว ดวงตาเหม่อลอย!

แซมและสาวจอยเห็นกัปตันเปลี่ยนไปเช่นนั้นจึงรีบร้องเรียกเขา

"กัปตันครับ! เป็นอะไรไปอีก ตื่นตัวหน่อยครับกัปตัน!!"

"กัปตัน ตื่นค่ะตื่น! พยายามต่อสู้หน่อยนะคะกัปตัน!!"

"โอย..." เขาร้องออกมาพร้อมกับเอาสองมือยกขึ้นมากุมหัว

"สงสัยกัปตันคงบังคับยานไม่ได้แล้วมั้งเนี่ย แซม" สาวจอยกล่าวด้วยความกังวล

"งั้นให้กัปตันพักผ่อนก่อนดีกว่าครับ ผมขับยานเอง" แซมบอกกับเจ้านายแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองออก เดินเข้าไปหากัปตันวันชนะเพื่อจะขอให้ผู้เป็นเจ้านายลุกออกมาให้เขาทำหน้าที่แทนชั่วคราว

แต่ ปรากฏว่า กัปตันหันขวับมามองหน้าเขา และปฏิเสธเสียงแข็งกร้าว!

"อย่า! ไม่ต้องหรอกคุณแซม! ผมยังไหว คุณกลับไปนั่งที่ของคุณเถอะ คุณจอยก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวทุกอย่างก็จะเรียบร้อย!!"

แล้วเขาก็ขับยานบินตามหลังฝูงบินของอิบิคัสและเซบาสเต็นไปทันที

แซมกับจอยมองหน้ากันอีกครั้ง สาวจอยมีอาการหวั่นวิตก แต่แซมทำท่ายักไหล่

"คงไม่เป็นไรแล้วหละที่รักแบบนี้" แล้วเขาก็กลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งดูกัปตันวันชนะขับยานไป

ชั่วพริบตาเดียว สองสามีภรรยาก็แทบช็อก เมื่อเห็นกัปตันวันชนะทำท่าเหมือนกำลังจะต่อสู้กับอะไรบางอย่างข้างหน้า สองมือควานไปบนแผงควบคุมโดยพล่านไปทั่ว แล้วแซมก็ร้องออกมาเสียงดังลั่น

"เฮ้ยย !! กัปตัน !!!"

เพราะว่า THE FUGITIVE ได้สาดแสงเลเซอร์จากช่องปล่อยแสงรอบวงแหวนซึ่งหมุนรอบตัวเองรอบตัวยาน สาดกระหน่ำเข้าใส่ฝูงบินข้างหน้าเขา!

นั่นเป็นเพราะเขาถูกสะกดจิตควบคุมอย่างหนักจนไม่อาจเป็นตัวของตัวเองแล้ว!!

"วันชนะ...เจ้าอยู่ในอำนาจข้าแล้ว เป็นบริวารของข้าแล้ว บัดนี้ จงยิงยานบินข้างหน้าของเจ้าให้พินาศ แล้วกลับมาสู่จักรวรรดิ!!"

"ขอ..รับ..." เขาเอ่ยรับคำสั่งอย่างเซื่องซึม

แซมลุกพรวดพราดขึ้นทันที ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออกแล้วปรี่เข้าหาตัวกัปตัน เงื้อหมัดขวาขึ้นหมายจะน็อกผู้เป็นเจ้านายเสียก่อน เพราะเป็นวิธีเดียวที่เขานึกออกในตอนนี้!

แต่ก็ต้องเงื้อง่าค้างไว้ เพราะกัปตันหมุนเก้าอี้กลับมาเผชิญหน้ากับเขา พร้อมด้วยปืนเลเซอร์ในมือชี้มาที่ตัวเขา แสงไฟกะพริบด้านข้างอาวุธลำแสงมหาประลัยสว่างวาบๆ แสดงว่ามันสแตนด์บาย พร้อมยิง!!

"อย่าทำอะไรโง่ๆ แซม...กลับไปนั่งที่เดิม คาดเข็ดขัดให้แน่น เราจะกลับไปยังจักรวรรดิแอตแลนติสใต้กัน!!"

ขณะที่พูด กัปตันก็ตั้งค่ากำหนดคำสั่งให้ยาน THE FUGITIVE เข้าสู่โหมด ออโต้ ไพล็อต และโหมด ออโต้ แอทแท็ก !! ยิงเลเซอร์รอบยานโจมตีฝูงบินของโลโคเทียซึ่งขณะนี้กำลังระส่ำระสาย หลายลำถูกยิงเสียหายจนต้องรีบบินกลับ บางลำถูกยิงจนร่วง!

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่