"กัปตันวันชนะ และทุกคนในยาน THE FUGITIVE จงฟัง และปฏิบัติตามโดยทันที !!"

เสียงประกาศนั้นมาจากวิทยุสื่อสารของยานบินซึ่งเป็นผู้นำฝูงและบินนำหน้ายานลำอื่นๆ กับกำลังเผชิญหน้ายาน THE FUGITIVE อยู่ในขณะนี้

ทุกคนในยานหูผึ่งเมื่อได้ยิน เพราะนั่น คือเสียงของอดีต "ท่านผู้นำ" ของพวกเขา !!

"สมาชิกยาน THE FUGITIVE ทุกคนโปรดทราบ ขณะนี้ ไม่มีองค์กรกอบกู้อิสรภาพใดๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะว่า ทางผู้นำขององค์กร ได้รับทราบและตอบรับข้อเสนอของท่านผู้นำสูงสุดของกองทัพ นั่นคือ หลังจากองค์กรกอบกู้อิสรภาพยุติการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศ กับส่งมอบอากาศยานพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างแก่กองทัพแล้ว กองทัพจะให้มีการเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่งโดยเสรี ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. โดยนายกรัฐมนตรีนั้นจะมาจากไหนก็ได้ และจะให้ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแยกต่างหาก ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงโหวดในสภามากที่สุดจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น อดีตผู้นำขององค์กรกอบกู้อิสรภาพ หรือแม้แต่คุณวันชนะเอง ก็มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่เพียงแต่เท่านั้น หากท่านยินยอมหยุดการต่อสู้ และส่งมอบยาน THE FUGITIVE พร้อมทั้งอาวุธทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และอดีตผู้นำ หรือคุณวันชนะเอง หรือทั้งสองคน หากลงสมัครรับเลือกตั้ง ทางกองทัพ จะรับประกันตำแหน่งในรัฐบาลใหม่ให้ รวมทั้งสมาชิกทุกคนในยานด้วย แม้ถ้าหากว่าท่านไม่ได้รับการเลือกตั้ง ท่านก็จะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงซึ่งมีงานที่ท่านถนัด เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เปิดช่องไว้ว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกกระทรวง จะมาจากไหนก็ได้! นี่คือออฟชั่นพิเศษสุด ข้อเสนอที่ดีที่สุด ขอให้กัปตันวันชนะและทุกคนคิดใคร่ครวญให้ดีและหยุดต่อสู้กับกองทัพเสียเถิด สถานการณ์ต่างๆ จะได้สงบลง ไม่ต้องบานปลายไปถึงต่างชาติ ขณะนี้ นอกจากท่านถูกล้อมไว้ด้วยอากาศยานของกองทัพแล้ว ยังมีอากาศยานจากกองทัพอากาศของสามประเทศพันธมิตร คือ จีน เกาหลีเหนือ และอาหรับ เข้ามาร่วมด้วย รวมอากาศยานทั้งหมดนับพันๆ ลำ ยาน THE FUGITIVE ของท่านจะต้านทานได้หรือ ??? ยอมเสียเถิดกัปตันวันชนะ เพื่อความสงบ เพื่อสันติภาพ !!!"

สิ้นคำประกาศนั้น ทุกคนในยาน THE FUGITIVE ต่างหันไปมองกัปตันวันชนะเพียงจุดเดียว...

ไม่กี่วินาที กัปตันใจเพชรก็ให้คำตอบ "ไม่ !! ถึงแม้ว่าท่านอดีตผู้นำจะยอมแพ้ แต่ผม ไม่มีวันยอมแพ้ ขอสู้จนถึงที่สุด ให้ชาวโลกได้รู้กันไป ผมไม่สนใจด้วยว่าจะมีชาติไหนมาช่วยหรือไม่ ถ้าอยากมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา !!"

คำประกาศของกัปตัน กระชากใจสมาชิกทุกคนในยานอย่างที่สุด และนอกจากนั้นแล้ว ยังกระชากใจชาวโลกเป็นอันมากด้วย เพราะทั้งภาพและเสียงของเหตุการณ์ในขณะนี้ถูกถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมของสหรัฐฯ ยิงสัญญาณไปทั่วโลก !!

ผู้นำของประเทศมหาอำนาจหลายประเทศกำลังเฝ้าจับตามอง ยูเอ็นเปิดประชุมด่วนอีกครั้งและถกสถานการณ์กันอย่างเคร่งเครียด และความเครียดก็เพิ่มทวีคูณ เมื่อมีการลงมติใดๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือองค์กรกอบกู้อิสรภาพซึ่งขณะนี้เหลือเพียงกัปตันวันชนะและชาวคณะ THE FUGITIVE เท่านั้นแล้วมติซึ่งเป็นเอกฉันท์ทุกเรื่อง ถูกตัวแทนจากประเทศจีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรใช้สิทธิพิเศษ "วีโต้" คว่ำหมดทุกครั้ง !! ทำให้ทุกชาติพากันโจมตีจีนอย่างรุนแรง

"สมาชิกถาวรทั้งห้าประเทศมีสิทธิ์ที่จะใช้อำนาจยับยั้งการนำไปใช้ ก็จริงอยู่ แต่ต้องไม่ใช่การยับยั้งมติโดยรวม !!" ผู้แทนจากสหราชอาณาจักรกล่าวในที่ประชุม "แต่เท่าที่ผ่านมา ทุกท่านจะเห็นได้ว่า จีนซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวร ได้ใช้การวีโต้ต่อมติอันเป็นเอกฉันท์ของชาติสมาชิกมาตลอด เราไม่ได้ต้องการความขัดแย้ง แต่ต้องการความเป็นธรรม! เพื่อมนุษยธรรม!! ผมเห็นว่า เราไม่อาจนิ่งดูดาย ทนเห็นสามชาติผู้เผด็จการคือจีน เกาหลีเหนือ และอาหรับ รุมกินโต๊ะองค์กรกอบกู้อิสรภาพเพื่อประชาธิปไตยซึ่งบัดนี้เหลือสมาชิกเพียงสิบกว่าคนอยู่ในยาน THE FUGITIVE เพียงลำเดียวได้ !!"

"หมายความว่า ท่านพร้อมจะเปิดศึก ทำสงครามกับเราหรือ ???" ตัวแทนจากจีนตะโกนก้องสวนกลับ "สงครามโลกจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง สาเหตุเพราะคนเพียงสิบกว่าคนนั้น จะเอาอย่างนั้นหรือ ???"

"ในเมื่อสมาชิกส่วนใหญ่ต้องการช่วยพวกเขา อันที่จริงคือ ต้องการช่วยประเทศไทย! ผมก็สงสัย และเกรงว่า อาจจะเลี่ยงไม่ได้!!" ผู้แทนจากสหรัฐอเมริกากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เท่านั้นเอง ผู้แทนจากจีนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้ววอล์คเอาท์ ออกจากที่ประชุมทันที !!

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ฝูงบิน "ไฮเปอร์โทมาฮอค" จำนวนร้อยกว่าลำของสหรัฐฯ ซึ่งสแตนด์บายรอรับคำสั่งอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินในมหาสมุทรแปซิฟิคก็ได้รับคำสั่งด่วนจากประธานาธิปดี

"หากพวกเขาเริ่มยิงถล่มยาน THE FUGITIVE เมื่อไร ให้เข้าไปช่วย THE FUGITIVE เมื่อนั้น! ยิงอากาศยานทุกลำที่ยิง THE FUGITIVE !!"

ทางฝ่ายกองทัพ เมื่อได้ยินได้ฟังคำปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวของกัปตันวันชนะแล้ว ก็เห็นว่า กัปตันและชาวคณะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน จึงมีคำสั่งให้จัดการขั้นเด็ดขาด!

"ยิง THE FUGITIVE ให้ร่วง!! ฆ่าคนในยานให้หมด แล้วยึดยานมาให้ได้ !!!"

ทันทีที่สิ้นคำสั่งนั้น ยานสีดำทรงอินธนูของกองทัพอากาศทุกลำ ก็ยิงเลเซอร์กระหน่ำเข้าใส่ยาน THE FUGITIVE เป็นจุดเดียว !!

แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....แซ่ดดด.....

แต่ไม่มีลำแสงพิฆาตลำใดเจาะทะลุกำแพงบาเรียอันแข็งแกร่งของยาน THE FUGITIVE ได้แม้แต่น้อย ทันทีที่ลำแสงลำใดกระทบเข้ากับกำแพงบาเรีย ก็จะถูกหักเหออกไปเสีย และหักเหไปโดนพวกเดียวกันเองหลายลำ !!!

แต่ถึงกระนั้น เวลาของบาเรียที่จะคุ้มกันยานก็มีจำกัด หาใช่จะสามารถคุ้มกันได้ตลอดเวลาไม่ !!

"บาเรียจะคงอยู่อีกนานเท่าไร แอนดี้ ?" กัปตันถาม

"เราเพิ่งเปิดใช้งาน ปกติก็จะอยู่ได้ 6 ถึง 8 ชั่วโมงครับ แต่ถ้าถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักๆ หรือเลเซอร์ปริมาณมากๆ จากยานหลายๆ ลำพร้อมกันโดยไม่ขาดสายอย่างนี้ อย่างมากจะต้านทานไว้ได้ ไม่เกินสองชั่วโมงครับ เจ้านาย!"

"และถ้าเราจะยิงโต้ตอบ ก็จำเป็นต้องเปิดช่องเพื่อยิง ซึ่งก็จะถูกยิงสวนมา และลอดช่องที่เปิดได้" กัปตันกล่าวเสริม

แต่แล้ว...จากกระจกหน้าต่างยาน ทุกคนก็ได้เห็นภาพความเคลื่อนไหวแบบแปลกๆ ของเหล่ายานสีดำเหล่านั้น!

ยานหลายลำ เป็นคู่ๆ เริ่มเสียการควบคุม และวิ่งเข้าชนกันเอง ทีละคู่ๆ !!

เฟี้ยววว.....เฟี้ยวววว.....บึ้มมม !!!!.....เฟี้ยววว.....เฟี้ยวววว.....บึ้มมม !!!!.....เฟี้ยววว.....เฟี้ยวววว.....บึ้มมม !!!!.....

"เฮ้ย! มันเป็นบ้าอะไรกันน่ะ ??" สถาพรอุทานและเบิ่งตาจ้องมองด้วยความประหลาดใจ

ทุกคนก็จ้องมองและสงสัยไปตามๆ กัน...แต่พอมีคนสงสัย และหันไปมองจุดที่ตนสงสัย ก็ถึงบางอ้อ

"แอนนา !!" 

เอ็มม่า แม่ของเธอนั่นเองที่สงสัยและหันไปมอง ทุกคนในยานหันไปมองตาม จึงได้เห็นสาวน้อยมหัศจรรย์ กำลังใช้สองมือกวัดแกว่งไปมาในอากาศ นิ้วมือขยุ้มเหมือนคว้าจับอะไรไว้ ขณะที่สองตาเพ่งมองไปยังยานซึ่งอยู่ข้างนอก จับจ้องทีละสองลำ แล้วก็เอาสองมือที่ขยุ้มอยู่นั้นเข้ามาชนกัน ทันทีที่สองมือของเธอชนกัน ยานสองลำข้างนอกก็พุ่งชนกันระเบิดแหลกไปทุกครั้ง!

"แอนนา...พวกมันเยอะนะลูก" กัปตันเอ่ยเตือนลูกสาวสุดที่รัก "หนูจะต้องเหนื่อยและเสียพลังมากนะ"

"ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูสบายมาก มันส์ดีค่ะ!!" สาวน้อยหันมาตอบและยิ้มให้พ่อ แล้วก็ทำการ "จับนกชนนก" ของเธอต่อไป

"ยังไงก็....ถ้ารู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็พักบ้างนะลูก" เอ็มม่าบอกกับเธอ และเธอพยักหน้า

อากาศยานของกองทัพหลายสิบลำจึงถูกทำลายกลางอากาศ ด้วยน้ำมือของสาวน้อย ทีละคู่ๆ

"สุดยอดเลยว่ะ! ลูกสาวนายเนี่ย!" สถาพรกล่าวกับกัปตันวันชนะ "เธอได้เชื้อมาจากคุณแม่ของเธอใช่ไหมเนี่ย ?"

"ดูเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ของเธอเองนะเพื่อน เพราะเอ็มม่าก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษมากเหมือนอย่างเธอ"

"เป็นอย่างที่วันชนะบอกนั่นแหละค่ะ คุณสถาพร" เอ็มม่าช่วยเสริม "เค้าเป็นของเค้าเอง ฉันไม่เก่งอย่างเค้าหรอกค่ะ ทำได้แค่โทรจิตแบบธรรมดาเท่านั้น"

ทางศูนย์ควบคุมอากาศยานของกองทัพก็มึนกับเหตุการณ์ประหลาดซึ่งกำลังเกิดขึ้น ยานหลายลำรายงานกลับมาว่าเสียการควบคุมบังคับ ก่อนที่จะบินพุ่งชนยานอีกลำหนึ่งระเบิดกลางอากาศไป และไม่มีใครแก้ไขสถานการณ์นี้ได้

"มันเป็นห่าอะไรของมันวะ ???" ผู้บัญชาการทหารอากาศสบถด้วยความทั้งทึ่งและโมโห

"ท่านครับ..." พันเอกผู้ช่วยนายหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ ตัวเขาเอ่ยขึ้น "ผมคิดว่า ในยาน THE FUGITIVE น่าจะมีคนใช้พลังจิตอยู่ครับ!"

"งั้นเหรอ ?" ผบ.ทอ. ทึ่งหนักเข้าไปอีก "แล้วเราจะทำไงดี ? หาคนที่มีพลังจิตมาช่วย พอจะมีไหม ?"

"มีอยู่คนหนึ่งครับท่าน"

"ใครวะ ? และเขาอยู่ที่ไหน ?"

"ยูไล เกลเลอร์ ครับท่าน เขาถูกกักขังอยู่ในสภาพถูกแช่แข็ง ในเรือนจำพิเศษครับผม"

"อ้าว...แล้วเขาทำผิดอะไร ถึงได้ถูกจับไปแช่แข็งอย่างนั้น ?"

"เขาเป็นนักโทษการเมือง เป็นชาวอเมริกันลูกครึ่งอิสราเอล ถูกจับเมื่อตอนกวาดล้างผู้ชุมนุมครั้งใหญ่ครับผม ทหารของเรายิงเขาด้วยกระสุนยาสลบ แล้วนำเขามาแช่แข็ง เพราะเขาไม่ยอมร่วมมือกับพวกเราครับ"

"ถ้างั้น ไปปลุกให้เขาฟื้นขึ้นมา บอกเขาว่าเราจะให้เขาเป็นอิสระ และให้รางวัลเขาอย่างงาม ต้องการอะไรก็ได้ ขอให้เขามาช่วยจัดการกับคนมีพลังจิตในยาน THE FUGITIVE บ้านั่นให้ได้!!"

"ครับผม จะรีบไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ !!"

สิบนาทีต่อมา ชายชื่อ ยูไล เกลเลอร์ ก็ถูกพวกทหารนำมาส่งถึงในห้องบัญชาการที่ศูนย์ควบคุมอากาศยานในสภาพถูกจับใส่ปลอกเหล็กที่สองแขนสองขาและสะเอวยึดติดแน่นกับเก้าอี้ ซึ่งเป็นเก้าอี้ไฟฟ้า

"พวกนาย ต้องการห่าอะไรจากฉันวะ ??" ยูไลถามทันทีที่มาถึง

"เราต้องการให้นายช่วย" ผบ.ทอ. ตอบ

"ช่วยทำบ้าอะไร ?"

"จงดูยานลำนั้น" ผบ.ทอ. ชี้ไปบนฟ้านอกหน้าต่าง "ยานซึ่งเหมือนยูเอฟโอลำนั้นกำลังถูกพวกเราโจมตีอย่างหนัก แต่ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ มิหนำซ้ำ ยานหลายลำของพวกเรา ถูกคนมีพลังจิตคนหนึ่งในยานลำนั้นทำลาย...นายต้องช่วยเรา จัดการคนๆ นั้นเสีย! ฆ่ามัน ด้วยพลังจิตของนาย!! ถ้านายทำสำเร็จ เราจะปล่อยนาย และให้รางวัลแก่นาย นายต้องการอะไร อยากได้เงินเท่าไร บอกมาเลย!"

"แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะ ??" ยูไลพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนบาทา

"นายก็จะโดนไฟฟ้าช็อต!!" ผบ.ทอ. ขู่ "เก้าอี้ที่นายนั่งอยู่ตอนนี้ คือเก้าอี้ไฟฟ้า... IT WILL BURN YOUR ASS !!!"

"ฟัคคค !!!" หนุ่มผู้มีพลังจิตสบถ

"หึหึ...นายไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องช่วยเรา!!"

"โอเคๆ...แต่ฉันต้องตั้งราคาค่าจ้างทำงานนี่ก่อน!"

"ว่ามาเลย...นายอยากได้เท่าไร ?"

"อืมม....เว๋ลล์...ห้าสิบล้าน ยูเอส ดอลล่าร์นะเว้ย น็อท ฟัคเก้น เชียท ไทย บาท!!"

"ดีล !!!" ผบ.ทอ. ตอบตกลงทันที "เอาละ...เริ่มงานของนายได้แล้ว เดี๋ยวนี้เลย!"

"ฉันต้องใช้เวลา สแกนหาตัวคนๆ นั้นก่อนนะ"

"เอาเลยพวก! ตามสบาย"

ผบ. ทอ. ตอบแล้วถอยห่างออกมา ปล่อยให้ยูไลทำสมาธิ เพ่งมองไปที่ยาน THE FUGITIVE และเพียงไม่กี่วินาที เขาก็สัมผัสได้ซึ่งสาวน้อยมหัศจรรย์

"โอ้วว์.....มาย กูดเนสส!! A LITTLE GIRL !!! AMAZING !!!" เขาอุทานด้วยความทึ่ง

"หา....อะไรนะ เด็กผู้หญิงเหรอ ?" ผบ.ทอ. ถามด้วยความทึ่งเช่นเดียวกัน

"YESS !! I CAN'T BELIEVE HER SUPERPOWER !!! SO AWESOME !!!"

"จัดการเธอซะ! ฆ่าเธอให้ได้ !!!" ผบ. ทอ. รีบสั่งการ

"OH! MAN, SHE'S JUST A LITTLE LOVELY GIRL !!  HOW CRUEL YOU ARE !!!"

"I DON'T CARE !!!" ผบ.ทอ. กล่าวอย่างไม่ยี่หระ "KILL HER! NOW !!!"

"I'VE NEVER HURT SUCH A LITTLE GIRL LIKE HER BEFORE !! I CAN'T DO THAT !!!" ยูไลปฏิเสธเสียงแข็ง

ฉับพลันนั้น ผบ.ทอ. ก็พยักหน้าให้กับพันเอกคนนั้น และผู้พันนั้นก็คว้ารีโมทคอนโทรลมากดปุ่มชี้ไปยังเก้าอี้ที่ยูไลนั่งอยู่

แปร๊บบบบบบ....

"อ๊ากกกก !!!!"

นักพลังจิตหนุ่มร้องลั่นเหมือนวัวถูกเชือด เมื่อถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อตเข้าที่ก้น !!

(ต่อครับ)