ตัดสินใจอย่างไรดี การลาออกครั้งสุดท้าย

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆน้องๆชาว PANTIP ทุกท่าน จขกท.ตอนนี้กำลังสับสนและต้องการหาคำตอบเพื่อตัดสินใจ ในการลาออกครั้งสุดท้ายของชีวิตทำงานประจำด้วยวัย 36 ปี ประมาณ 1 เดือนกว่า ที่จขกท.ได้รับการตอบรับเข้าทำงาน ในตำแหน่งหัวหน้างาน ซึ่งก่อนยื่นใบสมัคร จขกท.ได้สอบถามรายละเอียดJob description ทุกๆข้อ เพื่อตรงกับงานและความสามารถประสบการณ์ที่มี และได้เริ่มทำงานวันแรก หัวหน้าจขกท.อธิบายโครงสร้างของแผนกและสายงานที่จขกท.ทำซึ่งจขกท.มีลูกน้อง 3 คน แบ่งเป็น 2 คน ช่วยงานส่วนหนึ่ง และ1 คนที่ช่วยอีกส่วน (นามสมมติ A) ที่จะอธิบายต่อไปนี้คือลูกน้อง A ก่อนที่จขกท.เข้ามาทำงาน มีการเปลี่ยนย้ายสายงาน จากเดิมหัวหน้าของน้อง A ที่ย้ายไปดูแลอีกส่วน แต่ในแผนกเดียวกับ จขกท. ส่วนจขกท.ได้มาดูงานส่วนน้อง A แทน แน่นอนต้องมีการสอนถ่ายงานกัน ซึ่งเป็นงานไม่ตรงกับ Job description ที่สมัคร ตอนสัมภาษณ์งานไม่พูดถึงงานสายนี้เลย และไม่ตรงกับสายที่จขกท.เรียนจบมา แต่ทุกอย่างคือการเรียนรู้ จขกท.สังเกต น้อง A ขาดลางานเป็นประจำ ทุกสัปดาห์ต้องมี2-3 วันที่ลา ป่วยบ้าง ติดธุระบ้าง หรือมาทำงาน แต่ขอออกไปธุระ ระหว่างวันบ้าง (การapprove ขาดลามาสาย ยังเป็นของหัวหน้าน้อง A คนก่อน) วันที่น้อง A ลา จขกท.ไม่สามารถติดต่อได้เลย ทั้งไลน์ โทรศัพท์ เพื่อถามเรื่องงานที่น้องทำอยู่ เราจะได้ตามงานต่อจนจบ งานที่เรามอบหมายให้ มีการบอกกล่าวต่อหน้า อธิบาย และการส่งเมลล์ แจ้งวันส่งมอบงานด้วยทุกครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่น้อง A ตอบกลับเมลล์ หรือแจ้งสถานะงานที่เราให้ทำ จนทุกครั้ง เมื่อเราโดนหัวหน้าตามงาน ถึงได้ทราบว่าน้องA ไม่มีการทำงานที่เรามอบหมายให้เลย ทำให้จขกท.รีบทำงานและส่งให้ทัน บางครั้งทำงานถึงเที่ยงคืน- ตีสอง เพื่อเคลียร์งานที่น้องทำไม่จบ หรือไม่ได้ทำ หมายเหตุ : ปกติหัวหน้าใหญ่มีความสนิทกับน้อง A งานที่หัวหน้าใหญ่ให้น้องทำ น้องจะส่งงานทุกครั้ง บ่อยครั้งที่จขกท. โดนหัวหน้าแผนกอื่นตำหนิรุนแรง เพราะน้องไม่ส่งงานต่อให้ แต่จขกท.ในฐานะเป็นหัวหน้าได้แต่รีบแก้ไขให้จบ จขกท.เคยขอปรึกษาพูดคุยกับหัวหน้าเรื่องนี้ หัวหน้าเองรู้ว่าน้อง A เป็นอย่างไร ทั้งการทำงานและขาดงาน เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ไม่ยอมเข้าประชุมในแผนกทุกเช้า  จึงเสนอให้ จขกท.ทำ แผนงานรวมทั้งหมด และสถานะงานเพื่อใช้tracking งานให้ทั้งทีมและตัวน้อง เพราะตำแหน่งของจขกท.คือดูแผนงานรวมและตามติดให้ได้ตามแผน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้อง A ยังคงลาปกติ จขกท.ร่างกายไม่ไหว เพราะอดหลับอดนอนมาหลายวัน เพื่อทำงานที่น้องไม่ได้ทำให้จขกท. จึงลาป่วย 2 วัน และขอทำงานที่บ้าน เพราะสามารถทำงานได้ ส่งเมลล์ตามงาน เหมือนปกติ รวมทั้ง ทำแผนงานสรุปทั้งหมด พบว่ามีงานที่ค้างไม่ตามต่อเยอะมาก (ที่เป็น main job ของน้องA ทั้งหมด)  จึงส่งเมลล์แจ้งทีม มีหัวหน้ารับทราบทุกครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จขกท.ทำงานปกติ ขอคุยกับหัวหน้าเพื่อแจ้งได้ส่งแผนงานแล้ว แต่หัวหน้าที่เป็นAssit. manager.ได้บอกให้จขกท.เคลียร์งานที่น้องเค้าไม่ทำ ให้จขกท.ทำเองแก้เองไปก่อน ไม่ต้องสนใจน้องเค้าแล้ว เพราะจะให้น้องเข้าโปรแกรม (90 วัน) แจ้งบอกกล่าวกับจขกท.เท่านั้น  แต่งานที่ค้าง จขกท.ไม่สามารถแก้ได้ทันที เพราะเป็นระบบของบริษัท ที่ต้องถามคนอื่นๆให้ช่วย ซึ่งน้องคนอื่นๆต่างทีมงาน ให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทุกคนน่ารักมาก ระหว่างพูดคุยกับ Assit manager ได้เล่าว่า หัวหน้าใหญ่ไม่พอใจที่จขกท.ลางาน และถึงกับไปบอก HR manager เพื่อให้จขกท.ออก ไม่อยากรับไว้แล้ว เพราะกลัวเป็นตัวอย่างไม่ดีกับลูกน้อง (ลางาน2 วัน) แต่ HR manager ไม่ยอม หัวหน้าใหญ่ได้ถาม Assit. manager ถ้าไม่มีจขกท. งานเดินได้ไหม ซึ่งตรงนี้จขกท. รู้สึกแย่ เพราะเราตั้งใจทำงาน ไม่รู้ก็ไม่อายที่จะถามคนอื่นๆ เพื่อให้งานสำเร็จ รวมทั้งแผนงานที่จขกท.ทำตามหัวหน้าแนะนำ สุดท้าย เราเองต้องแก้ไขงานที่น้อง A ไม่ทำและทำค้างทั้งหมดเอง หลังจากพูดคุยจบ Assit manager ฝากให้จขกท.ไปคิด ว่าจะอยู่ต่อหรือไม่ (ทดลองงาน 1 เดือนกว่า) วันนี้จขกท.อยากตอบคำถามกับตัวเอง เพราะเราเคยมีลูกน้องมาก่อนมากมาย เป็นครั้งแรกที่เราเจอแบบนี้ และรู้ว่าหัวหน้าแบบไหนที่ลูกน้องไม่ชอบ และเราจะไม่ทำแบบนั้น แต่วันนี้กับสิ่งที่เราเจอ การตัดสินเอาใครออกคนๆนึง คืออะไร จะวัด attendance หรือว่าผลงาน ถ้าคนๆนึง ไม่ได้ทั้งสอง บริษัทยังคงต้องการพนักงานแบบนี้หรือ เกิดคำถามเพื่อขอการตัดสินใจว่า จะอยู่ต่อหรือไป ถึงน้อง A เข้าโปรแกรมแล้ว แต่ความรู้สึกและทัศนคติจขกท.กับหัวหน้าคงไม่ตรงกันคงทำงานกันลำบาก เพราะการลางาน2 วัน ทำให้เป็นตัวอย่างที่ดูแย่มากจริงๆค่ะ  เพิ่มเติม : จขกท.ไม่ได้แต่งงาน แต่ที่บ้านมีธุรกิจ จึงอยากตัดสินใจกลับไปทำต่อที่บ้านแทนค่ะ. แต่การกลับไปทำงานประจำคงยากแล้วด้วยอายุแบบจขกท.ค่ะ