ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ตัวหนูเองไม่เคยทำงานโรงงานมาก่อน มาทำที่แรกก็เจอศึกหนักไปเลย หนูเองก็ศึกษามาเยอะก่อนจะเข้ามาทำงานที่โรงงานนี้ เลยรู้มาบ้างพอสมควรว่าต้องรับมือกับมันยังไง ประการแรกคือ อย่าเข้าไปตีสนิทกับพนักงานด้วยกันให้มาก คุยด้วยแต่ไม่ถึงขั้นต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน มาทำงานหนูก็มาคนเดียว กินข้าวก็กินคนเดียว ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกับใครเท่าไหร่ แต่ก็ยังมิวายโดนนินทาอยู่ดี เลยว่าตัวเองจะอยู่ในจุดๆนี้ไม่ได้เพราะมันเสียสมาธิในการทำงาน เราเป็นเด็กใหม่อยู่ เลยสามารถย้ายไปอยู่แผนกอื่นได้ ก็คือแผนกเดียวกันนั้นแหละ แต่ไปอยู่ที่ๆมีแต่พวกผู้ชาย กับทอม เลยค่อนข้างจะสบายใจขึ้นมาเยอะ พอทำงานได้สักพัก ก็คิดว่าตัวเองคงพ้นปัญหานั้นไปแล้วละ แต่ก็ยังมิวายมีปัญหามากวนใจอยู่บ่อยๆ คือ การทำงานของหัวหน้างาน ซึ่งเป็นผู้ชายอายุประมาณ40+ ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เขาจะเป็นคนคุมงานในส่วนห้องที่หนูอยู่ทั้งหมด แต่เหมือนเขาจะทำงานไม่ค่อยเป็น บริหารงานไม่ค่อยถูก วางแผนงานได้แย่สุดๆ งานของห้องนั้นมันเลยกลายเป็นไปว่าดูแย่มากๆ พอเรื่องถึงหัวหน้าแผนกปุ้บ เขาก็ลงมาตำหนิการทำงานของพวกหนูอยู่บ่อยๆ หัวหน้างานเองก็โดนมาไม่ใช่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาอยากจะปรับเปลี่ยนระบบงานใหม่ เขาก็ยังวางแผนงานแบบเดิมๆงานมันก็เลยไม่สมดุลกับฝ่ายอื่นๆ งานไม่พอมั้ง ช้ามั้ง ต่างๆนานา เราก็เลยเริ่มรู้สึกไม่ดี เพราะห้องนั้นเราอยู่กันอย่างพี่น้อง มีพี่คนนึงอายุราว30กว่าปี เขาจะโดนตำหนิหนักกว่าคนอื่น เพราะเขาถือว่าโตสุดในบรรดา6-7คนในห้องนั้น เราสงสารเขามากๆ เลยบอกให้เขาไปคุยกับหัวหน้างาน แต่เขากลัว+เกรงใจ หนูเลยตัดสินใจว่าจะเป็นคนไปพูดเอง ก็เลยถือโอกาสตอนที่เขามาแบ่งงานให้ เรากะไว้แล้วละว่าเขาจะต้องวางงานเหมือนทุกวัน พอวางงานเสร็จ เราก็ยกมือเลย แล้วถามไปว่า 'ขอโทษนะคะ หนูขอพูดอะไรหน่อยนะคะ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนในห้องนี้เขาไม่กล้าพูด ที่เราโดนตำหนิอยู่ทุกวัน ก็เพราะว่าการวางแผนงานแบบเดิมๆ หนูอยากให้พี่ลองวางแผนงานใหม่ดู ให้มันbalanceกับฝ่ายอื่นๆดูอะค่ะ "พอเราพูดเสร็จ เขาก็แสดงสีหน้า ท่าทาง แบบไม่พอใจเรา เหมือนเรากำลังสอนเขา แต่ที่เราทำก็เพื่อจะเป็นผลดีต่อตัวเราและเขาเองก็เหมือนกัน เขายอมเปลี่ยนระบบการทำงานแต่เขาให้เราเป็นคนทำเอง แต่เราก็ให้พี่ๆในห้องช่วยๆกันคิดว่าจะทำยังให้งานมันทันกับฝ่ายอื่นๆ สุดท้ายเราก็ทำมันสำเร็จ พองานสำเร็จแล้วไม่โดนตำหนิ หัวหน้า เหมือนเขาไม่พอใจผลงานที่ไม่ได้มาจากตัวเอง เขาก็เอาเราไปพูดให้คนในแผนกที่อยู่ฝ่ายอื่นๆ เขาไปเล่าเรื่องเราเชิงเสียๆหายๆ ทั้งที่เราก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จนคนก็เอาเราไปเมาท์ไม่เลิก สุดท้ายเราทนพิษปากคนไม่ไหว เลยตัดสินลาออกมา แต่ก่อนจะเดินออกมาวันนั้น ได้บอกเขาต่อหน้าคนหลายๆคนว่า 'ถ้าทำงานไม่เป็นก็อย่าเป็นหัวหน้าคนอื่นเลย เดือดร้อนลูกน้องเปล่าๆ แล้วเราก็พูดต่อไปอีกว่า หลังจากที่หนูออกมา พี่จะอยู่ที่นี้ได้ไม่เกิน3เดือนแน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ สุดท้ายเขาก็ออกมา เพราะการกระทำของตัวเอง
สังคมโรงงาน มีที่ไหนให้มากกว่าที่นี่ไหมค่ะ?