เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เรารู้ตัวมานานแล้วว่าเราเริ่มแปลกไปมันเริ่มที่เด็กๆเราต้องเจออะไรมามากมายเรื่องที่มันทำให้ความรู้สึกของเรา

ติดลบ พอโตมาเรื่อยๆก็มีเรื่องต่างๆอีกมากมายเข้ามาถาถม จนเราเริ่มที่จะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวอารมณ์แปรปวนไม่สามารถอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนเยอะ เราไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้น ยิ่งที่มีเสียงดังหรือเสียงรบกวนมันทำให้เราปี๊ดแตกมาก จนเราไม่สามารถทำงานได้ นั่งทำงานอยู่ดีๆเครื่องน็อคนิ่งไปครึ่งวันไม่มีกะจิตกะใจทำงานนั่งอยู่หน้าคอมไปวันๆ จนเราเป็นอย่างนี้มา1อาทิตย์จากเมื่อก่อนเต็มที่แค่2-3วัน เมื่อก่อนเราสามารถดูหนังฟังเพลงเล่นกีฬาก็หายรู้สึกเศร้าไม่อยากทำอะไรแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เราสามารถทำพวกนั้นได้แล้ว เราเลยตัดสินใจคุยกับครอบครัวว่าเราหนะอยากไปหาหมอ แต่ครอบครัวไม่เคยเข้าใจอะไรเราเลยพูดออกมาแค่วันๆไม่ทำอะไรอยู่แต่ในห้องไม่พูดกับใครเลย กลับมาก็อยู่กับตัวเอง ตอนนั้นเราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เราได้ระเบิดออกมา ความรู้สึกตอนนั้นมันทรมาณมากอ่า

แบบไรวะคนที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดทำไมเขา ไม่พูดกับเราว่าไม่เป็นไรนะลูกเดี่ยวลองไปหาหมอด้วยกัน แต่สิ่งที่เราได้ยินมันทำร้ายจิตใจเรามากภาพเก่าในสมัยก่อนย้อนกลับมาหมด เราอยู่กับพ่อแม่อยู่ด้วยกัน3คน ตอนเด็กกเราเหมือนเด็กคนอื่นแหละที่เล่นซนตามประสาแต่นั้นมันคือเราในตอนอยู่ต่างจังหวัด เราไม่เคยได้อิสระภาพเลยตั้งแต่ที่เราย้ายมาอยู่กับพ่อแม่ที่กรุงเทพเราจำได้ตอนนั้นเรา4ขวบเพราะเราพึ่งอนุบาล1 วันหยุดเราไม่สามารถออกไปไหนได้จากที่เคยออกไปเล่นกับเด็กรุ่นเดียวกัน กลายมาเป็นได้แต่นั่งมองออกไปริมหน้าต่างดูพวกนั้นวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ช่วงปิดเทอมพ่อแม่เราทำงาน แม่ออกตั้งแต่ตี5 พ่อจะออกไปทำงานตอน8โมง โดยทิ้งตัวเราให้อยู่ในบ้านคนเดียวโดยมีข้าว1จานและประตูบ้านก็ถูกล็อคกุญแจอยู่ข้างนอก เราไม่สามารถออกไปไหนได้ เมื่อถึงเวลาเที่ยงพอจะแวะเอาอาหารมาให้จากนั้นก็ล็อคกุญแจให้เราอยู่แต่ข้างใน เหมือนเรา

เป็นนักโทษเราไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ปิดเทอมเหล่านั้นได้เลย พ่อจะกลับมาจากงานตอน6โมงเย็น แม่จะกลับมาตอน2ทุ่ม ทั้งวันเราได้แต่นั่งอยู่ในบ้านนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างได้แต่คิดว่าทำไมเราถึงไม่เหมือนเด็กคนอื่น กลับมาพ่อแม่ก้จะทะเลาะกันบ่อยแทบทุกวันจนเราต้องเดินออกไปนอกบ้านนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน บางครั้งเราได้ห่มผ้าห่มอยู่ในห้องแล้วร้องให้ทั้งน้ำตาเราต้องทนอย่างนี้มาตลอดจนถึงป.6 พอ เราเริ่ม ม.1เราเริ่มเถลไถลตามประสาเด็กติดเพื่อนติดอะไรต่างๆนาๆเราเริ่มที่กลายเป็นคนก้าวร้าว พอกลับบ้านมาที่ไรมีแต่เสียงด่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้ตลอดเป็นประจำ แต่เราในช่วงปิดเทอมก็ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนเดิมแต่ไม่ได้โดนล็อคกุญแจไว้แล้ว เราสามารออกไปข้างนอกได้แล้ว แต่ตัวเรากลับไม่กล้าออกไปข้างนอกเลยด้วยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ในแต่ละวันเราต้องทนเสียงด่าเสียงว่ามาตลอด เราไม่เคยได้ยินคำว่าเป็นไงบ้างวันนี้สักครั้งทุกครั้งที่กลับบ้านมาจะมีแต่เสียงด่าตลอดได้ไปสร้างเรื่องอะไรไว้ไหมวันนี้ เรา

โครตดิ่งแต่ก็ทำได้แค่หน้านิ่งเดินกลับไปร้องไห้ที่ห้องภาพเหล่านั้นมันย้อนมาทำร้ายเรามันทำให้เราคิดต่างๆนาๆเราตัดสินใจเดินออกจากบ้านหยิบกระเป๋าไปสะพานพุธตอนนั้นเราคิดอย่างเดียวว่าอยากตายไปให้พ้นๆโลก ตอนที่เราอยู่บนสะพานเราตัดสินใจแล้วว่าจะโดดเราเตรียมเทปมาไว้มัดมือแล้วเตรียมที่จะปิดปากตัวเองแล้วโดดลงไป แต่ตอนนั้นด้วยอะไรที่ก็ไม่รู้ในตอนที่เรากำลังใช้ปากพันเทปมัดมือตัวเองจู่ๆก็มีคนเข้ามาแล้วเขาก็พูดว่า เมื่อก่อนเขาก็คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนกันแต่เขายังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ แล้วเขาก็บอกมาว่าถ้าเธอตัดสินใจเราก็จะไม่ห้ามหรอกเขารู้ว่าความรู้สึกที่แต่ละคนแบกรับไว้มันพูดออกมาอธิบายให้หมดได้ ในตอนนั้นเราได้หยุดคิดแล้วหัวเราะทั้งน้ำตา ว่าเราจะร้องไห้ทำไมในเมื่อเราอยากตายให้พ้นหน้าพ่อแม่ แต่ภาพพ่อแม่ก้ลอยมาในความคิดเราเสมอคนที่ทำร้ายเราคนที่ด่าว่าเราคนที่ไม่เคยเข้าใจในตัวเราทำไมเรายังต้องแคร์พวกเขา จากนั้นเราก็หันไปเพื่อจะพุดคุยกับคนนั้นแต่ตอนเราหันไปเราไม่เห็นใครหันซ้ายก็ไม่เจอหันขวาก็ไม่มีใครใจเราในตอนนั้นคิดได้แค่ว่า คงเป็นคนที่เคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่าแล้วเขาอยากจะเตือนเราอันนี้ใครไม่เชื่อเราไม่ว่านะแต่เราคิดได้แค่นั้นจริงๆ จากนั้นเราก็กลับมาที่หอพักเราแล้วไปหาหมอคนเดียวตามลำพัง ผลตรวจออกมาหมอบอกเราป่วยจริงต้องกินยาปรับสมดุลแล้วมาหาหมอเรื่อยๆตามติดอาการ ตอนนี่เราอยู่มหาลัยปี3 ตลอดเวลาที่อยู่หอพักตั้งแต่ปี1มา ตั้งแต่การมีเพื่อนในสมัยมัธยมกับในมหาลัยเรารู้สึกเหมือนกันเลยว่าเราไม่สามารถไว้ใจใครได้ เพราะเพื่อนเราตั้งแต่มัธยมเราเชื่อใจใครเราจะเล่าเรื่องของเราทุกอย่าง แต่สุดท้ายทุกครั้งมันต้องจบที่เรื่องเขาเราถูกบอกต่อจากคนที่เราไว้ใจตลอด แม้กระทั่งครั้งหนึ่งเราเคยไปกับเพื่อนอีก6คนหลังเลิกเรียนเดินไปหางานพาททามตามห้าง จนมีกลุ่มวัยรุ่น3คนเข้ามาหาเรื่องในมือพวกนั้นมีขวาน1อันนอกนั้นอีก2คนน่าจะเป็นมีด พวกนั้นให้เราส่งของมีค่าไปแต่เราได้กระซิบบอกเพื่อนว่าค่อยๆถอยหลังพอให้สัญญาณรีบวิ่งข้ามถนน แต่เราได้แค่พูดแค่ว่าค่อยๆ คำเดียวเพื่อนเราอีก6คนวิ่งข้ามถนนโดยทิ้งเราให้ยืนอยู่คนเดียวตอนนั้นใจเรา

ปวดร้าวมากทำได้แค่วิ่งตามไปแต่ต้องบอกก่อนตอนนั้นเราโชคดีมากเพราะมีคนขับรถเขาเห็นเหตุการณ์แล้วเขาก็ได้ขับรถปาดหน้าพวกนั้นไม่ให้ตามเราทัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรามีเพื่อนก้เหมือนว่าเราก็ถูกทำร้ายจิตใจตลอด คนที่บอกว่ามีอะไรก็โทรมาคุยได้ ปรึกษาได้กุเพื่อน คนเหล่านั้น

ไม่มีอยู่จริง 1 เดือน

ก็ไม่รับสายไม่ตอบแชทเรา และมันก็เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนตอนนี้เราอยู่ ปี3 แล้ว เราต้องเจอทั้งเรื่องเรียนเรื่องงานเรื่องเพื่อนๆต่างๆนาๆในทุกวัน เราอยู่ตัวคนเดียวตลอดไม่เคยมีใครรักเราไม่มีใครห่วงใยเลย เราแค่อยากจะรู้ว่าไม่มีใครที่จะอยู่กับเราจริงๆเหรอแค่เราทักไปกุเหนื่อยตรงนี้หว่ะ กุเจอสิ่งนี้มา คนเหล่านั้นมันหายไปหมด แต่พอเรื่องของมันกลับโทรมาปรึกษาเรา

ก้โง่ทนรับฟังเรื่องราวทุกคนแต่

ไม่เคยมีใครรับฟังเรื่องเราเลย พอเรามีความรักเรา

ก้เป้นคนผิดหวังตลอดคนที่คุยกันมาเป็นปี

ก็เมาไปขอไลน์คนอื่น ไปกอดคนต่อหน้าต่อตา เดินจับมือกัน

น่าตลกป่ะชีวิตเรา พอเราพยายามออกมา

ก็ยังกลับมาให้เรากลับไปอยู่ในจุดที่ต้องทนอยู่ไปโดยไม่รู้ว่าทำไม พออีกคนเราก็อยู่ด้วยอย่างจริงใจแม้แต่อยู่ในห้องหรือไปไหนด้วยกัน2คน หรือดุหนังด้วยกันดึกดื่นเป็น10รอบ เราก็ไม่เคยโดนตัวเลยสักครั้งสุดท้าย

ก็ไปคบคนอื่น พอโดนเขาทิ้งก็มาร้องไห้กับเรา เราต้องเจอแบบนี้มาตลอดจนตอนนี้ เราแค่อยากรู้ว่ามีใครบ้างไหมที่จะอยู่กับเราตอนอ่อนแอตอนไม่มีใคร หรือมีสถานที่ที่ให้คนอย่างเราอยู่บ้าง เพราะตอนนี้เราอยู่ไหนก็ไม่เคยมีความสุขเลย ได้แต่คิดอยากตายไปวันๆแต่

ก้มีภาพพ่อแม่ลอยมาตลอดทั้งที่เขาทำให้เราเสียใจมาตลอดมันน่าตลกไหมล่ะ
สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามันต้องเหนื่อยกับการใช้ชีวิตที่อยากตายไปแต่ก็ทำไม่ได้ มันต้องเจออะไรมากมายขนาดนี้เลยเหรอ?