
หลังจากที่ทีมงาน Pantip Garage เราได้ รีวิว Subaru Forester ล็อตแรก ประกอบไทยไปตั้งแต่ช่วง 3 เดือนที่แล้ว
สามารถอ่านรีวิวได้ที่
https://pantip.com/topic/38916661

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ TC Subaru ได้จัดกิจกรรม เชิญสื่อทดสอบ ระบบ Eyesight บน Subaru Forester ใหม่ กันอีกครั้ง ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์
และในครั้งนี้ทางทีม Pantip Garage เราก็จะขอมาเล่าให้ฟังกับ ระบบช่วยเหลือ ที่เรียกได้ว่าเป็น "ตา" ของรถกันว่าจะเป็นเช่นไร
โดยในคราวนี้ เราจะไม่มารีวิว Subaru Forester คันนี้ซ้ำ เพราะรีวิวไปแล้ว จึงจะขอโฟกัสเข้าที่ Eyesight เพียงอย่างเดียว

สำหรับรถที่ทาง Subaru ได้นำมาให้ทดสอบในครั้งนี้ รุ่นท็อป Forester 2.0i-S Eyesight ราคา 1,450,000 บาท

เชื่อว่า หลายคน คงไม่รู้จัก ระบบ Eyesight คืออะไร?
มันคือ ระบบช่วยการตรวจจับวัตถุ โดยใช้กล้องคู่หน้ารถ 2 ตัว ที่ติดตั้งอยู่กระจกบานหน้ารถ (บริเวณขนาบข้างกระจกมองหลัง)
เข้ามาทำหน้าที่เปรียบเสมือนดวงตาของรถ นำภาพที่จับได้มาประมวลผล ซึ่งจะจับภาพแบบสี 3 มิติ ที่มีความละเอียดใกล้เคียงกับสายตามนุษย์มากที่สุด มาวิเคราะห์ และทำงานร่วมกับ 6 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่
ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking),
ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management),
ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control),
ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert),
ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning)
ระบบเตือนเมื่อขับรถส่าย (Lane Sway Warning)

อย่างไรก็ดีกล้องก็ยังมีขอบข่ายในการตรวจจับวัตถุหน้ารถที่มีความสูงในช่วง 1-2 ม. หากวัตถุเตี้ยไปอย่างสัตว์เล็ก นั้นจะไม่สามารถจับได้

ซึ่งการทำงานจากการทดสอบ โดยการจำลองสถานการณ์ ให้รถขับเคลื่อนตัวออกไป และมีจังหวะจอดหยุดนิ่ง
ระบบ Eyesight จะทำงานร่วมกับระบบ
Adaptive Cruise Control ที่ช่วยชะลอความเร็ว รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
ตามสเกลที่เราตั้งระยะห่างเอาไว้ และเมื่อมีการเคลื่อนออกตัวก็จะเร่งความขึ้นไปตามจุดที่ตั้งไว้
ในขณะที่รถติดในเมือง ก็จะเป็นลักษณะ Stop & Go เมื่อรถคันหน้าจอดหยุดนิ่ง Eyesight ก็จะมาช่วยหยุดรถให้เองตามคันหน้า และเมื่อคันหน้าออกตัวไปรถก็จะเคลื่อนที่ออกตัวตามไป จนไปถึงความเร็วที่กำหนด (สามารถเซ็ทได้ไม่เกิน 180 กม./ชม.)
อย่างไรก็ดี เราไม่ได้ทดสอบ จริงบนถนน ซึ่งคาดว่า ถ้ารถอยู่ในโค้ง อาจมีความเป็นไปได้ที Eyesight อาจจะจับ Detect คันหน้าไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในระนาบตรง ซึ่งอย่างไรก็ดี ถ้าใช้บนถนนจริง ไม่ควรประมาทครับ ต้องลองดูระยะประคองพวงมาลัย และรักษาระยะเบรกกันเองด้วย

ขณะที่ระบบ
Pre-Collision คือ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ป้องกันไม่ให้เกิดการชน ซึ่ง ข้างหน้าได้จำลองเป็นรูปบั้นท้ายรถ Forester เมื่อปล่อยให้รถไหลเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และใกล้จะชน รถจะเบรกให้เองอย่างหนักหน่วงจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง
Subaru บอกว่าระบบนี้ Pre-Collision ของ Eyesight นี้ เทียบกับคู่แข่งญี่ปุ่นแบรนด์อื่นๆ Subaru มีขอบเขตในการทำงานที่กว้างกว่า
คือ ใช้ได้ที่ความเร็ว 0-180 กม./ชม.
อย่างไรก็ดี ทาง Subaru บอกว่า ระบบ Pre-Collision นี้ จะทำงานแค่ 3 ครั้ง เท่านั้น
เพราะ Subaru บอกเหตุผลว่า หากผู้ขับปล่อยให้ ระบบนี้ทำงานถึง 3 ครั้ง นั่นหมายความว่าไม่พร้อมที่จะขับขี่แล้ว
หากต้องการจะให้ระบบ Pre-Collision มาช่วยทำงานอีก จะต้องดับเครื่อง ติดเครื่องยนต์ใหม่เพื่อรีเซ็ทระบบ

ด้านระบบช่วยอื่นๆ อย่าง
ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management)
นั้นจะเป็นระบบตัดกำลังเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถตรวจจับได้ว่ามีวัตถุ หรือสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหน้า และผู้ขับดันใส่เกียร์ D โดยยังเหยียบคันเร่ง
ระบบจะส่งสัญญาณเสียง และไฟกระพริบแจ้งเตือนที่หน้าจอ พร้อมตัดกำลังเครื่องยนต์ ชั่วขณะ (ราว 2 วินาที)
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ในกรณีเผลอไปเหยียบคันเร่ง นั่นเอง
ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning)
เมื่อกล้องตรวจจับได้ว่าเราขับรถออกจากช่องทางเดินรถ โดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว นั่นหมายความว่า เรามีการขับออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งใน Subaru Eyesight นี้จะทำหน้าที่แค่เตือน และส่งเสียงสัญญาณเท่านั้น ไม่มีการดึงพวงมาลัยกลับเข้ามาเหมือนอย่างรถค่ายอื่น
สรุปแล้ว รีวิว ระบบ Subaru Eyesight ใน Forester 2.0i-S Eyesight ที่มีราคา 1,450,000 บาท คันนี้
หากเทียบกับ Forester 2.0 S มันแพงขึ้นอีก 7 หมื่น ได้ระบบ Eyesight เข้ามา
เพื่อนๆ ลองดูครับว่า คุ้มค่าราคาหรือไม่ นะครับ
เพราะบางคนอาจมองว่าระบบช่วยเหล่านี้ไม่จำเป็น เมื่อผู้ขับมีสติตลอดเวลา
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน มันเป็นอะไรที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และถ้ามันเกิดขึ้น
การตีมูลค่าความเสียหายก็อาจจะแพงกว่า 7 หมื่นบาท
ดังนั้น ถ้าเงินถึง ไม่ได้เดือดร้อนสตางค์มาก หากตั้งใจจะซื้อ Subaru Forester ทั้งที
จัดเต็มไว้ก่อนก็ถือว่าน่าจะคุ้มค่า และอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งครับ

สำหรับราคา 2019 Subaru Forester ใหม่ มีดังนี้
Subaru Forester 2.0i-L ราคา 1,330,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S ราคา 1,380,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S Eyesight ราคา 1,450,000 บาท

เพื่อนๆ สามารถติดตามกระทู้ข่าว Subaru เพิ่มเติมได้ที่
https://pantip.com/tag/subaru
และ รถ SUV ได้ที่
https://pantip.com/tag/suv
[SR] รีวิว Eyesight "ตา" ช่วยตรวจจับวัตถุ ของ Subaru Forester จะช่วยจริงได้แค่ไหนกัน
หลังจากที่ทีมงาน Pantip Garage เราได้ รีวิว Subaru Forester ล็อตแรก ประกอบไทยไปตั้งแต่ช่วง 3 เดือนที่แล้ว
สามารถอ่านรีวิวได้ที่ https://pantip.com/topic/38916661
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ TC Subaru ได้จัดกิจกรรม เชิญสื่อทดสอบ ระบบ Eyesight บน Subaru Forester ใหม่ กันอีกครั้ง ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์
และในครั้งนี้ทางทีม Pantip Garage เราก็จะขอมาเล่าให้ฟังกับ ระบบช่วยเหลือ ที่เรียกได้ว่าเป็น "ตา" ของรถกันว่าจะเป็นเช่นไร
โดยในคราวนี้ เราจะไม่มารีวิว Subaru Forester คันนี้ซ้ำ เพราะรีวิวไปแล้ว จึงจะขอโฟกัสเข้าที่ Eyesight เพียงอย่างเดียว
สำหรับรถที่ทาง Subaru ได้นำมาให้ทดสอบในครั้งนี้ รุ่นท็อป Forester 2.0i-S Eyesight ราคา 1,450,000 บาท
เชื่อว่า หลายคน คงไม่รู้จัก ระบบ Eyesight คืออะไร?
มันคือ ระบบช่วยการตรวจจับวัตถุ โดยใช้กล้องคู่หน้ารถ 2 ตัว ที่ติดตั้งอยู่กระจกบานหน้ารถ (บริเวณขนาบข้างกระจกมองหลัง)
เข้ามาทำหน้าที่เปรียบเสมือนดวงตาของรถ นำภาพที่จับได้มาประมวลผล ซึ่งจะจับภาพแบบสี 3 มิติ ที่มีความละเอียดใกล้เคียงกับสายตามนุษย์มากที่สุด มาวิเคราะห์ และทำงานร่วมกับ 6 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่
ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking),
ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management),
ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control),
ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert),
ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning)
ระบบเตือนเมื่อขับรถส่าย (Lane Sway Warning)
อย่างไรก็ดีกล้องก็ยังมีขอบข่ายในการตรวจจับวัตถุหน้ารถที่มีความสูงในช่วง 1-2 ม. หากวัตถุเตี้ยไปอย่างสัตว์เล็ก นั้นจะไม่สามารถจับได้
ซึ่งการทำงานจากการทดสอบ โดยการจำลองสถานการณ์ ให้รถขับเคลื่อนตัวออกไป และมีจังหวะจอดหยุดนิ่ง
ระบบ Eyesight จะทำงานร่วมกับระบบ Adaptive Cruise Control ที่ช่วยชะลอความเร็ว รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
ตามสเกลที่เราตั้งระยะห่างเอาไว้ และเมื่อมีการเคลื่อนออกตัวก็จะเร่งความขึ้นไปตามจุดที่ตั้งไว้
ในขณะที่รถติดในเมือง ก็จะเป็นลักษณะ Stop & Go เมื่อรถคันหน้าจอดหยุดนิ่ง Eyesight ก็จะมาช่วยหยุดรถให้เองตามคันหน้า และเมื่อคันหน้าออกตัวไปรถก็จะเคลื่อนที่ออกตัวตามไป จนไปถึงความเร็วที่กำหนด (สามารถเซ็ทได้ไม่เกิน 180 กม./ชม.)
อย่างไรก็ดี เราไม่ได้ทดสอบ จริงบนถนน ซึ่งคาดว่า ถ้ารถอยู่ในโค้ง อาจมีความเป็นไปได้ที Eyesight อาจจะจับ Detect คันหน้าไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในระนาบตรง ซึ่งอย่างไรก็ดี ถ้าใช้บนถนนจริง ไม่ควรประมาทครับ ต้องลองดูระยะประคองพวงมาลัย และรักษาระยะเบรกกันเองด้วย
ขณะที่ระบบ Pre-Collision คือ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ป้องกันไม่ให้เกิดการชน ซึ่ง ข้างหน้าได้จำลองเป็นรูปบั้นท้ายรถ Forester เมื่อปล่อยให้รถไหลเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และใกล้จะชน รถจะเบรกให้เองอย่างหนักหน่วงจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง
Subaru บอกว่าระบบนี้ Pre-Collision ของ Eyesight นี้ เทียบกับคู่แข่งญี่ปุ่นแบรนด์อื่นๆ Subaru มีขอบเขตในการทำงานที่กว้างกว่า
คือ ใช้ได้ที่ความเร็ว 0-180 กม./ชม.
อย่างไรก็ดี ทาง Subaru บอกว่า ระบบ Pre-Collision นี้ จะทำงานแค่ 3 ครั้ง เท่านั้น
เพราะ Subaru บอกเหตุผลว่า หากผู้ขับปล่อยให้ ระบบนี้ทำงานถึง 3 ครั้ง นั่นหมายความว่าไม่พร้อมที่จะขับขี่แล้ว
หากต้องการจะให้ระบบ Pre-Collision มาช่วยทำงานอีก จะต้องดับเครื่อง ติดเครื่องยนต์ใหม่เพื่อรีเซ็ทระบบ
ด้านระบบช่วยอื่นๆ อย่าง ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management)
นั้นจะเป็นระบบตัดกำลังเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถตรวจจับได้ว่ามีวัตถุ หรือสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหน้า และผู้ขับดันใส่เกียร์ D โดยยังเหยียบคันเร่ง
ระบบจะส่งสัญญาณเสียง และไฟกระพริบแจ้งเตือนที่หน้าจอ พร้อมตัดกำลังเครื่องยนต์ ชั่วขณะ (ราว 2 วินาที)
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ในกรณีเผลอไปเหยียบคันเร่ง นั่นเอง
ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning)
เมื่อกล้องตรวจจับได้ว่าเราขับรถออกจากช่องทางเดินรถ โดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว นั่นหมายความว่า เรามีการขับออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งใน Subaru Eyesight นี้จะทำหน้าที่แค่เตือน และส่งเสียงสัญญาณเท่านั้น ไม่มีการดึงพวงมาลัยกลับเข้ามาเหมือนอย่างรถค่ายอื่น
สรุปแล้ว รีวิว ระบบ Subaru Eyesight ใน Forester 2.0i-S Eyesight ที่มีราคา 1,450,000 บาท คันนี้
หากเทียบกับ Forester 2.0 S มันแพงขึ้นอีก 7 หมื่น ได้ระบบ Eyesight เข้ามา
เพื่อนๆ ลองดูครับว่า คุ้มค่าราคาหรือไม่ นะครับ
เพราะบางคนอาจมองว่าระบบช่วยเหล่านี้ไม่จำเป็น เมื่อผู้ขับมีสติตลอดเวลา
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน มันเป็นอะไรที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และถ้ามันเกิดขึ้น
การตีมูลค่าความเสียหายก็อาจจะแพงกว่า 7 หมื่นบาท
ดังนั้น ถ้าเงินถึง ไม่ได้เดือดร้อนสตางค์มาก หากตั้งใจจะซื้อ Subaru Forester ทั้งที
จัดเต็มไว้ก่อนก็ถือว่าน่าจะคุ้มค่า และอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งครับ
สำหรับราคา 2019 Subaru Forester ใหม่ มีดังนี้
Subaru Forester 2.0i-L ราคา 1,330,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S ราคา 1,380,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S Eyesight ราคา 1,450,000 บาท
เพื่อนๆ สามารถติดตามกระทู้ข่าว Subaru เพิ่มเติมได้ที่ https://pantip.com/tag/subaru
และ รถ SUV ได้ที่ https://pantip.com/tag/suv
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม