ผมรบกวนท่านผู้รู้บาลี..ด้วยครับ ผมสงสัยคำว่า จิตจึงดำรงอยู่ นั้นแปลผิด...ท่านพอที่จะเฉลยให้ได้ไหมครับ...ขอบคุณครับ

 สำหรับผม...ผมได้ข้อสรุปจากข้อแนะนำและคห. ต่างๆจากท่านทั้งหลาย..ว่า..4 พระสูตร ที่ปรากฎในฉบับหลวงนั้น
  ได้แปล...และถ่ายทอดอรรถตรงตาม..คำพระศาสดา..ทุกประการ....ผมขอกล่าวสาธุการแก่ท่านเหล่านั้น.....ครับ

  เหตุผล...ตาม คหท 32 ครับ

========================================ข้อความเดิม=========================================
ผมรบกวนท่านผู้รู้บาลี..ด้วยครับ ผมสงสัยคำว่า จิตจึงดำรงอยู่ นั้นแปลผิด...ท่านพอที่จะเฉลยให้ได้ไหมครับ...ขอบคุณครับ

ปล. ผมเห็นว่า(คิดเอง)ไม่ควรใช้คำว่าจิตอีก   ใช้คำว่า " เพราะหลุดพ้นแล้ว จึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่ "

..............................................................................................................................................................................
เพราะหลุดพ้นแล้ว จิตจึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่ จึงยินดีพร้อม เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตนเท่านั้น 
ภิกษุนั้น ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

จิตฺตํ   วิรตฺตํ   วิมุตฺตํ   โหติ   อนุปาทาย   อาสเวหิ   ฯ  
วิมุตฺตตฺตา ฐิตํ    ฐิตตฺตา    สนฺตุสิตํ    สนฺตุสิตตฺตา    น   ปริตสฺสติ   อปริตสฺสํ ปจฺจตฺตญฺเญว    ปรินิพฺพายติ    ฯ    
ขีณา   ชาติ   วุสิตํ   พฺรหฺมจริยํ กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=1007&Z=1024
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
พบหนึ่งพระสูตรครับ  ที่ไม่บอกว่าจิตเป็นผู้ดำรงอยู่

================================================                              
                                               ๒. พีชสูตร        
    
...........ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราจักบัญญัติการมา การไป จุติ อุปบัติ
หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณ เว้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.  

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ถ้าความกำหนัดในรูปธาตุ  ในเวทนาธาตุ  ในสัญญาธาตุ  ในสังขารธาตุ  ในวิญญาณธาตุ
เป็นอันภิกษุละได้แล้วไซร้......
                                   -> เพราะละความกำหนัดเสียได้
                                   -> อารมณ์ย่อมขาดสูญ
                                   -> ที่ตั้งแห่งวิญญาณย่อมไม่มี
                                   -> วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้น ไม่งอกงาม ไม่แต่งปฏิสนธิ หลุดพ้นไป
                                   -> เพราะหลุดพ้นไป จึงดำรงอยู่
                                   -> เพราะดำรงอยู่ จึงยินดีพร้อม
                                   -> เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง
                                   -> เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตนเท่านั้น.

เธอย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.


...วิญฺญาณธาตุยา  เจ  ภิกฺขเว  ภิกฺขุโน ราโค   ปยิ้มโน   โหติ   ราคสฺส   ปหานา   โวจฺฉิชฺชตารมฺมณํ  ปติฏฺฐา๔ วิญฺญาณสฺส  น  โหติ  ฯ  
ตทปฺปติฏฺฐิตํ  วิญฺญาณํ  อวิรูฬฺหํ  อนภิสงฺขจฺจ ๑
วิมุตฺตํ    วิมุตฺตตฺตา     ฐิตํ     ฐิตตฺตา     สนฺตุสิตํ    สนฺตุสิตตฺตา น    ปริตสฺสติ    อปริตสฺสํ    ปจฺจตฺตญฺเญว   ปรินิพฺพายติ   ฯ  
ขีณาุ ชาติ ฯ เปฯ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=1220&Z=1246
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่