"แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทยกะเหรี่ยงรามัญ สารพันธรรมชาติ

อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก"

       สวัสดีค่ะ😊😊 กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรา ขอเกริ่นก่อนว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนชอบเที่ยวจริงๆ ก็อยากทำกระทู้แนวรีวิวท่องเที่ยวในพันทิพหลายครั้งแล้ว ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นเหมือนกับไดอารี่ แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำสักที ไม่รู้ว่าจะเขียนไงให้น่าสนใจ การถ่ายรูปก็กาก ประกอบกับแต่ละทริปก็จะมีดีเทลเยอะ ความจำก็สั้นประหนึ่งปลาทอง เลยขี้เกียจเขียนไปซะงั้น (condition เยอะมากกกก) ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะตั้งกระทู้รีวิวนี้ดีมั้ย แต่รอบนี้เพื่อนเชียร์อัพมาก งั้นลองเขียนดูก็ได้ ไม่ลองเขียนก็ไม่รู้เนอะ กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรา ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้เลย เจ้าของกระทู้พร้อมจะนำไปปรับปรุงค่ะ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย💛

       มะเงยระอาว เป็นคำทักทายภาษามอญ แปลว่าสวัสดี สังขละบุรี ดินแดนสุดแคว้นตะวันตก เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้มา จุดเริ่มต้นทริปนี้มาจากการที่เพื่อนจองที่พักไว้กับแฟน แต่แฟนเพื่อนไม่สะดวกไป เราเลยคือบุคคลผู้โชคดีนั้น (ถ้าเพื่อนเห็นข้อความนี้ ใช่ เราเองแหละ🤣🤣) เราไปกับเพื่อน 2 คน วางแผนกันแค่ไม่กี่วันแล้วไปเลย ทริปนี้เป็นทริปชิลๆ 2 วัน 1 คืน ตั้งงบไว้ 2000 บาท (ตอนเขียนก็ไม่รู้ว่างบเกินมั้ย) เริ่มกันเลย!!

🌄DAY 1 : SAT 27 JULY 2019 ออกเดินทาง Let’s Go!

       🚗เรากับเพื่อนนัดเจอกันตอน 8:00 น. ที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) ค่ะ (มันคือคิวรถตู้ที่จอดใต้ทางด่วนฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2) เรานั่งรถมินิบัสของวินกาญจนบุรีเอ็กซ์เพรส สายกรุงเทพ-กาญจนบุรี ราคา 120 บาท (ซื้อได้ที่ช่อง D8) จริงๆในตั๋วเป็นรอบ 9:30 น. แต่เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวเยอะ เราเลยได้ออกก่อนเวลา ได้ออกตอน 8:30 น. โชคดีมากก

       พอประมาณเที่ยงเราก็มาถึงขนส่งกาญจนบุรี จากที่อ่านรีวิวให้หารถเมล์ร้อนสีส้มเขียนว่าไปสังขละบุรี เรากับเพื่อนตัดสินใจกันตั้งแต่ก่อนจะมาว่าเราจะนั่งรถเมล์หวานเย็นในตำนานกัน โชคดีมากที่รอบที่เรานั่งตอนเที่ยงนั้นเป็นรอบสุดท้ายที่จะไปสังขละบุรีพอดี ไม่งั้นทริปพังกันตั้งแต่ตรงนี้แล้ว (กราบในแต้มบุญนี้🙏🙏) คือตั้งแต่เช้าเราสองคนยังไม่ได้กินอะไร เลยไปขอความรักความเมตตาจากคุณลุงกระเป๋ารถเมล์ว่าพวกหนูขอไปหาไรกินก่อนได้มั้ย แล้วพวกหนูจะรีบกลับมา คุณลุงรอหนูด้วยนะ และรีบข้ามฝั่งไปซื้อเซเว่นแล้วรีบกลับมาเลยค่ะ กลัวตกรถ (ในรูปเป็นรถเมล์ที่เรานั่งแต่อันนี้เป็นช่วงแวะพัก  ตอนอยู่ที่ขนส่งไม่ได้ถ่ายมา รีบค่ะ😅😅)

       พร้อมออกเดินทางกันค่ะ ค่ารถ 130 บาท มีหลายคนเหมือนกันที่ไปลงสังขละบุรี นั่งกันไปยาวๆๆๆ 200 กว่ากิโล หลับไป 3 ตื่นก็ยังไม่ถึง นั่งจนรากงอก นั่งจนเมื่อยก้น นั่งจนเดินไม่เป็น พอประมาณ 15:30 น. เค้าจะแวะพักที่ทองผาภูมิประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วเดินทางต่อ และในที่สุดก็มาถึงสังขละบุรีตอน 17:30 น.

       ใช่ค่ะ เราใช้เวลาทั้งวันในการเดินทาง เวลาที่เดินทางทั้งหมดเท่ากับเวลาที่ทำงานเลยค่ะคู้นนนน!! 😱😱ถ้าใครจะมาเที่ยวก็กะเวลากันให้ดีๆนะคะ แต่จริงๆมีหลายวิธีนะคะที่จะไปสังขละบุรี นั่งรถตู้จากกรุงเทพไปหมอชิต แล้วนั่งรถตู้ต่อไปสังขละบุรีก็ได้ นั่งรถทัวร์โดยสารจากกรุงเทพไปด่านเจดีย์สามองค์ของบขส.999 ลงที่จุดจอดสังขละบุรีมาต่อเดียวเลยก็ได้ หรือจะนั่งรถไฟมาก็ได้ค่ะ แต่เราอยากนั่งแบบหวานเย็น นั่นแหละค่ะ ล่อไป 5 ชั่วโมงกว่า slow life สุดๆไปเล้ยย😅😅 เพราะฉะนั้นวันนี้เลยจะไม่ค่อยได้เที่ยวไหน ก็ไปแค่สะพานมอญตอนเย็นและเดินถนนคนเดินเท่านั้น

      🏡คืนนี้เราพักกันที่ Coffee Berry เป็นที่พักบวกกับร้านกาแฟในที่เดียวกัน เป็นร้านน่ารักๆ ขนาดกำลังดี ราคาก็ไม่ได้สูงมาก ที่พักตกแต่งให้ดูน่ารัก เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่แบ็คแพ็คมาเที่ยว ถ้าใครจะไปเที่ยวช่วงหยุดยาวแบบนี้ที่สังขละบุรีที่พักว่างๆหายากมาก แต่เพื่อนจองได้! แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าไว้ดีกว่าค่ะ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ ต้นไม้รายล้อมเยอะมากกก ที่นี่อยู่กึ่งกลางระหว่างตลาดและสะพานมอญ ห่างจากตลาดและสะพานมอญด้านละประมาณ 500 เมตร สามารถเดินไปได้ทั้งสองที่ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว 

       เราเลือก ไม่สิ เพื่อนเลือกพักที่ Sky Zone เป็นโซนที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นเหมือนบ้านสองชั้น เราพักชั้นสองชื่อห้องว่าห้อง Sky การขึ้นก็จะลำบากนิดนึงตรงที่ทางขึ้นเป็นบันไดเหล็กเล็กและแคบ ขึ้นลงต้องระวังเพราะอาจจะลื่นได้ ห้องพักทุกห้อง มีแอร์ พร้อมน้ำอุ่นไว้ให้บริการ มี Free Wi-Fi เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อสื่อสารกับโลกโซเชียล แต่ที่นี่ไม่มีทีวีนะคะ และราคานี้ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ

       ภายในห้องตกแต่งด้วยสีฟ้าตามชื่อห้อง Sky เลย มีการวาดรูปน่ารักๆ ตามผนังห้องด้วย ส่วนห้องน้ำเป็นแบบ outdoor อาบน้ำมันก็จะมีความเขินๆหน่อยๆ😅😅

       ✨Highlight of Sangklaburi ใครมีเวลาตามเก็บโลด

       📸วันนี้สะพานมอญตอนเย็น คึกคักกันมากๆ สะพานมอญ มีอีกชื่อว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ ถือเป็นไฮไลต์ของอำเภอสังขละบุรี และเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในไทย สร้างเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมๆ กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสะพานที่เสมือนเป็นตัวเชื่อมวัฒนธรรมของชาวมอญและไทย บนสะพานก็จะมีน้องๆเดินเข้ามาทักทายเป็นระยะๆ

"ปะแป้งมั้ยคะพี่"

"พี่ทราบประวัติสะพานมอญยังครับ"

"ถ่ายรูปกับหนูได้นะคะพี่"

      🥣ตกเย็นเราตั้งใจจะไปเดินถนนคนเดิน วันนี้ต้องได้กินหมูจุ่มพม่า!! ถนนคนเดินที่นี่ไม่ได้ใหญ่มาก หมูจุ่มพม่าของเด็ดเมืองสังขละบุรี recommend เลยใครมาสังขละบุรีควรลองกิน ตอนเราไปกำลังคึกคักเลย  ร้านนี้อร่อย ชื่อร้าน "มูมู หมูจุ่มพม่า" สูตรดั้งเดิมจากพม่า คนแม่หั่นหมูไม่หยุด คนลูกเสิร์ฟมือเป็นระวิง ตอนแรกเข้าใจว่าหมดแล้ว เพราะไม่มีเสียบไม้ แต่ความจริงคือเสียบไม้ไม่ทัน ต้องกินกันเป็นถ้วยๆ ถ้าเป็นไม้ก็ไม้ละ 2 บาท ถ้าเป็นถ้วยก็ 50 มี 2 น้ำจิ้ม จิ้มกับซีฟู้ดและน้ำจิ้มส้มๆอะไรไม่รู้อีกอย่าง อร่อยสมคำร่ำลือ ยิ่งกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดคือเด็ด!!👍 เข้าใจว่ารสชาติจะเหมือนพะโล้ แต่ความจริงมันเหมือนต้มยำมากกว่า หมูจุ่มคือเอาหัวหมู เนื้อหมู หรือเครื่องในส่วนต่างๆ มาต้มไว้ก่อนกับเครื่องต้มยำใส่เครื่องเทศอะไรสักอย่างให้ได้กลิ่นเครื่องเทศหน่อยนึง บอกเค้าได้ว่าจะเอาส่วนไหน ข้อเสียคือระหว่างกินจะมีพลังงานบางอย่างจากนักท่องเที่ยวรุมล้อมไว้กดดันเราให้รีบอิ่มรีบลุกไปซะ😅😅 ค่าข้าวมื้อนี้ 2 คนหมดไป 140 บาท