บังเอิญค้นหาข้อมูลใน Google แล้วดันไปเห็นเว็บไซต์ isaanrecord.com เออ น่าสนใจดี เข้าไปอ่าน
แต่อ่านไปอ่านมา กลับพบว่านักเขียนบางท่าน ย้ำนะว่าบางท่าน เขียนในทำนองที่ว่า ประเทศไทย เป็น “โจนสะหยาม” เหมือนกับที่คนใน สปป.ลาว ถูกปลูกฝังให้เรียกประเทศไทย
(เมืองศรีสะเกษ ประเทศสาธารณรัฐลาวล้านช้าง จะเขียนอยู่ในส่วน ข้อมูลผู้แต่ง ด้านล่างของบทความ ดูเผิน ๆ ก็แค่เรื่องตลก ๆ แต่หลังได้อ่านบทความของนักเขียนท่านนี้ กลับรู้สึกถึงความแปลกแยก)
อย่างบทความนี้
https://isaanrecord.com/2018/06/04/prince-damrong-lies/
จั่วหัวบทความก็เอาซะ เหมือนมีความเครียดแค้นเหลือเกิน ประวัติศาสตร์ก็คือประวัติศาสตร์ เรื่องราวประวัติศาสตร์ทุกยุคทุกสมัย ต่างแต่งขึ้นมาเพื่อเหตุผลบางประการทั้งสิ้น ไม่เว้นแต่พงศาวดารเรื่อง ขุนบรม ของชาวลาว
ไม่จำเป็นที่ผู้เขียนต้องมาตีโพยตีพาย เคียดแค้น ให้เสื่อมเสียความเป็นนักเขียนเลย
”
หมายเหตุ: บทความนี้เรียก “สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” สั้นๆ ว่า “ดำรง” และไม่ใช้ราชาศัพท์ เพื่อเรียกบุคคลด้วยนามอื่นที่ผู้เรียกมองว่าถูกต้องกว่า เช่นเดียวกับที่เจ้าชายดำรงได้ลบชนชาติลาวออกไปจากพื้นที่ใต้การปกครองสยาม กลายเป็น “คนไทยมิใช่ลาว””
อย่างน้อย คุณเป็นนักเขียน ที่น่าจะมีการศึกษา สามารถเขียนลงสื่อสาธารณะแบบนี้ได้ ก็ควรวางตัวให้เหมาะสม แต่ถ้าเว็บบี้เป็นบล็อกส่วนตัว คุณจะเขียนอะไรก็เรื่องของคุณ (Editor ปล่อยบทความแบบนี้ลงเว็บได้อย่างไรหว่า)
หรือจะบทความนี้
https://isaanrecord.com/2017/11/03/esania-sector-nine/
“เมื่อรู้ว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้กรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ คนอีสานอย่างเราๆ หลายคนคงแอบนึกสะใจว่าสิ่งนี้จะทำให้ศูนย์กลางอำนาจต้องถึงคราวล่มสลายซะแล้ว ถ้าไม่ใช่ในเร็ววันนี้ ยังไงๆ เวลานั้นก็ไกลโขจากวันที่ทะเลจะขึ้นมาแตะถึงขอบอีสานได้ คงเป็นโมเมนต์ทำนอง “กรรมตามทัน” น่าดู ถ้าที่ราบสูงนี้มีระดับสูงกว่ามหานครนั้นทั้งโดยความหมายตามตัวและความหมายโดยนัย”
เรื่องนิยาย “ESANIA” ไม่ได้เป็นประเด็นนะครับ แต่จั่วหัวของบทความนี้ ที่ส่อถึงเจตนาของผู้เขียนบทความ ที่ดันเหมารวมคนอีสาน ให้เห็นตรงกับเจตนาของตนเอง ที่ไม่รู้ว่าเกลียดบางกอก เกลียดไทย อะไรนักหนา แช่งให้ล่มสลาย จม ๆ น้ำไปซะ ถือว่าเวรกรรมตามทัน ผมก็ไม่รู้ว่ากรุงเทพไปทำเวรทำกรรมอะไรกับใครเค้าเอาไว้ น่าสงสารบางกอกเมืองน้ำรอระบายเสียจริง
ผมก็เข้าใจนะครับว่า สื่ออินเตอร์เน็ต ใครจะเขียนอย่างไรก็ได้ แต่สื่อนี้เป็นสื่อที่ตั้งขึ้นในรูปแบบทางการ (หรือเปล่า) มีบรรณาธิการคอยตรวจสอบเนื้อหาก่อนเผยแพร่ ไม่น่าจะปล่อยให้บทความแบบนี้ ของนักเขียนท่านนี้ ออกมาเผยแพร่บนสื่อของตนเองได้
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ที่เป็นสื่อกลางให้กับคนอีสาน ในการเผยแพร่วัฒนธรรมอีสานให้คนภาคอื่นได้รับรู้ แต่บทความ ๒ บทข้างต้น (และบทอื่น ๆ อีก) กลายเป็นบทความที่เจือความเกลียดชัง เจือความอาฆาต
ดูที่เจตราของนักเขียนท่านนี้ ก็รู้แล้วว่า อยากสร้างประเทศล้านช้างเสียเหลือเกิน
ขัดกับจุดประสงค์ของเว็บไซต์นี้เสียเหลือเกิน ที่กล่าวว่า
“ปัจจุบัน ภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีฐานะยากจนที่สุดในประเทศไทยและมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 21 ล้านคน ประชาชนคนอีสานต้องการแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อประเด็นสังคมและการเมือง แต่ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลักมากเท่าที่ควร ดังนั้นเดอะ อีสาน เรคคอร์ด จึงหวังอย่างยิ่งที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวอีสานโดยทำหน้าที่รายงานข่าวการเคลื่อนไหวของผู้คนในระดับรากหญ้าที่กำลังต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมอยู่ขณะนี้ เดอะ อีสานเรคคอร์ดทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวจากภูมิภาคแห่งนี้ด้วยความหวังว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย”
ผมเป็นคนภาคกลาง พูดภาษาไทยกลาง ภรรยาเป็นคนอีสาน พูดภาษาอีสาน (เว้าลาว) ตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ ไม่เคยมีความคิดดูถูกคนอีสานเลย รู้สึกอิจฉาด้วยซ้ำว่า พูดได้ทั้งสองแบบ ฟังได้ทั้งสองแบบ ทั้งไทยทั้งเว้าลาว คนภาคกลางอย่างผม ลิ้นแข็ง หูก็แข็ง ฟังคนภาคอื่นเค้าคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ เค้าหลอกด่ายังไม่รู้เรื่องเลย
แต่ถึงอย่างไรก็คนไทยด้วยกัน หรือเอาเข้าจริง ไทย ลาว ต่างก็พูดภาษาตระกูลเดียวกัน วัฒนธรรมคล้าย ๆ กัน และก็ยังดีใจมากด้วย ที่ประเทศของเรา “ประเทศไทย” เป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรม ทุกวัฒนธรรมต่างผสมกลมเกลียว แยกออกจากกันยาก ซึ่งหาได้ยากในโลกใบนี้
และผมอยากจะบอกคุณนักเขียนท่านนี้ว่า แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเชื้อชาติอะไร แต่ที่แน่ ๆ คนไทยที่อยู่ในประเทศไทยทุกวันนี้ ไม่มี ไทย100% ลาว100% หรอก ทุกคนต่างมีชาติพันธุ์ผสมผสานกันมาทั้งนั้น และผมก็เชื่อว่า คุณเองก็ใช่จะเป็นลาวบริสุทธิ์ 100% หรอก จริงไหม ลางทีคนกรุงเทพบางคน อาจมีความเป็น “ลาว” ในชาติพันธุ์มากกว่าคุณเสียอีก
จบล่ะครับ ขอบ่นเล็กน้อย
“เมืองศรีสะเกษ ประเทศสาธารณรัฐลาวล้านช้าง” พูดไม่ออก กับแนวคิดของนักเขียนบางท่าน ที่เกลียดไทยแต่เขียนภาษาไทย
แต่อ่านไปอ่านมา กลับพบว่านักเขียนบางท่าน ย้ำนะว่าบางท่าน เขียนในทำนองที่ว่า ประเทศไทย เป็น “โจนสะหยาม” เหมือนกับที่คนใน สปป.ลาว ถูกปลูกฝังให้เรียกประเทศไทย
(เมืองศรีสะเกษ ประเทศสาธารณรัฐลาวล้านช้าง จะเขียนอยู่ในส่วน ข้อมูลผู้แต่ง ด้านล่างของบทความ ดูเผิน ๆ ก็แค่เรื่องตลก ๆ แต่หลังได้อ่านบทความของนักเขียนท่านนี้ กลับรู้สึกถึงความแปลกแยก)
อย่างบทความนี้
https://isaanrecord.com/2018/06/04/prince-damrong-lies/
จั่วหัวบทความก็เอาซะ เหมือนมีความเครียดแค้นเหลือเกิน ประวัติศาสตร์ก็คือประวัติศาสตร์ เรื่องราวประวัติศาสตร์ทุกยุคทุกสมัย ต่างแต่งขึ้นมาเพื่อเหตุผลบางประการทั้งสิ้น ไม่เว้นแต่พงศาวดารเรื่อง ขุนบรม ของชาวลาว
ไม่จำเป็นที่ผู้เขียนต้องมาตีโพยตีพาย เคียดแค้น ให้เสื่อมเสียความเป็นนักเขียนเลย
”หมายเหตุ: บทความนี้เรียก “สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” สั้นๆ ว่า “ดำรง” และไม่ใช้ราชาศัพท์ เพื่อเรียกบุคคลด้วยนามอื่นที่ผู้เรียกมองว่าถูกต้องกว่า เช่นเดียวกับที่เจ้าชายดำรงได้ลบชนชาติลาวออกไปจากพื้นที่ใต้การปกครองสยาม กลายเป็น “คนไทยมิใช่ลาว””
อย่างน้อย คุณเป็นนักเขียน ที่น่าจะมีการศึกษา สามารถเขียนลงสื่อสาธารณะแบบนี้ได้ ก็ควรวางตัวให้เหมาะสม แต่ถ้าเว็บบี้เป็นบล็อกส่วนตัว คุณจะเขียนอะไรก็เรื่องของคุณ (Editor ปล่อยบทความแบบนี้ลงเว็บได้อย่างไรหว่า)
หรือจะบทความนี้
https://isaanrecord.com/2017/11/03/esania-sector-nine/
“เมื่อรู้ว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้กรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ คนอีสานอย่างเราๆ หลายคนคงแอบนึกสะใจว่าสิ่งนี้จะทำให้ศูนย์กลางอำนาจต้องถึงคราวล่มสลายซะแล้ว ถ้าไม่ใช่ในเร็ววันนี้ ยังไงๆ เวลานั้นก็ไกลโขจากวันที่ทะเลจะขึ้นมาแตะถึงขอบอีสานได้ คงเป็นโมเมนต์ทำนอง “กรรมตามทัน” น่าดู ถ้าที่ราบสูงนี้มีระดับสูงกว่ามหานครนั้นทั้งโดยความหมายตามตัวและความหมายโดยนัย”
เรื่องนิยาย “ESANIA” ไม่ได้เป็นประเด็นนะครับ แต่จั่วหัวของบทความนี้ ที่ส่อถึงเจตนาของผู้เขียนบทความ ที่ดันเหมารวมคนอีสาน ให้เห็นตรงกับเจตนาของตนเอง ที่ไม่รู้ว่าเกลียดบางกอก เกลียดไทย อะไรนักหนา แช่งให้ล่มสลาย จม ๆ น้ำไปซะ ถือว่าเวรกรรมตามทัน ผมก็ไม่รู้ว่ากรุงเทพไปทำเวรทำกรรมอะไรกับใครเค้าเอาไว้ น่าสงสารบางกอกเมืองน้ำรอระบายเสียจริง
ผมก็เข้าใจนะครับว่า สื่ออินเตอร์เน็ต ใครจะเขียนอย่างไรก็ได้ แต่สื่อนี้เป็นสื่อที่ตั้งขึ้นในรูปแบบทางการ (หรือเปล่า) มีบรรณาธิการคอยตรวจสอบเนื้อหาก่อนเผยแพร่ ไม่น่าจะปล่อยให้บทความแบบนี้ ของนักเขียนท่านนี้ ออกมาเผยแพร่บนสื่อของตนเองได้
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ที่เป็นสื่อกลางให้กับคนอีสาน ในการเผยแพร่วัฒนธรรมอีสานให้คนภาคอื่นได้รับรู้ แต่บทความ ๒ บทข้างต้น (และบทอื่น ๆ อีก) กลายเป็นบทความที่เจือความเกลียดชัง เจือความอาฆาต
ดูที่เจตราของนักเขียนท่านนี้ ก็รู้แล้วว่า อยากสร้างประเทศล้านช้างเสียเหลือเกิน
ขัดกับจุดประสงค์ของเว็บไซต์นี้เสียเหลือเกิน ที่กล่าวว่า
“ปัจจุบัน ภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีฐานะยากจนที่สุดในประเทศไทยและมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 21 ล้านคน ประชาชนคนอีสานต้องการแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อประเด็นสังคมและการเมือง แต่ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลักมากเท่าที่ควร ดังนั้นเดอะ อีสาน เรคคอร์ด จึงหวังอย่างยิ่งที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวอีสานโดยทำหน้าที่รายงานข่าวการเคลื่อนไหวของผู้คนในระดับรากหญ้าที่กำลังต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมอยู่ขณะนี้ เดอะ อีสานเรคคอร์ดทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวจากภูมิภาคแห่งนี้ด้วยความหวังว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย”
ผมเป็นคนภาคกลาง พูดภาษาไทยกลาง ภรรยาเป็นคนอีสาน พูดภาษาอีสาน (เว้าลาว) ตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ ไม่เคยมีความคิดดูถูกคนอีสานเลย รู้สึกอิจฉาด้วยซ้ำว่า พูดได้ทั้งสองแบบ ฟังได้ทั้งสองแบบ ทั้งไทยทั้งเว้าลาว คนภาคกลางอย่างผม ลิ้นแข็ง หูก็แข็ง ฟังคนภาคอื่นเค้าคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ เค้าหลอกด่ายังไม่รู้เรื่องเลย
แต่ถึงอย่างไรก็คนไทยด้วยกัน หรือเอาเข้าจริง ไทย ลาว ต่างก็พูดภาษาตระกูลเดียวกัน วัฒนธรรมคล้าย ๆ กัน และก็ยังดีใจมากด้วย ที่ประเทศของเรา “ประเทศไทย” เป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรม ทุกวัฒนธรรมต่างผสมกลมเกลียว แยกออกจากกันยาก ซึ่งหาได้ยากในโลกใบนี้
และผมอยากจะบอกคุณนักเขียนท่านนี้ว่า แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเชื้อชาติอะไร แต่ที่แน่ ๆ คนไทยที่อยู่ในประเทศไทยทุกวันนี้ ไม่มี ไทย100% ลาว100% หรอก ทุกคนต่างมีชาติพันธุ์ผสมผสานกันมาทั้งนั้น และผมก็เชื่อว่า คุณเองก็ใช่จะเป็นลาวบริสุทธิ์ 100% หรอก จริงไหม ลางทีคนกรุงเทพบางคน อาจมีความเป็น “ลาว” ในชาติพันธุ์มากกว่าคุณเสียอีก
จบล่ะครับ ขอบ่นเล็กน้อย