
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เตยได้มีโอกาสไปทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน ต้องขอบคุณ อ้นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข ที่นอกจากจะอยู่ข้างๆ ให้คำปรึกษา ให้สติ ในหลายๆ ปัญหาที่ผ่านมาในชีวิตแล้วยังชวนไปเล่นดิน...ในครั้งนี้ด้วยกัน

เริ่มจากการตั้งเป้าของเราสองคนว่าเราจะมีความสุข ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน ไม่ต้องนึกถึงอะไรเดิมๆ เราเลยอยากหา activity อะไรทำเพลินๆ แล้วอยู่ๆ คุณเพื่อนก็ส่ง class workshop ของ SANIT Official มาให้ดู โห...ส่งมาซะเยอะเลย ตอนนั้นก็เลื่อนดูผ่านๆ ไม่ได้สนใจอะเท่าไหร่
จนวันนึงนางก็มาถามซ้ำว่าอยากเรียนมั๊ย เดี๋ยวอดราคา promotion นะ เลยตัดสินใจเรียนก็ได้ว๊า.....ดีกว่าไม่มีไรทำ แต่ก็ไม่วายให้เพื่อนเป็นธุระสมัครให้ โอนเงินให้ สรุปคือลงเรียนแบบไม่ทำอะไรเองเลย รอวันไปเรียนอย่างเดียว 555

จนกระทั่งถึงเช้าวันเรียน ถึงเพิ่งจะรู้ว่าสถานที่เรียน SANIT Official นี้อยู่ในหมู่บ้านสัมมากร หมู่บ้านที่เตยเคยมาบ่อยๆ เพราะเมื่อก่อนเรียน NIDA ก็มาหาอะไรกินกับเพื่อนที่นี่ประจำ การเดินทางก็สะดวก แม้มีคนปักหมุดใน Google Map ผิด แต่ถ้าขับมาตามทางที่ทาง admin บอกก็หาไม่ยากเลยค่ะ

พวกเราเรียน Workshop ปั้นเซรามิกเทคนิคทาน้ำดินสีและขูดลาย เดินเข้าห้องเรียนมาก็อมยิ้มแล้ว นึกถึงตอนเด็กๆ เวลาเห็นเพื่อนมีของเล่นกองๆ แล้วอยากงอแงแม่ขอของเล่นแบบเพื่อนบ้าง 555
เพราะเรามาถึงเร็วกว่าเพื่อนร่วม class ก็เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเดินเล่นถ่ายรูป ฟังน้องที่ SANIT Official เล่าประวัติที่มา แนะนำ class เรียน ฟังบ้าง ถ่ายรูปบ้าง หยิบนู้นนี่มาเล่น มาดูบ้าง ก็สนุกๆ เพลินๆ ดีคร้า
เดินเล่นจนทั่วแล้วก็เข้าห้อง workshop ค่ะ ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังดี วางอุปกรณ์ แล้วดูอุ่นๆ ยังไงบอกไม่ถูก น่าแปลกที่ยังไม่เริ่มเรียน แต่เตยก็รู้สึกอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาเลยนะ มันทำให้ลืมนึกถึงสิ่งที่เคยนึกถึง ไม่คิดกังวลในสิ่งที่เคยกังวล ก็รู้สึกดีไปอีกแปลกใจอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน

เริ่มปั้นดินการค่ะ แค่เริ่มเอาดินออกจากถุงมาก้อนแรก ได้เอามือขยำดินก็ยิ้มแล้วจริงๆ แถมไม่ได้ตัดเล็บมาด้วย เล็บงี้ดำปี๋เลย 555

workshop ครั้งนี้จะได้ปั้น 3 ชิ้นงาน ชิ้นแรกเป็นถ้วยชา/แก้วน้ำ แล้วแต่ใครจะจินตนมาการเลยจร้า อย่ามองแก้วเตยเป็นโอ่งมังกรก็พอ มันทำร้ายจิตใจกันเกินไปคร้า 555

ชิ้นที่สองเป็นถ้วยทรงรีๆ เหลี่ยมๆ อารมณ์ประมาณเอาไปใส่น้ำจิ้มแจ่วได้ไรงี้ ส่วนชิ้นที่ 3 เป็นจานแบนค่ะ ซึ่งชิ้นนี้เป็นชิ้นที่เตยตั้งใจทำมากๆ เลย มาดูผลงานกันค่ะว่าจะรอดมั๊ย

สำหรับวิธีการปั้น เตยไม่สามารถอธิบายออกมาได้จริงๆ เพราะก็ฟังครูไป ลอกครูไป ขอความช่วยเหลือครูตลอดเวลา โวยวายตลอด เพราะกลัวเบี้ยว กลัวพังคามือนั่นเอง สงสารครู 555

พอปั้นชิ้นงานเสร็จ ก่อนไปทานมื้อเที่ยงก็ต้องลงสีชิ้นงานก่อน เพื่อให้สีแห้งในช่วงบ่ายจะได้มาแกะลายต่อได้ สีน้ำดินนั้นทาง SANIT Official เตรียมไว้แล้ว ขั้นตอนลงสีก็คล้ายๆ การระบายสีน้ำตอนประถม แต่ก็มีเทคนิคเพิ่มเติมที่ครูจะคอยแนะนำเราอยู่แล้ว
เลือกลงสีแต่ละชิ้นงานได้ตามแบบหรือลายที่เตรียมกันมาเลยจร้า ในรีวิวนี้ขอลงรายละเอียดเฉพาะชิ้นงานที่ 3 ละกันนะคะ

เตยตั้งใจจะแกะลายดอกทานตะวันสีขาว บนจานสีดำ เลยลงสีดำให้เต็มจานก่อน สีที่เห็นคือสีที่เผาออกมาแล้วจะได้สีดำค่ะ ส่วนจานดินนั้น เวลาเผาออกมาแล้วจะเป็นสีขาวนวลอมเหลืองอ่อนๆนะคะ

ทาสีดำจนทั่วจาน พยายามอย่าให้มีรอยพู่กัน สีที่ทาต้องผสมให้ไม่เหลวหรือไม่ข้นจนเกินไป ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงพอดีก็ยกมือเรียกครูเลยค่ะ 555
ทาสีเสร็จแล้วก็รอสีแห้งค่ะ ระหว่างนั้นก็ทาสีชิ้นงานอื่นไปพลางๆ แล้วเราก็ไปทานข้าวเที่ยงรอคร้า ซึ่งทาง SANIT Official ก็มีการเตรียมมื้อเที่ยงไว้ให้แล้วด้วย ถ้าไม่อื่มก็สามารถสั่งขนมหรือเครื่องดื่มที่นี่ทานเพิ่มได้เลยค่ะ เพราะที่นี่มีเปิดเป็น Zone Cafe ด้วยคร้า

ทานข้าวเสร็จกลับมาสีก็แห้งกำลังดี เอามือแตะๆ แล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ ถือว่าใช้ได้ค่ะ เตรียมตัวเอาไปขูดลายได้เลย

ทำไมต้อง ดอกทานตะวัน?
ความหมายของดอกทานตะวันคืออะไร

ดอกทานตะวันสีเหลือง ที่จะหันหน้ารับแสงจากพระอาทิตย์อยู่เสมอ เป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายถึงความมั่นคง รักเดียวใจเดียว
เป็นตัวแทนที่ของผู้ให้ ว่า เขามั่นคงและซื่อตรงกับคุณเสมอ
หวานมั้ยล่ะ...อย่าเพิ่งยังไม่จบ...

แต่ดอกทานตะวันในชิ้นงานนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ดอกทานตะวันสีขาว บนพื้นจานสีดำ
ความหมายคืออะไร...?

ชิ้นงานนี้...ตั้งใจจะสื่อความหมายของดอกทานตะวัน ที่จะคอยเป็นแสงสว่างให้กับโลกมืดมิดของใครบางคนอยู่เสมอ
อะไรก็ได้ที่ทำให้นึกถึงกัน ของธรรมดาๆ ก็มีค่าเสมอ

ระหว่างที่กำลังจดจ่อกับการขูดลาย คุณจอห์น นูโว ก็เข้ามาทักทายนักเรียนในคลาส พร้อมแนะนำตัวเองว่าเป็นครูใหญ่ที่นี่ 555 ตลกดี
เตยชอบประโยคนึงที่คุณจอห์นถาม คือ ระหว่างที่ทำ workshop ได้อยู่กับตัวเองรึปล่าว ได้คุยกับตัวเองมั้ย?
นี่แหละความรู้สึกแปลกๆ ที่เตยบอกไปตอนแรก มันทำให้เรามีสมาธิ จดจ่อกับชิ้นงานตรงหน้า ได้คิดว่าเราจะวาดลายอะไร ขูดลายไหน เพื่อสื่อความหมายอะไร มันไม่ได้มีแค่สมาธิ เราได้อยู่กับตัวเองในห้องที่มีคนอีกหลายคนจริงๆ นะ ทั้งสงบแล้วก็มีความสุข อมยิ้มออกมาจริงๆ

อธิบายยาก เอาเป็นว่ามาเขียน review นี้ก็อยากให้เพื่อนๆ ที่มีเวลาว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร ไม่ได้อยากเดินทางไปไหนไกลกรุงเทพ ลองไปทำอะไรใหม่ๆ ที่นี่ดูนะคะ บางทีอาจจะรู้สึกแบบเดียวกับที่เตยรู้สึกก็ได้
อ่อ....ยิ่งถ้าใครอยากทำอะไรให้ใครซักคนนึงด้วยฝีมือตัวเอง เตยว่ามันก็เป็นของที่ประเมินราคายาก แต่มีค่าทางใจดีนะคะ อย่างน้อยเราก็ตั้งใจทำนะ

ได้ยินคุณจอห์นพูดแว่วๆ ว่าในอนาคตจะมีลานดนตรี คิดเล่นๆ ว่าอยากจะเขียนเพลงถึงใครบางคนซักเพลง แล้วให้เพื่อนช่วยใส่ทำนองให้ ถ้าทำได้จริงๆ จะกลับไปขอเล่นที่นี่ดู บรรยากาศตอนเย็นๆ น่าจะชิวๆ หน่อย
แต่ไอเพลงที่ว่าจะเขียนเนี่ยก็ไม่รู้ว่าจะมี feeling เมื่อไหร่หรอกนะ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปรอดมั๊ยด้วย 555

ชิ้นงานทั้งหมดต้องรอคิวเผา เพราะงั้นวันที่ไปเรียน จะไม่ได้ชิ้นงานกลับไป ต้องใช้เวลาประมาณ 20-30 วัน ซึ่งเมื่อเผาเสร็จและเคลือบแล้วทาง admin ของ SANIT Official จะติดต่อให้เรามารับชิ้นงาน หรือจะให้ส่งไปให้ก็มีค่าบริการนิดหน่อยค่ะ

เสร็จแล้วก็เห่อ ถ่ายรูปกับชิ้นงานตัวเองซะหน่อย ไหนๆ ก็พกกล้องตัวโปรดมาเรียนด้วยแล้วนี่นา ซะหน่อยๆ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากไปเรียน workshop นี้ หรือ workshop อื่น สามารถเข้าไปดูรายละเอียดใน page SANIT Officail นะคะ
ปล.ถ้าเรียน class อื่นลองชวนเตยดูด้วยน้า เผื่อติดสอยห้อยตามไปเรียนด้วย ออกค่าเรียนให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง อิอิ ^^
[CR] ตอนที่ความสุข ไม่ได้ผูกอยู่ที่ใคร มันก็เกิดขึ้นง่ายนิดเดียว ^^
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เตยได้มีโอกาสไปทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน ต้องขอบคุณ อ้นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข ที่นอกจากจะอยู่ข้างๆ ให้คำปรึกษา ให้สติ ในหลายๆ ปัญหาที่ผ่านมาในชีวิตแล้วยังชวนไปเล่นดิน...ในครั้งนี้ด้วยกัน
เริ่มจากการตั้งเป้าของเราสองคนว่าเราจะมีความสุข ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน ไม่ต้องนึกถึงอะไรเดิมๆ เราเลยอยากหา activity อะไรทำเพลินๆ แล้วอยู่ๆ คุณเพื่อนก็ส่ง class workshop ของ SANIT Official มาให้ดู โห...ส่งมาซะเยอะเลย ตอนนั้นก็เลื่อนดูผ่านๆ ไม่ได้สนใจอะเท่าไหร่
จนวันนึงนางก็มาถามซ้ำว่าอยากเรียนมั๊ย เดี๋ยวอดราคา promotion นะ เลยตัดสินใจเรียนก็ได้ว๊า.....ดีกว่าไม่มีไรทำ แต่ก็ไม่วายให้เพื่อนเป็นธุระสมัครให้ โอนเงินให้ สรุปคือลงเรียนแบบไม่ทำอะไรเองเลย รอวันไปเรียนอย่างเดียว 555
จนกระทั่งถึงเช้าวันเรียน ถึงเพิ่งจะรู้ว่าสถานที่เรียน SANIT Official นี้อยู่ในหมู่บ้านสัมมากร หมู่บ้านที่เตยเคยมาบ่อยๆ เพราะเมื่อก่อนเรียน NIDA ก็มาหาอะไรกินกับเพื่อนที่นี่ประจำ การเดินทางก็สะดวก แม้มีคนปักหมุดใน Google Map ผิด แต่ถ้าขับมาตามทางที่ทาง admin บอกก็หาไม่ยากเลยค่ะ
พวกเราเรียน Workshop ปั้นเซรามิกเทคนิคทาน้ำดินสีและขูดลาย เดินเข้าห้องเรียนมาก็อมยิ้มแล้ว นึกถึงตอนเด็กๆ เวลาเห็นเพื่อนมีของเล่นกองๆ แล้วอยากงอแงแม่ขอของเล่นแบบเพื่อนบ้าง 555
เพราะเรามาถึงเร็วกว่าเพื่อนร่วม class ก็เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเดินเล่นถ่ายรูป ฟังน้องที่ SANIT Official เล่าประวัติที่มา แนะนำ class เรียน ฟังบ้าง ถ่ายรูปบ้าง หยิบนู้นนี่มาเล่น มาดูบ้าง ก็สนุกๆ เพลินๆ ดีคร้า
เดินเล่นจนทั่วแล้วก็เข้าห้อง workshop ค่ะ ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังดี วางอุปกรณ์ แล้วดูอุ่นๆ ยังไงบอกไม่ถูก น่าแปลกที่ยังไม่เริ่มเรียน แต่เตยก็รู้สึกอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาเลยนะ มันทำให้ลืมนึกถึงสิ่งที่เคยนึกถึง ไม่คิดกังวลในสิ่งที่เคยกังวล ก็รู้สึกดีไปอีกแปลกใจอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน
เริ่มปั้นดินการค่ะ แค่เริ่มเอาดินออกจากถุงมาก้อนแรก ได้เอามือขยำดินก็ยิ้มแล้วจริงๆ แถมไม่ได้ตัดเล็บมาด้วย เล็บงี้ดำปี๋เลย 555
workshop ครั้งนี้จะได้ปั้น 3 ชิ้นงาน ชิ้นแรกเป็นถ้วยชา/แก้วน้ำ แล้วแต่ใครจะจินตนมาการเลยจร้า อย่ามองแก้วเตยเป็นโอ่งมังกรก็พอ มันทำร้ายจิตใจกันเกินไปคร้า 555
ชิ้นที่สองเป็นถ้วยทรงรีๆ เหลี่ยมๆ อารมณ์ประมาณเอาไปใส่น้ำจิ้มแจ่วได้ไรงี้ ส่วนชิ้นที่ 3 เป็นจานแบนค่ะ ซึ่งชิ้นนี้เป็นชิ้นที่เตยตั้งใจทำมากๆ เลย มาดูผลงานกันค่ะว่าจะรอดมั๊ย
สำหรับวิธีการปั้น เตยไม่สามารถอธิบายออกมาได้จริงๆ เพราะก็ฟังครูไป ลอกครูไป ขอความช่วยเหลือครูตลอดเวลา โวยวายตลอด เพราะกลัวเบี้ยว กลัวพังคามือนั่นเอง สงสารครู 555
พอปั้นชิ้นงานเสร็จ ก่อนไปทานมื้อเที่ยงก็ต้องลงสีชิ้นงานก่อน เพื่อให้สีแห้งในช่วงบ่ายจะได้มาแกะลายต่อได้ สีน้ำดินนั้นทาง SANIT Official เตรียมไว้แล้ว ขั้นตอนลงสีก็คล้ายๆ การระบายสีน้ำตอนประถม แต่ก็มีเทคนิคเพิ่มเติมที่ครูจะคอยแนะนำเราอยู่แล้ว
เลือกลงสีแต่ละชิ้นงานได้ตามแบบหรือลายที่เตรียมกันมาเลยจร้า ในรีวิวนี้ขอลงรายละเอียดเฉพาะชิ้นงานที่ 3 ละกันนะคะ
เตยตั้งใจจะแกะลายดอกทานตะวันสีขาว บนจานสีดำ เลยลงสีดำให้เต็มจานก่อน สีที่เห็นคือสีที่เผาออกมาแล้วจะได้สีดำค่ะ ส่วนจานดินนั้น เวลาเผาออกมาแล้วจะเป็นสีขาวนวลอมเหลืองอ่อนๆนะคะ
ทาสีดำจนทั่วจาน พยายามอย่าให้มีรอยพู่กัน สีที่ทาต้องผสมให้ไม่เหลวหรือไม่ข้นจนเกินไป ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงพอดีก็ยกมือเรียกครูเลยค่ะ 555
ทาสีเสร็จแล้วก็รอสีแห้งค่ะ ระหว่างนั้นก็ทาสีชิ้นงานอื่นไปพลางๆ แล้วเราก็ไปทานข้าวเที่ยงรอคร้า ซึ่งทาง SANIT Official ก็มีการเตรียมมื้อเที่ยงไว้ให้แล้วด้วย ถ้าไม่อื่มก็สามารถสั่งขนมหรือเครื่องดื่มที่นี่ทานเพิ่มได้เลยค่ะ เพราะที่นี่มีเปิดเป็น Zone Cafe ด้วยคร้า
ทานข้าวเสร็จกลับมาสีก็แห้งกำลังดี เอามือแตะๆ แล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ ถือว่าใช้ได้ค่ะ เตรียมตัวเอาไปขูดลายได้เลย
ทำไมต้อง ดอกทานตะวัน?
ความหมายของดอกทานตะวันคืออะไร
ดอกทานตะวันสีเหลือง ที่จะหันหน้ารับแสงจากพระอาทิตย์อยู่เสมอ เป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายถึงความมั่นคง รักเดียวใจเดียว
เป็นตัวแทนที่ของผู้ให้ ว่า เขามั่นคงและซื่อตรงกับคุณเสมอ
หวานมั้ยล่ะ...อย่าเพิ่งยังไม่จบ...
แต่ดอกทานตะวันในชิ้นงานนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ดอกทานตะวันสีขาว บนพื้นจานสีดำ
ความหมายคืออะไร...?
ชิ้นงานนี้...ตั้งใจจะสื่อความหมายของดอกทานตะวัน ที่จะคอยเป็นแสงสว่างให้กับโลกมืดมิดของใครบางคนอยู่เสมอ
อะไรก็ได้ที่ทำให้นึกถึงกัน ของธรรมดาๆ ก็มีค่าเสมอ
ระหว่างที่กำลังจดจ่อกับการขูดลาย คุณจอห์น นูโว ก็เข้ามาทักทายนักเรียนในคลาส พร้อมแนะนำตัวเองว่าเป็นครูใหญ่ที่นี่ 555 ตลกดี
เตยชอบประโยคนึงที่คุณจอห์นถาม คือ ระหว่างที่ทำ workshop ได้อยู่กับตัวเองรึปล่าว ได้คุยกับตัวเองมั้ย?
นี่แหละความรู้สึกแปลกๆ ที่เตยบอกไปตอนแรก มันทำให้เรามีสมาธิ จดจ่อกับชิ้นงานตรงหน้า ได้คิดว่าเราจะวาดลายอะไร ขูดลายไหน เพื่อสื่อความหมายอะไร มันไม่ได้มีแค่สมาธิ เราได้อยู่กับตัวเองในห้องที่มีคนอีกหลายคนจริงๆ นะ ทั้งสงบแล้วก็มีความสุข อมยิ้มออกมาจริงๆ
อธิบายยาก เอาเป็นว่ามาเขียน review นี้ก็อยากให้เพื่อนๆ ที่มีเวลาว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร ไม่ได้อยากเดินทางไปไหนไกลกรุงเทพ ลองไปทำอะไรใหม่ๆ ที่นี่ดูนะคะ บางทีอาจจะรู้สึกแบบเดียวกับที่เตยรู้สึกก็ได้
อ่อ....ยิ่งถ้าใครอยากทำอะไรให้ใครซักคนนึงด้วยฝีมือตัวเอง เตยว่ามันก็เป็นของที่ประเมินราคายาก แต่มีค่าทางใจดีนะคะ อย่างน้อยเราก็ตั้งใจทำนะ
ได้ยินคุณจอห์นพูดแว่วๆ ว่าในอนาคตจะมีลานดนตรี คิดเล่นๆ ว่าอยากจะเขียนเพลงถึงใครบางคนซักเพลง แล้วให้เพื่อนช่วยใส่ทำนองให้ ถ้าทำได้จริงๆ จะกลับไปขอเล่นที่นี่ดู บรรยากาศตอนเย็นๆ น่าจะชิวๆ หน่อย
แต่ไอเพลงที่ว่าจะเขียนเนี่ยก็ไม่รู้ว่าจะมี feeling เมื่อไหร่หรอกนะ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปรอดมั๊ยด้วย 555
ชิ้นงานทั้งหมดต้องรอคิวเผา เพราะงั้นวันที่ไปเรียน จะไม่ได้ชิ้นงานกลับไป ต้องใช้เวลาประมาณ 20-30 วัน ซึ่งเมื่อเผาเสร็จและเคลือบแล้วทาง admin ของ SANIT Official จะติดต่อให้เรามารับชิ้นงาน หรือจะให้ส่งไปให้ก็มีค่าบริการนิดหน่อยค่ะ
เสร็จแล้วก็เห่อ ถ่ายรูปกับชิ้นงานตัวเองซะหน่อย ไหนๆ ก็พกกล้องตัวโปรดมาเรียนด้วยแล้วนี่นา ซะหน่อยๆ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากไปเรียน workshop นี้ หรือ workshop อื่น สามารถเข้าไปดูรายละเอียดใน page SANIT Officail นะคะ
ปล.ถ้าเรียน class อื่นลองชวนเตยดูด้วยน้า เผื่อติดสอยห้อยตามไปเรียนด้วย ออกค่าเรียนให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง อิอิ ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้