[CR] My story | Episode 12 >>One Day Trip ลพบุรี "ทางรถไฟลอยน้ำ-ทุ่งดอกทานตะวันไร่วิชาญ"

   >> บันทึกการเดินทาง: ธันวาคม 2566

   >> สวัสดีครับ มาพบกับผม " หยุดแล้วเที่ยวได้ " กันอีกแล้วเด้อครับพี่น้อง555 เรื่องเล่าการเดินทางของทริปนี้อาจจะเก่าไปสักหน่อยนะครับ แต่ผมว่าที่นี่มันสวยมากจริงๆ และคิดว่าคนที่ชอบทางรถไฟ หรือดอกทานตะวันคงถูกใจอย่างแน่นอนเลย

   >> ทริปนี้ไม่มีอะไรมากเพียงแค่ว่าผมกลับบ้านที่โคราช และขากลับจากโคราชมาสมุทรปราการไม่อยากเสียเที่ยวในการเดินทาง ถ้าได้แวะเที่ยวที่ไหนสักแห่งที่เป็นเส้นทางผ่านก็คงดี ซึ่งจะว่าทางผ่านก็ไม่เชิง เพราะเส้นทางนี้ผมต้องขับรถอ้อมไปทางลพบุรีที่มีระยะทางเพิ่มจากปกติประมาณ 50 กิโลเลย จุดหมายปลายทางจะว่าสำคัญ แต่สำหรับผมถ้าไม่มีธุระด่วนอะไรระหว่างทางก็สำคัญเช่นกัน

   >> ผมเดินทางจากโคราชผ่านทาง อ.ด่านขุนทด เข้าสู่ จ.ลพบุรี ทาง อ.ท่าหลวง ที่อยู่ตอนบนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และต้องวิ่งข้ามถนนที่ตัดผ่านตัวเขื่อนเพื่อข้ามไปยัง อ.พัฒนานิคม ที่ผมจะไปแวะเที่ยวชม สะพานรถไฟลอยน้ำนั่นเอง

   สะพานรถไฟลอยน้ำ หรือทางรถไฟลอยน้ำ

   >> บริเวณนี้ถ้าเรามาเที่ยวกับการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นรถไฟนำเที่ยวเขื่อนป่าสัก-ทางรถไฟลอยน้ำ จะไม่ได้มาถึงที่นี่ เพราะรถไฟจะมาสิ้นสุดที่สถานีรถไฟโคกสลุง แต่จุดนี้จะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟโคกสลุงกับสถานีสุรนารายณ์ ที่อยู่เลยสถานีโคกสลุงมานิดหน่อย

   >> ผมมาถึงที่นี่ตอนบ่าย 3 ซึ่งบอกได้เลยว่าในช่วงเดือนธันวาคมจะแทบไม่มีเมฆ และแดดช่วงบ่ายก็ลอยสุดๆ ไปเลย ถึงจะให้ผมแนะนำก็ให้มาเที่ยวช่วงเช้าๆ หรือช่วงเย็นๆ จะได้ไม่ร้อน หรือมาช่วงกลางวันก็ควรพกร่ม พกหมวกมาด้วย

   >> พอขับรถลงมาจากถนนลาดยางจะมีลาดจอดรถที่เป็นลานดินกว้างมากๆ อยู่ด้านหน้าของป้ายสะพานรถไฟลอยน้ำเลย และที่นี่ยังมีเหล่าพอค้าแม่ค้ามาขายอาหาร นำดื่ม ไอศครีม ปลาส้มอีกด้วยในวันอาทิตย์ที่ผมมา แต่ไม่รู้ว่าวันอื่นๆ มีมาขายด้วยไหมนะ

   >> ถึงแดดจะร้อนแต่ก็มีคนแวะเวียนเข้ามาเที่ยวหลายคนอยู่นะ

   >> ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่าสมกับที่ได้ชื่อว่า สะพานรถไฟลอยน้ำ จริงๆ เพราะน้ำขึ้นสูงจนทำให้ทางรถไฟเหมือนลอยอยู่เหนือน้ำเลย โดยทางรถไฟจะโค้งผ่านผิวน้ำเข้าไปที่พื้นดินอีกฝั่งจะระยะทางแล้วน่าจะราวๆ 500 เมตร ได้มั้งครับ

   >> แดดแรงแบบไม่มีเมฆเลย จะให้เดินไปดูจนสุดทางก็คงไม่ไหวนะ

   >> ตรงนี้ถ้าช่วงน้ำน้อยๆ สักเดือนเมษายน-มิถุนายน น้ำจะลดลงถึงพื้นดินจนเห็นเป็นตอม่อทางรถไฟ และจะมีหญ้าขึ้นเขียวที่สามารถลงไปเดินด้านล่างได้ เห็นหลายๆ คนจะมาท่องเที่ยวนั่งปิคนิคยามเย็นอีกด้วย ถ้ามีโอกาสผมจะพามาชมช่วงนั้นบ้างครับ

   >> ฟิลล์เที่ยวคนเดียวก็แบบว่า โพสเองถ่ายเองนักเลงพอ รีโมทกับขาตั้งกล้องคือจำเป็นมาก

   >> หลังจากถ่ายภาพจนเพลินหน้าดำ ตัวดำ หรือดำอยู่แล้ว555 ผมก็เดินทางต่อ ซึ่งจุดถัดไปที่ผมจะไปแวะเที่ยวก็คือ ทุ่งดอกทานตะวัน

   >> ตอน 4 โมงเย็น ผมก็เดินทางมาถึงที่ ทุ่งดอกทานตะวัน ไร่วิชาญ อ.เมือง จ.ลพบุรี

   >> ซึ่งถนนเข้ามาเป็นถนนลาดยางดีเลย มีแค่ตรงลานจอดรถของไร่ที่เป็นลานดินเท่านั้น จอดฟรี

   >> ห้องน้ำของไร่ก็ไม่ถึงกับดี กับเยอะนะ เอาเป็นว่าเข้าได้

   >> เดินเข้าไปชมดอกทุ่งตะวันกัน แต่แค่ตรงด้านหน้าก็มองเห็นทุ่งทานตะวันกว้างสุดลูกหูลูกตาแล้ว แต่อยากไปชมกลางทุ่งก็ตามมาครับ วันนี้คนเยอะเลย ตรงทางเข้าสู่ทุ่งด้านหน้าคือ มีของกิน ของฝาก ของตกแต่งถ่ายภาพขายเยอะเลย

    >> ที่นี่เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท ไม่จำกัดเวลาเข้าชมนะครับ แต่ใครจะไปอยู่ทั้งวันได้ละ เวลาที่แนะนำก็คงเป็นช่วงเช้า หรือช่วงเย็นจะได้ไม่ร้อน เวลาเปิด 06.00 น. ปิด 18.00 น. อันนี้ก็ขึ้นกับว่าเราชอบบรรยากาศแบบไหน ถ้ามาช่วงเช้าดอกทานตะวันก็จะชูช่อตรงสวยงาม ถ้ามาช่วงเย็นดอกทานตะวันก็จะก้มลงนิดหน่อยหันหนีแสงตะวัน แต่เราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ยามเย็นตกดินแสงสวยงามมากๆ

   >> ใครขี้เกียจเดินก็มีรถ ATV ให้ขับเข้าไปชมด้วยนะครับ ราคาเช่า 200 บาท/ชั่วโมง

   >> พอเข้ามาด้านในยิ่งรู้สึกว่า ดอกทานตะวันสวยมากๆๆๆๆๆ คิดชอบดอกไม้มีว๊าวแน่นอน และคนก็มาเที่ยวเยอะมากด้วย แต่ด้วยพื้นที่ที่กว้างมากๆ จึงไม่รู้สึกวุ่นวายเท่าไร เพราะมีพื้นที่ให้ต่างคนต่างถ่ายรูปได้หลายจุด ซึ่งเขาก็จัดตกแต่งจุดถ่ายภาพ กองฟาง นั่งร้านยกสูง ชิงช้า ป้าย ไว้ให้ถ่ายภาพหลายจุดในทุ่งทานตะวัน

   >> บรรยากาศตอนนี้คือ ดีมากๆ อาจจะมีแสงแดด แต่ก็เป็นแดดอ่อนๆ ยามเย็น ที่มีลมพัดเย็น ทำให้เดินชมดอกทานตะวันเพลินมากๆ