พ่อไปเจาะผลเลือดมาค่าไต 2 ค่ะ เลยกลับมาปฎิวัติตัวใหม่ในการทานอาหารโดย
1.ลดหวาน เค็ม มัน เผ็ด ทุกอย่าง
2.ออกกำลังกาย เช่น เดิน แกว่งแขน
3.ทานผักสีอ่อนๆ เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี บวบเหลี่ยม ฟัก น้ำเต้า
4.ทานโปรตีนจาดเนื้อสัตว์ คือ อกไก่ ปลา และไข่ขาว
5.ทานผลไม้เล็กน้อย เช่น แอปเปิ้ล พุทรา
6.ดื่มน้ำประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร
ปล. พ่อเป็นเบาหวาน ความดัน และไขมันด้วยค่ะ แต่พอหันมาทานอาหารลดจืดแล้วทำให้ความดันปกติมาก แต่ที่เป็นห่วงคือ พ่อหิวบ่อยมากๆ ประมาณว่ากินไปอีกไม่เกินชั่วโมงก็เริ่มหิวแล้ว อาจเป็นเพราะทานน้อยไปหรือป่าวค่ะ อาหารที่ทำเป็นหลัก คือ แกงจืดจากผักที่กล่าวมาข้างต้นโดยไม่มีการปรุงรสทั้งสิ้นใส่แค่น้ำลงไปต้มให้เดือดแล้วใส่ผักจบเลยค่ะ อ๋อ แต่ตัวน้ำนี้จะต้มกับอกไก่ก่อนค่ะให้เสมือนว่ามีกลิ่นหอมและได้ความหวานจากเนื้อบ้าง บวกเพิ่มกับการใส่กระเทียมลงไปเพิ่มรสชาตินิดหน่อยด้วยค่ะ ส่วนข้าวก็ทานข้าวขาวปกติค่ะ แต่จะกินค่อนข้างน้อยเพราะกลัวไตรกลีเซอร์ไรด์ขึ้นค่ะ คือไม่ทราบจริงๆว่าจะกะปริมาณเท่าไหร่ดีถึงจะเพียงพอไม่ให้พ่อหิวมากและควบคุมค่าเบาหวานกับไตรกลีเซอร์ไรด์ด้วยค่ะ หรือที่ปฎิบัติมามันถูกไหม รบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือนักโภชนาการ ท่านใดก็ได้ค่ะแนะนำด้วยค่ะ ขอขอบคุณมากๆค่ะ
สอบถามค่ะ ทำไมเป็นไตแล้วหิวบ่อยค่ะ
1.ลดหวาน เค็ม มัน เผ็ด ทุกอย่าง
2.ออกกำลังกาย เช่น เดิน แกว่งแขน
3.ทานผักสีอ่อนๆ เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี บวบเหลี่ยม ฟัก น้ำเต้า
4.ทานโปรตีนจาดเนื้อสัตว์ คือ อกไก่ ปลา และไข่ขาว
5.ทานผลไม้เล็กน้อย เช่น แอปเปิ้ล พุทรา
6.ดื่มน้ำประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร
ปล. พ่อเป็นเบาหวาน ความดัน และไขมันด้วยค่ะ แต่พอหันมาทานอาหารลดจืดแล้วทำให้ความดันปกติมาก แต่ที่เป็นห่วงคือ พ่อหิวบ่อยมากๆ ประมาณว่ากินไปอีกไม่เกินชั่วโมงก็เริ่มหิวแล้ว อาจเป็นเพราะทานน้อยไปหรือป่าวค่ะ อาหารที่ทำเป็นหลัก คือ แกงจืดจากผักที่กล่าวมาข้างต้นโดยไม่มีการปรุงรสทั้งสิ้นใส่แค่น้ำลงไปต้มให้เดือดแล้วใส่ผักจบเลยค่ะ อ๋อ แต่ตัวน้ำนี้จะต้มกับอกไก่ก่อนค่ะให้เสมือนว่ามีกลิ่นหอมและได้ความหวานจากเนื้อบ้าง บวกเพิ่มกับการใส่กระเทียมลงไปเพิ่มรสชาตินิดหน่อยด้วยค่ะ ส่วนข้าวก็ทานข้าวขาวปกติค่ะ แต่จะกินค่อนข้างน้อยเพราะกลัวไตรกลีเซอร์ไรด์ขึ้นค่ะ คือไม่ทราบจริงๆว่าจะกะปริมาณเท่าไหร่ดีถึงจะเพียงพอไม่ให้พ่อหิวมากและควบคุมค่าเบาหวานกับไตรกลีเซอร์ไรด์ด้วยค่ะ หรือที่ปฎิบัติมามันถูกไหม รบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือนักโภชนาการ ท่านใดก็ได้ค่ะแนะนำด้วยค่ะ ขอขอบคุณมากๆค่ะ