สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 22-25 มิ.ย. 2562 เจ้าของกระทู้ได้มีโอกาศไปเที่ยวที่ เขาค้อ และภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์มาค่ะ 
ครั้งนี้ไปเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้รับชมกัน เผื่อเป็นแนวทางให้คนที่กำลังวางแผนจะไปค่ะ
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ .....

กำหนดการเดินทางคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
วันที่ 22 มิ.ย.62 ออกเดินทาง 
- จุดชมวิวเขาค้อ
- ที่พัก : เขาค้อสวิส รีสอร์ท (ห้อง 16) 
วันที่ 23 มิ.ย.62   
- วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
- ร้านข้าวแกงสัณฑมาศ
- Pino Latte
- ทุ่งกังหันลมเขาค้อ
- ที่พัก : เขาค้อสวิส รีสอร์ท (ห้อง 3)
วันที่ 24 มิ.ย.62
- จุดชมวิวภูทับเบิก หอวัดอุณหภูมิ
- ที่พัก : ไร่ริมผา (ห้อง A1)
วันที่ 25 มิ.ย.62 เดินทางกลับ
                 
วั น ที่ 2 2 มิ . ย .  6 2  ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 12.00 น. ใช้เวลาประมาณ 5.30 ชม. ถึงเขาค้อก็ราวๆ 18.30 น. ค่ะ
 ที่แรกที่ตั้ง GPS ไปก็คือ จุดชมวิวเขาค้อ มาทันดูพระอาทิตย์ตกดินพอดีเลยค่ะ สวยงามมากๆ

หลังจากนั้นก็เข้าที่พักกันค่ะ ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะนอนที่ไปรษณีย์เขาค้อ โดยเช่าเต้นท์ แต่ได้โทรไปสอบถามแล้ว จนท.ได้แจ้งว่า
ไม่มีบริการเช่าเต้นท์ มีเฉพาะช่วงสิ้นปี หรือช่วงไฮท์ซีซั่น เราเลยต้องหารีสอร์ทนอนค่ะ
จึงตกลงกันว่าไปเข้าพักที่ เขาค้อสวิส รีสอร์ท กะว่านอนแค่แปปเดียวเลยจองเป็นห้องพัดลม ห้องที่ 16  อยู่ชั้น 2 ค่ะ
วั น ที่ 2 3 มิ . ย . 2 5 6 2 นอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ ลุกมาส่องหน้าต่างลุ้นว่าจะมีน้องหมอกไหม
สรุปว่าเค้ามารอตั้งแต่ตี 4 แล้วค่ะ
เวลา 04.00 น. (ภาพอาจไม่ชัดนะคะ ค่อนข้างมืดค่ะ)
เวลา 06.00 น. หมอกอาจจะไม่ฟูมาก แต่ยังดีที่ได้เจอค่ะ
 
สามารถมองเห็นหมอกได้จากห้องพักเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ออกจากที่พักไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วค่ะ
ไหว้พระขอพรขอให้เจอหมอกแน่นๆ 
แล้วก็ทานข้าวเที่ยงที่ร้านข้าวแกงสัณฑมาศอยู่ข้างๆวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเลยค่ะ
ร้านนี้วิวสวยค่ะ 
เสร็จแล้วเราก็ไปต่อกันที่ร้าน Pino Latte ขับรถขึ้นไปอีกนิดนึงค่ะ
ที่ร้านคนเยอะมาก รอกาแฟราวๆ 15 นาทีได้ค่ะ
Pino Latte & Matcha Latte
บรรยากาศรอบๆร้านค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ทุ่งกังหันลมเขาค้อค่ะ
ค่าเข้าคนละ 10 บาท 
ก็จะมีทุ่งดอกไม้สวยๆค่ะ
ใกล้ๆกันจะเป็น คิงคองเขาค้อค่ะ
ค่าเข้าคนละ 40 บาท
ข้างในจะมีเป็นหุ่นคิงคองที่ทำมาจากฟาง สวยดีค่ะ
หลังจากเที่ยวเสร็จเราก็เข้าที่พักค่ะ
พักที่เขาค้อสวิสที่เดิม ติดใจบรรยากาศ แต่เปลี่ยนห้องเป็นห้องที่ 3 ค่ะ
ที่พักก็จะประมาณนี้ค่ะ
สามารถเห็นวิวจากหน้าห้อง ที่เป็นวิวเดียวกันกับจุดชมวิวเขาค้อค่ะ
บรรยากาศยามเย็น นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินจากหน้าห้องค่ะ

วั น ที่ 2 4 มิ . ย . 2 5 6 2 เช้าวันนี้เขาค้อมีหมอกจางๆค่ะ ผิดหวังเล็กน้อย
เพราะคอยชะโงกหน้ามองหน้าต่างตั้งแต่ตี 3 ก็ไม่มีวี่แววค่ะ
หมอกจางๆ ยามเช้า จากหน้าห้องพัก
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มเห็ดหอมหมูสับ กับขนมปังค่ะ
หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จ รีบอาบน้ำแต่งตัวขึ้นภูทับเบิกเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารจากในกลุ่ม ชมรมคนรักเขาค้อ-ภูทับเบิก เขาว่าตอนนี้หมอกกำลังขึ้นฟูเลยค่ะ
ขึ้นภูทับเบิกโดยใช้เส้นทางหล่มสัก ทางยังซ่อมไม่เสร็จนะคะ แต่ได้นำลูกรังมาอัดทางที่ชำรุดไว้ค่ะ 
เราใช้มาสด้า 2 ขับขึ้น สบายๆค่ะ ทางไม่ชันมาก
 ระหว่างทางขึ้น หมอกหนามากจนแทบมองไม่เห็นทาง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ
  
ในที่สุดก็มาถึงแล้ววว จุดชมวิวอาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก วิวตอนนั้นคือเห็นแต่หมอกขาวๆค่ะ ไม่เห็นอะไรเลย
ไอหมอกปะทะหน้าเป็นระลอกๆ เหมือนมีใครมาเปิดพัดลมไอน้ำใส่อ่ะค่ะ ฟินมากๆ 
จากนั้นเราก็เดินลงมาชมวิวที่ไร่ริมผาค่ะ จากหมอกสีขาวๆปกคลุมทั่วบริเวณ ก็เริมจับตัวกันเป็นก้อน จนเป็นทะเลหมอกค่ะ
ไม่ผิดหวังจริงๆที่รีบขับขึ้นมา หลังจากที่ผิดหวังจากเขาค้อค่ะ
 
วันนี้เราได้จองที่พัก ที่ไร่ริมผา ห้อง A1 เป็นห้องในตำนาน ห้องที่จองยากมากๆ ห้องที่หลายๆคนก็อยากมาพักที่นี่ค่ะ
ห้อง A1 จะเป็นห้องเดียวที่แยกออกมาจากห้องอื่นๆ วิวดีมากๆ และอยู่ริมผาสมชื่อเลยค่ะ 
วันนี้หมอกขาวๆแบบนี้ทั้งวันจนถึงตอนเย็นเลยค่ะ
ภายในห้องพัก A1 ค่ะ ที่พักอาจจะธรรมดา แต่วิวอลังการค่ะ
ลานจอดรถจะมีระบุเลขที่ห้องไว้ให้เลยค่ะ  ในรูปจะเป็นห้อง A2-A9 ค่ะ
ถ้ามาภูทับเบิกแล้วก็ต้องจัดหมูกระทะ เหมาะกันมากกับอากาศเย็นๆแบบนี้ค่ะ
วิวจากภูทับเบิกตอนกลางคืน

วั น ที่ 2 5 มิ . ย . 2 5 6 2  วันนี้ตามที่คาดไว้ มีทะเลหมอกสมใจเลยค่ะ เพราะเมื่อวานช่วงบ่าย 3 มีฝนตก
มีทะเลหมอกสลับกับหมอกฟุ้งๆสีขาว ฟินมากๆเลยค่ะ
ยิ่งเวลาสาย หมอกยิ่งฟูขึ้นเรื่อยๆ
   มองเห็นทะเลหมอกจากในห้อง A1 ได้แบบนี้เลยค่ะ 
ระหว่างทางกลับก็มีวิวสวยๆให้ได้ชมด้วยค่ะ หมอกเค้าแน่นจริงๆ
  
ถือว่าการมาเที่ยวครั้งนี่ ประทับใจมากเลยค่ะ ได้เจอน้องหมอกทุกวันเลย อิจฉาคนพื้นที่อยู่ที่นี่มากเลยที่ได้เจอทะเลหมอกบ่อยๆ 
ไว้โอกาศหน้า ต้องมาซ้ำที่นี่อีกแน่นอนค่ะ เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ