บทความตามใจฉัน “GOC-Cheating Begin” Part 2 End
Part 1:
https://pantip.com/topic/38961170
Game Genieหรืออุปกรณ์ของเจ้าอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันล้วนใช้เทคนิคพื้นฐานที่คล้าย ๆ
กันรูปแบบการ Hack คอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า“Man in the Middle”
โดยผู้เล่นจะเสียบตลับเกมเข้ากับ Game Genie แล้วเอาตลับเกมที่ติด Game Genie
แล้วเสียบเข้าไปที่เครื่องอีกที ผลคือ Game Genie
จะกลายเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างระบบของเครื่องและโปรแกรมเกมในตลับ
จากนั้น Game Genie ก็จะคอยดักตรวจข้อมูลที่ไหลผ่าน เมื่อพบข้อมูลเป้าหมายก็จะทำการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวตาม Code ที่ผู้เล่นป้อนให้กับ
Game Genie ตอนเปิดเครื่องก่อนเริ่มเกม เมื่อแก้ไขแล้วก็จะส่งผ่านข้อมูลต่อไป
สามารถดูกระบวนการทำงานโดยสังเขปได้ที่รูปประกอบ
ส่วน Code นั้น ตัวอุปกรณ์เองจะมี Code Book แถมติดมาด้วย ผู้เล่นเพียงเปิดหาชื่อเกมที่ใช่ เลือกรูปแบบการโกงที่ต้องการ
จากนั้นเมื่อเปิดเครื่องก็ใส่ Code ตามที่เขียนไว้
แน่นอนว่าเพราะเป็นหนังสือแถมมากับอุปกรณ์ทำให้เกมใหม่ ๆ จะไม่มีข้อมูล Code อยู่ในนั้น
ผู้เล่นมีทางเลือกสองทาง
1. ซื้อ Code Book หรือนิตยสารที่มี Code เกมที่ต้องการ
2. เดาสุ่มใส่ Code ซึ่งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง (เท่าที่หาข้อมูล มีกลุ่มที่สุ่มใส่ Code เพื่อหา Code โกงใหม่ ๆ อยู่)

Game Genie นั้นได้เริ่มวางขายที่ประเทศแคนนาดาและอเมริกาก่อนโดยมีตัวแทนจำหน่ายในแต่ประเทศเป็นคนละบริษัท
ที่น่าสนใจคือ Game Genie ถูกฟ้องศาลในทั้ง 2 ประเทศด้วยข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ส่วนผลนั้นต่างกันออกไป
ในแคนนาดานั้นผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเพราะศาลไม่รับฟ้องหรือคดีพิจารณาเร็วมาก Game Genie จึงสามารถวางขายได้ตามกำหนดการเดิม
แต่ในอเมริกา ศาลรับฟ้องและนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน
ทำให้ Game Genie แม้ขายได้ในแคนนาดาแต่กลับยังขายไม่ได้ในอเมริกา
ส่วนผู้ฟ้อง ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล
Nintendo of America (NoA) นั้นเอง

NoA ยื่นฟ้องตัวแทนจำหน่ายของ Game Genie ในเดือนธันวาคม 1993
รองประธานของ NoA ในขณะนั้น Howard Lincoin(ฮาวเวิร์ด ลินคอล์น) ได้ให้ความเห็นสรุปได้ว่า
“Game Genie นอกจากจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แล้วยังทำให้เกมนั้นง่ายเกินไปจนไม่สนุก”
ซึ่งรองประธานบริษัท Galoob ตัวแทนจำหน่ายของ Game Genie ในอเมริกา Stevien Kelin(สตีเวน ไคลน์)
ได้ให้ความเห็นตอบโต้ทำนองว่า
“ถ้าผู้เล่นอยากข้ามด้านที่เคยเล่นแล้วไปด่านที่เล่นค้างไว้ก็ควรเป็นสิทธิ์ที่ผู้เล่นจะทำได้ ทำไมต้องไปเสียเวลาเล่นด่านเก่าอีก”
ส่วนความสนใจของศาลนั้นอยู่ที่การพิจารณาข้อกล่าวหาของทาง NoA ที่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเป็นจริงรึไม่

ผลการตัดสินคือ Game Genie ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์อย่างที่ NoA กล่าวหา
มีสาเหตุ 2 ประการที่ทำให้ศาลตัดสินแบบนี้
ประการแรก Game Genie ทำให้เกิดงานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง (derivative works) รึไม่
ศาลเห็นว่าไม่
งานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง คือการนำผลงานของผู้อื่นมาดัดแปลงทำซ้ำเป็นผลงานของตัวเอง
ตัวอย่างงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องก็เช่น “รูปล้อเลียน”
ที่ใช้การตัดต่อดัดแปลงรูปเดิมให้กลายเป็นรูปใหม่ เป็นต้น
แม้ทาง NoA จะแย้งว่านี่เป็นงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องแต่ศาลมีหลักเกณฑ์หนึ่งสำหรับงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องไว้ว่า
“ตัวงานจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองแยกต่างหากจากงานเดิม”
ซึ่งตัวเกมที่ถูกดัดแปลงจาก Game Genie นั้นเมื่อปิดเครื่องก็จะหายไป จึงไม่เข้าข่าย
ปล. ถ้าการทำงาน Game Genie
ทำให้เกิดข้อมูลเกมอีกชุดหนึ่งที่ดัดแปลงค่าในเกมแล้ว เช่น เกมคอนทราที่มีปืน S ตั้งแต่เริ่ม
แล้วเอาไปเล่นที่เครื่องอื่นได้ละก็ นี่จะเข้าข่ายงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องทันที

ประการต่อมาคือ การใช้ Game Genie เพื่อความบันเทิงส่วนตัวคือ Fair use รึไม่
ศาลเห็นว่าใช่
ตามหลักการของ Fair use นั้น “ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะดัดแปลงแก้ไขสิ่งที่ซื้อมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวผู้ซื้อเองได้”
ทั้งสองประการนี้ทำให้ในปี 1991 ไม่ทราบเดือนคำฟ้องของ NoA ตกไป
Game Genie จึงได้วางจำหน่ายในอเมริกาในที่สุดและได้รับความนิยมอย่างมาก
จากนั้น Game Genie ก็เริ่มถูกพัฒนาสำหรับเครื่องเกมอื่น ๆ เช่น Sega Mega Drive, SNES, เกมบอย เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ Sega ให้ Game Genie เป็น Official Product เลยทีเดียว

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
ปี 1997 ช่วงที่ SNES กำลังจะตกยุคและผู้เล่นล้วนตั้งตารอเครื่องเกม Gen ต่อไป
Game Genie ก็ถูกประกาศเลิกผลิตในที่สุด
ผู้เขียนไม่มีข้อมูลว่าเพราะอะไรแต่คาดว่าเพราะปัญหาการเชื่อมต่อระดับ Hardware กับตัวเครื่องเกมทำให้ Game
Genie แม้จะทำงานกับเครื่องเวอร์ชั่นเก่าได้แต่ก็อาจจะทำงานไม่ได้กับเครื่องเวอร์ชั่นใหม่
(ตัวอย่างเช่น PS2 Slim ที่ถือเป็นเครื่องเวอร์ชั่นใหม่ของ PS2)
ผลคือสินค้าค้างสต๊อกและบริษัทขาดทุน
สิ่งที่ Game Genie หลงเหลือไว้คือ “การโกงเกมก็สนุกได้”
ลองนึกถึงตอนเล่นคอนทรากับเพื่อนฉากน้ำตกดูสิ
ถ้าไม่มีสูตร 30 ตัวหลายๆ คนคงไม่มีประสบการณ์ทำลายมิตรภาพแสนสนุกที่ยังเล่ากันมาจนถึงปัจจุบัน
การโกงด้วย “Save State” ของ Action Reply ก็ช่วยให้คนที่ไม่ค่อยมีเวลาสามารถสนุกกับเกมที่ใช้ระยะเวลาเล่นนาน
ๆ เช่น เกม RPG ได้โดยไม่ต้องกังวัลว่าจะหาจุด Save ไม่เจอ
“การโกงเกมก็สนุกได้” ตราบใดที่การโกงนั้นเป็นไปเพื่อความต้องการส่วนตัวและไม่กระทบต่อผู้อื่น
นี่ทำให้อุปกรณ์หรือ Software สำหรับโกงเกมยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น Action reply, Game Shark, ETC
แม้แต่ Game Genie เองก็ยังกลับมาอีกครั้งในปี 2012 โดยบริษัท Hyperkin

แต่สิ่งที่สำคัญมากคือคำตัดสินของศาลในครั้งนี้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญหาและการละเมิดลิขสิทธิ์
ที่ช่วยสร้างพื้นฐานเป็นแนวในการตัดสินคดีที่คล้ายคลึงกันได้ในอนาคต
โดยเฉพาะ “ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะดัดแปลงแก้ไขสิ่งที่ซื้อมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวผู้ซื้อเองได้”
คำตัดสินนี้ถูกนำไปใช้เป็นพื้นฐานส่วนหนึ่งในการตัดสินคดีที่คลายคลึงกันในอนาคต
และทำให้โลกของเกมทั้งคอนโซนและคอมพิวเตอร์เปลี่ยนไปอย่างไม่หวนกลับ

ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น
ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับhttps://www.facebook.com/uptomejournal/
Ref

Cheating in video games
https://en.wikipedia.org/wiki/Cheating_in_video_games
Game Genie - Gaming Historian
https://www.youtube.com/watch?v=PCvIZ80RIhE
ถกลิขสิทธิ์ กรณีแปลงานโดยไม่ขออนุญาตและแปลงภาพในมานีมีแชร์
https://www.spu.ac.th/fac/law/th/content.php?cid=3954
Game Genie
https://en.wikipedia.org/wiki/Game_Genie
nintendo-of-america-inc-v-lewis-galoob-toys-inc
https://openjurist.org/16/f3d/1032/nintendo-of-america-inc-v-lewis-galoob-toys-inc
Game Genie
https://bootleggames.fandom.com/wiki/Game_Genie
บทความตามใจฉัน “GOC-Cheating Begin” Part 2 End
Part 1: https://pantip.com/topic/38961170
Game Genieหรืออุปกรณ์ของเจ้าอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันล้วนใช้เทคนิคพื้นฐานที่คล้าย ๆ
กันรูปแบบการ Hack คอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า“Man in the Middle”
โดยผู้เล่นจะเสียบตลับเกมเข้ากับ Game Genie แล้วเอาตลับเกมที่ติด Game Genie
แล้วเสียบเข้าไปที่เครื่องอีกที ผลคือ Game Genie
จะกลายเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างระบบของเครื่องและโปรแกรมเกมในตลับ
จากนั้น Game Genie ก็จะคอยดักตรวจข้อมูลที่ไหลผ่าน เมื่อพบข้อมูลเป้าหมายก็จะทำการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวตาม Code ที่ผู้เล่นป้อนให้กับ
Game Genie ตอนเปิดเครื่องก่อนเริ่มเกม เมื่อแก้ไขแล้วก็จะส่งผ่านข้อมูลต่อไป
สามารถดูกระบวนการทำงานโดยสังเขปได้ที่รูปประกอบ
ส่วน Code นั้น ตัวอุปกรณ์เองจะมี Code Book แถมติดมาด้วย ผู้เล่นเพียงเปิดหาชื่อเกมที่ใช่ เลือกรูปแบบการโกงที่ต้องการ
จากนั้นเมื่อเปิดเครื่องก็ใส่ Code ตามที่เขียนไว้
แน่นอนว่าเพราะเป็นหนังสือแถมมากับอุปกรณ์ทำให้เกมใหม่ ๆ จะไม่มีข้อมูล Code อยู่ในนั้น
ผู้เล่นมีทางเลือกสองทาง
1. ซื้อ Code Book หรือนิตยสารที่มี Code เกมที่ต้องการ
2. เดาสุ่มใส่ Code ซึ่งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง (เท่าที่หาข้อมูล มีกลุ่มที่สุ่มใส่ Code เพื่อหา Code โกงใหม่ ๆ อยู่)
Game Genie นั้นได้เริ่มวางขายที่ประเทศแคนนาดาและอเมริกาก่อนโดยมีตัวแทนจำหน่ายในแต่ประเทศเป็นคนละบริษัท
ที่น่าสนใจคือ Game Genie ถูกฟ้องศาลในทั้ง 2 ประเทศด้วยข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ส่วนผลนั้นต่างกันออกไป
ในแคนนาดานั้นผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเพราะศาลไม่รับฟ้องหรือคดีพิจารณาเร็วมาก Game Genie จึงสามารถวางขายได้ตามกำหนดการเดิม
แต่ในอเมริกา ศาลรับฟ้องและนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน
ทำให้ Game Genie แม้ขายได้ในแคนนาดาแต่กลับยังขายไม่ได้ในอเมริกา
ส่วนผู้ฟ้อง ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล
Nintendo of America (NoA) นั้นเอง
NoA ยื่นฟ้องตัวแทนจำหน่ายของ Game Genie ในเดือนธันวาคม 1993
รองประธานของ NoA ในขณะนั้น Howard Lincoin(ฮาวเวิร์ด ลินคอล์น) ได้ให้ความเห็นสรุปได้ว่า
“Game Genie นอกจากจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แล้วยังทำให้เกมนั้นง่ายเกินไปจนไม่สนุก”
ซึ่งรองประธานบริษัท Galoob ตัวแทนจำหน่ายของ Game Genie ในอเมริกา Stevien Kelin(สตีเวน ไคลน์)
ได้ให้ความเห็นตอบโต้ทำนองว่า
“ถ้าผู้เล่นอยากข้ามด้านที่เคยเล่นแล้วไปด่านที่เล่นค้างไว้ก็ควรเป็นสิทธิ์ที่ผู้เล่นจะทำได้ ทำไมต้องไปเสียเวลาเล่นด่านเก่าอีก”
ส่วนความสนใจของศาลนั้นอยู่ที่การพิจารณาข้อกล่าวหาของทาง NoA ที่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเป็นจริงรึไม่
ผลการตัดสินคือ Game Genie ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์อย่างที่ NoA กล่าวหา
มีสาเหตุ 2 ประการที่ทำให้ศาลตัดสินแบบนี้
ประการแรก Game Genie ทำให้เกิดงานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง (derivative works) รึไม่
ศาลเห็นว่าไม่
งานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง คือการนำผลงานของผู้อื่นมาดัดแปลงทำซ้ำเป็นผลงานของตัวเอง
ตัวอย่างงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องก็เช่น “รูปล้อเลียน”
ที่ใช้การตัดต่อดัดแปลงรูปเดิมให้กลายเป็นรูปใหม่ เป็นต้น
แม้ทาง NoA จะแย้งว่านี่เป็นงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องแต่ศาลมีหลักเกณฑ์หนึ่งสำหรับงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องไว้ว่า
“ตัวงานจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองแยกต่างหากจากงานเดิม”
ซึ่งตัวเกมที่ถูกดัดแปลงจาก Game Genie นั้นเมื่อปิดเครื่องก็จะหายไป จึงไม่เข้าข่าย
ปล. ถ้าการทำงาน Game Genie
ทำให้เกิดข้อมูลเกมอีกชุดหนึ่งที่ดัดแปลงค่าในเกมแล้ว เช่น เกมคอนทราที่มีปืน S ตั้งแต่เริ่ม
แล้วเอาไปเล่นที่เครื่องอื่นได้ละก็ นี่จะเข้าข่ายงานสร้างสรรค์ต่อเนื่องทันที
ประการต่อมาคือ การใช้ Game Genie เพื่อความบันเทิงส่วนตัวคือ Fair use รึไม่
ศาลเห็นว่าใช่
ตามหลักการของ Fair use นั้น “ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะดัดแปลงแก้ไขสิ่งที่ซื้อมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวผู้ซื้อเองได้”
ทั้งสองประการนี้ทำให้ในปี 1991 ไม่ทราบเดือนคำฟ้องของ NoA ตกไป
Game Genie จึงได้วางจำหน่ายในอเมริกาในที่สุดและได้รับความนิยมอย่างมาก
จากนั้น Game Genie ก็เริ่มถูกพัฒนาสำหรับเครื่องเกมอื่น ๆ เช่น Sega Mega Drive, SNES, เกมบอย เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ Sega ให้ Game Genie เป็น Official Product เลยทีเดียว
ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
ปี 1997 ช่วงที่ SNES กำลังจะตกยุคและผู้เล่นล้วนตั้งตารอเครื่องเกม Gen ต่อไป
Game Genie ก็ถูกประกาศเลิกผลิตในที่สุด
ผู้เขียนไม่มีข้อมูลว่าเพราะอะไรแต่คาดว่าเพราะปัญหาการเชื่อมต่อระดับ Hardware กับตัวเครื่องเกมทำให้ Game
Genie แม้จะทำงานกับเครื่องเวอร์ชั่นเก่าได้แต่ก็อาจจะทำงานไม่ได้กับเครื่องเวอร์ชั่นใหม่
(ตัวอย่างเช่น PS2 Slim ที่ถือเป็นเครื่องเวอร์ชั่นใหม่ของ PS2)
ผลคือสินค้าค้างสต๊อกและบริษัทขาดทุน
สิ่งที่ Game Genie หลงเหลือไว้คือ “การโกงเกมก็สนุกได้”
ลองนึกถึงตอนเล่นคอนทรากับเพื่อนฉากน้ำตกดูสิ
ถ้าไม่มีสูตร 30 ตัวหลายๆ คนคงไม่มีประสบการณ์ทำลายมิตรภาพแสนสนุกที่ยังเล่ากันมาจนถึงปัจจุบัน
การโกงด้วย “Save State” ของ Action Reply ก็ช่วยให้คนที่ไม่ค่อยมีเวลาสามารถสนุกกับเกมที่ใช้ระยะเวลาเล่นนาน
ๆ เช่น เกม RPG ได้โดยไม่ต้องกังวัลว่าจะหาจุด Save ไม่เจอ
“การโกงเกมก็สนุกได้” ตราบใดที่การโกงนั้นเป็นไปเพื่อความต้องการส่วนตัวและไม่กระทบต่อผู้อื่น
นี่ทำให้อุปกรณ์หรือ Software สำหรับโกงเกมยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น Action reply, Game Shark, ETC
แม้แต่ Game Genie เองก็ยังกลับมาอีกครั้งในปี 2012 โดยบริษัท Hyperkin
แต่สิ่งที่สำคัญมากคือคำตัดสินของศาลในครั้งนี้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญหาและการละเมิดลิขสิทธิ์
ที่ช่วยสร้างพื้นฐานเป็นแนวในการตัดสินคดีที่คล้ายคลึงกันได้ในอนาคต
โดยเฉพาะ “ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะดัดแปลงแก้ไขสิ่งที่ซื้อมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวผู้ซื้อเองได้”
คำตัดสินนี้ถูกนำไปใช้เป็นพื้นฐานส่วนหนึ่งในการตัดสินคดีที่คลายคลึงกันในอนาคต
และทำให้โลกของเกมทั้งคอนโซนและคอมพิวเตอร์เปลี่ยนไปอย่างไม่หวนกลับ
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น
ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับhttps://www.facebook.com/uptomejournal/
Ref
Cheating in video games
https://en.wikipedia.org/wiki/Cheating_in_video_games
Game Genie - Gaming Historian
https://www.youtube.com/watch?v=PCvIZ80RIhE
ถกลิขสิทธิ์ กรณีแปลงานโดยไม่ขออนุญาตและแปลงภาพในมานีมีแชร์
https://www.spu.ac.th/fac/law/th/content.php?cid=3954
Game Genie
https://en.wikipedia.org/wiki/Game_Genie
nintendo-of-america-inc-v-lewis-galoob-toys-inc
https://openjurist.org/16/f3d/1032/nintendo-of-america-inc-v-lewis-galoob-toys-inc
Game Genie
https://bootleggames.fandom.com/wiki/Game_Genie