บทความตามใจฉัน “GOC-Cheating Begin” Part 1

“การโกง” ในวงการเกมคือการกระทำที่แหกกฎเพื่อให้เกิดความได้เปรียบ

เป็นการกระทำที่ไม่เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้เล่น

แต่ “การโกง”

ในวงการเกมคอมพิวเตอร์และรวมถึงคอนโซลนั้นถือเป็น “Necessary evil” (ความชั่วร้ายที่จำเป็น)

โดยเฉพาะตัวผู้พัฒนาเกมเอง

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนุกไปกับเกมที่ผู้พัฒนาเกมทำมาให้

“การโกง” จึงเกิดขึ้น

ในบทความนี้จะพูดถึง “การโกงเกม” การกระทำที่แหกกฎเพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการเล่นเกม

ซึ่งในยุคหนึ่งการโกงเกมเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้เล่น

จนอาจจะฟังดูแปลก ๆ ในปัจจุบันถ้าจะมีคนพูดว่า “โกงถึงสนุก”

ซึ่งไม่มีใครคาดถึงว่า “การโกง” จะนำพาไปสู่ความวุ่นวายจนต้องกับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล


การโกงเกมคอมพิวเตอร์นั้นมีความเป็นมาเก่าแก่เทียบเท่ากับอายุของเกมคอมพิวเตอร์

เพราะตัวผู้สร้างเองจงใจทำให้เกมสามารถถูกโกงได้ วิธีการโกงจึงถูกสร้างขึ้นมาพร้อม

ๆ กับที่ตัวเกมเองถูกสร้างขึ้นมา แต่ไม่ใช่ด้วยความนึกสนุก

ในการสร้างสิ่งต่าง ๆ จำเป็นที่สิ่งที่สร้างจะต้องได้รับการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่ามันทำงานอย่างที่ควรจะเป็น

การโกงก็คือสิ่งที่ผู้สร้างใช้เพื่อทดสอบตัวเกมนั้นเอง

โดยในเกมคอมพิวเตอร์มักจะใช้วิธีการพิมพ์ข้อความที่เป็นรหัสเปิดโหมดโกงลงไปใน Message box

สำหรับผู้เขียนแล้ว “It is a good day to die” ถือเป็น Cheat code ของเกม Warcraft2 ที่จำได้ขึ้นใจมาตลอดจนถึงปัจจุบัน


แต่สำหรับเกมคอนโซลที่ใช้ Joypad เป็น input แล้ว

การพิมพ์ข้อความการเลือกตัวอักษรและใส่ลงไปที่ละตัวนั้นดูจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่

ผู้สร้างจึงมักใช้วิธีกดปุ่มบนจอยตามสถานการณ์และลำดับที่ถูกต้องแทนรหัสในการเปิดโหมดโกง

บางรหัสนั้นเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายชนิดที่เด็ก ๆ ในยุคนั้นจำได้แม่นยิ่งกว่าสูตรคูณเสียอีก


แล้วทำไมผู้เล่นถึงอยากโกงเกม

เหตุผลอันดับแรก ๆ เลยคือเกมยากเกินไป

เกมในสมัยก่อนโดยเฉพาะยุค NES นั้นมีรูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมามาก

แต่นั้นก็หมายความว่า เงื่อนไขการ Game Over ก็ง่ายมาก(ในบางครั้งง่ายจนดูเหมือนว่านักพัฒนามักง่าย)ด้วยเช่นกัน

ซึ่งกลับกลายเป็นว่าเกมมีความยากระดับมหาหินแทน

ในยุคนั้น เกมที่มีความโดดเด่นในเรื่องความยากมหาหินมีอยู่หลายเกม เช่น

Ninja Gaiden (ชื่อญี่ปุ่น Ninja Ryukenden)

Ghosts 'n Goblins (ชื่อญี่ปุ่น Makaimura)

Castlevania (ชื่อญี่ปุ่น Akumajō Dracula)

ทั้ง 3 เกมนี้ผู้เขียนเคยเล่นมาก่อน และพบว่าเกมมีจุดร่วมที่เหมือนกันจุดหนึ่งกันคือ

“เมื่อตัวละครโดนโจมตีแล้วจะกระเด็นไปข้างหลัง”,
“ตัวละครตายถ้าตกเหว” และ
“ข้างหลังมีเหว”

ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าผู้เล่นสมัยปัจจุบันมาลองเล่นดูอาจจะหัวร้อนเสียยิ่งกว่าเล่นเกมส์ตระกูล Dark soul เสียอีก


และบางเกมนอกจากจะยากแล้วยังมีเงื่อนไขน่าหงุดหงิดเพิ่มลงไปอีกด้วย

เช่น Ghosts 'n Goblins (ชื่อญี่ปุ่น Makaimura) ที่ชื่อเสียงโด่งดังมากจากเงื่อนไขที่

“จะสู้ Last Boos ได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นมีอาวุธที่กำหนดไว้” และ

“หากจะจบสมบูรณ์ผู้เล่นจะต้องเล่นจบ 2 รอบในคราวเดียว”

ลองจินตนาการว่าถ้า Dark Soul จะจบสมบูรณ์ผู้เล่นต้องลบ Save จบแล้วเล่นใหม่ตั้งแต่ต้นโดย

item และ skill ทุกอย่างถูก Reset ใหม่ดู

เกมอื่น ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความยากแต่ผู้เขียนไม่เคยเล่นก็เช่น

Silver surfer

Dr. Jekyll and Mr. Hyde เป็นต้น

ผู้ที่สนใจ สามารถค้นหาจาก Youtube ได้ โดยผู้เขียนแนะนำช่องของ AVGN (Angry Video Game Nerd)

ที่ชอบเอา “เกมห่วย” มารีวิวให้ได้ชม (คำเตือน ภาษาอังกฤษ, คำหยาบ)


อันต่อมาคือเพื่อความสะดวก

เกมส์สมัยก่อนนั้นส่วนใหญ่มักไม่มีระบบ Save หรือ Password เพื่อบันทึกความคืบหน้าในการเล่น

ทำให้ผู้เล่นจะต้องเล่นผ่านด่านตั้งแต่ต้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับจนไปถึงจุดที่ตัวเองเคยไปถึง ซึ่งมันไม่สะดวกสำหรับผู้เล่น

“ทำไหมต้องมาเล่นด่านเดิมซ้ำ ๆ ด้วย”

และอีกหลาย ๆ สาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นไม่สะดวกจนมองหาวิธี “การโกงเกม” มาตอบสนอง “จุดที่ตนไม่สะดวก”


ซึ่งมีหลายบริษัทหนึ่งที่รับรู้ความต้องการนี้และได้สร้าง “ธุรกิจอุปกรณ์โกงเกม” ขึ้นมา

เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวโดยเฉพาะ

หนึ่งในบริษัทเหล่านั้นคือ The Codemasters Software Company Limited

ได้สร้าง “อุปกรณ์โกงเกม” ที่ต่อมารู้จักกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในพื้นที่อเมริกาเหนือเมื่อปี 1990

ชื่อว่า Game Genie


To be continue in Part 2

ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”

โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น

ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ

https://www.facebook.com/uptomejournal/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่