ตอนแรกๆผมยังไม่เคยใช้รถเกียร์ CVT (เคยใช้แต่เกียร์ออโต้เฟืองมาตลอด)ก็คิดมาตลอดว่าเกียร์ CVT ไม่น่าจะทน เต็มที่ก็ไม่น่าจะใช้ได้เกิน 200,000 กม.เพราะมันเป็นแค่สายพานแม้จะเป็นสายพานโลหะก็ตาม จะเห็นว่าช่วงที่คล้องบนพูเล่มันจะยืดและเห็นเป็นปล้องๆคล้ายท้องงู และยังสงสัยอีกว่าเมื่อโลหะของสายพานกับโลหะของพูเล่มันเสียดสีกันมันจะไม่เกิดการลื่นฟรีกำลังทิ้งช่วงรถออกตัวเหรอ จนได้มาใช้เองจึงรู้ว่ามันมีข้อดีกว่าเกียร์ออโต้เฟือง 4สปีด ของคันที่ผมใช้มาทั้งสามคัน มีอันติสสองคัน แลนเซอร์ 1คัน) ข้อดี คือ
1 อัตราเร่ง ช่วงออกตัว(ออกตัวปรกติแต่ค่อนข้างเร็วกว่ารถคันอื่นๆเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขนาดกดคันเร่งยันพื้น)เวลาเร่งจะเห็นว่าเข็มวัดรอบกวาดขึ้นไปพร้อมกับเข็มวัดความเร็ว แต่เข็มวัดรอบจะไปอยู่ประมาณ 1,400 รอบ แต่เข็มความเร็วกวาดขึ้นต่อเนื่องและขึ้นเร็วมากจนรูสึกถึงอาการดึง
2 ใช้รอบต่ำกว่ามาก เทียบกันที่ความเร็ว 120 กม./ชม. แบบ 4สปีดจะใช้รอบที่ 2,900 ส่วน CVTใช้รอบที่ 2,200 โดยที่ความเร็วไม่ตก ใช้รอบต่ำยังกะเครื่องดีเซลเลย(น่าจะประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า)
3 ความราบลื่นของการเปลี่ยนอัตราทดซึ่งอันนี้ไม่ต้องพูดถึงเหตุผลเพราะมันเป็นธรรมชาติของสายพานอยู่แล้วที่ไม่มีขั้น ไม่มีการสลับแบบเฟือง
รถเกียร์ CVTคันที่ผมเห็นมาและใช้ได้มากที่สุดโดยที่ยังไม่มีการซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่
4 ปรับอัตราทดได้เหมาะสมทุกช่วงความเร็ว เช่น พอขับมาความเร็วสัก 40 แล้วกดคันเร่งความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นทันที ถ้าเป็นเกียร์ออโต้เฟืองจะต้องให้เกียร์ลดสปีดลงก่อน(เชนจ์เกียร์)แล้วเรียกรอบขึ้นใหม่ความเร็วจึงจะเพิ่มขึ้นจะมีอาการเหมือนรอรอบหน่อยๆ)
*** ขออภัย พอแทรกรูปแล้วภาพมันตะแคง ปรับไม่เป็นเพราะทำในโทรศัพท์)
คันนี้ ใช้ไป 527,160 กม. มากสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา รถใช้มา 4ปีกว่า

อันนี้คือคันก่อนหน้านี้ ใช้ไป 300,000 กม.

ส่วนคันล่างสุดคือคันที่ผมใช้อยู่เพิ่งจะ 100,000 กม. รถปีกว่า

โดยรถทั้งสามคันนี้เป็นรถแท็กซี่ทั้งหมด การขับไม่มีคำว่าถนอม คือขับแบบไม่บันยะบันยัง
เกียร์ CVT ใครว่าไม่ทน
1 อัตราเร่ง ช่วงออกตัว(ออกตัวปรกติแต่ค่อนข้างเร็วกว่ารถคันอื่นๆเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขนาดกดคันเร่งยันพื้น)เวลาเร่งจะเห็นว่าเข็มวัดรอบกวาดขึ้นไปพร้อมกับเข็มวัดความเร็ว แต่เข็มวัดรอบจะไปอยู่ประมาณ 1,400 รอบ แต่เข็มความเร็วกวาดขึ้นต่อเนื่องและขึ้นเร็วมากจนรูสึกถึงอาการดึง
2 ใช้รอบต่ำกว่ามาก เทียบกันที่ความเร็ว 120 กม./ชม. แบบ 4สปีดจะใช้รอบที่ 2,900 ส่วน CVTใช้รอบที่ 2,200 โดยที่ความเร็วไม่ตก ใช้รอบต่ำยังกะเครื่องดีเซลเลย(น่าจะประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า)
3 ความราบลื่นของการเปลี่ยนอัตราทดซึ่งอันนี้ไม่ต้องพูดถึงเหตุผลเพราะมันเป็นธรรมชาติของสายพานอยู่แล้วที่ไม่มีขั้น ไม่มีการสลับแบบเฟือง
รถเกียร์ CVTคันที่ผมเห็นมาและใช้ได้มากที่สุดโดยที่ยังไม่มีการซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่
4 ปรับอัตราทดได้เหมาะสมทุกช่วงความเร็ว เช่น พอขับมาความเร็วสัก 40 แล้วกดคันเร่งความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นทันที ถ้าเป็นเกียร์ออโต้เฟืองจะต้องให้เกียร์ลดสปีดลงก่อน(เชนจ์เกียร์)แล้วเรียกรอบขึ้นใหม่ความเร็วจึงจะเพิ่มขึ้นจะมีอาการเหมือนรอรอบหน่อยๆ)
*** ขออภัย พอแทรกรูปแล้วภาพมันตะแคง ปรับไม่เป็นเพราะทำในโทรศัพท์)
คันนี้ ใช้ไป 527,160 กม. มากสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา รถใช้มา 4ปีกว่า
อันนี้คือคันก่อนหน้านี้ ใช้ไป 300,000 กม.
ส่วนคันล่างสุดคือคันที่ผมใช้อยู่เพิ่งจะ 100,000 กม. รถปีกว่า
โดยรถทั้งสามคันนี้เป็นรถแท็กซี่ทั้งหมด การขับไม่มีคำว่าถนอม คือขับแบบไม่บันยะบันยัง