[CR] การผ่านชีวิตโรคซึมเศร้าของฉัน

สวัสดีค่ะ สมมติว่าชื่อ A นะคะ วันนี้จะมาเล่าเรื่อง ชีวิตการเป็นโรคซึมเศร้า ฉันเพิ่งเรียนจบจากคณะทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขอเล่าเลยละกันนะคะ ว่าเรื่องเป็นไงมาไง จะงงๆนิดนึง ฉันก็งงเหมือนกันค่ะ 

ตอนปี 1 ฉันเพิ่งเริ่มปรับตัวกับการเรียนที่ยากลำบาก และต้องแข่งกันตลอด

ฉันรู้สึกว่าฉันไม่เก่งเลย ทำให้ต้องพยายามมากว่าคนอื่นหลายเท่า วันๆ

เวลาว่างฉันก็เอาแต่อ่านหนังสือ เพื่อเตรียมสอบ เพื่อให้ได้คะแนนดีๆ และฉันก็อยู่ในกลุ่มที่เพื่อนตั้งใจทำงานมาก

จากตอนแรกฉันเป็นคนทำงานแค่พอเสร็จ

ก็ทำให้ฉันต้องพัฒนาตัวเองเป็นคนที่ทำงานละเอียดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเพื่อนๆคนอื่น

ก็ดีนะคะ เพื่อนก็คุยกับฉันได้ มีคนมาทักบ่อยๆ แต่ฉันไม่ค่อยทักใครก่อนเลย

ตอนปี 2 ฉันปรับตัวได้มากขึ้น ฉันพยายามอย่างหนักทำให้ผลการเรียนฉันดีขึ้น

เพราะฉันอยากเป็นคนที่สามารถรักษาคนไข้ให้หายได้ เวลาเรียนฉันมีความสุขมาก

เพราะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆตลอด ฉันชอบเรียนเพราะมันทำให้ฉันมีความรู้มากขึ้น

สามารถเอาความรู้ไปช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น ฉันชอบปีนี้ของฉันมากเลย

ฉันรู้สึกดีที่สามารถพาเพื่อนในกลุ่มของฉันเรียนและผ่านการสอบต่างๆไปพร้อมๆกัน

รู้สึกชอบตัวเองที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ด้วย รู้สึกมีค่ามากๆเลย

ตอนปี 3 เทอมแรก ความรู้สึกเดิมก็ยังคงอยู่ฉันเริ่มได้ไปฝึกงาน ฉันชอบมากเลยที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไข้ดีขึ้น

ถึงจะไม่ได้หายเลย แค่คนไข้ยิ้มฉันก็รู้สึกภูมิใจแล้ว แต่พอเทอมสองฉันเริ่มเหนื่อยจากอะไรก็ไม่รู้

หรือว่าฉันพยายามมากเกินไป จนเราเหนื่อย ทำให้ฉันหมดไฟในการเรียน

ไม่อยากมาเรียนเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไมเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเรียนอย่างเดียวด้วยล่ะมั้ง

ฉันเลยไปบอกอ.ที่ปรึกษา ว่าฉันไม่อยากมาเรียนเลย ฉันไม่รู้ว่ามาเรียนไปทำไม

มันไม่สนุกไม่น่าเรียนเหมือนที่เคยเป็นแล้ว ฉันร้องไห้ อ.ก็ให้กำลังใจฉันตลอด

อ.ให้ฉันเขียนไดอารี่มาส่งให้อ.ด้วยทุกอาทิตย์ ด้วยความที่ฉันเป็นคนชอบเขียน

ชอบพร่ำพรรณนา ฉันเลยเขียนได้เยอะมาก ไม่ว่าจะมีเรื่องดีหรือร้ายฉันก็เล่าให้อ.ฟังหมด

มันทำให้ฉันดีขึ้นนิดนึง รู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างๆฉัน

ที่ฉันไม่ค่อยปรึกษาพ่อแม่เพราะว่าเวลาฉันบอกพ่อแม่ว่าฉันเหนื่อยฉันเครียด

พ่อแม่จะพูดว่า แค่เรียนจะเหนื่อยตรงไหน พ่อแม่ขายของหาเลี้ยงลูก 3

คนไม่เหนื่อยกว่าหรอ เวลามีอะไรฉันเลยไม่อยากบอกพ่อกับแม่เลย

ตอนปิดเทอม ปี 3 ขึ้น ปี 4 ฉันต้องไปฝึกงาน

4 เดือน ฉันไปฝึกงานที่ๆนึง ที่ฉันชอบในฟิลด์นั้นมาก แต่พอไปฉันเจอคำด่า

คำดูถูกสารพัด ทำให้ self esteem ฉันต่ำลงมาก ฉันไม่เหลือความมั่นใจในตัวเองเลย

ฉันกลัวทุกอย่าง ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง ทั้งๆที่ฉันทุ่มเทกับที่นี่มาก

แต่โดนว่าๆฉันไม่ตั้งใจฝึกงาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจที่สุด

ถ้าว่าฉันโง่ฉันยังไม่โกรธเท่าว่าฉันไม่ตั้งใจไม่พยายามเลย

เพราะฉันพยายามทำให้ดีทุกอย่างๆ ฉันกลัวที่จะฝึกงานมาก ฉันร้องไห้ทุกวัน ฉันไม่มีความสุขกับการฝึกงานเลย

จนฉันคิดว่าฉันเป็นซึมเศร้ารึป่าว แต่ฉันก็ยังปฎิเสธตัวเองว่าไม่เป็นหรอก

จนฉันย้ายไปฝึกงานที่อื่นต่อ ฉันก็ยังกลัว และไม่มีความสุขเลยทั้งที่ที่ใหม่ เป็นที่ๆดี

จนถึงวันที่ฉันทนไม่ไหว ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีความสุขเลย

ทำไมคนอื่นถึงมีความสุขได้นะ ทำไมการมีความสุขมันยากจัง

ฉันอยากมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง ฉันร้องไห้ โทรไปหาเพื่อนเก่าที่เป็นซึมเศร้า

เพื่อนฟังฉันตลอด เพื่อนแนะนำให้ฉันไปหาหมอ แต่ฉันไม่อยากเสียเงิน

เลยโทรไปสายด่วนสุขภาพจิต แต่ก็โทรไม่เคยติดเพราะว่า น่าจะมีคนใช้บริการเยอะ

ฉันเลยโทรไปหารพ.รัฐแห่งหนึ่งแต่ว่าต้องจองคิวล่วงหน้า 2 เดือน

ฉันกลัวว่าอีกสองเดือนถ้าอาการมันไม่รุนแรงขนาดนี้ กลัวไปหาหมอแล้วจะไม่ได้อะไร

เลยหาที่ๆจะได้ไปหาหมอที่เร็วที่สุด เพื่อนเลยแนะนำ รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์

แต่ว่าเร็วสุดคือ 2 อาทิตย์ ฉันก็เลยตกลง ก็ได้ อยากหาหมอแล้ว

เพื่อนฉันแนะนำว่าเอายาที่เค้ากินไปลองกินดูมั๊ย ฉันก็เลยไปซื้อตาม

แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้กิน เพราะว่าฉันไปศึกษาถึงผลข้างเคียงมัน แล้วฉันกลัว

และคนไข้ซึมเศร้าแต่ละคนอาการก็ไม่เหมือนกัน การรักษาการให้ยาก็ต่างกันไป

ฉันจึงรออีกสองอาทิตย์แล้วไปหาหมอ วันที่ฉันไปหาหมอที่รพ.นี้ดูแลดีมาก

พยาบาลสวยทุกคนเลย (อันนี้ไม่เกี่ยว 5555)รอไม่นานก็ได้เข้าไปตรวจ เจอหมอคนนึง

ไม่รู้บอกชื่อได้มั๊ย ฉันก็เล่าให้เค้าฟังว่าเป็นยังไงมายังไง

หมอวินิจฉัยว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้า ฉันจึงได้ยามากิน แต่ดีที่ยาตัวนี้ไม่แรงมาก

กินแล้วแค่ปากแห้ง ไม่ได้ทำให้ง่วงนอน แล้วฉันก็เลยขอหมอว่าฉันมีปัญหาเรื่องเงิน

บอกชื่อยาแล้วให้ฉันไปซื้อเองได้มั๊ย หมอบอกไม่เป็นไร คราวหน้าถ้าจะมาตรวจให้ไปที่รพ.ศิริราช

มันน่าจะถูกกว่านี้ แล้วฉันก็ขอบคุณและประทับใจในหมอคนนี้มาก

แล้วไปจ่ายเงินไม่เกิน 900 บาทนะ ฉันรู้สึกเสียดายเงินนิดหน่อย แต่ว่าถ้ามันหายมันก็คงคุ้มแหละเนอะ

แล้วฉันก็กลับไปเรียน

ปี 4 เทอมแรก ฉันกลับมาแบบไม่เหมือนเดิม ฉันเป็นคนที่ไร้อารมณ์มาก

ไม่มีความรู้สึกอยากเรียน หรือกระตือรือร้นเหมือนเก่าแล้ว ฉันเงียบกว่าเดิมมาก

ไม่คุยกับใคร ความสามารถในการทำงานของฉันลดลง ฉันไม่กล้าพูดหน้าชั้นเหมือนเก่า

ไม่สามารถเป็นผู้นำได้ จนมีอาจารย์คนหนึ่งเรียกฉันไปคุยเพราะเห็นความผิดปกติของฉัน

อ.ก็ตกใจที่รู้ว่าฉันเป็นโรคนี้

แต่อ.เป็นห่วงฉันมากโทรมาหาฉันทุกครั้งที่ฉันไม่ไหวแล้วทักไลน์ไปบอก อ.

คุยกันเป็นชม. อ.ให้คำปรึกษาฉันดีมาก ฉันขอบคุณอ.มาก ที่อยู่ข้างๆฉัน

เรื่องอาการของฉัน อ.ที่ปรึกษาฉันก็รู้มาตลอด แล้วก็คอยติดตามอาการฉัน

เรียกมาคุยเป็นระยะๆ ฉันกลัวว่าฉันจะเรียนไม่จบด้วย ทุกคนบอกว่า ไม่มีทางหรอก

ฉันเป็นคนเก่งไม่มีทางเรียนไม่จบ แต่ฉันบอกอ.ว่าฉันไม่ได้กลัวสอบไม่ผ่านหรืออะไร ฉันกลัว

ฉันจะตายก่อนที่จะเรียนจบ เพราะฉันตื่นมาแต่ละวันฉันรู้สึกไม่อยากลุกจากเตียงเลย

ทำไมต้องตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตด้วย แค่หายใจก็เหนื่อยแล้ว ไม่อยากตื่นเลย

เวลาหลับคือเวลาที่มีความสุขที่สุดของฉัน ฉันอยากเป็นเจ้าหญิงนิทรา

ที่นอนหลับไปอย่างมีความสุข ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีเรี่ยวแรงเลย

และความระมัดระวังตัวก็ลดลง เวลาฉันข้ามถนน ฉันก็เดินไปเลยไม่ได้มองรถ

เหมือนล่องลอยยังไงก็ไม่รู้ เคยเกือบเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง แต่ก็ดีที่รอดมาได้

ความยากลำบากในชีวิตคือการนอนหลับ กว่าจะหลับได้มันยากมาก ฉันร้องไห้ทุกคืนเลย

กว่าจะหลับได้ก็คือเหนื่อยแล้ว ตื่นมาก็เหนื่อยๆยังไงไม่รู้ สรุปคือตอนหลับดีที่สุดและ

บางคืนก็ฝันร้าย ฝันว่าหนีปีศาจ ฝันเหนือมนุษย์มากๆ ก็ตื่นขึ้นมากลางดึกอีก

กว่าจะหลับได้ก็ลำบากอีก แต่ดีที่ชีวิตฉันมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต

เค้าเข้ามาในเวลาที่ฉันอ่อนแอ เค้ามาเป็นพลังด้านดีๆ ให้กับฉัน

เค้าเป็นคนที่กล่อมฉันทุกคืน โทรปลุก และส่งข้อความมาให้กำลังใจฉันก่อนไปเรียนทุกวัน

เค้าทำแบบนี้มาเป็นปีแล้ว ฉันเคยรู้สึกว่าฉันเป็นภาระเค้ามากๆ

ฉันอยากจะเลิกกับเค้าบ่อยๆ เพื่อให้เค้าไปเจอคนที่ปกติกว่านี้ แต่เค้าก็ดื้อ

แต่ถ้าเค้าไม่ดื้อ เราคงไม่ได้เป็นคนที่อยู่ข้างๆกันจนมาถึงวันนี้

เค้าอยู่ทุกๆช่วงเวลาของฉัน ขอบคุณเค้ามากๆ ฉันอยากให้คนที่มีแฟนเป็นโรคซึมเศร้า

มั่นคงจับมือคนรักไปทุกสถานการณ์ รับฟังเค้าถึงเราจะช่วยอะไรเค้าไม่ได้

ก็ขอให้รับฟังและอยู่ข้างๆกัน เค้าอาจจะมีช่วงขึ้นๆลงๆ บ่อยๆ

แต่ก็ขอให้เข้าใจเค้านิดนึงนะ เตือนให้แฟนกินยาทุกวัน และเตือนให้ไปหาหมอตามนัด

พาเค้าไปเที่ยวหรือไปทำอะไรที่มีความสุขบ้าง อย่างฉันชอบถ่ายรูป

แฟนฉันก็ไปฝึกถ่ายรูป ฉันก็แต่งตัวสวยๆไปให้เค้าถ่าย แล้วก็ไปคาเฟ่หมา คาเฟ่แมว

รู้สึกชอบมากๆ มีความสุขมากๆ แล้วก็ไปกินเค้ก บิงซู หรือของอะไรอร่อยๆก็ดีนะ

ฉันเคยไปเล่นโยคะ ชี่กงอะไรพวกนี้มันทำให้จิตใจฉันสงบมากขึ้น ลองไปดูก็ได้นะคะ

ปี 4 เทอมสุดท้าย ฉันได้ไปฝึกงานที่ไกลมากๆ

ได้ทั้งเที่ยวและฝึกงานเป็นที่ๆทำให้ฉันได้แรงบันดาลใจในการรักษาคนไข้

ฉันกลับมาพร้อมไฟที่เริ่มติดอีกครั้ง ฉันเลือกทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ

ทำแล้วฉันมีความสุข แล้วก็เลิกคิดเรื่องเรียน

เป็นการเก็บเกี่ยวความสุขในช่วงมหาลัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

และในช่วงนี้ฉันได้ไปหานักจิตวิทยา ที่รพ.ศิริราช ค่ารักษา 1520 บาท

แพงหน่อยแต่ว่าฉันว่ามันได้อะไรมากมายเลย เป็นการคุยที่สะท้อนความคิดและความรู้สึกของตัวเองที่เราไม่เคยรู้

นักจิตให้การบ้านฉันเป็นตารางให้ฉันไปเขียนเดี๋ยวลงรูปตัวอย่างให้ดูนะ เป็นหัวข้อ 5 ช่อง

ช่องแรกเป็นสถานการณ์ที่เจอ ว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วช่องที่ สอง

คือตอนนั้นเรารู้สึกอะไร คิดอะไรอยู่ แล้วอารมณ์ตอนนั้นเป็นยังไงให้กี่เปอร์เซ็นต์ แล้วให้ลองคิดแบบอื่นดู

เพราะว่าการที่เราจะลบความคิดนั้นออกไปจากใจมันคงยากมากๆๆๆๆๆ แต่ถ้าลองเอาความคิดอื่นมาทับล่ะ

มันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ ตอนแรกฉันก็ทำผิดอยู่นะ มันไม่ทำให้ฉันดีขึ้นเลย เพราะความคิดแบบอื่นที่ฉันคิด

มันเหมือน ความคิดที่ต่อเนื่อง พอยิ่งคิดมันก็ยังลบออกไปไม่ได้

นักจิตเลยบอกให้ฉันคิดแบบอื่น คิดในแบบที่เหมือนเป็นอีกด้านเลย

อันนี้คิดนานอยู่นะกว่าจะได้ คิดแบบชมตนเอง หรือยังไงดี

ฉันไม่รู้จะอธิบายช่องนี้ยังไงนะคะ ลองอ่านตัวอย่างดูแล้วกันค่ะ จริงๆมันก็อาจจะไม่ถูก

100%นะคะ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ

สุดท้ายนี้นะคะ ฉันเรียนจบแล้วกำลังหางานทำอยู่

และฉันเลิกยาตามที่หมอสั่งแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ยังไปทำจิตบำบัด

หรือคลินิกคลายเครียดที่ศิริราชอยู่ ฉันรู้สึกดีใจมากๆที่ฉันมาถึงจุดนี้ได้

เพราะฉันไม่คิดว่าจะผ่านไปได้เลย แต่ฉันก็ไม่ได้หายขาดนะคะ

ยังมีวันที่ขึ้นๆลงๆอยู่

ฉันเลยอยากมาเขียนกระทู้นี้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่เป็นแบบฉัน หรือ

เพื่อนๆที่มีคนรอบข้างเป็นโรคซึมเศร้านะคะ

ดิฉันขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างๆฉัน ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา

ขอบคุณทุกบทเรียนในชีวิต ขอโทษด้วยนะคะที่เขียนงงๆ ถ้าเขียนผิดตรงไหนบอกได้เลยนะคะ

เดี๋ยวฉันจะมาแก้ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับใครหลายๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอให้ทุกคนมีความสุขในทุกๆวันค่ะ ^+++++++++++++^
ชื่อสินค้า:   โรคซึมเศร้า
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่