พีคสุด!!! มหากาพย์ลูกหนี้...ครอบครัวโจรมาในคราบแฟน

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเรื่องทั้งหมดที่จะเล่าเป็นเรื่องจริง!ที่เกิดกับพี่สาวเราเอง โดยที่ลูกหนี้คือแฟนเก่าซึ่งมายืมเงินไปทั้งหมด 1 ล้าน 5 แสนบาท!!!   ตั้งแต่ประมาณปี 2016 ตอนนี้เรื่องทั้งหมดกำลังอยู่ในชั้นศาล มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันอยู่ ยืดเยื้อมาประมาณปีกว่าเกือบ 2 ปีได้แล้วค่ะ

เรื่องเริ่มต้นจากแฟนพี่สาวคนนี้ คบกันมาประมาณ 4-5 ปีได้ค่ะ เขามีอาชีพเป็นนักธุรกิจ เปิดบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ออฟฟิศสำนักงานตั้งอยู่ในตึกใหญ่มีชื่อเสียงใจกลางเมือง การศึกษาดีจบปริญญาโทมหาวิทยาลัยชื่อดัง ภาคอินเตอร์ ครอบครัวฝั่งแม่มาจากตระกูลผู้ดีเก่านามสกุลดัง ซึ่งลักษณะของเขาดูภายนอกหน้าตาอาจจะไม่ได้ถึงกับหล่อ ตัวอ้วน และเตี้ย แต่ด้วยความที่ผิวขาว และเป็นคนบุคคลิกดี แต่งตัวดี พูดจาสุภาพเรียบร้อย จึงทำให้ดูภูมิฐาน ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ส่วนการใช้ชีวิตของเขาก็ค่อนข้างจะหรูหราประมาณนึงเลย ขับรถ BMW กินข้าวก็มักจะกินร้านอาหารที่ค่อนข้างแพง บางครั้งก็กินร้านอาหารในโรงแรมเลย

ระหว่างที่คบกันก็มีเลิกรากันไปช่วงนึง เพราะพี่สาวจับเรื่องโกหกเค้าได้หลายเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องแต่ละเหตุการณ์ก็แปลกๆ เหมือนเล่นละคร สร้างสถานการณ์ตบตาเรื่องต่างๆ ซึ่งบางเรื่องก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไมเรื่องเล็กๆน้อยๆ (ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ) แต่หลังจากนั้นก็มีเหตุให้กลับมาคบกันใหม่ โดยการกลับมาครั้งนี้คบกันได้ไม่นานก็มีแพลนจะแต่งงานกัน

และแล้วการยืมเงินก็เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลานี้เอง!! ช่วงเวลาของการใกล้จะเป็นทองแผ่นเดียวกัน ~ แผนสูงมั้งหละ ~ วันนึงเหมือนเค้ามาคุยเชิงปรึกษาธุรกิจกับพี่สาวเรา เรื่องบริษัทเค้าหมุนเงินไม่ทันไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน อยากจะขอยืมเงินจำนวน 1,500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยจะให้ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน (อัตรานี้เค้าเป็นคนพูดเองเสนอเองทุกอย่าง) ตอนแรกพี่เราก็งงๆเค้าจะมายืมเราทำไม เพราะที่บ้านเค้าก็ดูมีฐานะ ทำไมไม่ยืมพ่อแม่เค้าหละ เค้าจะมาเสียดอกเบี้ยให้เราทำไม ซึ่งพี่ก็ถามกลับไป และเค้าก็ให้เหตุผลว่าถ้ายืมคนใกล้ตัว กลัวตัวเองจะเหนียวหนี้ได้ไม่ยอมคืนไม่ตั้งใจบริหารการเงิน สุดท้ายพี่เลยให้ยืมไปด้วยความไว้ใจ และคิดว่าอีกหน่อยก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว - แต่เงินที่ให้ยืมไปบอกเค้าว่าเป็นของแม่เรา เพราะจะได้ให้เค้าเกรงใจ และมีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันเป็นลายลักษณ์อักษร

พอใกล้ๆถึงกำหนดชำระหนี้เค้าก็มีการเกริ่นๆมาว่าอาจจะขอยืมต่อนะ อยากจะเอาไปลงทุนขยายธุรกิจกับเพื่อน แต่พี่เราไม่ยอมบอกว่าแม่อยากได้เงินคืนก่อน และพอถึงวันครบกำหนดคืนเงินจริงๆ เค้าแกล้งป่วยจ่ะ!! บอกว่าเป็นฝีที่ตูด เดินไม่ได้ ลุกนั่งก็ปวด มาเจอไม่ได้ ถึงขั้นให้พ่อเค้าโทรมาคุยกับแม่บรรยายอาการป่วยของลูกสารพัด แต่พี่เราไม่ยอมบุกไปถึงบ้านเค้าจะให้เค้าเปิดตูดให้ดูว่าเป็นจริงๆมั้ย....แต่สุดท้ายไม่ได้ดูมั้งเราจำไม่ค่อยได้ — และหลังจากนั้นก็มีการทวงถามหนี้มาโดยตลอดหลายเดือน ซึ่งก็ยังไม่ได้คืน ความสัมพันธ์ของพี่เรากับเค้าก็ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ตอนนี้ให้ทางผู้ใหญ่มาเจรจากัน พ่อเราต้องโทรไปทวงพ่อเค้า พ่อเค้าก็บ่ายเบี่ยงขอเลื่อนตลอด โดยอ้างเหตุผลสารพัด เช่น ติดต่อธุรกิจกับต่างชาติรอเค้าจ่ายเช็คมา วันนู้นวันนี่ได้แน่นอน พอใกล้ถึงวันก็หาข้ออ้างใหม่ ดิวมีปัญาหานู้นนี่ ต้องไปต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง ต้องขอเลื่อนไปอีก จนสุดท้ายจ่ายคืนมาให้ 1 แสนบาท

ในระหว่างหลายเดือนนั้นทางเราก็เตรียมการฟ้องร้องดำเนินคดี และเริ่มทำการสืบประวัติตัวเค้า ครอบครัวเค้า (ทำไมไม่ทำตั้งนานแล้วว่ะ...มัวแต่กินหญ้ากันอยู่ไง -_-!) และแล้วความจริงก็เริ่มค่อยๆปรากฎ......ดังนี้

- บริษัทของเค้าไม่ได้เปิดมาเพื่อดำเนินกิจการจริง ไม่มีการยื่นภาษี ยื่นงบการเงินใดๆทั้งสิ้น เหมือนเปิดมาเพื่อสร้างหน้าสร้างตาให้ตัวเอง และใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพในการหลอกเงินคนอื่นเท่านั้น
- พ่อและแม่ของเค้าต่างก็เคยโดนฟ้องร้อง จนมีสถานะเป็นผู้ล้มละลายหลายรอบ เดี๋ยวพ่อโดน 3 ปีหลุด เดี๋ยวแม่โดนต่อ เวียนกันไปเรื่อย
- เค้าเป็นคนที่มีประวัติการยืมเงินคนนู้นคนนี้เยอะแยะไปหมด ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนสมัยเรียน หรือแม้กระทั่งหลอกคนรู้จักมาลงทุน บ้างก็ได้เงินคืน บ้างก็ยังไม่ได้คืน คนที่ได้คืนก็กินระยะเวลานาน ทวงสารพัดวิธี
- ครอบครัวนี้ทำกันเป็นขบวนการ ทั้งพ่อและแม่ต่างไม่มีอาชีพ แต่จะอาศัยวาทะศิลป์ และการสร้างภาพเปลือกนอกให้ดูดี หลอกลวงคน ใช้ตัวลูกเปิด ตัวพ่อตบต่อ ตัวแม่ปิดท้ายอะไรประมาณนี้
- เที่ยวไปบอกเพื่อนๆเค้าว่าที่เลิกรากับพี่เรา เพราะครอบครัวเราบีบคั้นให้เค้าแต่งงานด้วย อยากได้เค้าเป็นลูกเขยจนตัวสั่นนนน 🤮
ฯลฯ

หลังจากสืบจนรู้ความจริงหลายเรื่อง และการเตรียมฟ้องร้องเรียบร้อย การฟ้องศาลจึงเกิดขึ้น 

(เรื่องราวความชั่วและความพีค!! ยังไม่จบแค่นี้เดี๋ยวมาต่อนะคะ)