โสตถิเสนเห็นเช่นนั้นประหวั่นว่า
สัมพุลาพร่ำพ้อขอสงสาร
ใจจะขาดสลายจนวายปราณ
จะเจือจานใจเธออย่าเพ่อวาย
น้องหญิงเอย ขณะนี้ขณะไหน
พี่สงสัยเธอชักช้าถึงมาสาย
ค่ำคืนนี้ใจพี่นี้วุ่นวาย
เธอมีชายไหนรักพักไว้รือ
โอ้ยักข์ไซร้ไพรีที่จับน้อง
จะขอร้องวอนไหว้ไฉนหรือ
ยักข์จักกินจงกินไปไม่ยึดยื้อ
ไม่ยึดถือชีวิตจักปลิดปลง
ทุกข์เพราะยักข์มิพักจะหักเคี้ยว
จงกินเทียวไม่ทุกข์ท้นจนลืมหลง
ทุกข์ก็แต่พระที่รักจักพะวง
ก็พระองค์ระแวงจะแหนงน้อง
สามีไซร้ไขสือบันลือศักดิ์
พระที่รักสงสัยหญิงใจสอง
จึงยกธรรมคำพระมาประลอง
จะกลั่นกรองคำเฉลยจะเผยใจ
ความสัตย์ซื่อถือเอายากจากหญิงร้าย
ร้อยเล่ห์หลายหลากรักมักไฉน
วิชาธรดาบสจรดพรานไพร
ท่องเที่ยวไปลดเลี้ยวจักเกี้ยวกานท์
หาสัจจะได้ยากจากปากหญิง
ถ้อยคำจริงมีน้อยร้อยคำหวาน
ดุจปลาไหลลื่นมากยากจะควาน
ยากจะพานพบคำจริงจากหญิงใด
โอ้พระนางสัมพุลาธิดาแก้ว
ผู้คลาดแคล้วจากยักข์ด้วยรักไฉน
สัจวาจาล้ำค่ากว่าสิ่งใด
จึงเหลือใจออกหน้าท้าประลอง
หากลูกเจ้า จะเบาใจในศรัทธา
สัมพุลา อาจอ้างพ่างผยอง
สัตยาธิษฐานพยานน้อง
จะปัดป้องสบประมาทวาทภัย
ครั้นแล้วธิดาแก้วผู้แกล้วกล้า
จึงทูลว่า เจ้าพี่ขี้สงสัย
น้องจักทำน้ำมนต์ปนน้ำใจ
ล้างพิษภัยขี้ระแวงแคลงน้องนา
ความจริงว่า ข้ารักพระองค์เทียว
พระองค์เดียวเท่านั้นนั่นแหละหนา
เป็นความจริง สัจจะกิริยา
ดับโรคาพยาธิจงปราศไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(อรรถกถา) โสตถิเสนกุมารผู้พระสวามีทอดพระเนตรเห็นพระนางปริเทวนาการอยู่อย่างนี้
จึงทรงดำริว่า นางนี้ร่ำไรรำพันยิ่งนัก แต่ว่าเรายังไม่รู้ความเป็นไปของนาง ถ้านางทำเช่นนี้เพราะสิเนหาอาลัยในเราแล้ว
น่าที่ดวงหทัยของนางจะแตกทำลายเราจักทดลองนางดูก่อน แล้วเสด็จไปประทับนั่งที่ประตูบรรณศาลา.
พระนางสัมพุลาก็ร่ำไห้ดำเนินไปยังประตูบรรณศาลาไหว้พระบาทแห่งพระสวามีแล้วทูลว่า
ข้าแต่พระสวามีผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระองค์เสด็จไปไหนมาเพคะ?
ลำดับนั้น โสตถิเสนกุมารจึงรับสั่งกะพระนางว่า ดูก่อนนางผู้เจริญ ในวันอื่นๆ
เจ้าไม่เคยมาในเวลานี้เลย วันนี้เจ้ามาจนค่ำคืน เมื่อจะดำรัสถามจึงตรัสคาถาความว่า
ดูกรพระราชบุตรีผู้มียศ เธอมาเสียจนค่ำทีเดียวหนอ วันนี้เธอมากับใครเล่า
ใครเป็นที่รักของเจ้ายิ่งกว่าเรา.
(อรรถกถา) ลำดับนั้น พระนางสัมพุลาจึงกราบทูลพระสวามีว่า ทูลกระหม่อมเอย เมื่อกระหม่อมฉันเก็บผลไม้เสร็จแล้ว
เดินมาพบอสูรตนหนึ่ง มันมีจิตรักใคร่ในหม่อมฉัน ยึดแขนไว้แล้วพูดว่า ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามคำของเรา
เราจักกินเจ้าเป็นอาหาร เวลานั้นหม่อมฉันเศร้าโศกถึงทูลกระหม่อมแต่ผู้เดียว
จึงได้ร่ำไรรำพันอย่างนี้แล้วกล่าวคาถาความว่า
หม่อมฉันถูกศัตรูมันจับไว้ ได้กล่าวคำนี้ว่า ถึงยักษ์จะกินเราเสีย เราก็ไม่มีความทุกข์
ทุกข์แต่ว่าพระหฤทัยของทูลกระหม่อมของเราจะเคลือบแคลงเป็นอย่างอื่นไป.
(อรรถกถา) เมื่อพระนางจะทูลพฤติการณ์ที่เหลือต่อไป จึงทูลว่า ข้าแต่พระทูลกระหม่อม หม่อมฉันถูกอสูรตนนั้นจับไว้แล้ว
เมื่อไม่สามารถจะให้มันปล่อยตัวได้ จึงทำการร่ำร้องฟ้องเทวดาขึ้น ทันใดนั้น ท้าวสักกเทวราชทรงวชิราวุธเสด็จมาประทับยืนบนอากาศ
ตวาดขู่อสูรให้มันปล่อยหม่อมฉัน แล้วจองจำมันไว้ด้วยตรวนทิพย์ เหวี่ยงไปในระหว่างภูเขาลูกที่สาม แล้วเสด็จหลีกไป
หม่อมฉันอาศัยท้าวสักกเทวราช รอดชีวิตมาได้ดังทูลมาอย่างนี้.
โสตถิเสนราชกุมารทรงสดับเรื่องราวนั้นแล้ว จึงแสร้งตรัสว่า แน่ะนางผู้เจริญ ข้ออ้างนั้นจงยกไว้
ขึ้นชื่อว่าดวงใจของมาตุคามยากที่จะหาความสัตย์ได้ ก็ในป่าหิมพานต์มีพวกพรานไพร ดาบส วิชาธรเป็นต้นมากมาย
ใครจะเชื่อใจเจ้าได้ แล้วตรัสคาถาความว่า
ความสัตย์ยากที่จะหาได้ในหญิงโจรผู้มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย ความเป็นไปของหญิงทั้งหลายรู้ได้ยาก เหมือนความเป็นไปของปลาในน้ำฉะนั้น.
(อรรถกถา) พระนางสัมพุลาได้ยินพระดำรัสของพระสวามี จึงทูลว่า ข้าแต่พระทูลกระหม่อม หม่อมฉันจักเยียวยาทูลกระหม่อม
ผู้ไม่ทรงเชื่อ ด้วยกำลังความสัตย์ของหม่อมฉันนั่นเทียว แล้วตักน้ำมาเต็มกระออม ทำสัจจกิริยา
รดน้ำลงเหนือพระเศียรพระสวามี แล้วกล่าวคาถา ความว่า
ถ้าความสัตย์ที่หม่อมฉันไม่รู้สึกว่า รักชายอื่นยิ่งกว่าทูลกระหม่อม เป็นความจริง
ขอจงช่วยพิทักษ์รักษาหม่อมฉัน ด้วยสัจวาจานี้ ขอพยาธิของทูลกระหม่อมจงระงับหาย.
: ยังมีต่อ
พระนางสัมพุลา (๖)
สัมพุลาพร่ำพ้อขอสงสาร
ใจจะขาดสลายจนวายปราณ
จะเจือจานใจเธออย่าเพ่อวาย
น้องหญิงเอย ขณะนี้ขณะไหน
พี่สงสัยเธอชักช้าถึงมาสาย
ค่ำคืนนี้ใจพี่นี้วุ่นวาย
เธอมีชายไหนรักพักไว้รือ
โอ้ยักข์ไซร้ไพรีที่จับน้อง
จะขอร้องวอนไหว้ไฉนหรือ
ยักข์จักกินจงกินไปไม่ยึดยื้อ
ไม่ยึดถือชีวิตจักปลิดปลง
ทุกข์เพราะยักข์มิพักจะหักเคี้ยว
จงกินเทียวไม่ทุกข์ท้นจนลืมหลง
ทุกข์ก็แต่พระที่รักจักพะวง
ก็พระองค์ระแวงจะแหนงน้อง
สามีไซร้ไขสือบันลือศักดิ์
พระที่รักสงสัยหญิงใจสอง
จึงยกธรรมคำพระมาประลอง
จะกลั่นกรองคำเฉลยจะเผยใจ
ความสัตย์ซื่อถือเอายากจากหญิงร้าย
ร้อยเล่ห์หลายหลากรักมักไฉน
วิชาธรดาบสจรดพรานไพร
ท่องเที่ยวไปลดเลี้ยวจักเกี้ยวกานท์
หาสัจจะได้ยากจากปากหญิง
ถ้อยคำจริงมีน้อยร้อยคำหวาน
ดุจปลาไหลลื่นมากยากจะควาน
ยากจะพานพบคำจริงจากหญิงใด
โอ้พระนางสัมพุลาธิดาแก้ว
ผู้คลาดแคล้วจากยักข์ด้วยรักไฉน
สัจวาจาล้ำค่ากว่าสิ่งใด
จึงเหลือใจออกหน้าท้าประลอง
หากลูกเจ้า จะเบาใจในศรัทธา
สัมพุลา อาจอ้างพ่างผยอง
สัตยาธิษฐานพยานน้อง
จะปัดป้องสบประมาทวาทภัย
ครั้นแล้วธิดาแก้วผู้แกล้วกล้า
จึงทูลว่า เจ้าพี่ขี้สงสัย
น้องจักทำน้ำมนต์ปนน้ำใจ
ล้างพิษภัยขี้ระแวงแคลงน้องนา
ความจริงว่า ข้ารักพระองค์เทียว
พระองค์เดียวเท่านั้นนั่นแหละหนา
เป็นความจริง สัจจะกิริยา
ดับโรคาพยาธิจงปราศไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้