แบบไหนคือการบอกเลิกที่แย่ที่สุด

กระทู้นี้(ดูจะ)ไม่มีประโยชน์หรือให้สาระใดๆ จขกท.อยากระบายค่ะ

สวัสดีค่ะ อยากคุยกับใครสัก(หลาย)คน คุยกับคนในชีวิตจริงไม่ได้ค่ะ เพราะเชื่อว่าต้องโดนซ้ำแน่ๆ

เรื่องคือ เราได้คุยกับผช.คนหนึ่ง  สมมุติว่าชื่อเอ็ม บอกก่อนว่าเราเคยแอบชอบเขา แต่ตอนนั้นเขามีภรรยา
เราก็เลยเดินออกมาแบบเงียบๆ แล้วก็เหมือนจะลืมไปแล้ว จนวันหนึ่งไม่รู้เกิดอะไรขึ้น
(เจ้ากรรมนายเวรคงดลใจ) เราทักไปแบบ เป็นไงมั่ง สบายดีไม๊ คุยทั่วไป ก็ได้รู้ว่า เขาเลิกกับภรรยาแล้ว
(ไม่เกี่ยวกับเรานะคะ) เราก็แบบ คุยกันทุกวัน เธอโสด ฉันโสด เราอายุ3x เขาอายุ 4x ไม่มีใครเด็กแล้ว รับผิดชอบชีวิต
มีงานการทำทั้งคู่ ก็ตกลงคบกัน ชายคนนี้ทำงานต่างประเทศสองสัปดาห์
อยู่ไทยสองสัปดาห์ (คืนหนึ่งที่สนามบิน เอ็มกำลังจะเดินทางไปทำงาน ได้โทรมาหาเรา
บอกว่ามีปัญหาเรื่องหนังสือเดินทาง สักพักก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว มีจนท.ช่วย
ให้เบอร์มาด้วย เผื่อตอนเข้าไทยมีปัญหาให้โทรหาเขา เรายังว่าเขาใจดีจังแต่ก็ไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ)
เราจะหาเวลาอยู่กับเขา เคลียทุกธุระเพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกัน

เอ็มไม่ค่อยมีเพื่อนในเมืองไทยมากนัก จะมีที่สนิทๆอยู่คนหนึ่ง สมมุติว่าชื่อบี
เอ็มจะไปทำงานให้บีแทบทุกวัน ไป สร้างทางรถเข็นบ้าง(เอ็มแก่มากแล้ว ต้องใช้รถเข็น)  เชิ่อมเหล็ก ขุด ตอก
ซ่อมไฟ สารพัด ซึ่งถ้าพูดตรงๆเราไม่ค่อยโอเค ช่วยได้ แต่น่าจะแค่พอดี
ไม่ใช่แทบทุกวัน คุณน่าจะได้พักผ่อนบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ทักอะไร โตโตกันแล้ว 

วันหนึ่งเอ็มจะไปบ้านบี ไปซ่อมอะไรสักอย่าง เอ็มชวนแต่เราไม่อยากไป ขี้เกียจแต่งตัวและก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์
ซ่อมอะไรก็ไม่เป็น เลยขออยู่บ้าน ก่อนออกไปเอ็มบอกว่า เดี๋ยวเย็นนี้ไปทานข้าวที่ร้านนี้กันนะ เราก็ค่ะ ผ่านไปแค่สามชม.
เอ็มกลับมาพร้อมแม่บ้านของบ้านบีและน้องสาว หลานชายของแม่บ้าน (นั่งพอดีเต็มรถ)

เอ็มบอกเราว่า “พี่จะไปตจว.สามสี่วันนะ บีอยากไปแต่ขับรถไม่ไหว จะไปขับรถให้บี กลับบ้านเองนะ”
ตอนนั้นคือ ช็อค งง คืออะไร แต่ก็ต้องรีบหายงง
เพราะเขากำลังเก็บกระเป๋า และเจ้าของบ้านพูดขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ควรอยู่อ่ะเนอะ
เราเลยหยิบมาแค่กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ แล้วเดินออกไป กลุ่มแม่บ้านถามเราว่า “ไม่เอาเสื้อผ้าไปด้วยหรอ?”
ในใจคิด เดี๋ยวก็มา จะเอาไปทำไม (เสื้อผ้าบางส่วนเพิ่งซักขึ้นราว)
ก็ตอบว่า ไม่ค่ะ แล้วรีบเดินไป ด้วยความอาย ระคนงง สับสน สารพัด

เดินออกจากหมู่บ้านตอนเที่ยง
ไปท่ารถตู้(ประมาณหนึ่งกิโล)เพื่อกลับบ้านอีกจังหวัด  ไม่มีแม้สักข้อความที่จะถามว่า “ถึงไหนแล้ว?
ขึ้นรถรึยัง? ถึงแล้วบอกนะ? “ ไม่มีเลย
ผ่านไปเข้าวันที่สาม เขาส่งข้อความมาว่า “อีกสองวันจะกลับบ้าน ขอที่อยู่ จะส่งของไปให้ทางไปรษณีย์(ก็คือเลิกนั่นแหละ)”
เราก็บอกขอคุยได้ไม๊ ส่งข้อความมันไม่สะดวก เขาไม่อยากคุย
ยืนยันว่ายังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ เราตัดสินใจโทร เขาพูดๆๆๆๆ แทบจะไม่ฟังเราเลย
เราเลยบอกใจเย็นๆนะ  เราจะไม่ยื้อ ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไร แต่ขอถามคำถามเดียว
“การตัดสินใจครั้งนี้มาจากคุณเองใช่ไม๊” (บีเคยยุให้เอ็มเลิกกับภรรยาคนก่อน บีเล่าให้เราฟังเอง) เขาบอกว่าใช่ เขาโตแล้ว เขาคิดเองได้ เราก็ค่ะ
งั้นช่วยเอาของฝากไว้ที่ป้อมยามนะคะ เดี๋ยวจะเข้าไปเอาเอง  เอ็มบอกไม่เอา ส่งที่อยู่มา
เขาไม่อยากรบกวนพี่ยาม แม้เราจะบอกว่า ไม่ต้องกลัว ฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าไปที่บ้าน
เอ็มก็ยังยืนยันว่าไม่ฝาก ตอนนั้นเราทำงานอยู่ คุยไม่สะดวก วันรุ่งขึ้นเราส่งline contact ของเอ็มให้เพื่อน
เพื่อให้เพื่อนช่วยบอกเขาทีว่า เอาของเราฝากพี่ยามไว้นะ เราจะเข้าไปเอา
(ที่ต้องส่งให้เพื่อนเพราะเขาบอกว่าจะลบไลน์เรา) เขาบอกว่า ทิ้งไปหมดแล้ว!!!
ช็อคครั้งที่สอง ทั้งเครื่องสำอาง ที่รีดผม ไดร์ผม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หมดเลย ทั้งเสียใจและเสียดาย
(เล่าให้เพื่อนฟัง คำถามแรกเพื่อนถามว่า เขามีคนอื่นรึเปล่า เรารีบตอบเลย เป็นไปไม่ได้ เราสองคนซีเรียสเรื่องนี้มาก) 

เดือนถัดมา เขาก็เปลี่ยนภาพไลน์เป็นเขากับตร.ตม.
(คนที่ช่วยเขาเมื่อเดือนก่อน ที่แลกเบอร์กัน) ลงไทม์ไลน์ ฉันคิดถึงเธอ
เราจะไปเที่ยวด้วยกัน ฉันแทบจะรอเธอไม่ไหวแล้ว ภาพบนเตียงบ้าง อีโรติคบ้างไรบ้างกรุบกริบ 
เราทักไปหาตร.คนนั้นทางอินบ็อคเฟส และบอกแค่ว่า อย่าทุ่มสุดตัวนะ กลางๆ นางตอบเราว่า เฉยๆมีก็ได้ไม่มีก็ได้ 
แค่นั้น แล้วก็ไม่ได้คุยไรกันอีก แล้วก็เปลี่ยนภาพแสดงความหวานย้อยหยด

ทั้งหมดทั้งมวลคืองง ทิ้งของเราทำไม
มีอะไรทำไมไม่คุยกับเราตรงๆ ก่อนตัดสินใจคบกันก็คุยกันแล้วว่า
การนอกใจเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่สุด แต่เขาก็ยังทำ ผญ.ของเขา(ภรรยาสอง แฟนสาม)
นอกใจทั้งหมด แล้วทำไมยังทำ เมื่อหมดรัก ก็แยกทาง ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่วิธีที่ชายคนนี้เลือกทำกับเรา
เราทำใจยอมรับได้ยากจริงๆ รู้สึกแย่กับตัวเองมากถึงมากที่สุด
ฤ ความซื่อสัตย์ จะล้าสมัยไปแล้วในยุคปัจจุบัน T_T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่