ทริปนี้เราอยากบอกเพื่อนๆว่าไม่ควรพลาด!!!! การไปบาหลีครั้งนี้เป็นการมาเยือนครั้งที่สองของเรา และเราเชื่อว่าเมืองนี้ต้องมนต์จริงๆ ใครมาแล้วจะต้องได้กลับมาเยือนอีก สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเกาะบาหลี ขอบอกว่ามันใหญ่มาก 5 วัน 7 วันก็เที่ยวได้ไม่รอบเกาะ นอกจากความใหญ่ยังมีความหลากหลายของสถานที่มีความแตกต่างมากมาย บาหลีเป็นแหล่งรวมของนักเล่นเซิร์ฟ แนวแอดเวนเจอร์ครบครัน จะสายบุญก็ได้ และมีที่ให้ช็อปและเที่ยวสบายแบบชิวๆอีก
ทริปนี้เราไปไหนบ้างอยากรู้ต้องตามอ่านลงมาเรื่อยๆนะคะ

เริ่มจากเราจองตั๊วของสายการบินแอร์เอเชีย ด้วยความงกไม่อยากเสียตังค่าโรงแรมหลายคืนและไม่อยากให้เสียเวลาการเดินทาง เลยเลือกไฟลว์บินแรกของวันเลยคะ หกโมงออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปถึง Denpasar Ngurah Rai ถึงตอน 11 โมง (เราได้ราคาตั๊วไปกลับ 4,990 บาท) ส่วนขากลับเลือกกลับเที่ยวแรกของวันเหมือนกันคือ ออกจากบาหลีตอนตี 1 มาถึงดอนเมืองประมาณ ตีสี่กว่าๆ
ลงเครื่องมาจะเจอทางเดิน มีตกแต่งตามสไตล์ของบาหลี ใครลงเครื่องมาแบบมึนๆ   เราขอบอกว่าถ้าชอบคือรีบถ่ายเลยคะ เพราะตอนไฟลท์กลับเราจะไม่ได้เจอหรือเดินผ่านทางเดินสวยๆแบบนี้

จากนั้นเดินไปเรื่อยๆไปหา ตม. (เราโชคไม่ดีคนเยอะมาก มาติดเที่ยง ตม.เค้าพักด้วยช้าไปกันใหญ่ เราติดประมาณเกือบชมเลยกว่าจะออกมาได้ ช้ากว่าเพลนที่วางไว้ไปชม.กว่าเลย ถ้าใครไม่อยากรอเค้ามีช่องเสียเงินด้วย จ่ายตังปั๊มแล้วไปได้เลยราคาประมาณ 300-400 บาท) 
วันแรกของทริปคือลงเกาะก่อนเลยมุ่งไปเกาะสุดคูลกันคะ Nusa Penida Island เราไปค้างที่เกาะหนึ่งคืน (การวางแผนทริปที่จะลงเกาะ เราอยากให้เพื่อนๆเช็คสภาพอากาศให้ดี เพราะถ้าไปเจอสภาพอากาศเลวร้าย เรือจะไม่ออกคะ!! แผนจะพังทันที สำหรับทริปของเรามาบาหลีสี่วัน เราเลือกลงเกาะสองวันแรกเพื่อป้องกันความเสี่ยงถ้าเรือออกไม่ได้ อย่างน้อยเราก็กลับวันอื่นได้ ถ้าเอาไปไว้วันท้ายๆทริป ถ้าเราพลาดเรือเราจะพลาดเครื่องบินไปด้วยอันนี้พังหนักกันไปใหญ่)

ก่อนหน้านี้เราพยายามหาอ่านรีวิว และสับสนระหว่างเช่ามอเตอร์ไซค์ขับบนเกาะหรือเช่ารถยนต์ขับเองหรือเหมาทัวร์ไปดี  และไปอ่านเจอรีวิวนึงเค้าบอกถนนเล็ก และเราขอเป็นอีกรีวิวนึงที่มาคอนเฟิร์มว่าถนนเล็กมาก ถนนเลนส์นิดๆ แต่รถต้องวิ่งสวนกัน ข้างๆก็เป็นหน้าผาบ้างเป็นเหวบ้าง หรือเป็นคูน้ำบ้างไม่พอถนนเป็นหลุมลึกและขึ้นเขาเป็นจุดๆอีกต่างๆหาก ถ้าไม่อยากตกเขา หรือมีแผลกลับบ้าน เหมาทัวร์เถอะคะ!! แถมแต่ละจุดอยู่ห่างกันค่อนข้างไกลเลยทีเดียว เกือบๆชั่วโมง 

ทริปของเรามากันสี่คน เราติดต่อที่เว็บนี้คะ https://nusa-penida.info  เค้าแยกให้เห็นชัดเลยคะว่าบนเกาะมีหาดอะไรบ้าง  อยากได้แบบไหน วันเดย์ทริปหรือยังไง เค้าจัดให้ได้หมด ส่วนของเราให้เค้ามารับจากสนามบินไปส่งที่ท่าเรือ รับที่ท่าเรือ พาเที่ยว วันกลับไปส่งโรงแรมที่อูลูวาตู ทั้งหมดราคา 3,600,000 IDR เราหารกันสี่คน ตกคนละสองพันนิดๆ โครตจะคุ้มอะพูดเลย ราคานี้รวมค่าเรือและค่าเข้าสถานที่หมดเลยบวกข้าวฟรีหนึ่งมื้อ พร้อมกับไกด์ที่เป็นให้ทุกอย่างให้เธอแล้ว คือเป็นทั้งคนขับรถ เป็นคนถ่ายรูป และถือของให้อีก คือมันดีย์ยยยย มากอะ
ค่าทัวร์คนขับที่มารับเราจากสนามบินเค้าจะเก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมด จ่ายไปได้เลยคะ

เรามาถึงท่าเรือนูซาดัวสามโมงกว่า ลงเรือรอบสี่โมง ใช้เวลาชั่วโมงกว่าจากสนามบิน (บาหลีรถติดเผื่อเวลาดีๆ) คลื่นค่อนข้างแรงเลยคะ
เรือที่เรานั่งไป EL REY JUNIOR (Fast Cruise --- fast มาก จากท่าเรือใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงเกาะ)
เรือลักษณะแบบนี้อันนี้เราถ่ายของบริษัทอื่นมา
ด้านในมีที่นั่งสองฝั่ง ฝั่งละ 4 แถว เราเลือกที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อให้ลมเข้า
แต่พอเรือวิ่งไปไม่ถึง 20 นาที หน้าต่างก็เป็นแบบนี้จร้า สิ่งที่คิดไว้ว่าลมเข้าเย็นสบาย คือต้องนั่งทนแบบลมไม่มีไปอีกครึ่งชั่วโมง (ใครเมาเรืออย่าลืมพกยาเมาเรือมาด้วยนะคะ คอนเฟิรมว่าเมาแน่ เพราะ น้ำกระเซ็นสูงมากจนไม่มีหน้าต่างบานไหนสามารถเปิดได้เลย)
เรามาถึงที่เกาะนูซาเพนิดา Nusa Penida Island ประมาณ 5 โมงกว่าๆ มีคนของ Nusa Penida Team มารอรับที่ท่าเรือเรียบร้อย นางชื่อว่า ซามาล่า หรือ อาซา อะไรสักอย่าง จำไม่ได้เพราะอีเพื่อนเราเรียกนางว่า สิมีล่า (หาดที่สงขลา) 
เห็นวิวถึงกับต้องร้องโอย เสียดายที่เวลาเราพลาดมาจากสนามบิน เราเลยไม่มีเวลาได้ลงเดินไปชมหาด จุดๆๆนี้คือ Karang Dawa และ Kelingking Beach
ทะเลสวยมาก น้ำใส คลื่นกระทบเป็นฟองขาว โอยฟินเกินคำบรรยาย
เราต้องรีบไปอีก สองที่ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป
ขับออกจากจากจุด Kelingking ไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึง  Paluang Temple วัดรูปรถ
แสงตกแดดยามเย็นตกกระทบขอบประตูวัดสวยงามมาก
จะเข้าไปด้านในจะต้องนุ่งสโร่งด้วยนะคะ ไม่มีก็เอาผ้าพันที่ไปชายหาดมานุ่งได้เหมือนกัน
แปลกมากอะ
ต้องรีบไปต่อคะ 
จากวัดเรามาถึง Broken Bay Beach and Angel's Billabong เกือบทุ่มแล้ว จริงๆจุดนี้ เราเห็นหลายคนมาตอนกลางวันสวยมาก เสียดายเรามาไม่ทัน แดดหมดก่อน 
เดินต่อไปอีกนิดนึงเป็น Angel's Billabong 
จุดนี้ถ้าน้ำลงหรือมาช่วงเช้าๆ ลงไปว่ายน้ำได้คะ
แต่ตอนนี้คลื่นสูงมาก และเสียงดังมาก เหมือนจะวิ่งหนีเลย
ที่พักของเราคืนนี้ คือ Apit Lawang Villas & Restro คืนละ หกร้อยกว่าบาท โชคดีที่รีสอร์ทมีอาหารให้สั่งทานด้วย (ถึงแม้มีไม่ครบตามเมนูแต่รสชาดอร่อยเลยทีเดียว) 

Day 2
ด้านหน้าห้องที่เราพักจะเป็นหลังๆ นอนสบายดีอยู่นะ
มีสระเล็กๆหน้าห้องด้วย
เห็นหกร้อยกว่าบาท มีอาหารเช้าให้ด้วยนะจ๊ะ (ถึงไม่ค่อยอิ่มแต่ก็ดีกว่าไม่มีไรกิน)

Day 2 นี้ขอบอกว่า ร่างกายต้องพร้อมนะ (ฟิตร่างกายกันก่อนมานะคะ ถ้าไม่ก็เตรียมยาแก้ปวดมาด้วยคะ กินหรือทาพกมาให้หมดถ้าไม่อยากนอนปวดกลิ้งไปกลิ้งมา) 
เราออกจากที่พักแปดโมงประมาณชั่วโมงนึงมาถึง Diamond Beach คือวิวสวยมาก สวยกว่าที่กล้องจะเก็บมาได้หมดจริงๆ
น้ำใสยอมใจจริงๆ
เดินไปคะ ตรงกลางๆคือทางลง
เห็นวิวแล้วอยากเปลี่ยนตั๊วเครื่องบิน อยู่ต่ออีกสักสามวัน (ตอนแรกเราว่าจะใส่กระโปรงยาวๆมาสะบัดๆ แต่เราอยากบอกว่า ทางลงค่อนข้างต้องปีน กระโปรงอาจทำให้หน้าคว่ำได้ ดีที่เราคิดถูกเลือกใส่กางเกงที่เดินสบายเดินง่ายๆ เพราะวันนี้ทริปเราเดินเยอะจริงๆ เดินกันเป็นลูกเขา)
เราเล่นกันอยู่ที่นี่นานมาก เพราะมุมไหนมุมไหนก็สวย
น้ำใสมากกกก
ที่นี่มีสวิงด้วย เป็นสวิงที่อาซาภูมิใจนำเสนอมาก นางบอกว่ามันถูกกว่าบนบาหลี (ถูกจริงๆ) ราคา 100,000 IDR ประมาณ 210 บาทซึ่งที่บนบาหลี ราคา 200,000 IDR แพงกว่าเยอะ 
มันฟินมาก ดีกว่าสวิงทั้งหมด 3 ที่ที่เราเคยไปมา
ถ้าไม่สวิง อยากถ่ายรูปที่รังนก ราคา 50,000 IDR ก็ 110 บาท ตอนแรกเราจะปีนไปนั่งบนรังนก แต่คุณพระ บันไดเหล็กห่างกันมาก และนางทำความชัน 25 องศาได้ เหมือนเดินบนสะพานสูงๆ ไม่มีอะไรเซฟสำหรับการปีนไปบวกกับกลัวความสูงเลยขอบาย
เดินขึ้นมาเลี้ยวไปทางขวามือ จะเป็น Atuh Beach เราไม่ลงไป ด้วยจากสภาพเหมือนจะคลานขึ้นมา ขานี้สั่นไปหมดขอนั่งพักกินน้ำชิวๆก่อน
ลาหาด Diamond Beach สักรูปก่อนกลับ

อ่านต่อ EP 2 - https://pantip.com/topic/38834853