ข้ามไปเกาะ Nusa Penida ถ้ามาบาหลี เกาะนี้ห้าม……พลาด
อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ใน ep.ที่แล้ว (ep.1) ว่าวันนี้ต้องตื่นตีห้า นัดรถมารับ 6 โมงเช้า เพื่อไปท่าเรือที่จะพาเราข้ามไปเกาะ Nusa Penida

ออกมาจากที่พัก เอกะ คนขับรถของพวกเราก็ยืนยิ้ม รออยู่แล้ว
แอบมีให้ลุ้นนิดหน่อย เพราะออกมาปุ๊บ ฝนตก ฟ้าครึ้ม แต่ไม่เกิน 10 นาที ฝนก็หยุด โชคดีมาก มาถึงท่าเรือฟ้าก็ใสแล้ว รอดไป
ลงจากรถ เอกะให้พวกเราไปกินกาแฟรอที่ร้าน เขาจะไปจัดการตั๋วเรือให้ ร้านกาแฟใกล้ ๆ เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ ฝรั่งเพียบ เราสั่งแค่กาแฟคนละแก้ว เพราะกินมาม่าที่ห้องพักรองท้องมาแล้ว ซักพักเอกะก็โทรมาถามว่า พวกยูกินกาแฟที่ร้านหรือซื้อแบบ take away เพราะเรือเที่ยวแรกยังว่าง ถ้าเราพร้อมตอนนี้ จะได้ขึ้นเรือเลย โชคดีที่เราเลือกแบบหลัง เลยได้ไปเรือเที่ยวแรก

จากที่ดูรีวิวมา เมื่อก่อนเหมือนจะต้องพากันเดินลุยน้ำเพื่อไปขึ้นเรือ แต่ตอนนี้ ท่าเรือทำใหม่ สะดวกขึ้นมาก เดินไปตามสะพานไม่ต้องเปียกแล้ว เรือจะมีหลายลำ ต้องดูสายห้อยคอที่เอกะให้ไว้ว่าสีอะไร แล้วเข้าแถวต่อคิวให้ถูก เอกะจะส่งเราเข้าแถวขึ้นเรือ แล้วก็นัดกันว่าตอนเย็นจะมารอที่เดิมตรงนี้นะ ตามนั้น
ลงเรือเรียบร้อย สแกนตั๋วเรือกันหลายรอบเลย กว่าจะไปถึงเรือ ก่อนขึ้นเรือก็คืนสายคล้องคอให้ จนท.
เรือลำใหญ่น่าจะจุผู้โดยสารได้ซัก 60-80 คน วันนี้ นักท่องเที่ยวเต็มลำเลย คนครบ ออกเรือได้
ตอนแรกก็เปิดหน้าต่างรับลมกัน ออกไปได้ไม่เกิน 5 นาที รีบปิดแทบไม่ทัน เพราะน้ำกระเซ็นแรงมาก ไม่ปิด เปียกแน่ พอปิด มันก็จะอึดอัดหน่อย อากาศไม่ค่อย flow เท่าไหร่
ประมาณ 45 นาที ก็มาถึงเกาะ เรือเทียบท่า เดินตามสะพานไป มีคนขับรถที่จะพาเราไปเที่ยวบนเกาะ ถือป้ายรอรับ จำชื่อคนขับรถไม่ได้ เสียใจ เลยจะเรียกน้องไกด์แระกัน เพราะนอกจากขับรถแล้ว เขาก็จะไปกับเราทุกที่ ถ่ายรูป ถ่ายคลิป ชี้จุดที่เป็น best point ตรงนี้ถ่ายรูปสวยสุด ต้องไปตรงนั้นตรงนี้ เข้าคิวรอถ่ายรูปให้อีกตะหาก ต้องปรบมือดังๆ เลย

รถที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นรถเล็ก ๆ ส่วนมากเป็น TOYOTA Avenza สภาพก็กลาง ๆ นั่ง 4 คน ได้สบาย ๆ
ทักทายไกด์ที่จะพาเราเที่ยวเรียบร้อย ก็….ออกเดินทางได้
และเมื่อล้อหมุนไปได้ไม่ไกล ก็ทำให้เรารู้ว่า ทำไมแต่ละที่บนเกาะจากที่หนึ่งไปอีกที่ ต้องใช้เวลานาน ทั้งที่ระยะทางไม่ไกลเลย…. ก็เพราะถนนบนเกาะค่อนข้างแคบ ถึงแคบมาก แถมบางช่วงยังทั้งโค้ง ทั้งชัน ผิวถนนก็ไม่ค่อยดี บางช่วงถึงกับโขยก เขยง หัวสั่นหัวคลอน ใครเมารถ อาจจะไม่รอด อัดยาแก้เมารอได้เลย
และแล้วก็มาถึงที่แรกที่เราปักหมุดไว้ มาจุดนี้ มีไฮไลท์ 2 ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เดินแค่นิดเดียว เราตั้งต้นที่
“Angel's Billabong”

แอ่งน้ำใสๆ ที่เชื่อมกับทะเล มีหน้าผาสวยๆ ที่ถูกน้ำกัดเซาะสวยแปลกตา เดินจากที่จอดรถไปไม่ไกล ลงเขาไปนิดนึง ก็ถึง

นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก เพราะยังเช้าอยู่ ไกด์จะพาเราไปจุดที่ถ่ายรูปได้สวยที่สุด แล้วก็ทำหน้าที่ถ่ายรูป ถ่ายคลิปให้ ให้เวลาเดินดูแป๊บนึง ก็พาไปจุดที่สอง...
เดินขึ้นไปไม่ไกลจะเป็นจุดที่เรียกว่า
" Broken Beach " หน้าผาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นหลุมน้ำขนาดใหญ่ เกิดเป็นสะพาน ด้านล่างเป็นน้ำทะเลที่โคตรใส สวยไม่แพ้ “Angel's Billabong”

” เสียเวลาถ่ายรูปอยู่นาน จนคนขับรถ ที่เป็นทุกอย่าง ถ่ายรูปได้ ถ่ายวิดีโอก็ดี (ดีจริงๆ นะ ถ่ายสวยมากกก) บอกว่าเราเสียเวลาจุดนี้ไปเยอะ อาจจะไม่ทันบางจุดที่แพลนไว้ ต้องทำเวลาหน่อยนะยู
ไปต่อ
จุดที่สาม ที่นี่เด็ดสุด คนเยอะสุด ฮอตฮิตสุดบนเกาะนี้
" Kelingking Beach " นึกไม่ออกว่าเป็นอะไร ให้นึกถึงทีเร็กซ์ เพราะมันเป็นหน้าผ้าที่รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ T-Rex ล้อมรอบด้วยวิวน้ำทะเลสีมรกต โคตรสวย ใครพกโดรนไป เอาขึ้นไปบินได้นะ คนบินกันเยอะเลย แต่ต้องระวัง เพราะลมแรงมาก โดรนอาจล่วงไปโดนหัวเจ้าทีเร็กซ์ได้ 5555

ที่นี่มีทางให้เดินลงไปด้านล่าง ตรงหัวทีเร็กซ์ด้วยนะ แต่เราไม่ได้ไป เพราะต้องทำเวลา ปักหมุดบนเกาะไว้หลายที่มาก ๆ จนไกด์กลัวจะเก็บไม่ครบ พวกเราก็ถ่ายรูปแต่ละที่นานซะด้วย ไกด์เลยว้าวุ่นเลย
จุดที่ 4 ห่างจากทีเร็กซ์แค่นิดเดียว ขึ้นไปนั่งบนรถไม่ถึงนาที เอ๊า ถึงแล้ว!!!
" Paluang Cliff " จุดถ่ายรูปกับหัวเรือบนยอดเขา วิวอลังฯ

มีทั้งชิงช้า ทั้งมือยักษ์

ทั้งรังนก เลือกเอาตามชอบ ทางที่ดีคือ ไม่ต้องเลือก ถ่ายมันทุกจุดนั่นแหละ 5555 เพราะมันสวยทุกจุดเลย

ที่นี่ต้องจ่ายค่า ticket ด้วย ประมาณ 20,000 หรือ 25,000 รูเปียร์เนี่ยแหละ จำไม่ได้ แต่คุ้มนะ โดยเฉพาะ ภาพที่ถ่ายบนหัวเรือ สวยมาก สวยแค่ไหน ต้องไปพิสูจน์เอง

ใกล้เที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้อง ไกด์ก็พาแวะกินข้าว ซึ่งรวมอยู่ในค่าทัวร์ที่เราเหมาบนเกาะแล้ว แต่อาหารไม่อร่อย เหมือนทำไว้นานแล้ว กินแก้หิว พอไหว เสียเวลากินไม่นาน ไปกันต่อ จากจุดนี้ ระวังอ้วก 5555 กินข้าวอิ่ม ๆ แล้วนั่งรถแกว่งไปแกว่งมา ไม่อ้วก ก็จุกอ่ะ
นั่งรถกันมาชั่วโมงกว่า ไปถึง แดดกำลังดีเลย ดีแบบถ่ายรูปสวย แต่ไม่ดีตรงที่มันร้อนมากกกกก จุดนี้อยากบอกว่า สวยแบบตะโกนนนนน
วันนี้เราใช้คำว่าสวยได้เปลืองมากกกกกก

หน้าผาสูง ๆ ที่ข้างล่างเป็นน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว หาดทรายขาว ๆ มันสวยสุดๆ จริงๆ

" ถ่ายรูปด้านบนจนหนำใจแล้ว ไต่บันไดลงไปข้างล่างได้อีก ถ้าใจกล้า และไม่กลัวความสูง มีหวาดเสียว พอให้ขาสั่น ทางแคบ ๆ หักมุมลงไป โหนเชือกนิดหน่อย คนหยุดอถ่ายรูป ถ่ายคลิปตรงทางลงกันเยอะ เพราะมันดีมาก แต่ต้องระวังมากด้วยเช่นกัน เพราะมันคือหน้าผา

ผา เราลงไปได้ครึ่งทาง สุดท้ายถอดใจ เพราะเจอจุดหักมุมที่ไม่มีอะไรกั้น ขวาเป็นหน้าผา ซ้ายเปล่าเปลือยไร้ราวให้จับ พี่มองหน้าเพื่อนร่วมทีม แล้วความป๊อดบังเกิดเมื่อเพื่อนคนนึงในทริป บอกว่า “ไม่ลงไปนะ ฝากถ่ายรูปมาเผื่อด้วย ไม่ได้ทำประกันมา” เอิ่มมมม ได้ยินดังนั้น เราไม่รอช้า เออ ไม่ไปด้วย เดี๋ยวไปรอข้างบน แค่นี้ก็ได้รูปสวยจนไม่รู้จะสวยไงแล้ว (คนเดียวที่เหลือในกรุ๊ป) แล้วจะไปยังไงคนเดียว สรุป เปลี่ยนทิศทาง หันหัวกลับ ไม่ลงไปบีชข้างล่าง…

แต่ๆๆๆๆ มานั่งคิดถึงตอนนี้ยังเสียดายอยู่เลย ทำไม่ไม่ลง อีกนิดเดียวเองจะถึงข้างล่างแล้ว มันจะได้อีกมุมที่ใกล้ชิดหาดทรายขาว ๆ แถมมี บาหลีสวิง ในมุมที่ถ่ายติดต้นมะพร้าวมีทะเลเป็นฉากหลัง โคตรสวย (เห็นในรีวิวของคนอื่น) ใครไปที่ “ Diamond Beach " ขอให้ลงไปให้สุดนะ จะได้ไม่เสียดายเหมือนเรา แต่ต้องระวัง และมีสติมาก ๆ อย่าพะวงกับการถ่ายรูปเกินไป
สุดท้ายด้วยความร้อน ความเหนื่อย และต้องนั่งรถสมบุกสมบัน เราเลยตัดที่สุดท้าย " Tree House " ออก กลับไปท่าเรือ รอกลับไปบาหลีเลย (ใครอยากรู้ว่าทรีเฮ้าท์มีอะไร ไปเสิร์ชจากอากู๋เอานะ) มีเวลาพอก็น่าจะไปเก็บให้ครบ สวยแหละ (ดูจากรีวิวคนอื่น อีกแล้ว 5555)
ถึงบาหลี ไปเก็บที่สุดท้าย
" Masceti Beach " ที่เขาบอกว่าเป็น
black sand beach
ก็ผิดหวังนิดนึง อยากเอาโดรนขึ้นบินแต่ขึ้นไม่ได้ เพราะลมแรงมาก ๆ แล้วเพิ่งจะผ่านเทศกาลอะไรมาซักอย่าง มีเศษกระทงที่ใช้ไหว้หรือบูชาเต็มหาดเลย แล้วทรายที่คิดว่าจะดำ ก็ไม่ได้ดำสนิทอย่างที่คิด ใครคิดจะมา แนะนำว่าข้ามไปก็ได้นะ แต่ถ้าเวลาเหลือ อยากลองก็ได้

ออกจากหาด ไปหาอะไรกิน เพราะที่พักอยู่ค่อนข้างลึก ไม่มีร้านอาหารใกล้ ๆ ควรต้องหาอะไรกินไปก่อน เลยให้เอกะแนะนำ
ร้านที่เอกะแนะนำเป็นร้านหมูหัน ดูก็เหมือนจะน่ากิน แต่ๆๆๆๆๆ อยากจะบอกว่า มื้อนี้เฟลที่สุดในทริปนี้เลย รสชาติไม่ผ่านทั้งตัวหมูย่าง และน้ำจิ้ม มันเยอะ หนังไม่กรอบ เหนียวด้วย กินกันแบบฝืนมาก ดีนะที่ราคาไม่แพง สุดท้าย ขอแวะร้านสะดวกซื้อ หานม กับขนมปังกิน

ไปถึงที่พักวันนี้ก็มืดแล้ว ตอนแรกเราจองห้อง Bamboo ไว้ ดูจากใน website ของที่พักโอเคเลย แต่พอไปถึง ที่พักแจ้งว่าห้องที่เราจองมีปัญหา พักไม่ได้ พยายามติดต่อเราแล้ว ส่งเมล์มา เราก็ไม่ตอบ (เอาจริงคือไม่ได้เช็คเมล์เลย ตั้งแต่ออกจากไทย) สุดท้ายทางที่พักบอกว่า มีห้องว่างแต่ไม่ใช่ห้องที่เราจองนะ เอามั้ย ตกคืนละประมาณ 800 บาท พวกเราก็โอเค ไม่ติดอะไรอยู่แล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า ขอแค่มีที่อาบน้ำ ที่นอน แค่นั้นพอ ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว
จัดการที่พักเรียบร้อย ก็นัดกับเอกะ เจอกันตีห้า (หมายความว่า เราต้องตื่นตีสี่!!!) จะไปประตูสวรรค์ “Gate of heaven” ที่พักที่นี่ไม่ไกลจากเกทฯ เท่าไหร่ ประมาณ 1 ชั่วโมงแค่นั้น แต่ถ้าพักที่อูบุด ต้องออกตีสี่เลย เพราะต้องรีบไปจองคิว ถ่ายรูปที่ประตูสวรรค์ ถ้าไปสาย คนจะยิ่งเยอะ และต้องรอคิวนานมาก อาจจะเสียเวลาเที่ยวที่อื่น
จัดการอาบน้ำรียบร้อยก็นอนพัก เอาแรง ทริปนี้ใช้เวลาคุ้มมาก ๆ นอนดึก ตื่นเช้า เที่ยวทั้งวัน ก็ไม่ได้มากันบ่อย ๆ ใช่มั้ยล่ะ บาหลีเนี่ย 5555
เจอกันวันที่ 3 นะคะทุกคน บายยยยยยยยยยยยยยย
ใครยังไม่ได้อ่าน EP.1 เข้าไป link นี้เลยนะคะ
https://pantip.com/topic/42256552
[CR] รีวิวบาหลี 4 วัน 3 คืน ปลายเดือนสิงหา 2023 EP.2
อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ใน ep.ที่แล้ว (ep.1) ว่าวันนี้ต้องตื่นตีห้า นัดรถมารับ 6 โมงเช้า เพื่อไปท่าเรือที่จะพาเราข้ามไปเกาะ Nusa Penida
ออกมาจากที่พัก เอกะ คนขับรถของพวกเราก็ยืนยิ้ม รออยู่แล้ว
แอบมีให้ลุ้นนิดหน่อย เพราะออกมาปุ๊บ ฝนตก ฟ้าครึ้ม แต่ไม่เกิน 10 นาที ฝนก็หยุด โชคดีมาก มาถึงท่าเรือฟ้าก็ใสแล้ว รอดไป
ลงจากรถ เอกะให้พวกเราไปกินกาแฟรอที่ร้าน เขาจะไปจัดการตั๋วเรือให้ ร้านกาแฟใกล้ ๆ เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ ฝรั่งเพียบ เราสั่งแค่กาแฟคนละแก้ว เพราะกินมาม่าที่ห้องพักรองท้องมาแล้ว ซักพักเอกะก็โทรมาถามว่า พวกยูกินกาแฟที่ร้านหรือซื้อแบบ take away เพราะเรือเที่ยวแรกยังว่าง ถ้าเราพร้อมตอนนี้ จะได้ขึ้นเรือเลย โชคดีที่เราเลือกแบบหลัง เลยได้ไปเรือเที่ยวแรก
จากที่ดูรีวิวมา เมื่อก่อนเหมือนจะต้องพากันเดินลุยน้ำเพื่อไปขึ้นเรือ แต่ตอนนี้ ท่าเรือทำใหม่ สะดวกขึ้นมาก เดินไปตามสะพานไม่ต้องเปียกแล้ว เรือจะมีหลายลำ ต้องดูสายห้อยคอที่เอกะให้ไว้ว่าสีอะไร แล้วเข้าแถวต่อคิวให้ถูก เอกะจะส่งเราเข้าแถวขึ้นเรือ แล้วก็นัดกันว่าตอนเย็นจะมารอที่เดิมตรงนี้นะ ตามนั้น
ลงเรือเรียบร้อย สแกนตั๋วเรือกันหลายรอบเลย กว่าจะไปถึงเรือ ก่อนขึ้นเรือก็คืนสายคล้องคอให้ จนท.
เรือลำใหญ่น่าจะจุผู้โดยสารได้ซัก 60-80 คน วันนี้ นักท่องเที่ยวเต็มลำเลย คนครบ ออกเรือได้
ตอนแรกก็เปิดหน้าต่างรับลมกัน ออกไปได้ไม่เกิน 5 นาที รีบปิดแทบไม่ทัน เพราะน้ำกระเซ็นแรงมาก ไม่ปิด เปียกแน่ พอปิด มันก็จะอึดอัดหน่อย อากาศไม่ค่อย flow เท่าไหร่
ประมาณ 45 นาที ก็มาถึงเกาะ เรือเทียบท่า เดินตามสะพานไป มีคนขับรถที่จะพาเราไปเที่ยวบนเกาะ ถือป้ายรอรับ จำชื่อคนขับรถไม่ได้ เสียใจ เลยจะเรียกน้องไกด์แระกัน เพราะนอกจากขับรถแล้ว เขาก็จะไปกับเราทุกที่ ถ่ายรูป ถ่ายคลิป ชี้จุดที่เป็น best point ตรงนี้ถ่ายรูปสวยสุด ต้องไปตรงนั้นตรงนี้ เข้าคิวรอถ่ายรูปให้อีกตะหาก ต้องปรบมือดังๆ เลย
รถที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นรถเล็ก ๆ ส่วนมากเป็น TOYOTA Avenza สภาพก็กลาง ๆ นั่ง 4 คน ได้สบาย ๆ
ทักทายไกด์ที่จะพาเราเที่ยวเรียบร้อย ก็….ออกเดินทางได้
และเมื่อล้อหมุนไปได้ไม่ไกล ก็ทำให้เรารู้ว่า ทำไมแต่ละที่บนเกาะจากที่หนึ่งไปอีกที่ ต้องใช้เวลานาน ทั้งที่ระยะทางไม่ไกลเลย…. ก็เพราะถนนบนเกาะค่อนข้างแคบ ถึงแคบมาก แถมบางช่วงยังทั้งโค้ง ทั้งชัน ผิวถนนก็ไม่ค่อยดี บางช่วงถึงกับโขยก เขยง หัวสั่นหัวคลอน ใครเมารถ อาจจะไม่รอด อัดยาแก้เมารอได้เลย
และแล้วก็มาถึงที่แรกที่เราปักหมุดไว้ มาจุดนี้ มีไฮไลท์ 2 ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เดินแค่นิดเดียว เราตั้งต้นที่ “Angel's Billabong”
แอ่งน้ำใสๆ ที่เชื่อมกับทะเล มีหน้าผาสวยๆ ที่ถูกน้ำกัดเซาะสวยแปลกตา เดินจากที่จอดรถไปไม่ไกล ลงเขาไปนิดนึง ก็ถึง
นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก เพราะยังเช้าอยู่ ไกด์จะพาเราไปจุดที่ถ่ายรูปได้สวยที่สุด แล้วก็ทำหน้าที่ถ่ายรูป ถ่ายคลิปให้ ให้เวลาเดินดูแป๊บนึง ก็พาไปจุดที่สอง...
เดินขึ้นไปไม่ไกลจะเป็นจุดที่เรียกว่า " Broken Beach " หน้าผาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นหลุมน้ำขนาดใหญ่ เกิดเป็นสะพาน ด้านล่างเป็นน้ำทะเลที่โคตรใส สวยไม่แพ้ “Angel's Billabong”
” เสียเวลาถ่ายรูปอยู่นาน จนคนขับรถ ที่เป็นทุกอย่าง ถ่ายรูปได้ ถ่ายวิดีโอก็ดี (ดีจริงๆ นะ ถ่ายสวยมากกก) บอกว่าเราเสียเวลาจุดนี้ไปเยอะ อาจจะไม่ทันบางจุดที่แพลนไว้ ต้องทำเวลาหน่อยนะยู
ไปต่อ จุดที่สาม ที่นี่เด็ดสุด คนเยอะสุด ฮอตฮิตสุดบนเกาะนี้ " Kelingking Beach " นึกไม่ออกว่าเป็นอะไร ให้นึกถึงทีเร็กซ์ เพราะมันเป็นหน้าผ้าที่รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ T-Rex ล้อมรอบด้วยวิวน้ำทะเลสีมรกต โคตรสวย ใครพกโดรนไป เอาขึ้นไปบินได้นะ คนบินกันเยอะเลย แต่ต้องระวัง เพราะลมแรงมาก โดรนอาจล่วงไปโดนหัวเจ้าทีเร็กซ์ได้ 5555
ที่นี่มีทางให้เดินลงไปด้านล่าง ตรงหัวทีเร็กซ์ด้วยนะ แต่เราไม่ได้ไป เพราะต้องทำเวลา ปักหมุดบนเกาะไว้หลายที่มาก ๆ จนไกด์กลัวจะเก็บไม่ครบ พวกเราก็ถ่ายรูปแต่ละที่นานซะด้วย ไกด์เลยว้าวุ่นเลย
จุดที่ 4 ห่างจากทีเร็กซ์แค่นิดเดียว ขึ้นไปนั่งบนรถไม่ถึงนาที เอ๊า ถึงแล้ว!!! " Paluang Cliff " จุดถ่ายรูปกับหัวเรือบนยอดเขา วิวอลังฯ
มีทั้งชิงช้า ทั้งมือยักษ์
ทั้งรังนก เลือกเอาตามชอบ ทางที่ดีคือ ไม่ต้องเลือก ถ่ายมันทุกจุดนั่นแหละ 5555 เพราะมันสวยทุกจุดเลย
ที่นี่ต้องจ่ายค่า ticket ด้วย ประมาณ 20,000 หรือ 25,000 รูเปียร์เนี่ยแหละ จำไม่ได้ แต่คุ้มนะ โดยเฉพาะ ภาพที่ถ่ายบนหัวเรือ สวยมาก สวยแค่ไหน ต้องไปพิสูจน์เอง
ใกล้เที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้อง ไกด์ก็พาแวะกินข้าว ซึ่งรวมอยู่ในค่าทัวร์ที่เราเหมาบนเกาะแล้ว แต่อาหารไม่อร่อย เหมือนทำไว้นานแล้ว กินแก้หิว พอไหว เสียเวลากินไม่นาน ไปกันต่อ จากจุดนี้ ระวังอ้วก 5555 กินข้าวอิ่ม ๆ แล้วนั่งรถแกว่งไปแกว่งมา ไม่อ้วก ก็จุกอ่ะ
นั่งรถกันมาชั่วโมงกว่า ไปถึง แดดกำลังดีเลย ดีแบบถ่ายรูปสวย แต่ไม่ดีตรงที่มันร้อนมากกกกก จุดนี้อยากบอกว่า สวยแบบตะโกนนนนน
วันนี้เราใช้คำว่าสวยได้เปลืองมากกกกกก
หน้าผาสูง ๆ ที่ข้างล่างเป็นน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว หาดทรายขาว ๆ มันสวยสุดๆ จริงๆ
" ถ่ายรูปด้านบนจนหนำใจแล้ว ไต่บันไดลงไปข้างล่างได้อีก ถ้าใจกล้า และไม่กลัวความสูง มีหวาดเสียว พอให้ขาสั่น ทางแคบ ๆ หักมุมลงไป โหนเชือกนิดหน่อย คนหยุดอถ่ายรูป ถ่ายคลิปตรงทางลงกันเยอะ เพราะมันดีมาก แต่ต้องระวังมากด้วยเช่นกัน เพราะมันคือหน้าผา
ผา เราลงไปได้ครึ่งทาง สุดท้ายถอดใจ เพราะเจอจุดหักมุมที่ไม่มีอะไรกั้น ขวาเป็นหน้าผา ซ้ายเปล่าเปลือยไร้ราวให้จับ พี่มองหน้าเพื่อนร่วมทีม แล้วความป๊อดบังเกิดเมื่อเพื่อนคนนึงในทริป บอกว่า “ไม่ลงไปนะ ฝากถ่ายรูปมาเผื่อด้วย ไม่ได้ทำประกันมา” เอิ่มมมม ได้ยินดังนั้น เราไม่รอช้า เออ ไม่ไปด้วย เดี๋ยวไปรอข้างบน แค่นี้ก็ได้รูปสวยจนไม่รู้จะสวยไงแล้ว (คนเดียวที่เหลือในกรุ๊ป) แล้วจะไปยังไงคนเดียว สรุป เปลี่ยนทิศทาง หันหัวกลับ ไม่ลงไปบีชข้างล่าง…
แต่ๆๆๆๆ มานั่งคิดถึงตอนนี้ยังเสียดายอยู่เลย ทำไม่ไม่ลง อีกนิดเดียวเองจะถึงข้างล่างแล้ว มันจะได้อีกมุมที่ใกล้ชิดหาดทรายขาว ๆ แถมมี บาหลีสวิง ในมุมที่ถ่ายติดต้นมะพร้าวมีทะเลเป็นฉากหลัง โคตรสวย (เห็นในรีวิวของคนอื่น) ใครไปที่ “ Diamond Beach " ขอให้ลงไปให้สุดนะ จะได้ไม่เสียดายเหมือนเรา แต่ต้องระวัง และมีสติมาก ๆ อย่าพะวงกับการถ่ายรูปเกินไป
สุดท้ายด้วยความร้อน ความเหนื่อย และต้องนั่งรถสมบุกสมบัน เราเลยตัดที่สุดท้าย " Tree House " ออก กลับไปท่าเรือ รอกลับไปบาหลีเลย (ใครอยากรู้ว่าทรีเฮ้าท์มีอะไร ไปเสิร์ชจากอากู๋เอานะ) มีเวลาพอก็น่าจะไปเก็บให้ครบ สวยแหละ (ดูจากรีวิวคนอื่น อีกแล้ว 5555)
ถึงบาหลี ไปเก็บที่สุดท้าย " Masceti Beach " ที่เขาบอกว่าเป็น black sand beach
ก็ผิดหวังนิดนึง อยากเอาโดรนขึ้นบินแต่ขึ้นไม่ได้ เพราะลมแรงมาก ๆ แล้วเพิ่งจะผ่านเทศกาลอะไรมาซักอย่าง มีเศษกระทงที่ใช้ไหว้หรือบูชาเต็มหาดเลย แล้วทรายที่คิดว่าจะดำ ก็ไม่ได้ดำสนิทอย่างที่คิด ใครคิดจะมา แนะนำว่าข้ามไปก็ได้นะ แต่ถ้าเวลาเหลือ อยากลองก็ได้
ออกจากหาด ไปหาอะไรกิน เพราะที่พักอยู่ค่อนข้างลึก ไม่มีร้านอาหารใกล้ ๆ ควรต้องหาอะไรกินไปก่อน เลยให้เอกะแนะนำ
ร้านที่เอกะแนะนำเป็นร้านหมูหัน ดูก็เหมือนจะน่ากิน แต่ๆๆๆๆๆ อยากจะบอกว่า มื้อนี้เฟลที่สุดในทริปนี้เลย รสชาติไม่ผ่านทั้งตัวหมูย่าง และน้ำจิ้ม มันเยอะ หนังไม่กรอบ เหนียวด้วย กินกันแบบฝืนมาก ดีนะที่ราคาไม่แพง สุดท้าย ขอแวะร้านสะดวกซื้อ หานม กับขนมปังกิน
ไปถึงที่พักวันนี้ก็มืดแล้ว ตอนแรกเราจองห้อง Bamboo ไว้ ดูจากใน website ของที่พักโอเคเลย แต่พอไปถึง ที่พักแจ้งว่าห้องที่เราจองมีปัญหา พักไม่ได้ พยายามติดต่อเราแล้ว ส่งเมล์มา เราก็ไม่ตอบ (เอาจริงคือไม่ได้เช็คเมล์เลย ตั้งแต่ออกจากไทย) สุดท้ายทางที่พักบอกว่า มีห้องว่างแต่ไม่ใช่ห้องที่เราจองนะ เอามั้ย ตกคืนละประมาณ 800 บาท พวกเราก็โอเค ไม่ติดอะไรอยู่แล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า ขอแค่มีที่อาบน้ำ ที่นอน แค่นั้นพอ ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว
จัดการที่พักเรียบร้อย ก็นัดกับเอกะ เจอกันตีห้า (หมายความว่า เราต้องตื่นตีสี่!!!) จะไปประตูสวรรค์ “Gate of heaven” ที่พักที่นี่ไม่ไกลจากเกทฯ เท่าไหร่ ประมาณ 1 ชั่วโมงแค่นั้น แต่ถ้าพักที่อูบุด ต้องออกตีสี่เลย เพราะต้องรีบไปจองคิว ถ่ายรูปที่ประตูสวรรค์ ถ้าไปสาย คนจะยิ่งเยอะ และต้องรอคิวนานมาก อาจจะเสียเวลาเที่ยวที่อื่น
จัดการอาบน้ำรียบร้อยก็นอนพัก เอาแรง ทริปนี้ใช้เวลาคุ้มมาก ๆ นอนดึก ตื่นเช้า เที่ยวทั้งวัน ก็ไม่ได้มากันบ่อย ๆ ใช่มั้ยล่ะ บาหลีเนี่ย 5555
เจอกันวันที่ 3 นะคะทุกคน บายยยยยยยยยยยยยยย
ใครยังไม่ได้อ่าน EP.1 เข้าไป link นี้เลยนะคะ
https://pantip.com/topic/42256552
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้