▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวทะเล
เที่ยวภูเขา
[CR] รีวิวเที่ยวอินโด 4 วัน 3 คืน ลาบวน บาโจ และ เกาะโคโมโด
สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะขยายภาพดูได้เชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ https://www.nopeopletravelphoto.com/
เดือนที่เดินทาง - เมษายน 2023
ถ้าพูดชื่อลาบวน บาโจขึ้นมาหลายคนคงจะไม่รู้จักแต่ถ้าบอกว่าเกาะโคโมโดน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างไอตัวที่เรียกว่ามังกรโคโมโด พอดีเดือนเมษานี้มันมีวันหยุดยาวก็เลยอดใจไม่ไหวต้องรีบจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวใกล้ๆย้อมใจจากการทำงานซะหน่อย
Labuan Bajo เป็นเมืองชายฝั่งเล็กๆของเกาะฟลอเรส (Flores) และสถานที่เที่ยวที่โดดเด่นสุดๆเลยก็คืออุทยานแห่งชาติโคโมโด (Komodo National Park) ที่เป็นที่อยู่อาศัยของมังกรโคโมโดตามธรรมชาติแหล่งสุดท้าย แถมยังมีธรรมชาติที่สวยมากๆอีกด้วย
การไปเที่ยวตามเกาะต่างๆก็จะแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนไม่ว่าจะนอนบนบกแล้วจองทัวร์เที่ยวหรือจะไปเที่ยวกับเรือนอนบนเรือไปเลยก็ได้ ส่วนของเราก็แบบไหนๆมาแล้วลองนอนเรือดูละกันเนอะ ถ้าอ่านแล้วอยากจะตามรอยแบบเป๊ะๆไปจองได้ที่เว็บนี้เลยจ้า เรือนี้จะออกเฉพาะวันศุกร์แล้วกลับวันอาทิตย์เท่านั้น ประสบการณ์เป็นแบบไหนไปอ่านกันได้เลย
สิ่งที่ควรเตรียมมา
- รองเท้าแตะสำหรับไปหาด
- รองเท้าเดินเขาหรือรองเท้าผ้าใบที่เดินสบาย
- ชุดว่ายน้ำสำหรับดำน้ำและ snorkeling
- เสื้อกันแดดเพราะแดดรุนแรงมาก
- สนามบินที่ Labuan Bajo นี้เค้าไม่มีบินระหว่างประเทศเลยเพราะฉะนั้นการไปเที่ยวสามารถต่อเครื่องได้ที่จาการ์ตาหรือบาหลีก็ได้ สนามบินที่จาการ์ตาเค้าใหญ่มากนะครับเผื่อเวลาต่อเครื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะ
ระหว่างนั่งเครื่องจากจาการ์ตาไปลาบวน บาโจเครื่องบินบินผ่านเกาะภูเขาไฟที่เปิดแผนที่ดูน่าจะเป็น Pulau Sangeang ที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเลแล้วมีเมฆติดยอดเขาเยอะแยะดูลึกลับสวยดีครับ ยังไม่ถึงที่ก็สนุกแล้ว
เครื่องบินมาถึงเกือบสี่โมงเย็นแล้ว พอเครื่องลงแล้วสนามบินเค้าถึงจะเล็กๆแต่ก็ดูทันสมัย ออกมาจากเครื่องปั๊บมีประธานาธิบดี Joko Widodo รอต้อนรับ ส่วนออกนอกสนามบินมีแท๊กซี่เรียกร้องให้เราไปนั่งรถหลายสิบคน อันนี้แท๊กซี่ปกติราคาประมาณ 100,000 รูเปียหรือประมาณ 230 บาท แต่เพราะคนมาแย่งลูกค้ากันเยอะเลยมีคนให้ราคาแค่ 50,000 ไปสิครับ
โดยวันนี้เราก็ไม่ได้ทำอะไรมากครับแค่นอนรอวันรุ่งขึ้นบริษัททัวร์มารับไปออกเรือ วันนี้ก็เดินเล่นในเมือง Labuan Bajo รอไปก่อนหาอะไรกิน กับข้าวที่อินโดนี่อร่อยมากครับถูกปากคล้ายๆอาหารบ้านเรา โรงแรมก็มีให้เลือกหลายระดับตั้งแต่คืนละไม่ถึงพันไปจน 2-3 พันบาท โรงแรมเราอยู่ที่ Meruorah Komodo Labuan Bajo ที่อยู่ใกล้ๆกับท่าเรือ ห้องมีวิวท่าเรือแต่ที่สำคัญที่สุดคือเตียงนอนหลับสนิทมากเป็นการเตรียมพร้อมก่อนไปนอนไม่หลับบนเรือคืนพรุ่งนี้
พอวางของไรแล้วก็ออกไปเดินดูในเมืองหน่อยว่ามีไรบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายทัวร์ คาเฟ่ ร้านชำ ร้านข้าวแกง พอตกเย็นมัสยิดเค้าก็เริ่มเปิดลำโพงสวดมนต์กันตามปกติ เราก็ไปรอดูพระอาทิตย์ตกกันที่ร้านอาหาร Senja Eatery อาหารอร่อยถ้าไม่รู้จะกินอะไรกินร้านนี้ได้ครับ
อีกร้านอาหารนึงที่อาหารอร่อยวิวสวยคือ Taman Laut Handayani สำหรับใครมีเวลาเหลือ ร้านนี้เราไปกันวันกลับเพราะเวลาเหลือก่อนเครื่องบินออกจ้า
ทัวร์วันที่ 1
พนักงานทัวร์เค้าติดต่อมาก่อนแล้วทาง Whatsapp สามสี่วันก่อนเดินทางเพื่อนัดเวลารถมารับที่โรงแรม วันรุ่งขึ้นคนขับมารับประมาณ 9 โมงครึ่งแล้วไปส่งที่ท่าเรือข้างๆโรงแรม ถ้ารู้ก่อนเดินไปก็ได้นะ การจัดการที่ท่าเรือก็จะงงๆหน่อยโดยพนักงานของแต่ละบริษัทจะมารอรับแล้วก็แนะนำให้เรารู้จักกับไกด์ของเรา พนักงานไกด์ที่อินโดนี่เค้าพร้อมมากที่จะช่วยถ่ายรูป ถ้าใครมาเองไม่มีคนถ่ายรูปให้ไม่ต้องห่วงให้เดินใกล้ๆไกด์ไว้ มีทั้งกล้องและโดรนถ่ายมุมเตี้ยและมุมสูง
ตรงนี้เค้าจะขอเงินค่าเข้าอุทยานโคโมโดราคา 550,000 รูเปียต่อหัว หรือประมาณ 1,200 บาทแพงใช้ได้! สิ่งที่รวมในแพ็กเกจก็จะตามด้านล่างเลย แต่เวลาเค้าแวะเกาะนู่นนี่เราก็สามารถซื้อน้ำอัดลม มาม่า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรเตรียมแลกเงินไว้ด้วยนะครับ
- เที่ยว 3 วัน 2 คืน เริ่ม 9 โมงวันแรก จบเที่ยงวันสุดท้าย
- ห้องนอนรวม 4 คนพร้อมแอร์แผ่วๆ (ถ้าต้องการห้องส่วนตัวต้องแจ้งล่วงหน้าและราคาแพงกว่า)
- ห้องน้ำรวม สบู่ ยาสระผมต้องเอามาเอง
- น้ำดื่ม ชา กาแฟ
- อาหารทุกมื้อที่เราอยู่บนเรือ
พอยืนรอซักพักไกด์ก็พร้อมเรียกให้ขึ้นเรือเล็กกันเลย เรือเล็กนี้ก็จะเป็นยานพาหนะที่เราต้องนั่งจากเรือใหญ่ไปที่เกาะต่างๆตลอด 3 วัน กว่าจะถึงเรือหน้าเปียกพอสมควรเพราะนั่งใกล้น้ำมาก!
ถ่ายรูปเรือตัวเองไม่ค่อยชัด เรือซ้ายนี่ดูแล้วเหมือนจะเป็นคนที่จ่ายแพงกว่าเพราะทุกห้องเป็นห้องส่วนตัว ส่วนเรือเราเป็นลำเล็กๆข้างขวาหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม
ด้านในมีพื้นที่กินข้าวรวม อาหารเค้าก็อร่อยดีครับ อาจจะติดว่าน้อยไปหน่อยเพราะลูกค้าเยอะ มีที่นั่งนอนดูวิวอาบแดดบนดาดฟ้ากับหน้าเรือด้วย ส่วนห้องนอนก็ตามที่เห็นเลยครับ ไม่ใหญ่มากแต่อยู่ได้ มีหมอน ฟูก และผ้าเช็ดตัวที่สีหมองๆให้ ถ้าไม่สบายใจควรเตรียมไปเอง หมอนใต้ปลอกก็จะสีดำๆน่าสงสัยภรรยาเลยเอาเสื้อผ้ามารองเพิ่มเพื่อความสบายใจ
ด้วยความเป็นเรือหรืออะไรไม่รู้ที่ทำให้ดูแลความสะอาดยากก็จะมีแมลงสาปตัวเล็กๆให้เห็นอยู่บ้างแต่ด้วยราคาที่จ่ายก็ยอมรับได้นะ
พอถึงเวลาคนมาครบแล้วเรือก็ออกจากอ่าว มองออกไปเห็นฝั่งที่จากมาแล้วก็เรือคนอื่นที่หน้าตาสวยงาม
ไกด์ก็อธิบายให้ลูกทัวร์ฟังว่าวันนี้โปรแกรมมีอะไรบ้างระหว่างที่เรือล่องไปผ่านวิวสวยอลังการข้างทาง ภูเขาแถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหญ้าเตี้ยๆหมดเลยครับดูแล้วแปลกตาเหมือนไปเที่ยวยุโรป ส่วนวันนี้เราจะไปกันที่
- Kelor Island ที่จะต้องเดินขึ้นเขาเล็กน้อยไปจุดชมวิว
- สน็อกเกิลแถวๆเกาะ Kelapa
- จอดเรือรอดูค้างคาวออกจากถ้ำและพระอาทิตย์ตก
ตอนแรกก็ติดว่าจะมาดูแต่ภูเขาอย่างเดียวแต่พอมาถึงแล้วถึงได้เห็นว่าน้ำทะเลใสขนาดนี้ ทางเดินขึ้นชันเล็กน้อยแล้วก็แคบทำให้การสัญจรติดขัดนิดหน่อยเวลาคนเยอะๆ รองเท้าควรใส่ให้เหมาะสมเพราะรองเท้าแตะอาจจะขาดได้
บนยอดคนก็จะเข้าคิวกันถ่ายรูปกับวิว ถ้าใครไม่อยากรอเราไม่ต้องไปถ่ายบนยอดสุดก็ได้ครับเพราะเดินลงมานิดหน่อยก็สวยเหมือนกัน
มีเวลาเดินลงไปนั่งเล่นริมหาดระหว่างคนอื่นเค้าถ่ายรูปกัน หาดสวยมากนำ้ใสเห็นแล้วรู้สึกดีสบายใจ
คนกลับมาครบแล้วก็ออกเรือไปจุดหมายถัดไปคือจุดดำน้ำเกาะ Kelapa ไม่มีรูปดำน้ำเพราะดำไม่เป็นจ้า แค่ใส่เสื้อชูชีพลอยๆก็เหนื่อยแล้ว
และก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ที่ห่างไปจากจุดดำน้ำแค่สิบนาทีเอง พระอาทิตย์ก็เริ่มลงต่ำด้านล่างมีเรือจอดบรรยากาศสบายๆ และค้างคาวก็เริ่มแห่กันออกจากรังเป็นสายบนท้องฟ้าจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้