
อ่าน EP1 ที่
https://pantip.com/topic/38834361
EP 2 ต่อคะ
Bali & Nusa Penida Island (EP2 -Peguyangan Waterfall) ทริปสุดคูลต้องไปสักครั้งที่บาหลีและเกาะนูซาเพนิดา

เราออกจาก Diamond Beach มายัง Atuh King Five and Atuh Beach ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จุดๆนี้คือจุดที่มีบ้านต้นไม้นั่นเอง เห็นที่อยู่ไกลๆนั่นไหมคะ แหลมๆนั่นคือจุดหมายที่เราจะเดินไปกัน (ขาสั่น ขาอ่อนกันเลยทีเดียว)


ไฮไลท์อยู่ตรงนี้คะ บ้านต้นไม้ Atuh King Five เป็นที่พักด้วย แต่หากถ้าใครไม่ใช่สายแบคแพคที่แท้ทรู เราไม่แนะนำให้พักที่นี่นะคะ เพราะต้องเดินลงมาไกล แถมต้องปีนขึ้นไปนอนอีก ไหนจะสัมภาระทั้งหมดอีก แค่แวะมาถ่ายรูปก็สวยๆได้เหมือนกันคะ (เหมือนไม่สูงแต่จริงๆ สูงอยู่นะ)

วิวดูๆแล้วจะคล้าย Daimond Beach แต่ที่ Daimond สวยกว่าเยอะ (กลับไปอ่าน EP แรกนะคะ)

นางคงจินตนาการว่าเป็นโรสอยู่แน่ๆ

ในที่สุดก็เดินมาถึง จุดที่เราเห็นเป็นยอดแหลมๆเมื่อไกลๆนั่น ตอนลงขาสั่น เพราะต้องคอยติดเบรคน้ำหนักตัว ตอนขึ้นเหมือนจะง่ายแต่เหนื่อยเพราะต้องต้านแรงดึงดูดโลกขึ้นมา

ไม่ต้องถามถึงที่ร่มบอกได้เลยว่าไหม้

และที่ก่อนสุดท้ายที่เราจะแวะบนเกาะ และเป็นที่ๆเราอยากไปมากที่สุด คือ Peguyangan Waterfall เป็นที่ที่ไกลที่สุดในทริปและอเมซิ่งสุดในทริป

บันไดนี้ชิวสุดแล้ว จากสเตปทั้งหมดที่เดินมา

ทางลง ทำใจให้พร้อมเพราะสโลแกนของเราคือมาแล้วต้องไปให้สุด การไป Peguyangan Waterfall ต้องเดินผ่านวัดและเขตวัด เพราะฉะนั้นเราจะต้องนุ่งสโร่ง (ไม่รู้ว่าคนบาหลีเค้าเดินได้ไง ตอนเราลงไปมีคนใส่ชุดขาวเดินลงไป เป็นป้าอายุราวๆ 40 ได้ เดินไปชิวมาก ไม่มีท่าทางว่าเหนื่อยเลย)
การใส่สโร่งเดินลงบันไดสูงและชันมาก ค่อนข้างลำบากเลย กลัวเหยียบชายโสร่ง (ชุดกระโปรงยาวไม่เหมาะกับที่นี่นะคะ) บันไดเป็นเหล็กบ้าง บางช่วงเป็นไม้ บันไดมีช่องว่างพอสมควรที่แว่นตาสามารถร่วงลงไปได้อย่างชิวๆ ช่องว่างห่างกันจนมองเห็นเหวอย่างชัดเจน (อย่าไปกลัว แต่ขางี่สั่นหมด มาแล้วต้องไปให้สุด)


ความสวยของน้ำทะเลระหว่างทางนี่สุดคำบรรยายจริงๆ เรามาที่น้ำตกนี่ช่วงบ่ายโชคดีที่ทางเดินลงมาไม่โดดแดด ไม่งั้นเป็นลมแดด ร่วงตกบันได้เป็นแน่แท้ การเดินทางไปกลับใช้เวลาชั่วโมงนิดๆเลย

มาถึงแล้ว ได้ยินเสียงน้ำตกชัดมาก สถานที่อะไรอเมซิ่งพึ่งเคยเห็นน้ำตกติดกับทะเลแบบนี้ ซึ่งมีทางเดินให้เดินไปง่ายๆ (อาจมีหวาดเสียวบ้าง ก็ดีกว่าต้องปีนไปดู)

หันไปอีกที เพื่อนเรากำลังเกาะบันไดคลานลงมา


เราต้องเดินผ่านวัด เค้าจะทำพิธีกันตรงนี้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องอย่างเราๆ ห้ามขึ้นไปโดยเด็ดขาด

อาซาบอกให้ฟังว่าท่อน้ำสีฟ้าที่เราเดินผ่านมาตลอดทางนั่นคือท่อน้ำที่เค้าดูดน้ำจากน้ำตกขึ้นไปใช้

น้ำศักดิ์สิทธิ์ สะอาดดื่มได้คะ (นางทำให้ดูว่าดื่มได้)

น้ำใส สีฟ้า ใส ไม่รู้จะใสยังไงแล้ว

ที่เราจะไปเล่นน้ำกันคือ บ่อน้ำด้านล่างโน้น

ทุรักทุเร นิดหน่อย

ไปนั่งเล่นให้คลื่นกระเซ็นตั้งนานได้มารูปเดียว

อ่างนี้ว่ายได้ คือน้ำใสมาก ต้องเล่นพูดเลย

อะไรมันจะฟินไปเท่ากับอ่างน้ำธรรมชาติที่มีน้ำที่ใสกิ้ง มองไปด้านหน้าเป็นทะเล โอยอยากจะอยู่ตรงนี้อีกสักสามสี่ชั่วโมง แต่เกรงใจเพื่อนคนอื่นจะมาเล่นบ้าง


เราออกจาก Peguyangan Waterfall อาซาพาไปแวะ Crystal Bay Beach นางบอกว่าแถม ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ แต่ว่ามันร้อนมาก เผาเนื้อมาก แล้วก็คนเยอะมาก จริงๆนางให้เราเล่นน้ำที่นี้ได้ แต่ไม่ขอเล่นดีกว่า เราเลยไปรอที่ท่าเรือ (ท่าเรือก็ร้อนไม่แพ้กัน)

ก่อนกลับต้องขอขอบคุณทีมงาน อาซา จากบริษัท Penida (
https://nusa-penida.info) และอาซาผู้น่ารักสำหรับบริการดีๆ และดูแลพวกเราอย่างดี อย่างปลอดภัยตลอดการเดินทางครั้งนี้
เราขึ้นเรือรอบห้าโมงไปถึงบาหลีเกือบๆหกโมงแล้ว มีคนขับที่บาหลีมารอรับที่ท่าเรือ พาเราไปส่งที่โรงแรม จากท่าเรือไปส่งที่ Renaissance Uluwatu ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ(เพื่อนมันได้ Voucher ฟรี เรามีรูปมาฝากใน Day 4 ส่วนเราพักแยกกัน ราคาห้องที่ Renaissance ราคาปกติคืนนึง 3,000 - 5,000 บาท)



มื้อที่สองเราทานอาหารในโรงแรม เนื่องจากมามืดแล้ว ขอใช้ราคาพนักงานในเครือหน่อย สั่งไปทั้งหมด 4 อย่าง มีริบอาย เพื่อนสั่งอาหารแนวอินเดียมาอย่างนึง อีกอย่างจำชื่อเมนูไม่ได้แล้ว ปิดท้ายด้วยพุดดิ้ง ค่าเสียหายหมดไป คิดเป็นเงินไทย 1,900 บาท (หารไปสี่คน คนละ 475 บาท ราคานี้ได้ส่วนลดแล้ว 30%) มื้อแรกที่บาหลีเปิดบิลแพงซะ แต่เราว่ามันก็ยังถูกกว่าที่เมืองไทยอยู่ดี
ถ้าไม่รู้จะสั่งไรดี จากที่ลองกินมาทั้งหมด อะไรที่เป็นสเต็กๆ อร่อยหมด โดยเฉพาะพวกริบอาย หรือซี่โครงหมู กินร้านไหน ร้านไหน ไม่ผิดหวังสักร้าน
Day 3
สำหรับ 2 วันที่เหลือเราใช้การเช่ารถขับเอง โดยใช้
รถเช่าของบริษัท Bali4ride https://www.bali4ride.com/ (เราชอบบริษัทนี้ไม่เรื่องมาก เรานัดรับรถที่โรงแรม Renaissance แต่เราไปถึงช้ากว่าเวลานัด เค้าเลยฝากกุญแจไว้ที่ลอบบี้ เราสามารถจ่ายเงินผ่านเคาเตอร์ GSA ได้เลย จากกประสบการณ์การเช่ารถ มาสองครั้งครั้งแรกเราเช่า Avanza รถที่ได้มา ใหม่ สะอาด ไม่ค่อยมีรอยชน มารอบนี้เราเลือกรถเล็ก ประมาณพวก Yaris แต่รถมีรอบแผลเต็มรถ ก็ถ่ายรูปแล้วก็แจ้งกับบริษัทไป ไม่ได้มีปัญหายุ่งยากเพราะเราซื้อประกัน Cover รอบคันอยู่แล้ว ภายในรถก็สะอาดดี เพียงแค่หากเกิดอุบัติเหตุมีค่าธรรมเนียม 350,000 IDR ที่เราเลือกรถเล็กเพราะ ถนนในบาหลีเล็กมาก เล็กแบบพอดีคัน ขับไม่ดีอาจตกท่อที่เปิดไว้ได้ เลยเลือกคันเล็กขับง่ายดีคะ ส่วนรถปกติแล้วเค้าเอามาส่งแบบน้ำมันไม่มี ต้องเติมเอาเอง ตอนคืนไม่ต้องเติมน้ำมันคืน
ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ (เรารับรถของ เย็น Day 2 แล้วไปคืนอีกที ตอน สามทุ่มของ Day 4) ราคาทั้งหมด 800,000 IDR ประมาณ 1,920 บาท หารกันสี่คน ก็คนละ 480 บาทคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม น้ำมันเราเติมเต็มถังขับได้ สองวัน ตกประมาณ 300,000 IDR ราวๆ 720 บาท เพราะฉะนั้นค่ารถตระเวนสองวัน คนละ 660 บาท (คุ้มมาก)

บรรยากาศดียามเช้า เมื่อคืนไม่ทันได้ถ่ายทุกอย่างมันมืดไปหมด ที่พักของเราเมื่อคืนที่ Day 2 เราพักที่ U Tube Hotel & Spa ราคาห้อง 689 บาท หารสอง ก็คนละ 344 บาท ถูกมากๆ โรงแรมสะอาดดี แต่ไม่ถึงกับใหม่ แต่ก็ไม่ได้เก่า ก็ดีนะ สำหรับการนอนที่ไม่นานมาก เพราะเรามาถึงมืดแล้วและต้องออกไปแต่เช้า โรงแรมติดถนนใหญ่ปลอดภัยดี


วันนี้ เราต้องขับรถจาก Uluwatu เพื่อเข้าไปเที่ยวในอูบุด Ubud ซึ่งต้องผ่านคูต้า Kuta จุดรถติด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ที่เรานอนอูลูวาตูเพราะ เพื่อนมันได้วอเชอร์ของ Renaissance 2 คืน แต่ถ้าเลือกได้เราแนะนำให้เพื่อนๆ เลือกพักใน Ubud สักคืนเพราะ มีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสวิง นาข้าวบันได วัด น้ำตก ตลาด ร้านของเบรนแนมและร้านอาหารหลากหลายสไตล์มีรวมกันที่นี่หมดเลย
อ่านต่อ EP 3......
[CR] Bali & Nusa Penida Island (EP2 -Peguyangan Waterfall) ทริปสุดคูลต้องไปสักครั้งที่บาหลีและเกาะนูซาเพนิดา
อ่าน EP1 ที่ https://pantip.com/topic/38834361
EP 2 ต่อคะ
Bali & Nusa Penida Island (EP2 -Peguyangan Waterfall) ทริปสุดคูลต้องไปสักครั้งที่บาหลีและเกาะนูซาเพนิดา
การใส่สโร่งเดินลงบันไดสูงและชันมาก ค่อนข้างลำบากเลย กลัวเหยียบชายโสร่ง (ชุดกระโปรงยาวไม่เหมาะกับที่นี่นะคะ) บันไดเป็นเหล็กบ้าง บางช่วงเป็นไม้ บันไดมีช่องว่างพอสมควรที่แว่นตาสามารถร่วงลงไปได้อย่างชิวๆ ช่องว่างห่างกันจนมองเห็นเหวอย่างชัดเจน (อย่าไปกลัว แต่ขางี่สั่นหมด มาแล้วต้องไปให้สุด)
เราขึ้นเรือรอบห้าโมงไปถึงบาหลีเกือบๆหกโมงแล้ว มีคนขับที่บาหลีมารอรับที่ท่าเรือ พาเราไปส่งที่โรงแรม จากท่าเรือไปส่งที่ Renaissance Uluwatu ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ(เพื่อนมันได้ Voucher ฟรี เรามีรูปมาฝากใน Day 4 ส่วนเราพักแยกกัน ราคาห้องที่ Renaissance ราคาปกติคืนนึง 3,000 - 5,000 บาท)
ถ้าไม่รู้จะสั่งไรดี จากที่ลองกินมาทั้งหมด อะไรที่เป็นสเต็กๆ อร่อยหมด โดยเฉพาะพวกริบอาย หรือซี่โครงหมู กินร้านไหน ร้านไหน ไม่ผิดหวังสักร้าน
Day 3
สำหรับ 2 วันที่เหลือเราใช้การเช่ารถขับเอง โดยใช้รถเช่าของบริษัท Bali4ride https://www.bali4ride.com/ (เราชอบบริษัทนี้ไม่เรื่องมาก เรานัดรับรถที่โรงแรม Renaissance แต่เราไปถึงช้ากว่าเวลานัด เค้าเลยฝากกุญแจไว้ที่ลอบบี้ เราสามารถจ่ายเงินผ่านเคาเตอร์ GSA ได้เลย จากกประสบการณ์การเช่ารถ มาสองครั้งครั้งแรกเราเช่า Avanza รถที่ได้มา ใหม่ สะอาด ไม่ค่อยมีรอยชน มารอบนี้เราเลือกรถเล็ก ประมาณพวก Yaris แต่รถมีรอบแผลเต็มรถ ก็ถ่ายรูปแล้วก็แจ้งกับบริษัทไป ไม่ได้มีปัญหายุ่งยากเพราะเราซื้อประกัน Cover รอบคันอยู่แล้ว ภายในรถก็สะอาดดี เพียงแค่หากเกิดอุบัติเหตุมีค่าธรรมเนียม 350,000 IDR ที่เราเลือกรถเล็กเพราะ ถนนในบาหลีเล็กมาก เล็กแบบพอดีคัน ขับไม่ดีอาจตกท่อที่เปิดไว้ได้ เลยเลือกคันเล็กขับง่ายดีคะ ส่วนรถปกติแล้วเค้าเอามาส่งแบบน้ำมันไม่มี ต้องเติมเอาเอง ตอนคืนไม่ต้องเติมน้ำมันคืน
ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ (เรารับรถของ เย็น Day 2 แล้วไปคืนอีกที ตอน สามทุ่มของ Day 4) ราคาทั้งหมด 800,000 IDR ประมาณ 1,920 บาท หารกันสี่คน ก็คนละ 480 บาทคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม น้ำมันเราเติมเต็มถังขับได้ สองวัน ตกประมาณ 300,000 IDR ราวๆ 720 บาท เพราะฉะนั้นค่ารถตระเวนสองวัน คนละ 660 บาท (คุ้มมาก)
อ่านต่อ EP 3......
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้