สวัสดี
ขออนุญาตพิมพ์เพื่อระบายถึงความรู้สึก ความอึดอัดที่เกาะกินจิตใจมาหลายปี มันอาจจะยาวสักหน่อยถ้าหากรบกวนความรู้สึกทำให้ก่อเกิดความรำคาญใจ ต้องขออภัยด้วย
จะไม่ขอท้าวความถึงเรื่องราวของปัญหานะเล่าไปก็ไม่ได้มีประโยชน์กับใคร
แต่ที่เราอยากพูดถึงคือ ตัวเราเองที่ตอนแรกที่ไม่รู้ตัวว่าได้รับผลกระทบด้านจิตใจ
คิดว่าตัวเองสบายดีและมีความทุกข์ในใจเช่นมนุษย์ทั่วไป
แต่ตั้งแต่เกิดปัญหาเราค่อนข้างกลายเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้เก่งมากโดยเฉพาะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ
ต่อหน้าผู้คนน้ำตาเราจะไหลยากมากไม่ว่าเรื่องที่เผชิญจะหนักแค่ไหนก็ไม่มีน้ำตาให้เห็น
เราจะทำตัวปกติจากนั้นไปเข้าห้องน้ำก็จะเริ่มร้องไห้อย่างทรมาน
เป็นแบบนี้ได้หลายปีแล้ว จริงๆค่อนข้างเป็นคนเซ้นท์ซิทีฟมากนะ ร้องไห้ง่ายแต่กลับไม่ยอมร้องให้ใครเห็น ปากก็จะพูดแต่ว่า ฉันสบายดีทั้งที่จริงๆเพิ่งร้องไห้มา ไม่ว่ากับใครสนิทกันแค่ไหนก็จะไม่มีวันพูดคำว่า ฉันเสียใจ ออกไปแน่นอน
ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่กับแฟนสองคน บางครั้งรู้สึกเกร็งๆและเสแสร้งแกล้งร่าเริง
และบ่อยๆเลยมีความรู้สึกว่าอึดอัดที่มีอีกคนอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ได้ถึงกับรำคาญนะ
รู้สึกว่าอยากอยู่คนเดียวจังเลย อยากปล่อยอารมณ์เศร้าจังเลย เหนื่อยจังเลย
อยากร้องไห้จังเลย รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องทำตัวเป็นปกติทั้งที่ข้างในไม่ปกติแต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
เรื่องถัดมาคือ ไม่รู้สึกซาบซึ้งถึงความหวังดีที่หลายคนมอบให้
คือไม่ได้รังเกียจคนเหล่านั้นแต่รู้สึกเฉยๆกับคำว่า เป็นห่วงนะ หรืออากัปกริยาใดก็ตามที่แสดงถึงความห่วงใย ความใส่ใจ ต่างๆ
เมื่อได้รับมาจะเพียงแค่ตอบรับด้วยคำพูดแต่ภายในใจไม่ได้เก็บเอาความรู้สึกนั้นกลับมา
ไม่รู้จะพูดยังไงให้เห็นภาพ แม้แต่กับแม่ตัวเองเราก็รู้สึกเฉยชากับสายสัมพันธ์ความห่วงหาของแม่ลูก แต่เราก็ยังรู้สึกรักแม่นะ
ระยะนี้รู้สึกไม่อยากสู้ต่อ อยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากคุยกับใคร ไม่ทำเรื่องที่เคยชอบ หันหน้าไปทางไหนก็เหมือนกัน หมดเป็นเหมือนทุกวัน
ลาออกจากงานวันนี้ไม่ได้ปรึกษาใคร
มันอยากทำก็ทำ ตั้งคำถามกับตัวเอง
ว่าต้องการอะไร ไม่มีคำตอบ
ในใจมันกลวงโบ๋ไม่รู้สึกอะไรสักอย่าง
แต่ภายนอกยังใช้ชีวิตปกติ ไม่มีใครถาม
ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ดูผิดปกติไป
ไม่มีใครพูดอะไรแสดงว่ายังเป็นตัวเองได้อย่างแนบเนียนเหมือนเดิม
จนระยะหลัง
ความรู้สึกนึกคิดเริ่มเฉียดเข้าเรื่องความเป็นความตายบ่อยๆ
เหมือนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เช่น เวลาเหม่อลอยเมื่อสติกลับมาจะพบว่าตัวเองกำลังตั้งคำถามในใจว่า ถ้าเกิดว่าร่วงลงไปจากตึกนี้ฉันจะตายด้วยท่าทางแบบไหน
หรือมองขึ้นไปที่ขื่อไม้ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเป็นบ้านเพื่อน วัด ศาลาที่ใดก็ตามที่มีขื่อจะต้องคิดว่าผูกยังไงให้แน่นเพื่อเหนี่ยวรั้งคอฉันเอาไว้จนกว่าจะหมดลมหายใจ
ขับรถอยู่เพลินๆชอบมองว่าถ้าเร่งความเร็วกว่านี้เพื่อพุ่งลงไปจากทางด่วนฉันจะตายทันทีหรือแค่บาดเจ็บ
มันมีหลายๆความคิดในแนวนี้ผุดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเป็นคนรู้สึกหวาดกลัวง่ายและวิตกจริตเกินความจริง ขวัญอ่อนมาก
ทั้งหมดนี่คืออาการของความไม่ปกติที่เกิดขึ้น เรื่องหลักๆคือเราเกลียดที่ตัวเองชอบทำเป็นเข้มแข็งมากทั้งที่ข้างในคือไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วแต่เราก็ไม่มีความกล้าที่จะเอ่ยปากบอกใครแม้แต่แม่เราเอง เรารู้สึกไม่ไว้ใจใครบนโลกนี้เลยแม้แต่ตัวเรา เราไม่สบายใจที่จะมีใครเข้ามาถึงภายในจิตใจของเรา เราจินตนาการถึงโลกที่มีแค่เราคนเดียว
ขอบคุณที่รับฟัง
ปล.ไม่รู้แท็กอะไรได้บ้างถ้าผิดก็ขออภัยด้วย
อยากระบายมีใครฟังได้บ้างไหม?
ขออนุญาตพิมพ์เพื่อระบายถึงความรู้สึก ความอึดอัดที่เกาะกินจิตใจมาหลายปี มันอาจจะยาวสักหน่อยถ้าหากรบกวนความรู้สึกทำให้ก่อเกิดความรำคาญใจ ต้องขออภัยด้วย
จะไม่ขอท้าวความถึงเรื่องราวของปัญหานะเล่าไปก็ไม่ได้มีประโยชน์กับใคร
แต่ที่เราอยากพูดถึงคือ ตัวเราเองที่ตอนแรกที่ไม่รู้ตัวว่าได้รับผลกระทบด้านจิตใจ
คิดว่าตัวเองสบายดีและมีความทุกข์ในใจเช่นมนุษย์ทั่วไป
แต่ตั้งแต่เกิดปัญหาเราค่อนข้างกลายเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้เก่งมากโดยเฉพาะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ
ต่อหน้าผู้คนน้ำตาเราจะไหลยากมากไม่ว่าเรื่องที่เผชิญจะหนักแค่ไหนก็ไม่มีน้ำตาให้เห็น
เราจะทำตัวปกติจากนั้นไปเข้าห้องน้ำก็จะเริ่มร้องไห้อย่างทรมาน
เป็นแบบนี้ได้หลายปีแล้ว จริงๆค่อนข้างเป็นคนเซ้นท์ซิทีฟมากนะ ร้องไห้ง่ายแต่กลับไม่ยอมร้องให้ใครเห็น ปากก็จะพูดแต่ว่า ฉันสบายดีทั้งที่จริงๆเพิ่งร้องไห้มา ไม่ว่ากับใครสนิทกันแค่ไหนก็จะไม่มีวันพูดคำว่า ฉันเสียใจ ออกไปแน่นอน
ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่กับแฟนสองคน บางครั้งรู้สึกเกร็งๆและเสแสร้งแกล้งร่าเริง
และบ่อยๆเลยมีความรู้สึกว่าอึดอัดที่มีอีกคนอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ได้ถึงกับรำคาญนะ
รู้สึกว่าอยากอยู่คนเดียวจังเลย อยากปล่อยอารมณ์เศร้าจังเลย เหนื่อยจังเลย
อยากร้องไห้จังเลย รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องทำตัวเป็นปกติทั้งที่ข้างในไม่ปกติแต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
เรื่องถัดมาคือ ไม่รู้สึกซาบซึ้งถึงความหวังดีที่หลายคนมอบให้
คือไม่ได้รังเกียจคนเหล่านั้นแต่รู้สึกเฉยๆกับคำว่า เป็นห่วงนะ หรืออากัปกริยาใดก็ตามที่แสดงถึงความห่วงใย ความใส่ใจ ต่างๆ
เมื่อได้รับมาจะเพียงแค่ตอบรับด้วยคำพูดแต่ภายในใจไม่ได้เก็บเอาความรู้สึกนั้นกลับมา
ไม่รู้จะพูดยังไงให้เห็นภาพ แม้แต่กับแม่ตัวเองเราก็รู้สึกเฉยชากับสายสัมพันธ์ความห่วงหาของแม่ลูก แต่เราก็ยังรู้สึกรักแม่นะ
ระยะนี้รู้สึกไม่อยากสู้ต่อ อยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากคุยกับใคร ไม่ทำเรื่องที่เคยชอบ หันหน้าไปทางไหนก็เหมือนกัน หมดเป็นเหมือนทุกวัน
ลาออกจากงานวันนี้ไม่ได้ปรึกษาใคร
มันอยากทำก็ทำ ตั้งคำถามกับตัวเอง
ว่าต้องการอะไร ไม่มีคำตอบ
ในใจมันกลวงโบ๋ไม่รู้สึกอะไรสักอย่าง
แต่ภายนอกยังใช้ชีวิตปกติ ไม่มีใครถาม
ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ดูผิดปกติไป
ไม่มีใครพูดอะไรแสดงว่ายังเป็นตัวเองได้อย่างแนบเนียนเหมือนเดิม
จนระยะหลัง
ความรู้สึกนึกคิดเริ่มเฉียดเข้าเรื่องความเป็นความตายบ่อยๆ
เหมือนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เช่น เวลาเหม่อลอยเมื่อสติกลับมาจะพบว่าตัวเองกำลังตั้งคำถามในใจว่า ถ้าเกิดว่าร่วงลงไปจากตึกนี้ฉันจะตายด้วยท่าทางแบบไหน
หรือมองขึ้นไปที่ขื่อไม้ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเป็นบ้านเพื่อน วัด ศาลาที่ใดก็ตามที่มีขื่อจะต้องคิดว่าผูกยังไงให้แน่นเพื่อเหนี่ยวรั้งคอฉันเอาไว้จนกว่าจะหมดลมหายใจ
ขับรถอยู่เพลินๆชอบมองว่าถ้าเร่งความเร็วกว่านี้เพื่อพุ่งลงไปจากทางด่วนฉันจะตายทันทีหรือแค่บาดเจ็บ
มันมีหลายๆความคิดในแนวนี้ผุดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเป็นคนรู้สึกหวาดกลัวง่ายและวิตกจริตเกินความจริง ขวัญอ่อนมาก
ทั้งหมดนี่คืออาการของความไม่ปกติที่เกิดขึ้น เรื่องหลักๆคือเราเกลียดที่ตัวเองชอบทำเป็นเข้มแข็งมากทั้งที่ข้างในคือไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วแต่เราก็ไม่มีความกล้าที่จะเอ่ยปากบอกใครแม้แต่แม่เราเอง เรารู้สึกไม่ไว้ใจใครบนโลกนี้เลยแม้แต่ตัวเรา เราไม่สบายใจที่จะมีใครเข้ามาถึงภายในจิตใจของเรา เราจินตนาการถึงโลกที่มีแค่เราคนเดียว
ขอบคุณที่รับฟัง
ปล.ไม่รู้แท็กอะไรได้บ้างถ้าผิดก็ขออภัยด้วย