เทคโนโลยีทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เคยฮิตกลายเป็นหมดความนิยม สิ่งที่เป็นที่ต้องการกลับกลายเป็นเชย ที่เคยมีประโยชน์กลับกลายเป็นไร้ค่า เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับสิ่งของเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับอาชีพการงานด้วย
คนยุคนี้จึงไม่สามารถใช้วิชาความรู้ ทักษะ หรือความถนัดที่มีอยู่ไปตลอดชีวิต เราไม่สามารถคาดหวังว่าจะประกอบอาชีพเดิมไปได้จนแก่เฒ่า
คนรุ่นเราๆ ท่านๆ จึงต้องมีทักษะในการ Re-skilling หรือ 'ปฏิรูป' ตัวเองอยู่เสมอ ด้วยการสอดส่ายสายตาเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่ถนัด เพื่อเติม 'อาวุธ' ใหม่เข้าไปในตัว เตรียมพร้อมสำหรับสนามรบที่เปลี่ยนแปลง
หากใครคิดว่า ฉันจะเป็นผู้ชำนาญการด้านใดด้านหนึ่งไปตลอดชีวิต ย่อมเสี่ยงที่จะตกงานหรือหมดความจำเป็น
คุณสมบัติของคนที่พร้อม 'เกิดใหม่' หรือ 'มีชีวิตใหม่' อาจสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. เรียนรู้ตลอดชีวิต
ไม่จบแค่ที่เรียนในห้องเรียน หรือใบปริญญาที่ได้มาแปะข้างฝา แต่หมั่นเปิดหูเปิดตา เปิดยูทูป ลงคอร์สเรียนทักษะใหม่ๆ แล้วลองนำมาใช้ให้เชี่ยวชาญ ทุกวันนี้มีครูอยู่เต็มไปหมด
2. สะสมต่อมความสนใจ
ไม่ปิดตัวเองว่าเชี่ยวชาญหรือชื่นชอบด้านใดเป็นพิเศษ แต่มีต่อมความสนใจใหม่ๆ ตลอดเวลา เรียนวิทย์มาก็สนใจศิลป์ เรียนศิลป์ก็สนใจการตลาด เรียนการตลาดก็สนใจทำอาหาร เรียนทำอาหารก็สนใจถ่ายรูป ฯลฯ แบบนี้ก็พร้อมที่จะ 'ตั้งท้อง' ตัวตนใหม่อยู่เสมอ
3. กล้าโง่
พอโตแล้ว เก่งแล้ว เรามักไม่ยอมเสี่ยงที่จะกลับไปเป็น 'เด็กน้อย' อีกคร้ัง เรากลัวที่จะดูโง่ในสายตาคนอื่น คนที่รักการแปลงร่างเป็นคนใหม่จะต้องยืดอกรับ 'ช่วงอนุบาล' แห่งการเรียนรู้บ่อยๆ และไม่กลัวโง่เพื่อฉลาดในวันถัดไป ตรงกันข้าม, หากไม่ยอมโง่เลยอาจต้องโง่ยาว
4. กล้าลอง
แบ่งเวลา พลัง และเงินมาทดลองทำในสิ่งที่จะเป็น 'ชีวิตใหม่' แบบไม่เจ็บตัว ลองแล้วยังไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ลองอีก ลองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจมีสิ่งที่ไม่ใช่ แต่ลองไปอาจคลิกเจอสิ่งใหม่ที่เป็นลู่ทางสู่ 'ชีวิตใหม่' ได้ เทคโนโลยีทุกวันนี้ทำให้ต้นทุนในการทดลองต่ำลงมาก เมื่อเทียบกับยุคก่อน
5. มี growth mindset
ล้มแล้วลุก ล้มแล้วเรียนรู้ ไม่มองความล้มเหลวเป็นเรื่องแย่ แต่มองมันเป็นขั้นบันไดไปสู่ความสำเร็จ เติบโตจากความผิดพลาด เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านทักษะและหัวจิตหัวใจผ่านการลองทำสิ่งใหม่ที่สนใจ
6. ไม่เป็นศัตรูกับหุ่นยนต์
คนรุ่นนี้ต้องอ้าแขนเป็นเพื่อนกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่เอาแต่นั่งบ่นว่ามันมีแต่ข้อเสีย ตรงกันข้าม, ต้องหาข้อดีจากมัน ทำความรู้จักมัน และร่วมงานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเอง แทนที่จะรบกับ A.I. เราต้องเอา A.I. มาเป็นเพื่อน
7. คบเพื่อนหลากหลาย
ความสำเร็จทุกวันนี้เกิดจากการ 'รวมหัว' ของคนที่มีความถนัดแตกต่างกัน เปิดใจ เปิดตัว เปิดหัวสมอง คุยกับคนที่หลากหลาย มีรสนิยมไม่เหมือนกันเป๊ะ มีเพื่อนหลากหลายวงการ เราจะได้ไอเดียใหม่ๆ จาก 'หัว' ที่แตกต่าง ไม่ควรคบหาแต่เพื่อนที่คิดและชอบอะไรเหมือนๆ กัน
8. ละทิ้งตัวตนเดิม
อย่ายึดติดกับสิ่งที่ตัวเองเป็น (being) แต่ควรมองไปข้างหน้าว่าเราจะ 'กลายไปเป็น' (becoming) อะไรได้อีก ลอกคราบตัวเองเป็นคนใหม่ มีทักษะใหม่ๆ มีความท้าทายใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่นิยามตัวเองแคบๆ ในแบบเดิมๆ
9. ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากกว่ารายได้
แน่นอน รายได้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ในช่วงเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ เราจำเป็นต้องมองข้ามเรื่องรายได้ไปก่อน กระทั่งอาจต้องยอมลงทุน 'รายจ่าย' ด้วยซ้ำ การเอาแต่คิดถึงว่าตัวเองจะได้เงินเท่าไร อาจเป็นกำแพงกีดกั้นโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ จ่ายก่อนเพื่อจะได้ทีหลัง
10. มีสัญญาณเตือนภัยติดตัวไว้เสมอ
พยายามเตือนตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกว่า ฉันเก่ง ฉันเอาอยู่แล้ว หรือฉันรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ว่านั่นคือสัญญาณอันตราย เรากำลังหยุดเรียนรู้ ทำตัวเหมือนต้นไม้ คืองอกกิ่งก้านใหม่อยู่เสมอ ถ้าไม่งอกแล้วก็กำลังจะตาย พาตัวเองไปอยู่ในจุด 'อันตราย' ใหม่ๆ หมายถึงพื้นที่ที่เรายังไม่เก่ง ไม่รู้ เป็นเด็กน้อย ทุกครั้งที่เรารู้สึก 'ไม่ปลอดภัย' เรากำลังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ใส่เข้าไปในตัวเอง
คนรุ่นนี้ต้อง 'เกิดใหม่' หรือ 'Re-skill' กันไม่รู้กี่รอบ หนึ่งคนอาจต้องเปลี่ยนอาชีพกัน 4-5 อาชีพ หรือมากกว่านั้น จะทำเช่นนั้นได้ เราต้องเปลี่ยนบุคลิกและนิสัยของตัวเองก่อน
หากทำได้ โลกยุคนี้ย่อมเต็มไปด้วยโอกาส ความท้าทาย และความตื่นเต้น แทนที่จะอยู่กับสิ่งเดิม ความถนัดเดิม ตัวตนเดิมไปตลอด เรากลับเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ
แน่นอน บางคนอาจมองว่านี่คือชีวิตที่ 'เหนื่อย' ขณะที่บางคนอาจมองเป็นชีวิตที่ 'หนุก'
ก่อนจะ Re-skill เราอาจต้อง Reset มุมมองที่มีต่อชีวิตก่อน
มองการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสนุก
มองการเกิดใหม่เป็นโอกาสให้เรากลับมามีชีวิตชีวาเหมือนหนุ่มสาวครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อเคยชินกับความเปลี่ยนแปลงเสียแล้ว เราย่อมเติบโตเหมือนต้นไม้ คือเติบโตและงอกงามตามธรรมชาติ
เพียงแค่ยุคนี้เราไม่ควรเป็นไม้แคระในกระถาง แต่ควรเป็นไม้ใหญ่ลงดินที่งอกกิ่งก้านไปในพื้นที่ว่างแห่งความเป็นไปได้ไม่รู้จบ
10 คุณสมบัติสำคัญเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่หมุนเร็วจี๋ โดย คุณนิ้วกลม
คนยุคนี้จึงไม่สามารถใช้วิชาความรู้ ทักษะ หรือความถนัดที่มีอยู่ไปตลอดชีวิต เราไม่สามารถคาดหวังว่าจะประกอบอาชีพเดิมไปได้จนแก่เฒ่า
คนรุ่นเราๆ ท่านๆ จึงต้องมีทักษะในการ Re-skilling หรือ 'ปฏิรูป' ตัวเองอยู่เสมอ ด้วยการสอดส่ายสายตาเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่ถนัด เพื่อเติม 'อาวุธ' ใหม่เข้าไปในตัว เตรียมพร้อมสำหรับสนามรบที่เปลี่ยนแปลง
หากใครคิดว่า ฉันจะเป็นผู้ชำนาญการด้านใดด้านหนึ่งไปตลอดชีวิต ย่อมเสี่ยงที่จะตกงานหรือหมดความจำเป็น
คุณสมบัติของคนที่พร้อม 'เกิดใหม่' หรือ 'มีชีวิตใหม่' อาจสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. เรียนรู้ตลอดชีวิต
ไม่จบแค่ที่เรียนในห้องเรียน หรือใบปริญญาที่ได้มาแปะข้างฝา แต่หมั่นเปิดหูเปิดตา เปิดยูทูป ลงคอร์สเรียนทักษะใหม่ๆ แล้วลองนำมาใช้ให้เชี่ยวชาญ ทุกวันนี้มีครูอยู่เต็มไปหมด
2. สะสมต่อมความสนใจ
ไม่ปิดตัวเองว่าเชี่ยวชาญหรือชื่นชอบด้านใดเป็นพิเศษ แต่มีต่อมความสนใจใหม่ๆ ตลอดเวลา เรียนวิทย์มาก็สนใจศิลป์ เรียนศิลป์ก็สนใจการตลาด เรียนการตลาดก็สนใจทำอาหาร เรียนทำอาหารก็สนใจถ่ายรูป ฯลฯ แบบนี้ก็พร้อมที่จะ 'ตั้งท้อง' ตัวตนใหม่อยู่เสมอ
3. กล้าโง่
พอโตแล้ว เก่งแล้ว เรามักไม่ยอมเสี่ยงที่จะกลับไปเป็น 'เด็กน้อย' อีกคร้ัง เรากลัวที่จะดูโง่ในสายตาคนอื่น คนที่รักการแปลงร่างเป็นคนใหม่จะต้องยืดอกรับ 'ช่วงอนุบาล' แห่งการเรียนรู้บ่อยๆ และไม่กลัวโง่เพื่อฉลาดในวันถัดไป ตรงกันข้าม, หากไม่ยอมโง่เลยอาจต้องโง่ยาว
4. กล้าลอง
แบ่งเวลา พลัง และเงินมาทดลองทำในสิ่งที่จะเป็น 'ชีวิตใหม่' แบบไม่เจ็บตัว ลองแล้วยังไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ลองอีก ลองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจมีสิ่งที่ไม่ใช่ แต่ลองไปอาจคลิกเจอสิ่งใหม่ที่เป็นลู่ทางสู่ 'ชีวิตใหม่' ได้ เทคโนโลยีทุกวันนี้ทำให้ต้นทุนในการทดลองต่ำลงมาก เมื่อเทียบกับยุคก่อน
5. มี growth mindset
ล้มแล้วลุก ล้มแล้วเรียนรู้ ไม่มองความล้มเหลวเป็นเรื่องแย่ แต่มองมันเป็นขั้นบันไดไปสู่ความสำเร็จ เติบโตจากความผิดพลาด เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านทักษะและหัวจิตหัวใจผ่านการลองทำสิ่งใหม่ที่สนใจ
6. ไม่เป็นศัตรูกับหุ่นยนต์
คนรุ่นนี้ต้องอ้าแขนเป็นเพื่อนกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่เอาแต่นั่งบ่นว่ามันมีแต่ข้อเสีย ตรงกันข้าม, ต้องหาข้อดีจากมัน ทำความรู้จักมัน และร่วมงานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเอง แทนที่จะรบกับ A.I. เราต้องเอา A.I. มาเป็นเพื่อน
7. คบเพื่อนหลากหลาย
ความสำเร็จทุกวันนี้เกิดจากการ 'รวมหัว' ของคนที่มีความถนัดแตกต่างกัน เปิดใจ เปิดตัว เปิดหัวสมอง คุยกับคนที่หลากหลาย มีรสนิยมไม่เหมือนกันเป๊ะ มีเพื่อนหลากหลายวงการ เราจะได้ไอเดียใหม่ๆ จาก 'หัว' ที่แตกต่าง ไม่ควรคบหาแต่เพื่อนที่คิดและชอบอะไรเหมือนๆ กัน
8. ละทิ้งตัวตนเดิม
อย่ายึดติดกับสิ่งที่ตัวเองเป็น (being) แต่ควรมองไปข้างหน้าว่าเราจะ 'กลายไปเป็น' (becoming) อะไรได้อีก ลอกคราบตัวเองเป็นคนใหม่ มีทักษะใหม่ๆ มีความท้าทายใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่นิยามตัวเองแคบๆ ในแบบเดิมๆ
9. ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากกว่ารายได้
แน่นอน รายได้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ในช่วงเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ เราจำเป็นต้องมองข้ามเรื่องรายได้ไปก่อน กระทั่งอาจต้องยอมลงทุน 'รายจ่าย' ด้วยซ้ำ การเอาแต่คิดถึงว่าตัวเองจะได้เงินเท่าไร อาจเป็นกำแพงกีดกั้นโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ จ่ายก่อนเพื่อจะได้ทีหลัง
10. มีสัญญาณเตือนภัยติดตัวไว้เสมอ
พยายามเตือนตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกว่า ฉันเก่ง ฉันเอาอยู่แล้ว หรือฉันรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ว่านั่นคือสัญญาณอันตราย เรากำลังหยุดเรียนรู้ ทำตัวเหมือนต้นไม้ คืองอกกิ่งก้านใหม่อยู่เสมอ ถ้าไม่งอกแล้วก็กำลังจะตาย พาตัวเองไปอยู่ในจุด 'อันตราย' ใหม่ๆ หมายถึงพื้นที่ที่เรายังไม่เก่ง ไม่รู้ เป็นเด็กน้อย ทุกครั้งที่เรารู้สึก 'ไม่ปลอดภัย' เรากำลังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ใส่เข้าไปในตัวเอง
คนรุ่นนี้ต้อง 'เกิดใหม่' หรือ 'Re-skill' กันไม่รู้กี่รอบ หนึ่งคนอาจต้องเปลี่ยนอาชีพกัน 4-5 อาชีพ หรือมากกว่านั้น จะทำเช่นนั้นได้ เราต้องเปลี่ยนบุคลิกและนิสัยของตัวเองก่อน
หากทำได้ โลกยุคนี้ย่อมเต็มไปด้วยโอกาส ความท้าทาย และความตื่นเต้น แทนที่จะอยู่กับสิ่งเดิม ความถนัดเดิม ตัวตนเดิมไปตลอด เรากลับเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ
แน่นอน บางคนอาจมองว่านี่คือชีวิตที่ 'เหนื่อย' ขณะที่บางคนอาจมองเป็นชีวิตที่ 'หนุก'
ก่อนจะ Re-skill เราอาจต้อง Reset มุมมองที่มีต่อชีวิตก่อน
มองการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสนุก
มองการเกิดใหม่เป็นโอกาสให้เรากลับมามีชีวิตชีวาเหมือนหนุ่มสาวครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อเคยชินกับความเปลี่ยนแปลงเสียแล้ว เราย่อมเติบโตเหมือนต้นไม้ คือเติบโตและงอกงามตามธรรมชาติ
เพียงแค่ยุคนี้เราไม่ควรเป็นไม้แคระในกระถาง แต่ควรเป็นไม้ใหญ่ลงดินที่งอกกิ่งก้านไปในพื้นที่ว่างแห่งความเป็นไปได้ไม่รู้จบ