บอกเล่าและรีวิวเบาๆกับโดรน GPS ลำแรกในชีวิต (Parrot BeBop 2)

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
บอกเล่าและรีวิวเบาๆกับโดรน GPS ลำแรกในชีวิต

สวัสดีเพื่อนทุกคนใน Pantip ครับ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจเขียนของผม ขอเริ่มด้วยการบอกเล่าและรีวิวเบาๆกับโดรน GPS ลำแรกในชีวิตผมที่เพิ่งสอยไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ อย่างไรเสียขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่านี่เป็นกระทู้แรกของผม หากการเขียนอาจไม่เซียนชวนหลับสักนิดก็ขออภัยนะครับ

โดรน GPS ตัวแรกในชีวิต (Parrot BeBop 2)

หลังจากมีความประทับใจกับ DJI Tello ผมก็ตั้งใจว่าจะเก็บเงินสอยเจ้า DJI Spark มาไว้ข้างกายสักตัว แต่แล้ววันสงกรานต์ที่ผ่านมาผมได้เข้าเฟสบุ๊คนั่งดูโดรนยี่ห้ออื่นเล่นๆทั้ง Xiaomi , Hussand และ Autel แต่แล้วก็มาสะดุดตากับโดรนยี่ห้อหนึ่งคือ Parrot รุ่น BeBop2 ของร้าน dotlife ที่มีโปรโมทชั่นลดกระหน่ำซัมเมอร์จากราคา 13990 บาท เหลือ 5990 บาท(ลดลง 8000 บาท) ง่ายๆครับว่าถ้าอยู่ใกล้ๆผมจะกระโดดคว้าเลย ผมรีบ inbox ติดต่อ dotlife ทันทีเลยครับแต่แล้วก็พบข่าวร้ายว่าสินค้าตัวนี้ที่วางขายออนไลน์หมดแล้ว แทบทรุดครับคือเสียดายมากๆ แต่เผอิญนึกขึ้นได้ว่า dotlife มีสาขาใกล้บ้านผมที่ห้างเซนทรันหาดใหญ่(บ้านผมอยู่ปัตตานี) เลยตัดสินใจโทรหาสาขานั้นเลยเผื่อฟลุ๊คยังมีของเหลืออยู่ แล้วก็ฟลุ๊คจริงๆครับยังมีสินค้าเหลืออยู่ผมรีบจองไว้เลยและวันอาทิยต์ก็เดินทางไปรับสินค้าเองที่หาดใหญ่(พอดีมีธุระจะไปหาดใหญ่อยู่แล้ว)

พินิจตัวโดรน

ความเห็นส่วนตัวผมค่อนข้างจะชอบการออกแบบของมันนะครับ ผมว่ามันแนวนี้ อันที่จริงผมชอบสีแดงมากกว่าแต่เผอิญทางร้านเหลือแต่สีขาวเลยต้องเอามา แต่ส่วนตัวถ้าเรื่องดีไซน์ผมชอบมากกว่า DJI สาย Mavic ยิ่งโดยเฉพาะ Mavic air นี่คือผมไม่ชอบเลย ใบฟัดเป็นแบบ 3 ใบคล้ายพัดลมซึ่งความเห็นส่วนตัวคือดูเทอะทะไปหน่อยแต่ตัวใบพัดสามารถถอดออกและใส่ได้ง่ายๆ ตัวใบพัดนั้นเป็นพลาสติกที่อ่อนตัวมีความยืดหยุ่นพอควร ส่วนตัวลำทำด้วยวัสดุที่ค่อนข้างหลากหลาย

ส่วนหัว
ด้านล่างตรงสีดำเป็นโฟมครับ อาจจะดูไม่พรีเมี่ยมแต่ข้อดีคือมันค่อนข้างทนต่อการกระแทกครับ และส่วนด้านบนที่เป็นสีขาวทำจากพลาสติกอ่อนครับ ปิดครอบโฟมไว้ทำให้ดูมีราคามากกว่ารุ่น BeBop 1 ที่ทำกับโฟมเสียส่วนใหญ่และโดนวิจารณ์ว่าดูราคาถูก มีกล้องติดอยู่ทีส่วนหัวอันที่จริงตัวกล้องจริงๆอยู่ด้านในส่วนกระจกที่เขาเห็นนั้นก็ครอบป้องกันกล้องไว้อีกที ส่วนตัวผมชอบการออกแบบตรงนี้ของ Bebop มากเพราะมันดูน่ารักดี

ส่วนใบพัด

อย่างที่บอกครับว่าส่วนตัวคิดว่าใบพัดแบบนี้ทำให้ดูเทอะทะไปหน่อยแต่ดูรวมๆก็มีเสน่ห์ดีครับ อีกอย่างใบพัดสามแฉกแบบนี้น่าจะช่วยให้ได้แรงยกที่ดีกว่าด้วย การติดตั้งใบพัดต้องติดตั้งตามที่คู่มือบอกไว้ (ขี้เกียจอ่านก็ดู Youtube เอาครับ) ซึ่งไม่ยากครับชัดเจนดีแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะติดตั้งผิด การติดตั้งใบพัดและถอดออกก็อย่างที่บอกว่าง่ายมากเวลาจะพกเดินทางก็เอาใบพัดออกช่วยประหยัดพื้นที่

ขาโดรน
ออกแบบคล้ายๆ mavic ครับคือมีขาตั้งสีขาอยู่ด้านล่างใบพัดบรรจุเสาส่งสัญญาณซึ่งเท่าที่ดูก็ยืดหยุ่นและแข็งแรงดีครับ

ด้านล่าง
ช่วงล่างของตัวลำเป็นพลาสติกแข็งครับเพราะเป็นส่วนที่ต้องลำแรงกระแทกเวลาโดรนลงจอดเลยต้องทำให้แข็งแรงหน่อย สีขาวๆที่เห็นเป็นคล้ายๆยางกันกระแทกครับช่วยถนอมโดนเวลาลงจอดกระแทกพื้น ขาทั้งส่วนข้างมีความยืดหยุ่นดูไม่หักง่ายครับ ด้านล่างยังมีเซนเซอร์อยู่กลางลำและยังมีพัดลมสำหรับระบายความร้อนอีกด้วย

ด้านหลัง

เป็นช่องเสียบสายไมโครยูเอสบี ปุ่มสำหรับปลดล็อกแบตเตอรี่ และที่เห็นไฟแดง(จ้าจนแสบตา)นั่นคือปุ่มเปิดปิดครับ ไฟแดงที่เห็นเป็นไฟบอกสถานะและเป็นจุดเดียวของโดรนตัวนี้ที่เปล่งแสงได้ครับ (ไม่รวมกรณีทำตกแล้วไฟลุกนะ)

สิ่งที่แถมมา
ถือว่าน่าประทับใจครับ เพราะแถมอุปกรณ์มาให้ครบคัน แบตเตอรี่ 1 ตัว ฝาครอบกล้อง ใบพัด 8 ใบ(2 ชุด) เครื่องมือใส่ใบพัด สายชาร์จและหม้อแปลง สาย micro usb และที่เด็ดสุดก็ตามภาพครับคือหัวชาร์จแบบถอดเปลี่ยนได้มีให้เลือกหลายตรงนี้ผมชอบมาก และคู่มือการใช้งานที่มีหลายภาษาแต่ไม่มีภาษาไทย ตัวเล็กอ่านยากถ้าจะอ่านแนะนำไปโหลดจากเว็บ parrot เองครับ


รีวิวการใช้งาน

เนื่องจากผมยังไม่มีใบอนุญาติและกว่าจะได้คง 20วันขึ้นไป แต่ทางร้านบอกสินค้าเครมได้ภายใน 7 ใบ ดังนั้นจึงต้องขอลองใช้ก่อนโดยความสูงตอนเปิดกล้องเอาแค่หลังคาบ้านตัวเองพอไม่ต้องไปส่องคนอื่นเพื่อดูว่ากล้องทำงานดีมั้ย ส่วนเวลาขึ้นสูง 20 เมตรผมเอาตัวครอบกล้องที่แถมมาให้ปิดกล้องไว้ครับ ดังนั้นจึงขออภัยที่ผมไม่ได้ลงเอาวิดีโอตอนใช้งานจริงมาลงแต่ขอสรุปคร่าวๆก็แล้วกัน

จุดเด่น
- แบตเตอรรี่ครับ ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดที่ผมชอบสุดๆครับ แบตเตอรี่บินได้ 20+ นาที ซึ่งอาจได้ถึง 25 นาทีเทียบเท่าโดรน DJI ตัวราคาหลายหมื่นได้สบายๆ และที่เด็ดกว่าคือชาร์จเร็วมากครับ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็สามารถชาร์จจนเต็มได้ เทียบกับ DJI Tello ที่ชาร์จ 1.30ชั่วโมงแต่บินได้เพียง 10 นาทีกว่าๆคือเทียบไม่ติด ผมประทับใจแบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็วของมันจริงๆ
- ทนลมดีมาก บ้านผมอยู่ติดทะเลและช่วงนี้ผมแรงมาก แต่ bebop2 ตัวนี้เอาอยู่สบายๆครับ ผมสามารถบินขึ้นสูง 25 เมตรได้อย่างมั่นใจ
- ระยะสัญญาถ้าใช้มือถือบังคับโดรนตัวนี้ไปไกล 300 M แต่เห็นในรีวิวบอกว่าภาพกระตุก ดังนั้นผมเลยซื้อตัว Mi repeater มาด้วยแล้วลองดู ที่ระยะ 200 เมตรสุดเขตสวนของผมบินความสูง 3 เมตรพบว่าภาพ FPV ลื่นปืดครับ (ปล. เทียบกับ dji spark ถ้าใช้มือถือระยะสัญญาณอยู่แค่ 30 M ถือว่า parrot ดีกว่า)
- App เจ้าตัว bebop ใช้ Freeflight ซึ่งจุดเด่นคือติดตั้งได้แม้ในอุปกรณ์เก่าอย่าง Ipad2  คือผมเกือบเงิบกับเจ้า tello ที่ดูเหมือนมันต้องใช้กับiphone 5s ขึ้นไป ดีที่ผมมี iphone6 อยู่เครื่องหนึ่งแต่พอจะให้พ่อเล่นบ้างก็ต้องเอามือถือผมไปให้พ่อใช้ซึ่งลำบากมาก แต่กับ parrot ผมลองใช้กับ Ipad2 และ iphone5 ของพ่อผมพบว่าเล่นได้ปกติอาจมีหน่วงๆบ้างใน ipad2 แต่ก็โอเคอยู่ครับ
- ขนาดตัวลำถือกว่าพอดีๆครับ ไม่เล็กเกินไปไม่ใหญ่เกินไป น่ารักดี
- มีความจำในตัวเครื่อง 8 GB ซึ่งพอจะบันทึกวิธีโอได้นาน 25 นาทีนั่นคือเท่ากับระยะเวลาบินของแบตเตอรี่หนึ่งครั้งเลยครับ แม้จะใส่ sd card เพิ่มไม่ได้แต่เราสามารถใช้สาย micro USB ถ่ายโอนวิดีโอมาลงคอมเหมือนๆ flash drive ทั่วไปแล้วลบวิดีโอใดโดรนทิ้งแค่นี้ก็พร้อมบ่ันทึกต่อแล้ว หรือจะถ่ายมาลงที่มือถือผ่านสัญญาณ wifi ที่ต่อกับโดรนได้แต่ถ้าไฟล์ใหญ่จะช้านิดหนึ่งครับ

จุดด้อย
- ระบบการบิน ความเห็นส่วนตัวผมจากที่ลองใช้จริงและที่ดูรีวิวเปรียบเทียบใน Youtube คิดว่ายังสู้ DJI ไม่ได้ครับ การทดสอบความนิ่งพบว่ายังมีการไหลไปด้านหลังและด้านข้างบ้าง แต่ก็ไม่มากจนน่าเกลียดครับ
- การลงจอด รุนแรงจนผมตกใจครับ ตัวโดรนค่อนข้างลงจอดแรงเอาง่ายๆว่าตัวโดรนถึงกับเด้งตามแรงกระแทกพื้นแต่ช่วงล่างออกแบบมาดีครับคิดว่าคงไม่มีปัญหาแต่หัวอกเจ้าของอย่างผมมิวายต้องทำจุดลงจอดเป็นเบาะนุ่มๆ
- ระบบกล้อง ถือว่าเป็นจุดด้อยสำคัญเลยครับ แม้จะมีกิมบอล 3 แกน แต่ตัวกล้องยังพบอาการสั่นอยู่บ้าง และความคมชัดยังสู้ทาง dji ไม่ได้ ที่เห็นชัดคือในสภาวะแสงน้อยตัวกล้องจะมืดครับเทียบกับ dji tello แล้วดูเหมือนภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อย dji tello จะทำให้ดีกว่าด้วยครับ แต่ในที่มีแสงปกติถือว่าทำได้ในระดับที่พอใช้ครับ
- หาอะไหล่ยากมากกกกกกก ดูเหมือน parrot จะไม่มีศูนย์ในไทยแบบจริงๆจังๆครับ เอาง่ายๆแค่ผมจะหาตัวรีโมทขยายสัญญาณ (skycontroller) ยังหาไม่ได้แล้วต้องสั่งจากนอก ดีที่ยังใช้ตัวขยายสัญญาณของ Mi มาแก้ขัดได้ ถ้าเกิดเสียก็คงต้องส่งให้ร้าน dotlife นำส่งซ่อมอย่างเดียว
- วัสดุของโดรนที่บางส่วนเป็นโฟมหรือพลาสติกอ่อน คือมันดูไม่ค่อยเท่เท่าไหร่แต่ถ้าจะมองเป็นข้อดีก็ได้นะคือมันทำให้โดรนเบาและไม่แตกหัก
- Feature บางอย่างเช่น FlightPlan บินตามจุดที่กำหนดต้องเสียเงินเพิ่มอีกเกือบ 700 บาท

สรุป

สำหรับผมกับโดรนตัวแรกตัวนี้ไม่ต้องคิดมากครับ ตอบได้เต็มปากเลยว่าว่า "คุ้มมาก" ติด top 3 ของที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดเท่าที่เคยซื้อมาในชิวิต หมายถึงผมได้มันมาในราคา 6000 บาทมีทอนแบบนี้ในตลาดไม่มีทางจะได้โดรนเกรดนี้แน่ครับ แต่ถ้าจะให้ซื้อในราคาเต็มของมันคือ 10000+ บาท ก็คงต้องคิดหนักหน่อยครับด้วยเหตุผลหลักที่ parrot ไม่ค่อยมีคนเล่นและหาอะไหล่ลำบากในไทย ประกอบกับในระดับราคาเดียวกับมีโดรนยี่ห้ออื่นที่เป็นคู่แข่งที่น่าสนใจไม่น้อย อย่างน้อยๆกัน hussand zino ที่มีกล้อง 4k ในราคาไม่เกิน 15000บาท

สำหรับพบ bebop2 เป็นโดรนที่ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโดรนไว้เล่นเพื่อความบันเทิงอย่างครบถ้วน ในส่วนของการถ่ายภาพและวิดีโอนั้นหากไม่ใช้งานระดับโปรแค่ถ่ายลงโซเซียลหรือตัดต่อเก็บเป็นที่ระลึกไม่จริงจังอะไรมาก bebop2 ก็พอไหวอยู่ครับ แต่ถ้าเน้น VDOเพื่อใช้ทำงาน ก็ต้องลองมองตัวอื่นเผื่อเช่น Spark,Mavic, hussan zino, mi drone หรือจะยี่ห้อ parrot แต่เป็นโดรนระดับ 4K อย่าง anafi ดูครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่