สวัสดีค่ะ นี้เป็นครั้งแรกที่มาตั้งกระทู้ประมานนี้
อยากได้ความคิดเห็นคำแนะนำของหลายๆคน เพื่อมาปรับมุมมองการตัดสินใจ (เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่มันอัดอั้นจริงๆ)
คือ เรามีแฟนที่คบกันมา 4 ปีครึ่ง ก่อนที่เราจะคบกันเราเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ในกลุ่มเพื่อนแก๊งค์เดียวกัน เมื่อก่อนเขาจะคอยอยู่ข้างๆเราเสมอ เขาดูแลเราดีมากๆในตอนนั้น คบกันไปสักพักเขาพาเรามาทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา เราไปๆมาๆบ้านเขาบ่อยๆ ฐานะของทางเราต่างกันมาก เราอยากให้เขาดูแลเราได้ อยากเริ่มสร้างอนาคต อยากให้ทางครอบครัวเรายอมรับเขา แต่มันก็มีปัญหาที่ว่าเราอยากให้เขาเริ่มทำงานตั้งแต่คบกันได้ 2 ปี ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเขาต้องเรียน แต่มันก็เลยเวลามาจนเขาเรียนจบ มีช่วงที่เขาไปทำงานประมาน 2 เดือน และก็หยุดทำไป โดยเหตุผลส่วนใหญ่ที่เขาให้คือสุนัขที่เราเลี้ยงด้วยกันไม่สามารถปล่อยให้อยู่บ้านเองได้จะทำลายข้าวของเกรงใจเพื่อนบ้าน เราก็เข้าใจ เราเลยตัดสินใจหันมาทำธุรกิจส่วนตัว (ปกติเราทำงานช่วยบริษัทที่บ้านไปด้วย และยังเรียนต่อไปด้วยอยู่) เราคิดว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมาก ไหนจะงานที่บ้านหรือธุรกิจที่ทำร่วมกันมันก็พอไปได้ แต่บางทีเรารู้สึกเหมือนทำคนเดียว คือเราแบ่งหน้าที่กันทางบ้านแฟนทำของส่งของ เราฝ่ายขาย ตอบลูกค้า แต่เรายังคงต้องไปรับของ ส่งของเองอยู่ ยังต้องคอยคุ้มงาน เรารู้สึกเราต้องรับผิดชอบงานหลายอย่าง เราอยากให้เขาแบ่งเบา เราไม่ชอบนิสัยที่เขานอนตื่นสาย ถ้าเราไม่ปลุกหลายๆครั้งเขาก็ไม่ตื่น เราไม่ชอบคนที่พอว่างก็นั่งเล่นเกมไม่ก็นอนทั้งวัน คบกันมาเขาไม่เคยทำอะไรพิเศษๆให้เราเลย เราจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขาตลอดเวลาทุกๆวันพิเศษ เวลาเราป่วยเขาไม่เคยพาไปโรงพยาบาลหรือนอนเฝ้าที่ รพ.เลย มีแต่เหตุผลมากมาย ส่งของหรือรับของบางทีเขาก็ปล่อยให้เราไปคนเดียว ในขณะที่เขาแทบจะต้องมีเราไปด้วยทุกครั้ง ขับรถส่วนมากเขาจะให้เราขับ เขาจะบอกว่าเขาเหนื่อยเขาเพลีย ส่วนมากไปไหนเราต้องไปส่งเขาที่บ้าน ตอนนี้เราไม่รู่ว่าควรจะพิมอธิบายความรู้สึกออกมายังไง เราแค่อยากให้เขามีความเป็นผู้นํา ดูแลเราได้ ข้อดีของเขาก็มีคู่เราไม่เคยมีเรื่องมือที่3 เขาไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ แต่เรื่องเที่ยวเราก็ไม่เคยห้ามเขา ตอนนี้กลายเป็นว่าเราอยากให้เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนเจอสังคมบ้าง ไม่อยากให้อยู่แต่บ้าน อีกประเด็นที่ทำให้เราตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ทุกวันนี้เราต้องเป็นคนให้เงินค่ากินเขา ไปไหนเราก็จะเป็นคนออกเงินเพราะเขาไม่มีรายได้ ธุรกิจที่ทำร่วมกันเงินจะเข้าที่เรา แต่เราอยากให้เขาทำงานประจำมีรายได้เพิ่มเติม เราอยากเก็บเงินที่ทำธุรกิจแยกกำไรไว้เพื่อซื้อบ้านให้ครอบครัวเราในอนาคต ไม่อยากให้เขาต้องเช่าบ้านอยู่แบบทุกวันนี้ ทุกวันนี้กำไรที่ขายของได้มักหมดไปกับเงินที่ต้องแบ่งให้เขาและครอบครัว เราก็ใช้เงินเดือนส่วนตัวของเราเอง เราพยายามจะไม่ใช่กำไรที่ได้จากการทำธุรกิจ เพื่อเป็นเงินเก็บไว้ แต่มันก็ไม่เคยเหลือเลย ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากๆจริงๆค่ะ ช่วงนี้เราเริ่มรู้สึกเรานึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เรารักเขา แต่เรากลับรู้สึกท้อและเหนื่อยมาก เรารู้สึกอยากให้เขาดูแลเรา คอยไปรับไปส่ง เลี้ยงข้าวเราบ้างสักมื้อ ต่างคนต่างคอยช่วยกันแบ่งเบา มันรู้สึกไม่อยากทนแล้ว เราไม่เข้าใจว่าการที่เขาจะไปทำงานประจำและช่วยกันทำธุรกิจไปด้วย มันยากมากไหมสำหรับใครหลายๆคน เราผิดไหมที่อยากจะให้เขาทำเพื่ออนาคตของเรา เราไม่กลัวเหนื่อยเลย เราอยากให้อนาคตของพวกเราสบาย เราไม่อยากได้ยินแค่คำพูดแล้วเราอยากให้เขาลงมือทำมันจริงๆ ตอนนี้เรารู้สึกตัวเองวาดฝันอนาคต แต่ใจลึกๆมันก็รู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราจะทนอยู่ต่อไปไหวไหม เมื่อก่อนเราคิดว่าถ้าเราเห็นคนที่เรารักมีความสุขก็พอแล้ว แต่พอเราโตขึ้นเราเริ่มไม่โอเค เราอยากได้รับกลับมาบ้าง เราคิดแบบนี้เราเห็นแก่ตัวไหมคะ?
**ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าพิมรู้เรื่องไหม แต่ถ้าใครได้เข้ามาอ่านก็ขอขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาอ่านความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง
เริ่มรู้สึกเหนื่อยกับความรักครั้งนี้
อยากได้ความคิดเห็นคำแนะนำของหลายๆคน เพื่อมาปรับมุมมองการตัดสินใจ (เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่มันอัดอั้นจริงๆ)
คือ เรามีแฟนที่คบกันมา 4 ปีครึ่ง ก่อนที่เราจะคบกันเราเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ในกลุ่มเพื่อนแก๊งค์เดียวกัน เมื่อก่อนเขาจะคอยอยู่ข้างๆเราเสมอ เขาดูแลเราดีมากๆในตอนนั้น คบกันไปสักพักเขาพาเรามาทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา เราไปๆมาๆบ้านเขาบ่อยๆ ฐานะของทางเราต่างกันมาก เราอยากให้เขาดูแลเราได้ อยากเริ่มสร้างอนาคต อยากให้ทางครอบครัวเรายอมรับเขา แต่มันก็มีปัญหาที่ว่าเราอยากให้เขาเริ่มทำงานตั้งแต่คบกันได้ 2 ปี ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเขาต้องเรียน แต่มันก็เลยเวลามาจนเขาเรียนจบ มีช่วงที่เขาไปทำงานประมาน 2 เดือน และก็หยุดทำไป โดยเหตุผลส่วนใหญ่ที่เขาให้คือสุนัขที่เราเลี้ยงด้วยกันไม่สามารถปล่อยให้อยู่บ้านเองได้จะทำลายข้าวของเกรงใจเพื่อนบ้าน เราก็เข้าใจ เราเลยตัดสินใจหันมาทำธุรกิจส่วนตัว (ปกติเราทำงานช่วยบริษัทที่บ้านไปด้วย และยังเรียนต่อไปด้วยอยู่) เราคิดว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมาก ไหนจะงานที่บ้านหรือธุรกิจที่ทำร่วมกันมันก็พอไปได้ แต่บางทีเรารู้สึกเหมือนทำคนเดียว คือเราแบ่งหน้าที่กันทางบ้านแฟนทำของส่งของ เราฝ่ายขาย ตอบลูกค้า แต่เรายังคงต้องไปรับของ ส่งของเองอยู่ ยังต้องคอยคุ้มงาน เรารู้สึกเราต้องรับผิดชอบงานหลายอย่าง เราอยากให้เขาแบ่งเบา เราไม่ชอบนิสัยที่เขานอนตื่นสาย ถ้าเราไม่ปลุกหลายๆครั้งเขาก็ไม่ตื่น เราไม่ชอบคนที่พอว่างก็นั่งเล่นเกมไม่ก็นอนทั้งวัน คบกันมาเขาไม่เคยทำอะไรพิเศษๆให้เราเลย เราจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขาตลอดเวลาทุกๆวันพิเศษ เวลาเราป่วยเขาไม่เคยพาไปโรงพยาบาลหรือนอนเฝ้าที่ รพ.เลย มีแต่เหตุผลมากมาย ส่งของหรือรับของบางทีเขาก็ปล่อยให้เราไปคนเดียว ในขณะที่เขาแทบจะต้องมีเราไปด้วยทุกครั้ง ขับรถส่วนมากเขาจะให้เราขับ เขาจะบอกว่าเขาเหนื่อยเขาเพลีย ส่วนมากไปไหนเราต้องไปส่งเขาที่บ้าน ตอนนี้เราไม่รู่ว่าควรจะพิมอธิบายความรู้สึกออกมายังไง เราแค่อยากให้เขามีความเป็นผู้นํา ดูแลเราได้ ข้อดีของเขาก็มีคู่เราไม่เคยมีเรื่องมือที่3 เขาไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ แต่เรื่องเที่ยวเราก็ไม่เคยห้ามเขา ตอนนี้กลายเป็นว่าเราอยากให้เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนเจอสังคมบ้าง ไม่อยากให้อยู่แต่บ้าน อีกประเด็นที่ทำให้เราตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ทุกวันนี้เราต้องเป็นคนให้เงินค่ากินเขา ไปไหนเราก็จะเป็นคนออกเงินเพราะเขาไม่มีรายได้ ธุรกิจที่ทำร่วมกันเงินจะเข้าที่เรา แต่เราอยากให้เขาทำงานประจำมีรายได้เพิ่มเติม เราอยากเก็บเงินที่ทำธุรกิจแยกกำไรไว้เพื่อซื้อบ้านให้ครอบครัวเราในอนาคต ไม่อยากให้เขาต้องเช่าบ้านอยู่แบบทุกวันนี้ ทุกวันนี้กำไรที่ขายของได้มักหมดไปกับเงินที่ต้องแบ่งให้เขาและครอบครัว เราก็ใช้เงินเดือนส่วนตัวของเราเอง เราพยายามจะไม่ใช่กำไรที่ได้จากการทำธุรกิจ เพื่อเป็นเงินเก็บไว้ แต่มันก็ไม่เคยเหลือเลย ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากๆจริงๆค่ะ ช่วงนี้เราเริ่มรู้สึกเรานึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เรารักเขา แต่เรากลับรู้สึกท้อและเหนื่อยมาก เรารู้สึกอยากให้เขาดูแลเรา คอยไปรับไปส่ง เลี้ยงข้าวเราบ้างสักมื้อ ต่างคนต่างคอยช่วยกันแบ่งเบา มันรู้สึกไม่อยากทนแล้ว เราไม่เข้าใจว่าการที่เขาจะไปทำงานประจำและช่วยกันทำธุรกิจไปด้วย มันยากมากไหมสำหรับใครหลายๆคน เราผิดไหมที่อยากจะให้เขาทำเพื่ออนาคตของเรา เราไม่กลัวเหนื่อยเลย เราอยากให้อนาคตของพวกเราสบาย เราไม่อยากได้ยินแค่คำพูดแล้วเราอยากให้เขาลงมือทำมันจริงๆ ตอนนี้เรารู้สึกตัวเองวาดฝันอนาคต แต่ใจลึกๆมันก็รู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราจะทนอยู่ต่อไปไหวไหม เมื่อก่อนเราคิดว่าถ้าเราเห็นคนที่เรารักมีความสุขก็พอแล้ว แต่พอเราโตขึ้นเราเริ่มไม่โอเค เราอยากได้รับกลับมาบ้าง เราคิดแบบนี้เราเห็นแก่ตัวไหมคะ?
**ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าพิมรู้เรื่องไหม แต่ถ้าใครได้เข้ามาอ่านก็ขอขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาอ่านความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง