ผมตัองทำยังไงดีครับ

กระทู้คำถาม
ผม ชื่อย่อ บ อายุ23ปี ตอนแรกผมทำงานเซเว่น ผมทำได้เกือบปี ผมทำงานไม่ค่อยเรียบร้อยหรือไม่ถูกใจ ผู้จักการมั้ง ในระยะ9เดือนผมย้ายอยู่3ที่ ผมตัดสินใจออก เพราะระยะทางมันไกล เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ผมตัดสินใจโทรหาญาติซึ้งเป็นน้องของพ่อ ผมลืมบอกว่าที่บ้านผม เป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยมีฐานะ หรือไม่มีเลย ผมมีภาระที่จะต้องผ่อนมอเตอร์ไซค์1คัน หนี้กยศ เกือบแสนที่จ่ายไม่เคยตรงเลยเพราะไม่ค่อยมีเงิน แต่ผมจ่ายนะ ที่บ้านทำอาชีพทำนารายได้ปีนึงไม่ถึงแสนหรอกครับ ผมมีน้องสาว1คน น้องสาวเป็นคนดีมากในสายตาผม และคนอื่น อาจเป็นเพราะที่บ้านเป็นแบบนี้ จึงทำให้น้องตั้งใจเรียน เพื่อไม่อยากให้ครอบครัวแย่ลงกว่านี้ ผมแทบว่าฝากครอบครัวความหวัง ให้กับน้องสาวคนนี้เลยก็ว่าได้ น้องจะขึ้นม.6แล้วครับ ค่าใช้จ่ายก็เยอะตามมา เพราะน้องต้องเรียนพิเศษ จะขึ้นมหาลัยแล้ว น้องผม พูดว่าต้องไปให้ไกล แล้วต้องไปได้ไกลกว่าทุกคนให้ได้ ที่บ้านก็ค่อนข้างบ้านนอกนะครับ บางคนจบ ม.ปลาย ดีหน่อยก็ป.ตรี หรือได้งานหรือครอบครัวดี ก็ว่ากันไป ส่วนผมจบแค่ปวช ครับ รอดมาแบบ ไก่แลกออกครับ แม่ผมป่วยครับ แม่อายุ 40 กลางๆ พ่อก็อายุมาก กว่าแม่ 1ปีครับ แม่เป็นโรคซึมเศร้า เป็นบางครังถึงกลับเป็นคนละคนไปเลยนะครับ แต่ผมก็ว่าแก่เก่งนะ เลี้ยงลูกสองคนโตมาได้ ขนาดลูกโตแล้วแม่ยังค่อยห่อข้าวให้ เวลาลูกไปเรียน หรือผม ออกไปทำงาน ผมไม่ค่อยไปห่างจากครอบครัวครับ หรือไปไม่รอดก็ไม่รู้ แค่ผมอยู่ไกลแล้วรู้สึกไม่ดีครับ ผมเป็นคนที่ว่า กลัวที่จะไม่มีวันพรุ้งนี้ที่จะเห็นพวกเขาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ผมมีความสุขมากครับ เวลาเห็นพวกเขา ถึงครอบครัวเราจะไม่มีเหมือนคนอื่น แต่เรามีแค่นี้ก็สุขแล้ว แล้ววันนั้นก็มาผมได้ตัดสินใจลาออกจากเซเว่น ผมพักหอพัก ในเมืองครับ วันหยุดอาทิตละครั้ง ผมจะกลับบ้านทุกครั้งแม้มันจะดึกแค่ไหน บ้านกับหอห่างกัน 30 กิโลเมตร ผมขับมอเตอร์ไซค์ จะมีเวลามากหรือน้อยผมก็กลับ แม้บางครั้งจะมีเวลาแค่ครึ่งวันก็กลับ ผมตัดสินใจออกจากงาน ผมก็โทรหาญาติ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดครับ แถวภาคเหนือ บอกว่า ยากได้งานทำครับ แต่แกเป็นพระครับ ผมเรียกว่าหลวงอา แต่แกมีลูกศิษย์เยอะครับผมคิดว่าคงจะได้งานดีหรือชีวิตที่ดีกว่านี้ ผมตัดสินใจมาที่โดยทิ้งรถมอเตอร์ไซคไว้ให้น้องผมใช้ใว้ไปโรงเรียน ผมมาเป็นคนขับรถญาติให้ที่เป็นพระครับ ผมขับรถยนต์ไม่เป็น แต่แกมีรถเก๋งเก่าๆคันนึง ผมก็เริ่มหัดขับ ใน1เดือน ผมขับข้ามจังหวัดได้ สองสามจังหวัด ครับถือว่าก็พอขับได้ แต่ผมต้องอยู่วัดครับ นี้คือเรื่องแรก เพราะแกเป็นพระ ผมจะนอนอยู่หน้ากุติ เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมว่าผีมีจริง ผมวันแรกก็ฝันว่ามีคนมาขอ แต่ไม่รู้ว่าขออะไร หลังจากนั้นผีอำผม (ทุกวัน) จน3-4อาทิตย์. ผมโทรไปที่บ้านบอกอยู่ไม่ได้แล้ว แต่ผมไม่บอกญาติที่เป็นพระ ผมไปเอาพระในรถมากอดนอนทุกคืนแล้วมันค่อยๆดีขึ้น ผมมาทำงานขับรถผมได้เดือนละ2,700 บาทถ้วน ไม่ได้พูดเล่น ผมเอาเท่าที่ผมผ่อนรถ ผมต้องกินข้าวก้นบาตทุกวัน เงินอื่นๆก็ได้ครั้งละ 100 เวลาขับรถให้แต่1วันก็นั้นละครับ 100 นึง พอซื้อน้ำกิน พออยู่มาสองเดือน ก็อดมื้อกินมื้อ ครับตามประสาเด็กวัด ในตาสายตาคนอื่นผมไม่รู้นะแต่ผมไม่ได้อายนะ ผมคิดแค่ว่ามันไม่มีอะไรแย่กว่านี้แล้วละ ผมขับรถแต่รถเป็นของญาติที่เป็นพระ ผมจะใช้รถแต่ละครั้งผมก็เกรงใจนะ ซึ้งมันไม่ใช่รถผม แต่บางครั้งต้องใช้ เพื่อไปซื้อข้าว พระเขากินคาบเดียวใช่ไหมละ แต่ผม ไม่ใช่พระ ซึ้งคือผมมาอยู่วัดนี้ คือผมเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกเลยนะ ที่นี้เป็นวัดป่ากลางเมือง ห่างจากร้านข้าว ประมาณ 1-2 กิโล ครับ ผมอยู่คนเดียวของผม มีพระกุฏิข้างๆ ผมก็ไปตีสนิด พอมีเพื่อนคุย ผมสนิดกับคนง่ายครับ ซึ่งพระที่เป็นญาติจะไม่ค่อยคุยกับผมเวลาอยู่วัด จะคุยเฉพาะตอนขับรถ พออยู่วัดก็ตัวใครตัวมันไม่ใช่ผมไม่คุยหรือไม่สนิดนะครับ ก็สนิดกันพอสมควร แต่เขาไม่คุยเราก็ไม่คุยแบบนี้ครับ ไปไหนมาไหนด้วยในฐานะที่เป็นหลาน พวกลูกศิษย์ก็เหมือนเอ็นดูให้ตังผม แต่ก็ไม่เยอะครับครั้งละ100-200 บางครั้งหลวงอาผมก็ไม่ให้รับครับ แต่ในใจผมคือผมจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินอยู่แล้ว ได้ก็นานๆทีครับ รายได้จากการขับรถก็แค่พอซื้อน้ำ เรื่องการแต่งตัวเสื้อผ้าไม่ต้องพูดถึงครับ หยิบอะไรได้ก็ไส่ ผมต้องทำเวลาครับ  ไม่มีหรอกเสื้อสวยๆดีๆ มาอยู่นี้2เดือน ผมยังไม่ซื้อเสื้อสักตัวเลยครับ หลวงอาเขา ไม่ค่อยถามหรอกครับว่าผมเป็นยังไง กินข้าวยังไง ใช้ชีวิตยังไงตั้งแต่มาอยู่นานๆจะถามว่ากินข้าวยังซึ้งก็เย็นแล้วค่อยถาม ถ้าผมตอบว่ายังไม่จะทันไหมครับ ผมมาอยู่3เดือนแล้วผมไม่เคย เอ่ยปากขอเงินเลยสักครั้ง ผมเก็บเล็กผสมน้อยเอา ผมอยู่มาวันนึงผมบอกว่าผมจะไปห้างนะ ผมขอเอารถไปได้ไหม แถตอบกลับมาว่าโทรให้รถสามล้อมารับสิ ผมนี้อึ้งไปเลย ขับรถอยู่สมองผมนี้หยุดทำงานไปเลยครับ แต่นั้นยังเล็กเพราะวันต่อมาผมก็ขอเอารถไปจนได้ แต่พออยู่มา สงสัยแกจะรู้สึกว่าเราใช้รถเหมือนรถตัวเองซึ้งผมเอารถไปห้างแค่ครั้งเดียวในระยะสามเดือน และออกไปซื้อข้าวในแต่ละวัน วันละครั้ง ผมไม่ออกไปซื้อผมก็จะไม่มีอะไรกิน แล้ววันนี้ก็มา วันนี้แกเอาจักรยานมาให้ผม แล้วบอกว่าให้ผมปันไปซื้อข้าวแทนการขับรถไป ซึ่งแกก็เอากุจแจรถไปซึ่งคิดว่าแดดร้อนๆขนาดมีรถผมยังไปแค่ครั้งเดียวต่อวัน ผมมาอยู่นี้ผมไม่แคร์ว่าคุณจะไม่สนใจผมหรือยังไง ผมขอแค่เงินเดือนที่ตกลงกันไว้ แล้วผมก็แค่ขับออกไปซื้อข้าว เพราะคุณไม่เคยถามว่าผมกินอะไรยังไงเลย จะให้ผมอดตายหรือไงครับ ผมไม่รู้จะทำไงต่อดี จะกลับบ้านก็สงสารครอบครัวครับ ผมไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยนะครับ แต่นี้คือสิที่ผมได้ ผมนึกว่าญาติกันจะดีซะอีก ผมทำตัวดีมีสัมมาคารวะตลอด ทำความสะอาดกุฏิ รถน้ำ เวลามีแขกมาผมก็คอยต้อนรับ เทียบกับเงินเดือนแล้ว ผิมยังคิดว่าผมคิดผิดหรือป่าวที่มา 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่