ผ่านวีซ่าอเมริกา ประเภทท่องเที่ยว 10 ปีแล้ว ถูกเรียกไปยกเลิกที่สถานทูต ถ้าจะยื่นขออีกรอบได้มั้ยคะ?

จขกท. โสด อายุ 30ปี จุดประสงค์ของการขอวีซ่าครั้งนี้คือไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา เดินทางคนเดียว และจะไปเจอเพื่อนที่นั่น 
 
ขั้นตอนแรก คือการสัมภาษณ์ โดยถูกถามคำถามจากท่านทูต 3คำถาม คือ
1. ทำงานอะไร มีลูกน้องกี่คน   // จขกท.ทำงานธุรกิจส่วนตัว มีทะเบียนการค้า ใบเสียภาษี มีหน้าร้านและเงินผ่านบัญชีชัดเจน มีลูกน้อง 2 คน จ่ายประกันสังคมร้านตามปกติ
2. มีคนรู้จักที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาหรือไม่? // คำตอบคือ ไม่มีค่ะ
( สาเหตุที่ตอบว่าไม่มีคนรู้จักที่นั่น เพราะ เคยได้ยินมาเยอะว่า ถ้าอ้างอิงคนรู้จักที่โน่นจะไม่ผ่าน)
3. เคยไปที่ไหนมาแล้วบ้าง // เชงเก้น3รอบ อังกฤษ ญี่ปุ่น 5 รอบ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง จีน2รอบ
โดยที่ไม่ถูกขอเรียกดูเอกสารซักอย่าง

สรุปแล้วคือ ผ่านฉลุย ได้รับการอนุมัติวีซ่าประเภทท่องเที่ยว 10ปี (ประมาณเดือน มี.ค. 61) โดยทำแพลนการเดินทางในเดือน กันยายน

จนกระทั่งไม่กี่เดือนต่อมาได้รับโทรศัพท์เป็นเบอร์มือถือว่าให้ไปทำการแก้ไขบาร์โค้ดวีซ่าที่สถานทูตอีกครั้ง ไม่งั้นจะไม่สามารถผ่านเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้  ด้วยความที่เราเป็นคนต่างจังหวัด จึงไม่ได้นัดสถานทูตโดยทันที จึงทำการนัดประมาณเดือน ก.ค. 61

พอเข้าไปถึงสถานทูต  เข้าไปช่องเดียวกันกับที่เคยสัมภาษณ์ไว้ แต่ท่านทูตคนละคน เราชี้แจงว่ามีโทรศัพท์โทรมาเรียกให้มาแก้ไขบาร์โค้ด เจ้าหน้าที่เลยถือพาสปอร์ตเช็คดูในคอมแล้วหันไปคุยกับด้านหลัง หายไปนานประมาณ 5 นาที แล้วยื่นวีซ่าให้เราว่าไม่ผ่าน พร้อมกับใช้ปากกาดำ ขีดฆ่าวีซ่าทิ้งไปเลย แล้วบอกให้มาขอใหม่ เหตุผลให้ดูในกระดาษสีขาวที่ยื่นมา บอกว่า เรามีความเสี่ยงที่จะลักลอบเข้าเมือง 

ด้วยสาเหตุนี้จึงขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆว่า ถ้าขอยื่นวีซ่าใหม่อีกรอบ ซึ่งรอบนี้จะไปงานแต่งงานเพื่อนที่นั่น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรงๆเลยมั้ยคะ หรือ ควรจะยืนยันหนักแน่นว่าไปเที่ยวคนเดียวเหมือนเดิม?? 

ป.ล. เป็นกระทู้แรก ขออภัยในความผิดพลาดเรื่องการเรียบเรียงและภาษานะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่