รักหรือเเค่สับสน?

        คือเจ้าของกระทู้จะมาขอคำปรึกษาเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตนเองเท่าไหร่ว่าตนเองชอบจริงๆหรือเเค่สับสนกับชีวิตกันเเน่ ซึ่งพอไปพูดให้เพื่อนที่สนิทฟังเพื่อนก็จะบอกเเค่ว่าเดี๋ยวก็ลืม เเต่ก็ผ่านมาจะเกือบ 1 ปีเเล้วก็ยังไม่ลืมสักที

        ต้องบอกก่อนว่าเจ้าของกระทู้ไม่เคยไม่มีเเฟนมาก่อนเเต่มีเเอบชอบผู้ชายบ้างเเต่ไม่เคยไปบอกชอบเลยสักครั้ง เหมือนครั้งนี้ที่เเอบชอบอีกครั้งหลังจากไม่รู้สึกชอบใครเลยตั้งเเต่ ม.3 เเต่ครั้งนี้คือไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เจ้าของกระทู้เเอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นพี่  โดยที่เรารู้สึกกับผู้หญิงคือพี่คนนี้คนเดียว  เราพี่รุ่นพี่ในคณะที่รู้จักเเต่เราไม่เคยได้รับจากพี่คนอื่น นอกจากพี่คนนี้
       
         สำหรับพี่คนนี้เจอพี่เขาตอนไปสอบสัมภาษณ์เข้ามหาลัยเเล้วที่บ้านมารับช้าพี่เขาเลยมาอยู่เป็นเพื่อนเเต่วันนั้นไม่ได้ถามชื่อพี่เขาไว้เเต่พี่เขาบอกเเค่ว่า "อยู่ปี3" จำรูปร่างลักษณะหน้าตาพี่เขาไม่ได้เลย มารู้จักพี่เขาจริงๆก็ตอนปี 1 ที่ไปให้เซนต์สมุดมิชชั่น เราก็ทักไปหาพี่เขาให้เซนต์ให้เเต่การจะได้ลายเซนต์ต้องมีข้อเเลกเปลี่ยนตามใจพี่เขา ซึ่งพี่เขาไม่ได้ให้ทำอะไรเลยบอกว่ามาเซนต์ได้เลย เเล้วความบังเอิญคืออยู่ตึกเดียวกันเเต่คนละชั้น หลังจากนั้นเก็คุยกับเขาว่าเจอพี่คนนึงตัวสูงๆ ผิวขาวมาคุยกับหนูเเต่หนูไม่ได้ถามชื่อไว้ เเล้วพี่เขาก็ตอบกลับว่าเป็นพี่เอง หลังจากวันนั้นเรากับพี่เขาก็คุยกันมากขึ้น เเต่จะคุยผ่านเฟสมากกว่าโดยที่เราเป็นคนทักไปก่อน นานๆทีพี่เขาจะทักมาหา คือบางทีที่ทักไปก่อนก็เป็นเรื่องเรียนส่วนใหญ่ ไปบ่น ขอ how to ในการเรียนบ้าง เเล้วพี่เขาก็เทคเเคร์ดีมากซื้อขนมมาให้ทั้งเราเเละเมท จำสิ่งที่เราคุยกับพี่เขาได้ บางทีเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยบอกพี่เขาไปเเละมีอยู่ครั้งหนึ่งเราอยู่คนเดียวในห้องเเล้วคือหนูจะอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้เมทเลยไปชวนพี่เขาให้มาอยู่กับเราข้างนอก เเล้วพี่เขาก็อยู่กับเราจนเมทกลับมาเเล้วที่ไปอยู่ยุงเยอะมาก เราบอกให้พี่เขากลับก่อนเขาก็ไม่กลับ คือบางครั้งเราคิดว่าพี่เขาคิดอะไรกลับเราหรือเปล่า เเต่เราก็คิดว่าคงไม่ใช่ เราไม่รู้ว่าพื้นฐานพี่เขาเป็นคนยังไง เเต่รู้ว่าตอนนั้นพี่เขาก็ไม่มีเเฟน เเต่มีเพ้อในไอจีเเบบพี่เขาเเอบชอบเพื่อนสักคนอยู่ เราเลยคิดว่าพี่เขาคงเเค่เป็นห่วงเฉยๆ คือเราชอบพี่เขาตอนไหนไม่รู้ เเต่ร๋ตัวอีกทีก็อยากคุยกับเขาทุกวัน อยากเจอหน้า คือพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้ไปเจอ มีปรึกษากันบ้างบางครั้งพี่เขาดูเเย่เวลาอัพไอจีเราก็ไปให้กำลังใจเขา บางทีเราทำงานดึกเเล้วเราก็ทักไปถามเกี่ยวกับงานพี่เขาก็อยู่เป็นเพื่อน อย่างงานที่ใช้เน็ตเราก็เน็ตกากมากเลยไปขอใช้เเต่เขาไม่อยู่ห้อง พอเขากลับมาเขาก็ทักมาหาเเล้วก็อยู่เป็นเพื่อนถ้าจำไม่ผิดน่าจะตี 2 ได้ เเล้วพอคุยกันไปเรื่อยๆ เรารู้สึกว่าได้คุยกันน้อยลงเหมือนเเบบว่าพี่เขาจะจบเเล้วต้องเตรียมตัวสอบด้วยเเล้วเราก็ไม่ทักไปหาพี่เขาด้วย คือจะทักเท่าที่จำเป็นเท่านั้นจริง เหมือนอยู่ในช่วงตัดใจมากตอนนั้นเพราะคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เเต่ในระหว่างนั้นก็มีงานที่ต้องเจอกันด้วย คือเป็นงานหนึ่งเเล้วเราก็คุยกับพี่ทุกคนเเล้วเราก็ไปพูดว่าไม่เห็นมีเหงื่อเลย คือตอนที่ไปพูดเป็นหลังเต้นสัน เราก็เเบมือไปที่หน้าพี่เขา พี่เขาก็เอามือมาจับเรา เราตกใจมากเพราะเคยเจอพี่เขาบ่อยเเล้วก็ตอนที่พี่เขามาอยู่ด้วยเราเดินห่างพี่เขามาเเล้วคุบกันน้อยมาก เเต่วันนั้นพี่เขาเอามือมาวางเราก็เหมือนสิ่งที่กำลังตัดใจอยู่มันก็กลับมาอีกครั้ง เเต่เราก็ไม่ได้คุยกับพี่เยอะขึ้นหลังจากวันนั้น ก็คุยกันเท่าที่จำเป็นจริงๆเหมือนเดิม   

         เเต่เเล้วพอเราปี 2 พี่เขาก็จบเเล้วก็ไม่เจอพี่เขาเเละไม่ได้คุยเลย รู้ความเคลื่อนไหวเเค่เฟสกับ IG เท่านั้นจนพี่เขาอัพสตอรี่ว่ามีเเฟนตอนนั้นอธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เคยมีเพลนว่าจะบอกเเต่มารู้ก็เลยไม่บอกดีกว่า ถ้าถามว่าทำไม่ก่อนหน้านึ้ไม่บอก บอกเลยว่ากลัวความสัมพันธ์หลังจากที่บอกไปมาก กลัวว่าถ้าบอกไปเเล้วจะไม่ได้ตุยกัน มองหน้ากันไม่ติด คือคิดว่าการที่ไม่คุยไม่ยุ่งไม่นึกถึงเขามันจะโอเค เเต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย เเต่เราก็เจอพี่เขาหลังจากจบที่มอบ้างเเบบไปบอกว่าเราเจอพี่เขานะเเต่พี่เขาอยู่อีกฝั่งเราเลยไม่ได้เรียก พี่เขาก็บอกว่าทำไมไม่ตะโกนเรียก ถ้าเจอกันก็เรียกนะ ส่วนใหญ่ที่เจอพี่เขาข้างนอกพี่เขาจะเป็นคนทักเราก่อนเเม้จะไม่ค่อยไม่เจอกันก็ตาม คือบางทีเราก็เห็นพี่เขานะ เเต่เราก็ทำเป็นไม่เห็นเเละให้เขาทักเราก่อน หากมีคำถามว่าทำไมไม่ทักก่อน เราก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่ทักก่อน เเต่สิ่งที่คาดหวังตลอดที่อยากได้คืออยากให้เขาทักเรา เเล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าถ้าเราทักเเล้วเราต้องทำตัวยังไง คือมันทำตัวไม่ถูกจริงๆ เเล้วเราก็เจอกันครั้งล่าสุดคืองานรับปริญญา เราเก็บเตรียมของไปให้พี่เขาเเต่เราก็ไม่กล้าเข้าเอาของไปให้ อีกอย่างมั่วถ่ายรูปกับสายรหัสด้วยหันไปอีกทีเขาก็กลับไปเเล้ว เเต่โชคดีที่เขากลับมาอีกครั้งเพราะต้องถ่ายรูปรวมพอถ่ายเสร็จก็มีรุ่นน้องเอาของมาให้เราก็ยืนมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่สงสัยกับตัวเองมากทำไมถึงไม่เรียก เเต่โชคดีที่พี่เขาหันมาพอดีพร้อมกับเดินเข้ามาหาเราโดยที่เราไม่ต้องเรียกพี่เขาเลย เเต่สิ่งที่รู้สึกหนักหน่วงมากคือพี่เขาทักเเชทมาหาให้เราไปเอาบัตรดูบอลให้ เเล้วเราก็รู้ว่าทีหลังว่าบัตรที่เขาให้เราไปเอาเขาเอาไปดูกับเเฟน คือเขาบอกว่าถ้าเราไม่ไปเอาให้เขาต้องเสียเงินซื้อเพื่อไปดูบอล เราเลยไปเอาให้พี่เขา เพื่อนก็บอกว่าทำไมต้องไปเอาให้พี่เขาด้วย เเต่ความรู้สึกของเราคือพี่เขาช่วยเหลือเราเยอะมาก เเล้วสิ่งที่เราทำก็ไม่ได้ทำให้เราเดือนร้อนอะไรเราเลยทำ

        เราไม่รู้ว่าความรู้สึกของเราต่อพี่เขาเป็นยังไง เราไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกับสิ่งที่เราพอเจออยู่ เราเเค่ต้องการมาขอคำปรึกษว่าเราควรจะทำยังไงต่อไป
        เเละเราก็อยากเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีปัญหาเเบบเรา เรารู้ว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามเเละเราก็ไม่สามารถที่จะบังคับใครให้มารักเราได้ เเต่ถ้าเราอยู่ในจุดที่เรามีตัวตนเราว่ามันคงจะดีกว่า เเต่ทุกอย่างก็ต้องใช้เวลาเสมอ
        ปล. เป็นกำลังใจให้ทุกคนเเละขอบคุณสำหรับคำปรึกษาล่วงหน้านะ😊
        ปล. หวังลึกให้เขาได้เห็นกระทู้นี้ เหมือนเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เขารู้ความรู้สึกของเรา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่