คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จากกรณีที่เล่ามา ปัญหาเรื่องของท้องผูกเรื้อรัง มักจะเกิดจากหลายสาเหตุ ค่ะ เช่น การทานอาหารที่มีกากใยน้อย ร่างกายขาดการเคลื่อนไหว
หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง การทานยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อการบีบตัวของลำไส้ โรคเนื้องอก รวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้นค่ะ
ส่วนการใช้ยาแก้ท้องผูกนานๆ จะยิ่งทำให้ท้องผูกมากขึ้น และต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยามากขึ้น จนอาจก่ออันตรายและผลข้างเคียงได้
เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มวนท้อง ปวดท้อง ได้ค่ะ
เบื้องต้น แนะนำให้คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันดูก่อนนะคะ เช่น ควรฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัย พยายามขับถ่ายให้ตรงเวลา
ไม่ใช้ยาระบายเกินความจำเป็นและบ่อยครั้ง หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ยาระบายอาจจะใช้ยาระบายชนิดไฟเบอร์เพิ่มกากใยอาหารจะทำให้
มีความปลอดภัยมากกว่า และแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ หรืออย่างน้อยประมาณวันละ 8-10 แก้วต่อวัน ทั้งนี้ นอกจากการทานผักแล้ว
แนะนำให้รับประทานไฟเบอร์จากผลไม้ และธัญพืชมากขึ้นประมาณวันละ 30 กรัม โดยค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย เพื่อป้องกันอาการท้องอืด
ไม่กลั้นอุจจาระโดยไม่จำเป็น รวมถึงควรจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยขึ้น ซึ่งอาการท้องผูกอาจจะค่อยๆดีขึ้นได้ค่ะ
ลองทำตามคำแนะนำดูนะคะ
แต่ถ้าลองทำตามคำแนะนำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้คุณไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ
และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง การทานยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อการบีบตัวของลำไส้ โรคเนื้องอก รวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้นค่ะ
ส่วนการใช้ยาแก้ท้องผูกนานๆ จะยิ่งทำให้ท้องผูกมากขึ้น และต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยามากขึ้น จนอาจก่ออันตรายและผลข้างเคียงได้
เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มวนท้อง ปวดท้อง ได้ค่ะ
เบื้องต้น แนะนำให้คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันดูก่อนนะคะ เช่น ควรฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัย พยายามขับถ่ายให้ตรงเวลา
ไม่ใช้ยาระบายเกินความจำเป็นและบ่อยครั้ง หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ยาระบายอาจจะใช้ยาระบายชนิดไฟเบอร์เพิ่มกากใยอาหารจะทำให้
มีความปลอดภัยมากกว่า และแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ หรืออย่างน้อยประมาณวันละ 8-10 แก้วต่อวัน ทั้งนี้ นอกจากการทานผักแล้ว
แนะนำให้รับประทานไฟเบอร์จากผลไม้ และธัญพืชมากขึ้นประมาณวันละ 30 กรัม โดยค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย เพื่อป้องกันอาการท้องอืด
ไม่กลั้นอุจจาระโดยไม่จำเป็น รวมถึงควรจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยขึ้น ซึ่งอาการท้องผูกอาจจะค่อยๆดีขึ้นได้ค่ะ
ลองทำตามคำแนะนำดูนะคะ
แต่ถ้าลองทำตามคำแนะนำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้คุณไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ
และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อยากปรึกษาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายค่ะ
กิจวัตรในการขับถ่ายเราเริ่มเปลี่ยนไปค่ะ เริ่มจากถ่ายไม่เป็นเวลา (ปกติจะถ่ายเกือบทุกวันหรืออย่างมากก็แค่ 2 วันค่ะ)
ก็เริ่มเพิ่มเป็น 3 วัน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้อะไรค่ะ คิดว่าแค่ท้องผูกเฉยๆ แต่สุดท้ายเริ่มหนักขึ้นๆ มากสุดอาทิตย์นึงที่เราไม่ได้ถ่ายเลย
จนต้องเพิ่งยาระบายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 6 ปีแล้วค่ะ ที่เราไม่สามารถขับถ่ายเองได้เลย ถ้าไม่กินยาระบาย เราทุกข์ใจมากเลยค่ะ กลัวจะเป็นโรคอื่นๆตามมาอีก
ปล.เราทานผักนะคะทานทุกวัน ชอบทานผักมากๆด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นแบบนี้
รบกวนเพื่อนช่วยแนะนำหน่อยนะคะว่าเราควรทำยังไง หรือควรไปหาหมอตรวจอะไรไหม