สวัสดีค่ะ ชื่อลูกหยีนะคะ เป็นผู้ป่วยกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (ระดับ L5-S1) อายุ 36 ปี
สาเหตุที่เป็น :: ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปรักษาคุณหมอก็ถามทุกคนนะคะว่าไปยกของหนักอะไรมา เอาจริงๆ เมื่อลองนึกย้อนไปตั้งแต่ตอนที่เป็นก็น่าจะเป็นวันที่ได้ทำงานบ้านนู่นนี้ คาดว่าจะเกิดขึ้นที่บ้านค่ะ แต่ชัดเจนว่าเป็นกิจกรรมอะไรเลยเนี่ยไม่แน่ใจเพราะว่าวันนั้นทำอะไรเยอะแยะไปหมด แต่โดยรวมจากที่ได้คุยกับคุณหมอทุกท่านจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าส่วนใหญ่เกิดจากก้มยกของหนักอะไรพวกนี้ค่ะ อีกสาเหตุนึงอาจจะเกิดจากเราเป็นคนมี นน. เกินเกณฑ์ ด้วยมั้งคะ
ความเป็นมา :: ย้อนไปเมื่อประมาณช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2018 เรามีอาการตื่นมาแล้วปวดหลังค่ะ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าเราไปทำงานบ้านหนักไปเมื่อวานนี้อะไรประมาณนี้ รอประมาณ 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจว่าไปหาหมอดีกว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนแถวบ้านค่ะให้คุณแฟนพาไป ปรากฎว่าคุณหมอบอกว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ก็ได้ยามาทานพอสมควรเลย แล้วคุณหมอก็แนะนำวิธีบริหารให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงค่ะตอนนั้นก็ดีใจแล้วแหละคิดว่าไม่เป็นไรมากแล้วเรา แต่ๆๆ ทานยาไปจะหมดแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะคุณแฟนก็บอกว่าไม่ใช่แล้วแหละเทอ ให้เปลี่ยนหมอค่ะเลยตัดสินใจไปหาคุณหมออีกที่นึงที่โรงพยาบาลเอกชนแถวที่ทำงานค่ะ
พอไปเค้าก็ให้ไปหาแผนกกระดูกสันหลังเลยค่ะพอได้พบคุณหมอคุณหมอน่ารักค่ะให้ไป x-ray นู่นนี่ แล้วก็ให้ก้มนู่นนี่ดูค่ะ ในเบื้องต้นคุณหมอบอกว่าน่าจะเป็น ไขกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ค่ะ ได้ยินครั้งแรกงงค่ะ ว่ามันคือโรคไรหว่า แต่ไม่น่าจะดีแล้วแหละ 555 ก็คุณหมอให้ลองทานยาดูค่ะ เนื่องจากว่าเราอายุไม่มากส่วนที่เป็นเนี้ยอาจจะหดกลับได้ค่ะแต่ต้องใช้เวลานิดนึง ก็ทานยาไปค่ะไปหาคุณหมอสม่ำเสมอ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าอาการไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นะคะ ก็รอค่ะแล้วก็งานเข้า อยู่ๆ รู้สึกว่าเวลาเราเดินไปไหนไกลๆ ขาขวาไม่ค่อยมีแรง เหมือนจะเดินไม่ไหวเอาด้วยซิ เลยเขาไปปรึกษาคุณหมอค่ะ คุณหมอบอกว่าแบบนี้หมอขอทำ MRI ค่ะเพื่อความชัวร์ค่ะ นั้นเป็นการทำ MRI ครั้งแรกในชีวิตค่ะ
หลังจากทำ MRI คุณหมอบอกว่าผลออกมาชัดเจนว่าเราเป็น ไขกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (ระดับ L5-S1) แน่นอนค่ะ คุณหมอบอกว่าอาการยังไม่ถือว่ารุนแรง ให้ทานยาต่อค่ะโดยปรับยาแรงขึ้นนิดหน่อยค่ะลืมบอกว่ายาที่ทานเนี่ยจะทำให้มึนหัวง่วงนอนนิดหน่อยเลยต้องค่อยๆ ปรับไปค่ะ ทานยาไปรู้สึกว่าดีขึ้นเท่าที่ควร และหนักขึ้นคือมีการการปวดร้าวลงขาขวาเข้ามาเพิ่มค่ะ ที่ปวดคือปวดมากๆ นะคะเวลานอน ทำให้นอนไม่หลับเลยค่ะ ทรมานมากๆ พอปรึกษาคุณหมอก็ส่งไปให้คุณหมออีกท่านค่ะ เป็นคุณหมอระงับปวดโดยเฉพาะนะคะ
เริ่มมารักษา :: คุณหมอแนะนำให้ทำ การฉีดสเตียร์รอย เพื่อระงับปวดค่ะ ในการฉีดต้องฉีดเข้าไปในปลอกเส้นประสาทใกล้ๆ ตรงที่โดนกดทับอยู่ค่ะในการฉีดไม่ต้องนอน รพ. นะคะ ฉีดแล้วนอนดูอาการ 1-2 ชม. แล้วก็กลับบ้านได้เลย แต่ยังห้ามขับรถเอง หรือเดินเยอะเพราะขาจะยังไม่มีแรงค่ะ พอฉีดมาครั้งแรกนี่คือสวรรค์ชัดๆ นอนได้ไม่ปวดแล้วดีใจมากๆ ค่ะ แต่แล้วสวรรค์ก็พังลงค่ะอยู่มาได้ประมาณ 1 เดือนอาการปวดขาเริ่มกลับมาค่ะ ปวดเวลานอนเหมือนเดิมเป๊ะเลยนะเทออ ก็อดทนค่ะทานยาต่อ จนทนไม่ไหวค่ะตัดสินใจกะคุณแฟนว่าขอฉีดอีกรอบนึงได้มั๊ยยย..เลยไปฉีดกับคุณหมอท่านเดิมค่ะ พอหลังจากฉีดมารอบที่สองก็หายปวดนะคะ แต่จิตใจเริ่มไม่ดีแล้วแหละ ก็เริ่มต้นหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ค่ะ และแล้วความปวดกลับมาอีกแล้ววว หลังจากฉีดครั้งที่ 2 ไปเดือนกว่าๆ เท่านั้นค่ะ เศร้ามากค่ะ ทนปวดวนไป ทานยาวนไปค่ะ
ระหว่างนี้ก็ได้หาข้อมูลการรักษาไปเรื่อยๆ ค่ะ เข้าข้างตัวเองว่ามันต้องมีการรักษาที่เหมาะกับเรา และอยากหายขาดค่ะ เพราะทรมานจริงๆ นอนไม่หลับ จากที่เราเป็นคนนอนยากอยู่แล้วยิ่งแย่มากๆ ซึ่งก็ค้นพบ โรงพยาบาลเฉพาะทาง ค่ะเป็น โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและเส้นประสาท โดยตรง เลยเข้าไปดูใน FB ของ รพ.ค่ะ (ชื่อ S Spine and nerve hospital) เราพบว่า รพ นี้มีแนวทางการรักษาต่างจากที่อื่นค่ะ คือ จะรักษาที่ต้นตอของโรคค่ะ และเป็น รพ เฉพาะทางกระดูกสันหลังและเส้นประสาทเลยค่ะ มันก็น่าจะดีกว่ารึเปล่าเนอะ... เลยโทรไปไม่รีรอค่ะ เจ้าหน้าที่ก็แนะนำดีมาก เลยตัดสินใจทำนัดคุณหมอค่ะโดยเราไปเอาผล MRI ที่เก่าไปด้วยนะคะ
ผ่านไปถึงวันที่ไปพอคุณหมอค่ะ ศึกษาเส้นทางไปเป็นอย่างดีเลยจ้า รพ ไปง่ายค่ะมีที่จอดรถ เข้าไปก็วัดความดันพบว่าความดันสูงนิดหน่อยค่ะ ขอย้อนกลับไปว่าตั้งแต่ปวดขามากๆ วัดความดันทีไรก็พบว่าความดันสูงค่ะทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นเลยนะคะ คุณหมอที่เก่าก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แต่พอวัดที่นี่ความดันสูงทางพยาบาลก็ถามทันทีค่ะว่าปวดขาอยู่รึเปล่าคะ เราบอกว่าปวดค่ะ เค้าก็บอกทันทีว่าปวดก็มีผลกับความดันได้ค่ะ แล้วก็พบคุณหมอค่ะ คุณหมอก็ถามประวันนู่นนี่ดูผล MRI ที่เก่าแล้วก็สรุปเป็นแนวทางเดียวกันค่ะ และคุณหมออยากให้ทำ MRI ใหม่ด้วยค่ะ เพราะว่าปกติผลจะใช้ได้ 3-4 เดือนของเรามัน 6 เดือนได้แล้วแหละค่ะ เลยต้องทำใหม่ค่ะรอผลได้เลยค่ะ
พอได้ผลมาคุณหมอบอกว่ามันเป็นเยอะกว่าเดิมไม่แปลกที่จะปวดมากขึ้นแล้วก็แนะนำว่าอาการแบบนี้อยากให้ผ่าค่ะจะหายขาดเลยค่ะเราตกใจนะที่ต้องผ่าตัด แต่คุณหมออธิบายซึ่งขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่อธิบายโดยละเอียดมากๆ ซึ่งคุณหมอบอกว่าการผ่าจะเป็น การผ่าตัดแบบส่องกล้อง ค่ะ ใช้ เลเซอร์ ไม่เจ็บค่ะ แผลเล็กมากๆ ประมาณไม่ถึง 1 ซม. เลย พอผ่าแล้วเดินได้เลยค่ะไม่ต้องกายภาพอะไรเลย ตอนนั้นก็งงๆ นะคะคือจิงหรอนิ หลังจากนั้นก็กลับมานั่งคิดค่ะว่าจะยังงัยดีค่ะ คุณแฟนก็เอาอีกแล้ว นางบอกผ่าๆๆๆ ทรมานมานานแล้วผ่าเลยๆๆ เรายังไม่แน่ใจค่ะ แอบศึกษาข้อมูลของที่นี่แล้วก็ รพ ค่ะ ระหว่างนั้นก็ปวดวนไปจ๊ะ 5555 พอศึกษาแล้วโหยย คุณหมอมีรีวิวดีเริสค่า.... พอปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ น้องสาว ใครๆ อยากให้ผ่าค่ะ เพราะว่าปวดจริงอะไรจริงค่ะ เลยอ่าลองเสี่ยงค่ะ
เลยโทรนัดผ่าตัดเลยค่ะ หลังจากเราโทรนัดแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ขอชมเชยด้วยนะคะพี่เค้าบริการดีค่ะ ชี้แจงการเตรียมตัวการนู่นนี่ เราโทรไปหลายรอบมากๆ 555 เค้าก็โทรมาหาดูแลเราหลายรอบนะคะ น่ารักอ่า... ข้ามไปค่ะถึงวันผ่าซึ่งเค้าให้ไปนอน รพ ก่อน 1 วันค่ะ คุณแฟนก็พาไปค่ะ ก็ขึ้นห้องพักเลยค่ะห้องใหญ่ค่ะสวยด้วยค่ะ มีทีวีมีหนังนู่นนี่ให้ดูด้วย ซึ่งเราเอางานไปทำด้วยค่ะ ก็มีโต๊ะนู่นนี่ดีค่ะ คิดว่ามาเที่ยว 5555 แต่ก็นอนไม่หลับเพราะปวดขาอีกตามเคย พอถึงวันรุ่งขึ้นพยาบาลเค้าก็มาให้เราเตรียมตัวนู่นนี่ค่ะ เริ่มตื่นเต้น อิอิ พอถึงเวลาเค้าพาไปค่ะ เข้าห้องผ่าตัดครั้งที่สองของชีวิต ตื่นเต้นมากกกก
ข้ามไปหลังจากผ่าเสร็จค่ะพอตื่นมาเค้าก็พามาส่งห้องค่ะ นอนพักที่ห้อง ตอนนั้นรู้สึกว่าขาไม่ปวดเลยค่ะแต่จะชาๆ นิดหน่อย แล้วหลังจากนั้นคือมหกรรมการนอนค่ะ นอนเหมือนไม่เคยนอนมาเป็นชาติ 555 อดอยากการนอนมานานมั้งคะ นอนยาวเลยค่ะ ตื่นมาอีกทีตอนตีสองขุ่นพระ...พอตอนเช้าคุณหมอก็มาเยี่ยมค่ะพร้อมด้วยคุณพยาบาลค่ะ มีของที่ระลึกมาให้ และมาดูแลแผลค่ะ คุณหมอแจ้งว่าผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ การผ่าไม่มีไรแข็งแรงดีค่ะ คุณหมอให้กลับบ้านได้นะคะ แล้วก็มีทำนัดมาอีกสองครั้งค่ะ คุณหมอมียาให้กลับไปทานด้วยนะคะเป็นพวกยาฆ่าเชื้อแก้ปวดไรพวกนี้ค่ะ พอกลับบ้าน คุณแฟนบอกว่าเทอไม่เหมือนคนพึ่งผ่าตัดมาเลยอะ 555 คือเดินได้ นอนหงายได้ค่ะ ก่อนหน้าที่จะผ่าปวดมากค่ะนอนตะแคงตลอดเลยอ่ะค่ะชีวิตดีขึ้นมาทันตาค่ะ แล้วเราก็ลางานโดยเอางานกลับมาทำที่บ้านค่ะ ดูซิยังขยัน 555
สุดท้ายนี้ค่ะ :: ขอขอบคุณทีมงาน รพ s-spine and nerve มากๆ นะคะ น่ารักทุกคนเลย คุณหมอเก่งมากๆ ค่ะ ร่างกายไม่ช้ำเลย และที่ขาดไม่ได้ค่ะขอบคุณครอบครัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่ น้องสาว น้าๆ ให้กำลังใจมาโดยตลอดค่ะ และที่ขาดไม่ได้นะคะ คุณแฟนค่ะขอบคุณจริงๆ ที่อยู่เคียงข้างกันตลอด และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกับเรานะคะ สู้ๆ ค่ะ .... ขอบคุณจ้า
เป็นผู้ป่วยกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (ระดับ L5-S1) อายุ 36 ปี อยากเเชร์ประสบการณ์ ค่ะ
สาเหตุที่เป็น :: ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปรักษาคุณหมอก็ถามทุกคนนะคะว่าไปยกของหนักอะไรมา เอาจริงๆ เมื่อลองนึกย้อนไปตั้งแต่ตอนที่เป็นก็น่าจะเป็นวันที่ได้ทำงานบ้านนู่นนี้ คาดว่าจะเกิดขึ้นที่บ้านค่ะ แต่ชัดเจนว่าเป็นกิจกรรมอะไรเลยเนี่ยไม่แน่ใจเพราะว่าวันนั้นทำอะไรเยอะแยะไปหมด แต่โดยรวมจากที่ได้คุยกับคุณหมอทุกท่านจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าส่วนใหญ่เกิดจากก้มยกของหนักอะไรพวกนี้ค่ะ อีกสาเหตุนึงอาจจะเกิดจากเราเป็นคนมี นน. เกินเกณฑ์ ด้วยมั้งคะ
ความเป็นมา :: ย้อนไปเมื่อประมาณช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2018 เรามีอาการตื่นมาแล้วปวดหลังค่ะ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าเราไปทำงานบ้านหนักไปเมื่อวานนี้อะไรประมาณนี้ รอประมาณ 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจว่าไปหาหมอดีกว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนแถวบ้านค่ะให้คุณแฟนพาไป ปรากฎว่าคุณหมอบอกว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ก็ได้ยามาทานพอสมควรเลย แล้วคุณหมอก็แนะนำวิธีบริหารให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงค่ะตอนนั้นก็ดีใจแล้วแหละคิดว่าไม่เป็นไรมากแล้วเรา แต่ๆๆ ทานยาไปจะหมดแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะคุณแฟนก็บอกว่าไม่ใช่แล้วแหละเทอ ให้เปลี่ยนหมอค่ะเลยตัดสินใจไปหาคุณหมออีกที่นึงที่โรงพยาบาลเอกชนแถวที่ทำงานค่ะ
พอไปเค้าก็ให้ไปหาแผนกกระดูกสันหลังเลยค่ะพอได้พบคุณหมอคุณหมอน่ารักค่ะให้ไป x-ray นู่นนี่ แล้วก็ให้ก้มนู่นนี่ดูค่ะ ในเบื้องต้นคุณหมอบอกว่าน่าจะเป็น ไขกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ค่ะ ได้ยินครั้งแรกงงค่ะ ว่ามันคือโรคไรหว่า แต่ไม่น่าจะดีแล้วแหละ 555 ก็คุณหมอให้ลองทานยาดูค่ะ เนื่องจากว่าเราอายุไม่มากส่วนที่เป็นเนี้ยอาจจะหดกลับได้ค่ะแต่ต้องใช้เวลานิดนึง ก็ทานยาไปค่ะไปหาคุณหมอสม่ำเสมอ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าอาการไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นะคะ ก็รอค่ะแล้วก็งานเข้า อยู่ๆ รู้สึกว่าเวลาเราเดินไปไหนไกลๆ ขาขวาไม่ค่อยมีแรง เหมือนจะเดินไม่ไหวเอาด้วยซิ เลยเขาไปปรึกษาคุณหมอค่ะ คุณหมอบอกว่าแบบนี้หมอขอทำ MRI ค่ะเพื่อความชัวร์ค่ะ นั้นเป็นการทำ MRI ครั้งแรกในชีวิตค่ะ
หลังจากทำ MRI คุณหมอบอกว่าผลออกมาชัดเจนว่าเราเป็น ไขกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (ระดับ L5-S1) แน่นอนค่ะ คุณหมอบอกว่าอาการยังไม่ถือว่ารุนแรง ให้ทานยาต่อค่ะโดยปรับยาแรงขึ้นนิดหน่อยค่ะลืมบอกว่ายาที่ทานเนี่ยจะทำให้มึนหัวง่วงนอนนิดหน่อยเลยต้องค่อยๆ ปรับไปค่ะ ทานยาไปรู้สึกว่าดีขึ้นเท่าที่ควร และหนักขึ้นคือมีการการปวดร้าวลงขาขวาเข้ามาเพิ่มค่ะ ที่ปวดคือปวดมากๆ นะคะเวลานอน ทำให้นอนไม่หลับเลยค่ะ ทรมานมากๆ พอปรึกษาคุณหมอก็ส่งไปให้คุณหมออีกท่านค่ะ เป็นคุณหมอระงับปวดโดยเฉพาะนะคะ
เริ่มมารักษา :: คุณหมอแนะนำให้ทำ การฉีดสเตียร์รอย เพื่อระงับปวดค่ะ ในการฉีดต้องฉีดเข้าไปในปลอกเส้นประสาทใกล้ๆ ตรงที่โดนกดทับอยู่ค่ะในการฉีดไม่ต้องนอน รพ. นะคะ ฉีดแล้วนอนดูอาการ 1-2 ชม. แล้วก็กลับบ้านได้เลย แต่ยังห้ามขับรถเอง หรือเดินเยอะเพราะขาจะยังไม่มีแรงค่ะ พอฉีดมาครั้งแรกนี่คือสวรรค์ชัดๆ นอนได้ไม่ปวดแล้วดีใจมากๆ ค่ะ แต่แล้วสวรรค์ก็พังลงค่ะอยู่มาได้ประมาณ 1 เดือนอาการปวดขาเริ่มกลับมาค่ะ ปวดเวลานอนเหมือนเดิมเป๊ะเลยนะเทออ ก็อดทนค่ะทานยาต่อ จนทนไม่ไหวค่ะตัดสินใจกะคุณแฟนว่าขอฉีดอีกรอบนึงได้มั๊ยยย..เลยไปฉีดกับคุณหมอท่านเดิมค่ะ พอหลังจากฉีดมารอบที่สองก็หายปวดนะคะ แต่จิตใจเริ่มไม่ดีแล้วแหละ ก็เริ่มต้นหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ค่ะ และแล้วความปวดกลับมาอีกแล้ววว หลังจากฉีดครั้งที่ 2 ไปเดือนกว่าๆ เท่านั้นค่ะ เศร้ามากค่ะ ทนปวดวนไป ทานยาวนไปค่ะ
ระหว่างนี้ก็ได้หาข้อมูลการรักษาไปเรื่อยๆ ค่ะ เข้าข้างตัวเองว่ามันต้องมีการรักษาที่เหมาะกับเรา และอยากหายขาดค่ะ เพราะทรมานจริงๆ นอนไม่หลับ จากที่เราเป็นคนนอนยากอยู่แล้วยิ่งแย่มากๆ ซึ่งก็ค้นพบ โรงพยาบาลเฉพาะทาง ค่ะเป็น โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและเส้นประสาท โดยตรง เลยเข้าไปดูใน FB ของ รพ.ค่ะ (ชื่อ S Spine and nerve hospital) เราพบว่า รพ นี้มีแนวทางการรักษาต่างจากที่อื่นค่ะ คือ จะรักษาที่ต้นตอของโรคค่ะ และเป็น รพ เฉพาะทางกระดูกสันหลังและเส้นประสาทเลยค่ะ มันก็น่าจะดีกว่ารึเปล่าเนอะ... เลยโทรไปไม่รีรอค่ะ เจ้าหน้าที่ก็แนะนำดีมาก เลยตัดสินใจทำนัดคุณหมอค่ะโดยเราไปเอาผล MRI ที่เก่าไปด้วยนะคะ
ผ่านไปถึงวันที่ไปพอคุณหมอค่ะ ศึกษาเส้นทางไปเป็นอย่างดีเลยจ้า รพ ไปง่ายค่ะมีที่จอดรถ เข้าไปก็วัดความดันพบว่าความดันสูงนิดหน่อยค่ะ ขอย้อนกลับไปว่าตั้งแต่ปวดขามากๆ วัดความดันทีไรก็พบว่าความดันสูงค่ะทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นเลยนะคะ คุณหมอที่เก่าก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แต่พอวัดที่นี่ความดันสูงทางพยาบาลก็ถามทันทีค่ะว่าปวดขาอยู่รึเปล่าคะ เราบอกว่าปวดค่ะ เค้าก็บอกทันทีว่าปวดก็มีผลกับความดันได้ค่ะ แล้วก็พบคุณหมอค่ะ คุณหมอก็ถามประวันนู่นนี่ดูผล MRI ที่เก่าแล้วก็สรุปเป็นแนวทางเดียวกันค่ะ และคุณหมออยากให้ทำ MRI ใหม่ด้วยค่ะ เพราะว่าปกติผลจะใช้ได้ 3-4 เดือนของเรามัน 6 เดือนได้แล้วแหละค่ะ เลยต้องทำใหม่ค่ะรอผลได้เลยค่ะ
พอได้ผลมาคุณหมอบอกว่ามันเป็นเยอะกว่าเดิมไม่แปลกที่จะปวดมากขึ้นแล้วก็แนะนำว่าอาการแบบนี้อยากให้ผ่าค่ะจะหายขาดเลยค่ะเราตกใจนะที่ต้องผ่าตัด แต่คุณหมออธิบายซึ่งขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่อธิบายโดยละเอียดมากๆ ซึ่งคุณหมอบอกว่าการผ่าจะเป็น การผ่าตัดแบบส่องกล้อง ค่ะ ใช้ เลเซอร์ ไม่เจ็บค่ะ แผลเล็กมากๆ ประมาณไม่ถึง 1 ซม. เลย พอผ่าแล้วเดินได้เลยค่ะไม่ต้องกายภาพอะไรเลย ตอนนั้นก็งงๆ นะคะคือจิงหรอนิ หลังจากนั้นก็กลับมานั่งคิดค่ะว่าจะยังงัยดีค่ะ คุณแฟนก็เอาอีกแล้ว นางบอกผ่าๆๆๆ ทรมานมานานแล้วผ่าเลยๆๆ เรายังไม่แน่ใจค่ะ แอบศึกษาข้อมูลของที่นี่แล้วก็ รพ ค่ะ ระหว่างนั้นก็ปวดวนไปจ๊ะ 5555 พอศึกษาแล้วโหยย คุณหมอมีรีวิวดีเริสค่า.... พอปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ น้องสาว ใครๆ อยากให้ผ่าค่ะ เพราะว่าปวดจริงอะไรจริงค่ะ เลยอ่าลองเสี่ยงค่ะ
เลยโทรนัดผ่าตัดเลยค่ะ หลังจากเราโทรนัดแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ขอชมเชยด้วยนะคะพี่เค้าบริการดีค่ะ ชี้แจงการเตรียมตัวการนู่นนี่ เราโทรไปหลายรอบมากๆ 555 เค้าก็โทรมาหาดูแลเราหลายรอบนะคะ น่ารักอ่า... ข้ามไปค่ะถึงวันผ่าซึ่งเค้าให้ไปนอน รพ ก่อน 1 วันค่ะ คุณแฟนก็พาไปค่ะ ก็ขึ้นห้องพักเลยค่ะห้องใหญ่ค่ะสวยด้วยค่ะ มีทีวีมีหนังนู่นนี่ให้ดูด้วย ซึ่งเราเอางานไปทำด้วยค่ะ ก็มีโต๊ะนู่นนี่ดีค่ะ คิดว่ามาเที่ยว 5555 แต่ก็นอนไม่หลับเพราะปวดขาอีกตามเคย พอถึงวันรุ่งขึ้นพยาบาลเค้าก็มาให้เราเตรียมตัวนู่นนี่ค่ะ เริ่มตื่นเต้น อิอิ พอถึงเวลาเค้าพาไปค่ะ เข้าห้องผ่าตัดครั้งที่สองของชีวิต ตื่นเต้นมากกกก
ข้ามไปหลังจากผ่าเสร็จค่ะพอตื่นมาเค้าก็พามาส่งห้องค่ะ นอนพักที่ห้อง ตอนนั้นรู้สึกว่าขาไม่ปวดเลยค่ะแต่จะชาๆ นิดหน่อย แล้วหลังจากนั้นคือมหกรรมการนอนค่ะ นอนเหมือนไม่เคยนอนมาเป็นชาติ 555 อดอยากการนอนมานานมั้งคะ นอนยาวเลยค่ะ ตื่นมาอีกทีตอนตีสองขุ่นพระ...พอตอนเช้าคุณหมอก็มาเยี่ยมค่ะพร้อมด้วยคุณพยาบาลค่ะ มีของที่ระลึกมาให้ และมาดูแลแผลค่ะ คุณหมอแจ้งว่าผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ การผ่าไม่มีไรแข็งแรงดีค่ะ คุณหมอให้กลับบ้านได้นะคะ แล้วก็มีทำนัดมาอีกสองครั้งค่ะ คุณหมอมียาให้กลับไปทานด้วยนะคะเป็นพวกยาฆ่าเชื้อแก้ปวดไรพวกนี้ค่ะ พอกลับบ้าน คุณแฟนบอกว่าเทอไม่เหมือนคนพึ่งผ่าตัดมาเลยอะ 555 คือเดินได้ นอนหงายได้ค่ะ ก่อนหน้าที่จะผ่าปวดมากค่ะนอนตะแคงตลอดเลยอ่ะค่ะชีวิตดีขึ้นมาทันตาค่ะ แล้วเราก็ลางานโดยเอางานกลับมาทำที่บ้านค่ะ ดูซิยังขยัน 555
สุดท้ายนี้ค่ะ :: ขอขอบคุณทีมงาน รพ s-spine and nerve มากๆ นะคะ น่ารักทุกคนเลย คุณหมอเก่งมากๆ ค่ะ ร่างกายไม่ช้ำเลย และที่ขาดไม่ได้ค่ะขอบคุณครอบครัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่ น้องสาว น้าๆ ให้กำลังใจมาโดยตลอดค่ะ และที่ขาดไม่ได้นะคะ คุณแฟนค่ะขอบคุณจริงๆ ที่อยู่เคียงข้างกันตลอด และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกับเรานะคะ สู้ๆ ค่ะ .... ขอบคุณจ้า